ฮัลโหลเพื่อนๆ สำหรับบทความนี้เราขอรับบทเพื่อนช่วยติว ชวนเพื่อน ๆ มารู้จักเรื่องที่ดูจะน่าสนใจ แต่สังคมไม่ค่อยได้พูดถึงสักเท่าไร อย่าง เพศศึกษา Sex Education และประเด็นที่เราจะมาพูดคุยกันในบทความนี้ ก็คือ Topic " ช่วยตัวเองดียังไง " สำหรับบางคนอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว เขินอาย และไม่กล้าพูดถึง แต่ความจริงแล้วสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน
" การช่วยตัวเอง " มีข้อดีอะไรบ้าง ? แล้วถ้าช่วยตัวเองบ่อย ๆ ถือว่าปกติไหม ? แบบไหนเรียกว่าติด ที่สำคัญถ้าหากติดแล้ว เราจะมีวิธีแก้ไขยังไง ประเด็นการช่วยตัวเอง ในบทความนี้จะเป็นยังไงบ้าง มาเลกเชอร์ไปพร้อมกันเลย ><
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
การช่วยตัวเอง คืออะไร ?
การช่วยตัวเอง เป็นกิจกรรมทางเพศอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความรู้สึกตามธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ได้เป็นเรื่องผิดหรือน่าละอาย และไม่เป็นอันตราย รวมถึงไม่ทำให้เสี่ยงกับโรคทางเพศสัมพันธ์ด้วย ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปลดปล่อยอารมณ์
สำหรับการช่วยตัวเองสามารถทำได้โดยการสัมผัสหรือถูบริเวณอวัยวะเพศด้วยมือ หรืออาจใช้ของเล่นทางเพศ (sex toys) ก็ได้ ซึ่งทั้งหมดล้วนทำด้วยตนเองโดยไม่เกี่ยวข้องกับคู่นอน
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า การช่วยตัวเองอาจจะช่วยบรรเทาอาการเครียด และช่วยให้อารมณ์ดีมากขึ้นได้ด้วย นอกจากจะช่วยทางด้านอารมณ์แล้ว การช่วยตัวเองยังส่งผลดีต่อสุขภาพและกิจกรรมทางเพศอีกด้วย

จะผ่านไปกี่ยุค ความเสียวก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เสมอ ! เราก็เห็นอยู่ว่า Sextoy นั้นมีมาตั้งแต่ในยุคหินจนถึงปัจจุบัน ทุกวัฒนธรรมทั่วโลกมีการพูดถึงของเล่นสนองความเสียวของมนุษย์กันมาโดยตลอด แล้วหลังจากยุคโบราณล่ะ ? Sextoy จะมีวิวัฒนาการไปในรูปแบบไหน ? จนกลายเป็น Sextoy ที่เห็นในปัจจุบันเราไปหาคำตอบกันเพิ่ม ชวนซิสไปส่องประเภทของ Sextoy พร้อมวิธีใช้แซ่บ ๆ กันได้ที่...

Published Article
https://siscret-sistacafe.web.app/originalContent/public-article.html?id=CeV8Xc9la9cK7hYYV4s8
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
ข้อดีของการช่วยตัวเอง
1. ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ทำให้นอนหลับง่าย หลับสบายมากขึ้น
เมื่อใกล้ถึงจุดฟินนาเล่ ร่างกายจะเพิ่มระดับฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) หรือฮอร์โมนแห่งความสุข และปล่อยฮอร์โมนอ็อกซีโทซิน (oxytocin) และเอ็นโดรฟิน (endorphins) หรือฮอร์โมนความสงบออกมาด้วย ทำให้เมื่อเสร็จกิจกรรมโลกสวยด้วยมือเรา ร่างกายเราเลยมีความผ่อนคลาย และเมื่อร่างกายได้ผ่อนคลาย คลายเครียด ก็จะช่วยให้เรานอนหลับสบาย และง่ายยิ่งขึ้นด้วย

2. ช่วยป้องกันการติดเชื้อปากมดลูกและทางเดินปัสสาวะ
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าการช่วยตัวเองอาจจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ แต่ความเชื่อเหล่านั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดความจริงแล้วการช่วยตัวเองสามารถลดความเสี่ยงโรคทางเพศสัมพันธ์ และยังช่วยป้องกันและช่วยล้างเชื้อโรคที่จะเข้ามาทางปากมดลูกได้ เพราะการติดเชื้อที่ปากมดลูก เช่น HPV, หนองใน, คลามัยเดีย ฯลฯ มักมาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน แน่นอนว่า การช่วยตัวเองเพียงลำพังไม่ทำให้ติดเชื้อที่ปากมดลูก จึงพูดได้ว่าวิธีนี้ช่วยให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้จริง
เช่นเดียวกับการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เพราะเมื่อถึงจุดสุดยอด (orgasm) ร่างกายจะสามารถกระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานและบริเวณใกล้ท่อปัสสาวะ และช่วย “ดัน” แบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอมเล็ก ๆ ออกจากทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหลังสำเร็จความใคร่ (ซึ่งช่วยชะล้างท่อปัสสาวะ) และลดโอกาสที่แบคทีเรียจะสะสมได้นอกจากนั้นการช่วยตัวเองยังมีส่วนทำให้น้องสาวชุ่มชื้น ช่วยลดความเจ็บต่างๆ ได้ด้วย

