1. SistaCafe
  2. พ่อแม่ไม่ชอบแฟนเรา ปัญหาโลกแตก! เมื่อพ่อแม่ไม่อยากให้เรามีแฟนแก้ยังไง?

ปัญหาความรักแค่เรากับคนรักก็ว่าวุ่นวายแล้ว นี่ถ้าผู้ปกครองหรือพ่อแม่เราเข้ามาเอี่ยวด้วยบอกเลยว่าโลกแตกสุด ๆ ค่ะ ยิ่งถ้าเป็นปัญหาแบบพ่อแม่เราไม่ชอบแฟนเราหรือพ่อแม่เราไม่อยากให้มีแฟนด้วยละก็... อื้อหือเหนื่อยใจสุด ๆ ค่ะ แต่ ๆ ถึงจะเหนื่อยใจมากแค่ไหนก็เชื่อว่าทุกคนอยากจะฟันฝ่ามันไปให้ได้ งั้นเรามาเจาะหาสาเหตุกันค่ะว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เรากับแฟนควรปรับตัวยังไง แล้วในฐานะพ่อแม่ควรทำยังไง ความรักครั้งนี้มันดีจริงไหม พร้อมมีช่องพอดแคสต์เรื่องนี้ให้ไปฟังเพลิน ๆ กันด้วย ใครพร้อมจะไปพิชิตใจพ่อแม่แล้วก็เลื่อนมาอ่านกันเลย!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


หาสาเหตุของการที่พ่อแม่ไม่ยอมให้มีแฟน

ก่อนที่เราจะไปแก้ปัญหาในเรื่องนี้กัน เราอยากให้ทุกคนลองมาค้นหาสาเหตุจริง ๆ กันก่อนค่ะว่าที่ผู้ปกครองเราไม่ชอบแฟนเราหรือไม่อยากให้เรามีแฟนมันเป็นเพราะสาเหตุอะไร โดยเราทำการแบ่งออกมาเป็น 2 หัวข้อใหญ่ ๆ ดังนี้ค่ะ

  • มีเหตุผล : เหตุผลที่ว่าอาจจะเป็นห่วงต่าง ๆ นะคะ กลัวว่าแฟนลูกจะไม่ดี จับสังเกตอะไรบางอย่างของแฟนลูกได้ว่าพฤติกรรไม่ค่อยน่ารัก ช่วงที่คบกันอาจจะทำให้ชีวิตของลูกแย่ลง เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราจะรู้ได้โดยที่ถามพวกท่านตรง ๆ ค่ะ ซึ่งถ้าท่านให้เหตุผลมา เราก็ต้องรับฟังนะคะ
  • อคติ : สิ่งนี้ก็ต้องเกิดจากการลองสอบถามพ่อแม่ก่อนเหมือนกันนะคะ ถ้าเขามีเหตุและผลเขาก็จะบอกออกมา แต่ถ้าเขาอ้างเหตุผลที่ไม่เข้าท่า ฟังไม่ขึ้น เหมือนแค่หวงลูกเฉย ๆ เพราะยังมีภาพติดตาในเรื่องว่าลูกยังเด็ก ไม่อยากให้ลูกมีแฟนเพราะกลัวตัวเองเหงา อะไรแบบนี้เนี่ยบอกเลยว่าเหนื่อยค่ะ หาทางแก้ไขและพูดคุยได้ค่อนข้างยากมาก ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลยน้า เรามาอ่านวิธีการด้านล่างนี้กันต่อเลยค่ะ

พ่อแม่ควรวางตัวอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้?

