1. SistaCafe
  2. ตะลอนเที่ยวทะเล 1 วัน แบบไม่ต้องกลัวว่ากระเป๋าตังค์จะฉีก ณ หาดปากเมง!

ปากเมง : เสน่ห์หาดทรายงามแห่งเมืองตรัง

 วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งที มัวแต่เก็บตัวอยู่ในบ้านอย่างเดียวก็ดูจะอุดอู้และน่าเบื่อจนเกินไป อยากเที่ยวพักผ่อนเพื่อคลายเครียดเสียหน่อยก็กังวลว่ากระเป๋าตังค์จะฉีก ไหนจะกลัวไม่มีความเป็นส่วนตัว คิดแล้วก็คิดอีก หนูนุ้ยเองก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่าพักผ่อนคลายเครียดเงียบ ๆ ในหนึ่งวันแบบกระเป๋าตังค์ไม่ฉีกน่ะ มีที่ไหนบ้างล่ะเนี่ย!?

 ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยสักที่ ฉะนั้นหนูนุ้ยขอพาทุกคนมาตะลอนกันที่นี่เลยค่ะ กับหาดทรายเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ที่สลับซับซ้อนพาดผ่านกันไปมาจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนผืนทรายล้วนแต่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีป่าสนที่สูงชะลูดยืนต้นเรียงรายตลอดริมชายฝั่ง มีน้ำทะเลใสสีคราม สะอาด พาให้บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย และหากเมื่อกล่าวถึงหาดทรายเล็ก ๆ ในจังหวัดตรังแล้ว สถานที่ที่มักจะนึกถึงกันเป็นอันดับแรก ๆ เลยก็คือ หาดปากเมงนั่นเองค่ะ!

“ปากเมงกำลังรอเราอยู่”

“ไปปากเมงกันหวา”

 นั่นคือเสียงสำเนียงปักษ์ใต้ของน้าพวงที่เอ่ยขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีด้วยกำลังชักชวนหนูนุ้ยกับแม่ให้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นคำชักชวนที่ถูกใจอย่างแรงเลยค่ะ ก็ปากเมงนี่ไงล่ะ! ไม่ต้องกลัวกระเป๋าตังค์ฉีก ไม่ต้องกลัวว่าคนจะเยอะ ที่สำคัญถึงจะมีงบน้อย แต่แค่มีตัวกับหัวใจใคร ๆ ก็สามารถเที่ยวได้ ไม่พูดพร่ำทำเพลง งั้นพวกเราก็ไปกันเลยสิคะ รออะไรอยู่!

 หลังจากเตรียมตัวพร้อมทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อยดีแล้ว พวกเราก็ไม่รอช้าต่างพากันเดินทางโดยนั่งรถส่วนตัวจากตัวเมืองตรังมุ่งสู่หาดปากเมงไปตามทางหลวงตรัง-สิเกา-ปากเมง ระยะทางโดยประมาณ 40 กว่ากิโลเมตร หนูนุ้ยขอแอบกระซิบว่าค่าโดยสารรถของพวกเรานั้นฟรีค่ะ เพราะติดสอยห้อยตามไปด้วยกันกับรถของคุณน้า ตังค์ในกระเป๋าเลยยังอยู่ครบ ฮ่า!

“หรือถ้าไม่มีรถส่วนตัวของตนเองก็อาจจะมาลงที่สถานีขนส่ง(บขส.) ของจังหวัดตรัง แล้วใช้บริการรถตู้ปรับอากาศสายตรัง-ปากเมง ก็สะดวกและมาเยือนถึงหาดปากเมงได้เช่นเดียวกัน ส่วนค่าโดยสารราคาย่อมเยาเป็นกันเองมาก ”

ที่มาการเดินทาง: http://www.teawtourthai.com/trang/how-to-get.php


“โฮ้ ทะเลแสนงาม แสนง๊าม แสนงาม”

 เสียงเกลียวคลื่นที่ถาโถมซัดเข้ามากระทบฝั่งหาดทรายพร้อมกันกับสายลมที่พัดพาเอากลิ่นอายอันคุ้นเคยมาติดอยู่ปลายจมูก ทำให้ได้รู้ว่าตอนนี้พวกเราหนีห่างออกมาจากสังคมเมืองที่ดูสุดแสนจะชุลมุนวุ่นวายนั้นมาไกลโขมากแล้ว ระหว่างทางที่กำลังนั่งรถสิ่งที่หนูนุ้ยได้เห็นผ่านกระจกประตูรถนั้นคือ สะพานคอนกรีตที่ทอดยาวเหยียดไปข้างหน้า เรียกได้ว่าเป็นสะพานที่เปิดให้ผู้คนสามารถเข้ามาตกปลากันได้อย่างอิสระ ทั้งตลอดทางยังมีป่าสนสีเขียวสวยงามมากมายขึ้นอยู่ริมฝั่งเต็มไปหมดชวนให้รู้สึกสบายตาไม่น้อย


“น้ำลายสอกันแล้วล่ะสิ ฮ่าาา”