3. ช่วยทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง และลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
การช่วยตัวเองไม่ได้ลดความเสี่ยงของโรคทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอื่นๆ ของร่างกายด้วย มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บางส่วน ที่สนับสนุนว่า การช่วยตัวเอง (Masturbation) อาจมีผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน รวมถึงระบบหัวใจและหลอดเลือด และอาจเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยอาจจะไม่ได้มาจากการช่วยตัวเองโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่จาก กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยทางเพศ (sexual release) โดยรวม
เกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด เมื่อเราถึงจุดสุดยอด (orgasm) จากการช่วยตัวเอง จะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นชั่วคราว คล้ายกับการออกกำลังกายเบาๆ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และปล่อยฮอร์โมนต่างๆ เช่น เอ็นดอร์ฟิน (endorphins) และ ออกซิโทซิน (oxytocin) ซึ่งช่วยลดความเครียด และส่งผลทางอ้อมต่อการทำงานของหัวใจ
เกี่ยวกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องบางอย่าง เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ (รวมถึงช่วยตัวเอง) ที่สม่ำเสมอช่วยลดระดับความเครียด เพราะความเครียดสูงสัมพันธ์กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance) ซึ่งเป็นสาเหตุของเบาหวานชนิดที่ 2 ดังนั้นจึงพูดได้ว่า อาจช่วยลดความเสี่ยงได้ในทางอ้อม

4. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อเชิงกราน
ในจังหวะที่ทำภารกิจโลกสวยด้วยมือเราจะช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้ออกกำลังกายอย่างจริงจัง จากการที่มดลูกยกกล้ามเนื้อในส่วนนี้ขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งและแข็งแรง และการช่วยตัวเองยังมีส่วนช่วยเพิ่มความดันเลือด ปรับกล้ามเนื้อ ปรับการเต้นของหัวใจ และช่วยปรับทางเดินหายใจได้อีกด้วย

5. ช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเพศกับคนรัก
คู่รักหลายคู่มีความต้องการและแรงกระตุ้นทางเพศแตกต่างกันออกไป การช่วยตัวเองก็เหมือนเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยเช็กรสนิยมทางเพศของคู่รัก ได้เรียนรู้ว่าคนรักชอบแบบไหน ต้องทำยังไงให้คนรักมีความสุขในกิจกรรมเข้าจังหวะ และนอกจากนี้กูรูเขายังบอกมาว่าการช่วยตัวเองยังเป็นการเติมเต็มบางสเต็ปที่คู่รักทำให้ไม่ได้อีกด้วย