อันดับแรกที่พ่อแม่ทุกคนควรจะรับรู้เลยก็คือเราไม่ชอบแฟนของลูกด้วยเหตุผลอะไร แค่ไม่ชอบ? เขาวางตัวไม่ดี? ถ้ามันไม่ใช่สาเหตุที่เกิดจากแฟนของลูก เราก็ต้องหันมามองตัวเราเองกันนะคะว่าทำไมเราถึงไม่ชอบแฟนของลูก เป็นเพราะหวงลูกเหรอ? ถ้าเป็นเพราะเรื่องของการหวงลูก อยากให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงเขาได้นะคะ แต่ต้องมีอิสระให้ลูกด้วย ถ้ายังอยู่ในวัยเรียนก็สอนให้เขาวางตัวให้ดี อะไรควรไม่ควร รับฟังลูกให้มาก ๆ เพื่อให้เขาไว้ใจและสบายใจที่จะเล่าให้เราฟัง เมื่อเราเปิดรับในสิ่งที่ลูกคิด เราจะได้เข้าใจมุมมองของลูกและแฟนลูกมากขึ้นด้วย ส่วนถ้าลูกโตแล้วก็ต้องเข้าใจว่าเขาโตแล้ว เขาก็อยากเลือกมีความรักของตัวเอง เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง ให้เขาได้ทำตามใจของเขาจะดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าเกิดอะไรที่ไม่ค่อยดีหรือดูท่าจะไม่โอเค ผู้ปกครองแบบเรา ๆ ก็ลองพูดคุยเพื่อเตือนสติได้นะคะ


แล้วเรากับแฟนต้องวางตัวยังไงบ้าง?


1. บอกให้แฟนรับรู้เพื่อแก้ปัญหาไปด้วยกัน

ถึงแม้มันจะเป็นปัญหาของพ่อแม่เราก็จริงแต่อย่าแก้ปัญหานี้ไปคนเดียวค่ะ เราควรบอกแฟนให้รับรู้ด้วยว่าความรักของเราสองคนเจออุปสรรคจากพ่อแม่ของเรา เขาไม่ชอบแฟนเรานะ เขาไม่อยากให้เรามีแฟนนะ บอกไปตามตรงเลยค่ะ เพื่อที่ว่าเวลามีอะไรเกิดขึ้นจะได้คอยพูดคุยและช่วยปรึกษากันได้ แอบกระซิบว่าจริง ๆ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบททดสอบเล็ก ๆ เหมือนกันนะคะว่าเขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเรารึเปล่า ถ้าเขาถอดใจไปตั้งแต่แรกก็ถือว่าเราและเขาน่าจะไปกันได้ไม่ยาว แต่ถ้าเขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเรา ก็พยายามรักษาเขาไว้นะคะ


2. พยายามเข้าใจในมุมของพ่อแม่

แน่นอนว่ามันยากแต่อยากให้ทุกคนลองคิดถึงจิตใจของพ่อแม่ดูนะคะ ในแง่ความเป็นห่วงที่พวกท่านอาจจะกังวลมากเกินไปว่าถ้าลูกมีแฟนแล้วแฟนจะพาเสียคน จะทำให้ไม่ตั้งใจเรียน จะทำให้ชีวิตแย่ลง ที่ท่านคิดอะไรแบบนั้นส่วนนึงมันก็เพราะว่าท่านเป็นห่วงเรามาก ๆ นะคะ ถึงแม้มันอาจจะขัดใจเราไปบ้างหรือขัดใจมากก็ตาม แต่ก็ยังอยากให้ทุกคนลองคิดและเข้าใจในมุมท่านดูสักนิดน้า


3. เราและแฟนต้องวางตัวให้เหมาะสม

สำคัญมาก ๆ อีกข้อเลยก็คือต้องวางตัวให้เหมาะสมทั้งเราและเขาเลยค่ะ เนื่องจากว่าคุณพ่อคุณแม่เราเขาไม่ค่อยแฮปปี้กับแฟนเราอยู่แล้ว ยิ่งถ้าวางตัวไม่ถูกใจเขา เช่น ไปไหนมาไหนสองต่อสองแล้วยังจะกลับบ้านดึก เป็นต้น อะไรแบบนี้พ่อแม่ไม่ค่อยแฮปปี้อยู่แล้วนะคะ เราก็ควรจะวางตัวให้เหมาะสม ไม่ไปเที่ยวไหนแล้วกลับดึก ๆ จนท่านเป็นห่วง หรือการวางตัวสงวนท่าทีบ้าง พ่อแม่เขาก็จะได้รู้สึกสบายใจนะคะ