 เดี๋ยวก่อน ๆ อย่าเพิ่งรีบ! ในเมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวกันทั้งทีแล้ว เราจะขาดของกินไปได้อย่างไรจริงไหม ซึ่งเมนูที่มีความโดดเด่นในเรื่องรสชาติจัดจ้านชวนให้น้ำลายสอก็ย่อมไม่พ้นลาบ ส้มตำ ที่เสิร์ฟพร้อมให้ได้เปิบกินคู่กันกับข้าวเหนียวนั่นเอง ซึ่งรูปยั่ว ๆ ที่ทุกคนได้เห็นกันนี้นั้นเป็นอาหารที่ซื้อมาจากร้านใกล้บ้านของหนูนุ้ยเองค่ะ นั่งกินกันแค่ที่ร้านไม่พอยังถึงกับต้องสั่งใส่ห่อเพิ่มเติมเพื่อนำไปกินด้วยกันต่อที่ชายหาดแน่ะ ของเขาอร่อยจริง ไม่ได้อวยเลย55555


“หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา”

 ทว่าใครที่อยากจะไปซื้อเองแถวหาดทราย หนูนุ้ยก็ขออนุญาตแนะนำร้านนี้เลย ร้านWHITE LAY BAY เป็นคาเฟสไตล์เกาหลี ดูน่ารักกุ๊กกิ๊ก และแหล่งรวมเครื่องดื่มและของหวานอร่อย ๆ ดี ๆ นี่เอง ส่วนร้านอาหารทะเลก็แนะนำร้านอาหารครูคิดเลยค่ะ ทั้งสองร้านถือได้ว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรในหาดปากเมง ราคาก็ถือว่าไม่แพง แถมยังอยู่ใกล้กันกับทะเลเลยด้วยไม่ต้องเดินไกลให้เหนื่อย แต่ถ้าไปไม่ถูกก็ขอเพียงแค่เอ่ยถามคนในท้องถิ่นนั้นก็ต้องร้องอ๋อออกมาแบบตะโกน เดี๋ยวเดียวก็จะไปถูกเองอย่างแน่นอน ใช้งบค่าอาหารเพียงแค่ห้าร้อยบาท ก็เอาอยู่ทุกร้าน ทุกเมนูค่ะ


“ณ หาดปากเมง”

 จนกระทั่งในไม่กี่ชั่วโมงต่อมารถก็หยุดเคลื่อนตัวลง จึงทำให้ได้รู้ว่าพวกเราถึงจุดหมายปลายทางกันแล้วจริง ๆ ใช่แล้ว ที่นี่ก็คือหาดปากเมง ณ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พวกเราไม่รอช้าที่จะรีบออกมาจากรถ แล้วเลือกหามุมนั่งพักผ่อนหย่อนใจที่คิดว่าเงียบสงบที่สุดนั่งกัน มือของแต่ละคนไม่อยู่ว่างเลยจริง ๆ ต่างเร่งช่วยกันปูเสื่อและจัดอาหารที่ซื้อมาใส่จานสำหรับเตรียมพร้อมที่จะลงมือกินในประเดี๋ยวนั้น

 เมื่อกินไปก็ลอบชื่นชมทิวทัศน์ตรงหน้าไปด้วย แม้จะเห็นว่าเป็นแค่หาดทรายที่มีน้ำทะเลแลดูเรียบง่าย แต่สิ่งที่พิเศษและน่าสนใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือ ภูเขาท่ามกลางทะเลตรงหน้าของหนูนุ้ยนี่เอง มันเป็นภูเขาที่ซ้อนทับกันจนมีรูปร่างคล้ายกับคนตัวใหญ่ยักษ์นอนหงายอยู่ในทะเลไม่มีผิด ส่วนบริเวณถนนด้านหลังที่ห่างออกไปไม่ไกลก็มีรีสอร์ตที่พัก ร้านอาหาร ไม่ว่าจะอาหารทะเล อาหารตามสั่งและเครื่องดื่มต่าง ๆ อีกทั้งยังมีบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน ได้แก่ มินิมาร์ท ร้านค้าต่าง ๆ ที่จอดรถ ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ

 ในขณะที่พวกเรากำลังเพลิดเพลินไปกับการนั่งกินอาหารและคุยเล่นกันก็ได้สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณโล่งโปร่งไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านเท่าที่ควรมากนักทั้งที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แท้ ๆ แต่ในความเป็นจริงก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะช่วงที่เราไปกันนั้นเป็นเวลาเที่ยงแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่จะนิยมมาเที่ยวที่หาดปากเมงในช่วงเวลาใกล้เย็นเสียมากกว่า เพื่อที่จะได้ทันชื่นชมและดื่มด่ำไปกับภาพพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับจากขอบฟ้า นี่จึงถือได้ว่าเป็นอีกเสน่ห์หนึ่งของหาดปากเมงแห่งนี้


“1 2 3..ชีส”

 เมื่อกินจนอิ่มท้องก็ได้เวลาสนุกอย่างการเดินเล่นปล่อยใจปล่อยอารมณ์ไปกับทะเล น้าพวงขอนอนพักผ่อนหย่อนใจอยู่เงียบ ๆ ที่เดิมไม่ได้ไปด้วย ส่วนหนูนุ้ยกับแม่เมื่อเห็นดังนั้นจึงพากันไปเดินเล่นและถ่ายรูปที่ชายหาดเก็บไว้เป็นที่ระลึก ยามที่พวกเราย่ำเท้าลงไปแล้วกลับสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของผืนทราย มันแน่นมากจนขนาดที่ว่ารถยนต์ยังสามารถที่จะขับอยู่บนชายหาดยังได้เลย


“ว้าว เปลือกหอยเยอะมาก!”

 ที่สำคัญบนชายหาดยังมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นตัวบ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด นั่นจึงพลันทำให้หนูนุ้ยรู้สึกยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็น ซึ่งมันก็คือ ก้อนทรายกลม ๆ ที่เป็นเจ้าปูลมตัวเล็กตัวน้อยสร้างเอาไว้จนเกลื่อนกลาดเต็มพื้นทราย รวมถึงเปลือกหอยที่มีลวดลายและสีสันที่แปลกตาแตกต่างกันไปอยู่บนพื้นทรายจนดูละลานตาไปหมด ถึงแม้เปลือกหอยเหล่านี้จะแปลกตาและดึงดูดความสนใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่หนูนุ้ยก็ไม่ได้คิดที่จะเก็บมันกลับบ้านไปด้วยเพราะเปลือกหอยพวกนี้ยังคงมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศทางทะเลอยู่ยังไงล่ะ


“ให้ทะเลได้ช่วยฮีลใจ”

ส่วนกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่มาได้สนุกไม่ได้มีแค่การเดินเล่นชมทิวทัศน์ไปตามชายหาดเท่านั้น แต่ยังมีบริการให้เช่าห่วงยางเล่นน้ำ มีชิงช้านั่งเล่นใต้ต้นไม้ แม้แต่ตลอดริมชายหาดยังเหมาะแก่การปั่นจักรยานเล่นอีกด้วย


“หมดเวลาสนุกแล้วสิ..”

 แสงของพระอาทิตย์ที่เคยสาดส่องลงมาเริ่มมีสีจาง และวันหยุดสุดสัปดาห์ของพวกเราวันนี้ในที่สุดก็ได้จบลงแล้ว แม้หนูนุ้ยจะแอบนึกเสียดายเล็กน้อยที่ก่อนกลับบ้านไม่ได้อยู่ชมพระอาทิตย์ตกต่ออีกสักหน่อย แต่อย่างน้อยก็ยังพอที่จะทันได้ลอบชื่นชมกับภาพสวย ๆ ตรงหน้าบ้าง หาดปากเมงในตอนเย็นนั้นช่างต่างจากช่วงกลางวันเลยทีเดียว ให้บรรยากาศที่ดูละมุนนุ่มนวลไปอีกแบบ จนอยากจะอยู่ต่ออีกสักนิด แต่เห็นทีว่าคงจะทำแบบนั้นไม่ได้เพราะแม่กับน้าพวงต่างเร่งให้หนูนุ้ยรีบรถกลับบ้านกันแล้ว


“แล้วเจอกันใหม่นะ...หาดปากเมง”

 ก่อนจะกลับหนูนุ้ยไม่ลืมที่จะถ่ายภาพภูเขาตรงหน้า และภาพเปลือกหอยที่ชอบเก็บกลับมาด้วย ไม่พอยังแอบหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดไปเสียเต็มรัก ความรู้สึกเหนื่อยล้าที่เคยมีในก่อนหน้านั้นหายไปราวกับถูกเยียวยาด้วยเครื่องดื่มชูกำลังให้เรากลับมากระชุ่มกระชวยมีพลังอีกครั้งได้ นับเป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่าอีกหนึ่งวันในวันหยุดของหนูนุ้ยกับครอบครัวเลยก็ว่าได้


 หาดปากเมง... ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะมากสำหรับการมาพักผ่อนและคลายเครียดเงียบ ๆ ในวันหยุดที่จังหวัดตรัง หรืออาจจะกล่าวได้ว่าถ้าไม่มาหาดปากเมง ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงจังหวัดตรัง รับรองว่าหากได้มาแล้วจะไม่ผิดหวังและกระเป๋าตังค์ไม่ฉีกอย่างแน่นอน เชื่อเถอะ

 สำหรับครั้งนี้ยังไงหนูนุ้ยก็คงต้องขอตัวลาไปก่อน ฝากอย่าลืมกดไลก์ กดติดตามหนูนุ้ยตะลอนไปเรื่อยกันด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดว่าครั้งหน้าหนูนุ้ยจะพาทุกคนไปตะลอนที่ไหนกันอีก รับรองว่ากระเป๋าตังค์ก็จะไม่ฉีกด้วยเช่นกัน! ฮุฮุ


- หนูนุ้ยตะลอนไปเรื่อย -


บทความแนะนำ






เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้