เลกเชอร์ประโยชน์ของการช่วยตัวเองมาแล้ว ช่วยลบความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการช่วยตัวเองได้บ้างไหมคะ แน่นอนว่านอกจากจะช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ยังลดความเสี่ยงในหลายโรคอีกด้วย
แต่เหรียญมีสองด้าน มีข้อดีก็ย่อมมีความเสี่ยง หากอะไรที่มากเกินไปอาจจะส่งผลไม่ดีต่อเราได้เช่นกัน การช่วยตัวเองก็มีความเสี่ยงบางอย่างอยู่ จะเป็นอะไรไปเลกเชอร์กันต่อเลย
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
ความเสี่ยงของการช่วยตัวเอง
หากไม่ได้ทำให้เสี่ยงเป็นโรคต่างๆ อย่างที่หลายๆ คนกังวล แล้วการช่วยตัวเองจะมีความเสี่ยงในแง่อื่นๆ ได้บ้างหรือเปล่า ต้องบอกว่าหากทำอย่างพอดีก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากการช่วยตัวเองจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ หรือทำมากเกินไป ก็พูดได้ว่าอาจทำให้เกิดผลเสียหรือความเสี่ยงได้บ้างเช่นกัน
1. ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
การช่วยตัวเอง ด้วยการถูหรือสัมผัสอวัยวะเพศแรงหรือบ่อยเกินไป โดยเฉพาะหากไม่ใช้สารหล่อลื่น อาจทำให้ผิวหนังหรือเยื่อบุถลอกจนเกิดอาการระคายเคืองได้ รวมถึงการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และใช้เวลาสั้น ๆ ในแต่ละครั้ง อาจจะทำให้อวัยวะเพศบวม โดยอาการบวมมักจะหายไปเองภายใน 1 - 2 วัน แต่ถ้าเกิดช่วยตัวเองหนักหน่วงรุนแรงเกินไป อาจจะทำให้เกิดอาการแสบหรือมีรอยช้ำที่อวัยวะเพศได้
2. อาจมีความเสี่ยงติดเชื้อ
หากมือเราไม่สะอาดเพียงพอ รวมถึงมีการใช้ของเล่นทางเพศ ( Sex Toy ) ที่ไม่สะอาด หรือมีการใช้ร่วมกับผู้อื่น ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่อวัยวะเพศหรือทางเดินปัสสาวะได้ ฉะนั้นการช่วยตัวเองที่ปลอดภัยก็ควรรักษาความสะอาดให้มากที่สุด
3. เมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก อาจไปไม่ถึงจุดสุดยอด หรือถึงจุดสุดยอดช้า - เร็วกว่าปกติ
สำหรับใครที่ช่วยตัวเองบ่อยๆ หากคุณมีคนรักอยู่แล้ว ในการร่วมกิจกรรมรักด้วยกัน อาจทำให้คุณมีปัญหาในการไปถึงจุดสุดยอด คุณอาจจะถึงจุดสุดยอดช้า หรือ เร็วเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ได้
4. ทำให้กลายเป็นคนที่มีอารมณ์ทางเพศสูงกว่าปกติ
สำหรับใครที่ช่วยเหลือตัวเองบ่อยๆ แน่นอนว่าย่อมคิดถึงเรื่องเพศมากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ช่วยตัวเอง จึงส่งผลให้คุณอาจจะมีอารมณ์ทางเพศที่สูงกว่าปกติ
5. ช่วยตัวเองมากเกินไปจนกลายเป็นหมกมุ่น จนเกิดภาวะ sexual addiction
สำหรับการช่วยตัวเองบ่อย ๆ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด จากข้อมูลบอกว่าการช่วยตัวเองมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน แต่ร่างกายยังสุขภาพแข็งแรง ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายอะไร แต่หากหมกมุ่นมากจนเกินไป จะเกิดภาวะเสพติด จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ละเลยความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนรอบข้าง ควรเข้าไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
ช่วยตัวเองบ่อย ๆ ถือว่าปกติไหม อันตรายรึเปล่า ?
เรื่องเพศเป็นความต้องการพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน อาจวันละหลายครั้ง บางคนอาจจะกังวลว่า การช่วยตัวเองนี่ทำได้บ่อยแค่ไหน ทำบ่อยๆ แล้วผิดปกติหรือเปล่า ? บอกไว้ตรงนี้เลยว่า การช่วยตัวเองสามารถทำได้ทุกวันโดยไม่ได้มีข้อเสียอะไรเป็นพิเศษ และไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆ
แต่ก็เป็นไปได้ที่บางคนจะมีพฤติกรรมเสพติดการช่วยตัวเองจนเกิดภาวะ sexual addiction แม้จะไม่มีจำนวนครั้งที่ตายตัวว่าช่วยตัวเองกี่ครั้งถึงเรียกว่าผิดปกติ แต่ถ้าการช่วยตัวเองเริ่มกระทบชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ หรือจิตใจ นั่นคือสัญญาณว่า “อาจไม่ปกติ” แล้ว
สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังเสพติดการช่วยตัวเอง
- หมกมุ่นกับการช่วยตัวเอง จนเริ่มไม่ทำกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ขาดงาน ขาดเรียน
- มีพฤติกรรมเริ่มแยกตัว ไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น หรือเข้าสังคมแบบแต่ก่อน อยากอยู่คนเดียวเพราะทำให้ช่วยตัวเองได้ตามที่ต้องการ