4. เราต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้เหมือนเดิม

ใครอยู่ในวัยเรียนก็ต้องคงสภาพด้านการเรียนให้เหมือนเดิมด้วยนะคะ ตั้งใจเรียน ทำการบ้าน ทำงานกลุ่มทุกอย่างเหมือนเดิม อย่าขาดตกบกพร่องในหน้าที่ของตัวเอง ส่วนวัยทำงานค่าใช้จ่ายหรือการดูแลพวกท่านต่าง ๆ อยากให้ทำเหมือนเดิมเลยค่ะ เคยทำยังไงก็ทำอย่างนั้นเลย เช่น กินข้าวเย็นด้วยกันทุกมื้อ จ่ายค่าน้ำค่าไฟทุกเดือน เป็นต้น อะไรที่เคยทำทั้งหมดให้ทำมันต่อไปแบบต่อเนื่อง เพื่อให้พวกท่านเห็นว่าเราไม่ขาดตกบกพร่องในหน้าที่ ๆ ต้องทำนะ คบกับแฟนคนนี้แล้วไม่เสียคนนั่นเองค่ะ


5. เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น

นอกจากทำสิ่งเดิม ๆ ให้มันคงอยู่ต่อไปแล้ว ก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นด้วยได้เลยนะคะ เช่น ปกติเป็นคนใช้จ่ายเก่งมาก ๆ แต่พอมีแฟนแล้วเก็บเงินเก่งสุด ๆ เป็นต้น ทำให้พวกท่านเห็นไปเลยค่ะว่าเอ้อ... การที่ลูกเรามีแฟนหรือคบกับคน ๆ นี้นี่มันทำให้ชีวิตลูกเราดีขึ้นนะ แฟนลูกทำให้ลูกเราเป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้ ให้เขาเห็นว่าการที่เรามีแฟนคนนี้ทำให้เรามีความสุขจริง ๆ เขาทำให้เราดีขึ้นจริง ๆ เท่านี้ก็ช่วยทำให้พ่อแม่เริ่มสบายใจและวางใจในตัวแฟนเรามากขึ้นแน่นอนค่ะ


6. แบ่งเวลาระหว่างแฟนกับครอบครัวให้เท่าเทียม

สำคัญสุด ๆ เลยนะคะเพราะพ่อแม่หรือผู้ปกครองหลาย ๆ คนมักจะกังวลว่าตัวเองไม่ได้รับความสำคัญหรือสำคัญน้อยลง ลูกจะเอาแต่ไปอยู่กับแฟนแน่นอนเลยไม่อยากให้ลูกมีแฟนอะไรแบบนั้น แนะนำว่าให้เราแบ่งเวลาให้ท่านด้วยและแบ่งเวลาให้แฟนด้วยค่ะ ห้ามทิ้งใครไว้ข้างหลังเด็ดขาด เมื่อเราบาลานซ์มันได้ดีทั้งสองฝ่าย มันจะเริ่มทำให้ผู้ใหญ่ที่เขากลัวตัวเองสำคัญน้อยลงเริ่มสบายใจขึ้นและอาจจะเปิดใจให้แฟนของเรามากขึ้นตามไปด้วยค่ะ


7. อดทนใช้วันและเวลาพิสูจน์

ที่พูดมาทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเราไม่อดทนใช้วันและเวลาในการพิสูจน์ให้พวกท่านเห็นว่าเรากับแฟนรักกันจริง ๆ เรากับแฟนอยากใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ ช่วงแรก ๆ มันอาจจะยากสักหน่อยค่ะเพราะความรู้สึกมาคุหรืออะไรหลาย ๆ อย่างมันอาจจะยังไม่ลงตัวดีนัก แต่ถ้าเริ่มปรับตัวจนหลาย ๆ อย่างเข้าที่เข้าทางมากขึ้น รับรองลองค่ะว่ามันจะต้องเห็นผลดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน เป็นกำลังใจให้นะคะ


เช็กว่าความรักครั้งนี้มันใช่จริง ๆ ใช่ไหม?

