เมื่อพฤติกรรมที่แสดงออกของแต่ละคนแตกต่างกันทั้งการตัดสินใจ การกระทำ การกระตือรือร้นที่ไม่เหมือนกัน จนทำให้บางครั้งตัวเราเองที่คิดว่าเข้าใจตัวเองสุดๆ แล้วก็ยังสามารถเกิดความรู้สึกตั้งคำถามหลายๆ อย่างกับตัวเองขึ้น ซึ่งจะดีกว่าไหมถ้ามีอะไรที่ช่วยเป็นแนวทางให้กับเราว่าที่จริงและที่เราเป็นแบบนี้คืออะไร ทำไมทำแบบคนอื่นแล้วผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน วันนี้เราจะชวนชาวซิสมารู้จักกับศาสตร์พลังงานโมเดิร์นอย่าง Human Design ที่ใครอยากมี Map เฉพาะตัวเองมาให้รู้จักกัน เพราะถ้าเมื่อไรที่ชาวซิสเข้าใจในศาสตร์นี้จริงๆ จะทำให้เราสามารถเข้าใจตัวเองและสามารถนำมาปรับเปลี่ยนตัวเองได้โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนให้เหมือนคนอื่น นอกจากนั้นยังช่วยให้เราสามารถมองหาสิ่งที่เราชอบและเข้าใจในความเป็นธรรมชาติของตัวเราเองได้อย่างสบายอีกด้วย ซึ่งก็จะสอดคล้องกับสิ่งที่คนชอบพูดว่า “ถ้าเราอยู่ถูกที่ ถูกเวลา เราจะมีตัวตนและมีค่าโดยไม่ต้องพยายาม” ถ้าใครอยากรู้จักแล้วว่า Human Design คืออะไร แล้วมีวิธีดูยังไงไปดูกันเลย
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
Human Designคืออะไร ?