- ต้องช่วยตัวเองทุกวันหรือหลายครั้งต่อวัน “หยุดทำไม่ได้” ไม่ใช่แค่ความพึงพอใจ
- ช่วยตัวเองแม้อยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสม
- ช่วยตัวเองบ่อยจนไม่สนใจการมีเพศสัมพันธ์จริงๆ
สิ่งที่ทำได้คือการ “สังเกตตัวเอง” บางทีการช่วยตัวเอง 1-2 ครั้งต่อวันอาจไม่มากไป ถ้าหากเรายังสามารถใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้โหยหา หรือมีความต้องการไม่รู้จบ แต่เมื่อไรก็ตามถ้าหากช่วยตัวเองบ่อยก็แล้ว พยายามงดก็แล้ว แต่ความต้องการก็ยังมีอยู่ นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่าคุณเริ่มเสพติดการช่วยตัวเองมากไป การช่วยตัวเองอาจไม่ใช่สิ่งผิด แต่คุณต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเองให้กิจกรรมดังกล่าวอยู่ในความพอดี ไม่มากเกินไปด้วยนะคะ
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
วิธีป้องกัน ลดละเลิก การช่วยตัวเอง สำหรับคนมีภาวะติด
1. ยอมรับกับตัวเองว่าเป็นปัญหา
หากสังเกตุพฤติกรรมตัวเองแล้วว่าเราผิดปกติ หรือมีความหมกมุ่นในเรื่องเพศจนกระทบกับชีวิตประจำวันด้านอื่นๆให้เริ่มจากการยอมรับกับตัวเองก่อนว่า “เรากำลังมีปัญหาที่ควบคุมพฤติกรรมทางเพศไม่ได้” จะก้าวแรกและสำคัญที่สุดที่ทำให้เราสามารถหาทางแก้ไขต่อไปได้
2. ลดสิ่งกระตุ้นรอบตัว
อาจจะเริ่มต้นด้วยลองแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ด้วยการหลีกเลี่ยงเสพสื่อลามก ตาม โซเชียล หนัง หรือเว็บไซต์ที่กระตุ้นพฤติกรรมทางเพศ หรือหากอยากจะค่อยๆ ลดระยะเวลาลงอาจลองใช้แอปบล็อกเว็บไซต์หรือฟีเจอร์จำกัดเวลา เช่น Focus Mode , Screen Time ในการช่วยจำกัดเวลาการช่วยตัวเองลง
3. เปลี่ยนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์
มองหา “กิจกรรมทดแทน” ที่จะทำให้เราไม่มีเวลาไปหมกมุ่นเรื่องเพศ เช่น งานอดิเรกใหม่ๆ หรือกิจกรรมนอกเวลาต่างๆ หรือจะใช้การออกกำลังกายมาช่วย หาเวลาออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยลดการกระตุ้นเรื่องเพศแล้ว ยังช่วยเรื่องสุขภาพเผาผลาญพลังงานและลดความเครียดได้อีกด้วย
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากลองหาทางแก้ไขด้วยตัวเองแล้ว อาจจะต้องลองปรึกษาจิตแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่สามารถวินิจฉัยและแนะนำวิธีการรักษาได้ เข้ามาช่วยหาแนวทางแก้ไข เช่น
- CBT (Cognitive Behavioral Therapy) ปรับความคิดและพฤติกรรมที่กระตุ้นการเสพติด
- Sex Therapy การบำบัดทางเพศโดยผู้เชี่ยวชาญ
- กลุ่มบำบัด เช่น SAA (Sex Addicts Anonymous) คล้ายกับ AA สำหรับผู้ติดสุรา
5. แชร์กับคนที่เข้าใจ
หากสามารถแชร์ หรือพูดคุยกับคนใกล้ตัวที่ไว้ใจได้ถึงปัญหา หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้บ้าง ก็จะช่วยลดความเครียดและความรู้สึกโดดเดี่ยว รวมถึงเป็นกำลังใจที่ดีซึ่งจะช่วยให้เราก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้อีกด้วย
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
เป็นยังไงคะเพื่อน ๆ ช่วยตัวเองดียังไง คลาสนี้จดเลกเชอร์ทันกันรึเปล่า ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นการช่วยตัวเองมาแล้ว น่าจะพอเป็นความรู้ให้เพื่อน ๆ ได้เข้าใจเรื่องการช่วยตัวเองมากยิ่งขึ้น ย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดหรือไม่ดีอะไร และยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจด้วย
แต่ก็อย่าลืมว่า ควรคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยก่อนและหลังปฏิบัติภารกิจ ควรตัดเล็บและทำความสะอาดทั้งมือและจุดซ่อนเร้นให้สะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดี รวมถึงทำแต่พอดีระวังอย่าให้ตัวเองหมกมุ่นมากเกินไป แบบนั้นอาจจะส่งผลเสียตามมาได้เช่นกันน้า
ขอบคุณภาพประกอบ freepik.com และข้อมูลอ้างอิง www.pobpad.com , hdmall.co.th
บทความแนะนำ

18+ เซ็กส์ทอยยุคหิน ! ประวัติศาสตร์ความฟินของมนุษยชาติ | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/history-of-sextoy-214370

18+ คู่มือ Oral sex “อม เบิร์น เลีย” สอนเคลียร์ทุก Gender ! | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/oral-sex-tips-217551

30 ท่าเซ็กซ์ ช-ญ ร่วมเพศยังไง ให้น้ำแตกคู่ | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/30-sex-position-213830