ในระหว่างที่คบกับแฟน เราก็อยากให้ทุกคนลองเช็กตัวเองและแฟนของเราเรื่อย ๆ ด้วยนะคะว่าความรักครั้งนี้ของเราและเขาเนี่ยมันเวิร์กจริงรึเปล่า โดยวิธีการเช็กเราก็จัดมาให้แบบง่าย ๆ เลยนะคะ รับรองว่าอ่าน 3 วิธีนี้ทำให้หลายคนเข้าใจความรักของตัวเองมากขึ้นแน่นอน!

  • อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขไหม : ถามตัวเองเลยค่ะว่าเราอยู่กับเขาแล้วมีความสุขจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ได้พยายามจะมีความสุขใช่ไหมหรือเขาไม่ได้ทำให้เราไม่มีความสุขใช่ไหม ถ้าเขาทำให้เรามีความสุขจริง ๆ ก็ติ๊กถูกในใจได้เลยหนึ่งข้อค่า
  • เราเป็นตัวของตัวเองใช่ไหม : ถึงแม้เราจะต้องปรับตัวเข้าหากันบ้างเพื่อให้ความรักมันยืนยาว แต่ถ้าปรับจนไม่เป็นตัวของตัวเองทั้งเราและเขา แบบนี้ไม่เวิร์กแน่นอนค่ะ ถ้าคู่ไหนเป็นแบบนี้ความสัมพันธ์เรียกได้ว่าวิกฤตแน่นอนค่ะ
  • อยู่ด้วยกันแล้วทำให้ทุกอย่างดีขึ้นใช่ไหม : สำคัญสุด ๆ เลยค่ะว่าเราอยู่กับเขาแล้วทุกอย่างมันเป็นยังไง ดีขึ้นมากไหมหรือทุกอย่างแย่ลง ถ้ายิ่งคบยิ่งแย่ลง งานไม่ทำ เรียนก็ไม่เรียนอะไรแบบนี้ รู้ไว้เลยนะคะว่ารักครั้งนี้ไม่เวิร์กสุด ๆ

ชวนฟัง Podcast ที่คุยเรื่องราวนี้!

ปัญหานี้เราพบเจอได้บ่อยนะคะ อาจจะไม่ได้เกิดกับตัวเองแต่อาจจะเกิดกับคนรอบตัวได้ ก็เลยทำให้มีพอดแคสต์ต่าง ๆ รวมไปถึงรายการวิทยุ รายการทอล์กต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ประมาณนึงเลย ใครที่พบเจอปัญหานี้ อยากเปิดฟังเพลิน ๆ เพื่อได้ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำความเข้าใจตามก็สามารถเลือกรับฟังได้ตามนี้เลยจ้า เรารวบรวมไว้ให้เรียบร้อย!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ได้รู้วิธีการปรับตัวให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองเข้าใจเรามากขึ้นแล้ว แถมยังเรื่องราวอื่น ๆ เสริมให้ด้วย ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้ชาวซิสหรือนักอ่านทุก ๆ ท่านที่ประสบปัญหานี้สามารถแก้ไขและผ่านมันไปได้นะคะ ทางนักเขียนและซิสต้าคาเฟ่เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย ขอให้ทุกคนได้มีความรักที่ตัวเองสามารถเลือกได้และทำให้มีความสุขนะค้า ส่วนตอนนี้ทางเราขอตัวไปก่อนดีกว่า ส่วนใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับความรักเพิ่มเติมก็อ่านที่เราแนะนำเพิ่มด้านล่างนี้ได้เลยนะจ๊ะ บ๊ายบาย :-D


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


บทความที่น่าสนใจ






เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้