เป็นศาสตร์สมัยใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มของคนที่ต้องการเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้งซึ่งเป็นวิธีการค้นพบพลังงานเฉพาะบุคคล โดยการออกแบบศาสตร์ human design คือวิธีการวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ผสมผสานกับองค์ประกอบของโหราศาสตร์ ศาสตร์อี้ชิง ศาสตร์จักระ แล้วก็ศาสตร์อื่นๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสามารถช่วยให้เราเข้าใจตนเองถึงด้านพลังงาน การตัดสินใจ ศักยภาพของตัวเอง และข้อจำกัดของเราได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนสิ่งที่คอยชี้นำว่าเราเหมาะกับพลังงานแบบไหน และเราควรตัดสินใจยังไง หรือใช้ชีวิตยังไงถึงจะเป็นตัวของตัวเองได้ดีที่สุด
จุดประสงค์ของ Human Design
- เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง
- รู้จักจุดแข็งและข้อจำกัด
- ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นตัวเองอย่างแท้จริง
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้าง
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ประเภทของ Human Design มีกี่ไทป์ ?
มีทั้งหมด 5 ประเภทหลักๆ ที่แยกออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละประเภทนั้นจะมีพลังงานเฉพาะตัวและมีกลยุทธ์ในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เช่น
Generator : ผู้สร้างสรรค์
สัดส่วนประชากร : ประมาณ 9%
บทบาท : เป็นผู้ริเริ่มโปรเจกต์หรือไอเดียใหม่ๆ
พลังงาน : มีพลังงานในการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ โดยไม่ต้องรอใคร
กลยุทธ์ชีวิต : แจ้งให้คนอื่นรู้ก่อนลงมือทำ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
จุดแข็ง : อิสระ กล้าตัดสินใจ และมีพลังในการเปลี่ยนแปลง
ความท้าทาย : อาจถูกต่อต้านหากไม่สื่อสารสิ่งที่กำลังทำ
Manifestor : ผู้ริเริ่ม หรือการผลักดันเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ
สัดส่วนประชากร : ประมาณ 37%
บทบาท : เป็นแรงงานหลักของโลก มีพลังงานต่อเนื่อง
พลังงาน : มีพลังงานมหาศาลเมื่อทำสิ่งที่รัก
กลยุทธ์ชีวิต : ตอบสนองต่อสิ่งที่เข้ามาแทนที่จะริเริ่มเอง
จุดแข็ง : มีความอดทน ทำงานหนัก และสร้างสรรค์
ความท้าทาย : หากฝืนทำสิ่งที่ไม่ชอบจะรู้สึกหมดแรงและเบื่อหน่าย
Manifesting Generator : ลูกผสม
สัดส่วนประชากร : ประมาณ 33%
บทบาท : ผสมระหว่าง Manifesting และ Generator
พลังงาน : ทำหลายสิ่งพร้อมกันได้ดี มีความเร็ว และความยืดหยุ่น
กลยุทธ์ชีวิต : ตอบสนองก่อนแล้วแจ้งให้คนอื่นรู้
จุดแข็ง : มีความสามารถหลากหลาย ทำงานเร็ว และปรับตัวเก่ง
ความท้าทาย : อาจข้ามขั้นตอนหรือเบื่อหน่าย
Projector : ที่ปรึกษา เพื่อชี้แนะแนวทาง
สัดส่วนประชากร : ประมาณ 20%
บทบาท : เป็นผู้นำทางหรือโค้ชชี้แนะคนอื่น เพื่อให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
พลังงาน : ไม่มีพลังงานล้นเหลือ ต้องพักเป็นระยะ เสี่ยงต่อ burn out บ่อย
กลยุทธ์ชีวิต : Wait to be invited รอให้ได้รับการเชิญหรือการชวนก่อนแล้วค่อยแสดงความสามารถ
จุดแข็ง : เข้าใจคนอื่นลึกซึ้ง หรือมีมุมมองที่เฉียบคม
ความท้าทาย : หากไม่ถูกเชิญอาจรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับ
Reflector : ผู้สะท้อน
สัดส่วนประชากร : ประมาณ 1%
บทบาท : เป็นกระจกสะท้อนสภาพแวดล้อมและสังคม
พลังงาน : เปลี่ยนแปลงตามคนรอบข้างและสถานที่
กลยุทธ์ชีวิต : ทริคสำหรับคนได้ไทป์นี้คือ ต้องรอรอบพระจันทร์เต็มดวงหรือประมาณ 28 วัน หากต้องการตัดสินใจเรื่องใหญ่
จุดแข็ง : มีความเข้าใจลึกซึ้งในสังคม หรือเป็นนักสังเกต
ความท้าทาย : อาจรู้สึกไม่แน่นอนหรือไร้ตัวตนหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
ประโยชน์ของศาสตร์Human Design
เมื่อเราเข้าใจถึงศาสตร์ human design อย่างแท้จริงแล้วนั้น เราจะสามารถเข้าใจถึงจุดแข็ง จุดอ่อน และความเป็นธรรมชาติของตัวเราเอง ซึ่งเราก็จะสามารถนำมาปรับในการใช้ชีวิตให้สอดคล้องและมีความสบายใจมากขึ้น และเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนคนอื่น
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
How to ทำแบบทดสอบ Human Design
หากใครสนใจและต้องการรู้ว่าเราอยู่ไทป์ไหนของ human design แนะนำเข้าไปทำที่เว็บไซต์นี้ https://www.myhumandesign.com/ เมื่อเข้าไปแล้วจะมีข้อมูลส่วนตัวให้เรากรอกอย่าง ชื่อ วัน/เดือน/ปีเกิด (ค.ศ.) เวลาเกิด (สามารถดูได้ที่สูติบัตร) และสถานที่เกิด (ใส่เป็นจังหวัด) เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วก็จะขึ้น Chart และประเภทไทป์ และข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมดรวมมาให้ พร้อมคลิปอธิบายหรือแนะนำแต่ละอย่างแนบมาให้ด้วย ซึ่งข้อมูลค่อนข้างเยอะมากๆ
แต่หลักๆ ที่เราจะดูเลยคือข้อมูลด้านล่างของ Chart เพราะจะบ่งบอกว่าเราอยู่ไทป์(Type) ไหน และสิ่งที่เราตอบสนองคืออะไร (Strategy) เช่น
ไทป์ Projector ที่ปรึกษาหรือผู้ที่มีความรู้มากๆ ซึ่ง Strategy ของคนไทป์นี้คือ “Wait to be invited” คือการรอให้คนอื่นชวนเมื่อคนอื่นชวนสิ่งนั้นจะออกมาดี แต่ถ้าเมื่อไรที่เราเสนอหรือพยายามยัดเยียดบางสิ่งบางอย่างให้คนอื่นโดยที่เขาไม่ได้ต้องการหรือมาขอเรา จะทำให้คนอื่นมองไม่เห็นคุณค่าและนั่นก็เท่ากับเราสิ้นเปลืองพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
วิธีการอ่าน Chart
เมื่อเราดูที่ Chart แล้วจะสังเกตว่ามีเส้นๆ อยู่ 2 สี โดยเส้นไหนที่ไม่ได้เชื่อมกันเราจะเรียกว่า ‘Gate’ และเส้นไหนที่เชื่อมกันเราจะเรียกว่า ‘Channel’ หมายความว่าถ้าเมื่อไรเส้นเชื่อมโยงกันเปรียบเสมือนว่าเรามีความสมารถตรงนั้น มีกลยุทธ์หรือ Strategy เป็นพลังงานที่ไปด้วยกันได้ แต่จุดที่เราอยากให้ชาวซิสสังเกตที่สุดเลยคือตรงที่ที่เป็นหลอดครึ่งๆ เส้นนี้แหละคือส่วนที่เรามี และขาดหายในเวลาเดียวกัน ถ้าเราต้องการให้หลอดมันเชื่อมกันเราต้องหาอะไรมาเติมเต็มเช่น สภาพแวดล้อม เพื่อน แฟน ครอบครัว หรือคนรู้จัก
ยกตัวอย่าง Chart ของเราที่นำมายกตัวอย่างจุดสามเหลี่ยม ด้านบน 63 : 4 (จุดที่ 1)

