เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมหลายครั้งที่เราพยายามกำจัดปัญหาสิวปัญหาหน้ามันด้วยการล้างหน้าบ่อย ๆ แต่กลับต้องเจอกับความมันบนใบหน้าที่มากขึ้น ตามมาด้วยปัญหาสิวผิวอุดตัน นั่นก็เป็นเพราะว่า เรายังไม่เข้าใจการใช้คลีนซิ่ง คลีนเซอร์ ลดความมันจัดการสิวที่ดีพอ และยังมีวิธีทำความสะอาดผิวที่ไม่ถูกต้อง เรามาดูกันว่าจะมีวิธีทำความสะอาดผิวอย่างไรให้ผิวใสไร้สิว ผิวปังแน่นอน!!!
ทำไมยิ่งล้างหน้า ยิ่งหน้ามัน?
การทำความสะอาดผิวหน้าบ่อย ๆ ไม่ได้ทำให้ความมันส่วนเกินบนผิวหน้าหายไปได้ แต่กลับกันจะทำให้ผิวหน้ายิ่งมีความมันมากขึ้นเนื่องจากล้างหน้ามากเกินไปจะทำให้ความชุ่มชื้นบนผิวหน้าหายไปด้วย เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นก็จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันเร่งการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวมากขึ้น เพื่อนำไปชดเชยกับความชุ่มชื้นที่ขาดหายไปอีกทั้งยังเป็นกลไกการป้องกันผิวจากความร้อนด้วย หากไม่มีความชุ่มชื้นบนผิว ผิวก็จะต้องสร้างความชุ่มชื้นใหม่ขึ้นมาเอง เพื่อให้ผิวปลอดภัย ซึ่งความชุ่มชื้นที่ผิวผลิตขึ้นมาก็คือความมันที่มาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังนั่นเอง ซึ่งปัญหาหน้ามันนี้จะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอุดตัน ผิวบอบบางเป็นสิวง่ายตามมาอีกด้วย
แล้วเราควรล้างหน้าบ่อยแค่ไหน?
โดยปกติแล้วเคล็ดลับทำความสะอาดผิวที่ดีและเหมาะกับการดูแลรักษาผิวที่ดีที่สุดควรอยู่ที่ 2 ครั้ง/วัน คือ ตอนเช้าหลังตื่นนอน และ ตอนเย็นก่อนเข้านอนเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการทำความสะอาดผิวที่สุด ซึ่งในตอนเช้าหลังจากที่เราตื่นนอนมาก็มักจะพบว่า ผิวหน้ามีความมัน เนื่องจากในช่วงกลางคืนระหว่างที่เรากำลังนอนหลับอยู่ ต่อมไขมันก็ยังคงมีการทำงานอยู่ ทำให้ตื่นมาตอนเช้าบางคนจึงพบว่า ผิวหน้าของตัวเองมีความมันมาก
ส่วนในระหว่างวัน เราก็ต้องออกไปนอกบ้าน ไปเจอมลภาวะต่าง ๆ นอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควัน แสงแดด และเมคอัพต่าง ๆ ที่เราใช้แต่งหน้าก่อนออกจากบ้าน เราจึงต้องใช้คลีนเซอร์ล้างหน้าในช่วงเย็นเพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เราเจอมาในวันนั้น ๆ นั่นเอง ซึ่งถ้าหากเราล้างหน้ามากกว่า 2 ครั้งต่อวันขึ้นไป ผิวหน้าของเราก็จะสูญเสียความชุ่มชื้นและทำให้หน้ามันมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นควรล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งเท่านั้น
มีวิธีการทำความสะอาดผิวหน้า ให้ผิวหน้าไม่มันได้อย่างไร?