63 เรียกว่า gate of doubt ส่วน 4 เรียกว่า gate of answer ในส่วนของ 63 ที่เรามีคือความสงสัย คำถามมากมายที่ต้องการคำตอบตามชื่อเลยคือ gate of doubt มีคำถามเต็มไปหมดแต่เพราะว่าเราไม่มี 4 ที่เป็นคำตอบเลยทำให้เราไม่สามารถไปต่อได้เลยทำให้เราขาดส่วนนี้ไป เหมือนการทำงานไม่เต็มที่แต่เมื่อไรที่เราสามารถหาคนที่มี 4 แบบครึ่งหลอดมาเติมเต็มได้ ฉันมี 63 คุณมี 4 นั่นก็จะสามารถดึงดูดกันและกันได้ หรือที่เราเรียกว่าออร่าดึงดูดกันนั่นเอง
สำหรับวิธีดู Center จะมีทั้งหมด 9 ศูนย์ เช่น Head, Ajna, Throat, G Center, Heart, Sacral, Spleen, Solar Plexus และ Root
โดยแต่ละศูนย์มีหน้าที่เฉพาะ เช่น
- Head Center : แรงบันดาลใจ
- Ajna Center : การวิเคราะห์และความคิด
- Throat Center : การสื่อสารและการแสดงออก
- G Center : ตัวตนและทิศทางชีวิต

จะเห็นว่าใน Chart บางกล่องก็จะมีสี บางหล่องไม่มีสีซึ่งหากกล่องไหนที่ไม่มีสี (white) กล่องนั้นเปรียบเสมือนการที่เราได้รับพลังงานจากคนอื่นเข้ามา และอาจมีความผันผวน หากกล่องไหนมีสี (colored in) ขึ้นมาไม่ว่าสีไหนเราจะเป็นเหมือนคนที่ส่งพลังงานให้กับโลกนี้ หรือพลังงานคงที่ในด้านนั้น เช่น สามเหลี่ยมซ้ายมือด้านล่าง (จุดวงที่ 2) เรียกว่าจุด spleen หรือม้าม เป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพของเรา หากใครไม่มีสีเหมือนของเราแสดงว่า สุขภาพของเราจะขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมหรือคนรอบตัวของเรา เช่น ถ้าเราอยู่ในจุดที่มีแต่คนป่วยเราก็สามารถติดหรือรับพลังงานป่วยเข้ามาได้ง่าย หรือถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนออกกำลังกาย รักสุขภาพ เราก็จะรักสุขภาพและหันมาออกกำลังกายบ่อยๆ ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่หากเมื่อไหร่ที่กล่องนี้สีทึบถ้าเกิดอาการป่วยก็ขึ้นอยู่ที่กับเราพฤติกรรมของเราไม่เกี่ยวกับคนอื่น