วิธีการทำความสะอาดผิว ให้ผิวหน้าไม่มันสามารถทำได้ง่าย ไม่ยากอย่างที่คิดเลยล่ะค่ะ ซึ่งเราก็จะใช้ความรู้จาก 2 คำถามข้างต้นมาประกอบ เพื่อนำมาปรับใช้สำหรับคลีนผิวให้ผิวสุขภาพดี ดูฉ่ำเด้งเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูยกกระชับผิว นั่นก็คือ
เลือกคลีนเซอร์โฟมล้างหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว
เรารู้แล้วว่า ผิวของเราต้องการความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา จากการที่ความชุ่มชื้นนั้นสามารถเป็นเกราะป้องกันอันตรายให้กับผิวได้ ดังนั้นเราก็เลยเริ่มจากการเลือกใช้โฟมล้างหน้า ที่ผสานคุณค่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งความชุ่มชื้นที่ผิวได้รับจากโฟมล้างหน้าจะไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้างหน้าและไม่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นจากล้างหน้าตรงจุดนี้ก็จะทำให้ต่อมไขมันไม่จำเป็นต้องเร่งผลิตน้ำมันขึ้นมาเคลือบที่ผิวอีก
ทำการนวดหน้าระหว่างล้างหน้า
การนวดหน้านอกจากจะทำให้คลีนเซอร์โฟมล้างหน้าเข้าถึงรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยให้เลือดบนผิวหน้าไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย การที่เลือดบนผิวหน้าไหลเวียนได้ดีก็จะช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื้นและลดปัญหาหน้ามันได้ดีเนื่องจากการนวดหน้าช่วยให้การผลิตน้ำมันลดลง เนื่องจากการผลิตน้ำมันมักจะเกิดขึ้นในสภาวะที่ผิวหน้ามีความเครียด หรือ มีความไม่สดชื่น ซึ่งเป็นการตอบสนองอย่างหนึ่งของร่างกาย หากผิวมีความสดชื้นและสะอาดอย่างหมดจด ก็จะช่วยคุมความมันบนผิวหน้าได้ยาวนานขึ้น
เปิดและปิดรูขุมขนด้วยน้ำอุ่นและน้ำเย็น
ก่อนที่เราจะใช้คลีนเซอร์โฟมล้างหน้านวดลงบนผิวหน้าอย่างเบามือ เราก็ต้องชโลมน้ำให้ทั่วหน้าเสียก่อน ซึ่งการชโลมน้ำก่อนนี้ก็เพื่อให้คลีนเซอร์โฟมล้างหน้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้ำที่เราจะใช้ชโลมผิวก่อนนี้ควรเป็นน้ำอุ่น เนื่องจากเราต้องการใช้รูขุมขนเปิด เพื่อที่ว่า เมื่อเรานวดเนื้อโฟมลงไปบนผิวหน้าแล้ว อนุภาคในการทำความสะอาดผิวจะได้เข้าไปในรูขุมขนที่กำลังเปิดอยู่ได้และสามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกน้ำอุ่นจะทำให้รูขุมขนขยายตัวและถูกเปิดออก และเมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วก็ให้ใช้น้ำเย็นล้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการปิดรูขุมขนก่อนที่จะทำการซับหน้าให้แห้ง เพราะเราไม่ต้องการใช้รูขุมขนเปิดกว้างอยู่ตลอดเวลาเพราะจะทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอีกและทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น การทำความสะอาดผิวหน้าจนสะอาดหมดจดและปิดรูขุมขนให้เล็กลง จะช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดสิวอุดตันได้มากเลยทีเดียว
นี่ก็เป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการล้างหน้าคลีนผิวที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ ทุกคนสามารถเอาไปทำตามกันได้เลยนะคะ รับรองว่าหมดปัญหาหน้ามันได้อย่างแน่นอนค่า เพราะเราล้างหน้าด้วยความเข้าใจ ไม่ได้ล้างหน้าเพื่อกำจัดความมันเพียงอย่างเดียว หากเราล้างหน้าเพื่อกำจัดความมันเพียงอย่างเดียว ผิวหน้าของเราก็อาจจะเสียสมดุลและทำให้เกิดความมันส่วนเกินที่มากกว่าเดิมได้เนอะ ยังไงก็ลองเอาไปทำดูนะคะ และที่สำคัญอย่าลืมว่า ความชุ่มชื้นจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวในโฟมล้างหน้าก็สำคัญมาก ควรเลือกใช้คลีนเซอร์โฟมล้างหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นกันด้วยนะคะ