แต่ถ้ามีสีจุด Heart (จุดวงที่ 3) จุดนี้เรียกว่า Ego เป็นเหมือนทิศทางและเป้าหมายในชีวิต หากใครที่มีสีที่จุดนี้เป็นจุดที่เราจะแสดงถึงความมุ่งมั่น ทิศทาง และเป้าหมายในชีวิตของเราอย่างชัดเจน มีแรงผลักดันและมั่นใจในเป้าหมาย เราจะรับรู้ได้ชัดเจนว่าตัวเองเป็นใครและมีทิศทางอย่างไร ซึ่งบางครั้งอาจจะดูดื้อรั้นไปบ้าง เพราะศูนย์หัวใจยังเชื่อมต่อกับศูนย์คอซึ่งมีหน้าที่ในการสื่อสาร เมื่อกำหนดศูนย์หัวใจอาจมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแบ่งปันความคิดและความเชื่อของตนเองให้กับผู้อื่น แต่หากใครที่ไม่มีสีนั้นอาจจะมีปัญหาในการค้นหาตัวตนที่แท้จริงและมักจะรู้สึกหลงทางหรือต้องพิสูจน์ตัวเองและขาดแรงจูงใจนั่นเอง
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
สรุปศาสตร์ค้นหาตัวตนด้วยHuman Design
Human Design ถือเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเข้าใจตัวเองและสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตได้อย่างจริงๆ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเติบโตและพัฒนาตัวเองได้คุ้มค่ากับความพยายาม พร้อมเริ่มต้นการเดินทางที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงและค้นพบตัวเองที่จริงๆ แล้วว่าเราควรเดินไปทางไหน ซึ่งศาสตร์นี้ก็ถือว่าเป็นการเสริมพลังงานอำนาจในแง่มุมต่างๆ ได้ให้เราได้ ซึ่งใครที่อยากลองค้นพบตัวเองจริงๆ สามารถลองเข้าไปเล่นดูได้ที่เว็บไซต์ที่เราแนะนำซึ่งจะมีข้อมูลและชาร์จที่แนบมาให้พร้อมรายละเอียดที่ถือว่าค่อนข้างชัดเจนมาให้ด้วย สามารถลองทำความเข้าใจพร้องลองดูข้อมูลที่เราอธิบายไปมาดูกันได้เพราะศาสตร์นี้ถือว่าค่อนข้างลึกซึ้งและข้อมูลค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเพื่อนๆ อาจจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้หรือหนังสือที่อธิบายเกี่ยวกับศาสตร์นี้ก็ได้เช่นกัน
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : selfsophy
บทความอื่นๆ ที่แนะนำ

Mystic Healing Academy, What’s Your Soul Magic Type ? | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/219054

9 Archetype อยากรู้มั้ย เราเป็นคนมีเสน่ห์แบบไหน ? | บทความของ hellosunshine | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/203085

Higher Self ตัวตนในมิติที่สูงกว่าคืออะไร ? เป็นตัวเราใน Best Version ! | บทความของ ManooFK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/95729

ค้นพบ "เสน่ห์" ตัวตนลึกๆ ที่แท้จริงในตัวคุณจากแบบทดสอบ Soul & Aura | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/33853

ดูดวงกับหมอดู VS AI แบบหมัดต่อหมัด ใครจะรอด ใครจะร่วง | บทความของ SistaCafe | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/astrologer-vs-ai-219193