สวัสดีค่าสาวๆ ซิสตาทุกคน กลับมาเจอกันในเดือน
“กรกฎา หน้าฝน”
อีกแล้วนะคะ สาวๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ? มีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้างไหม? หวังว่าสาวๆ คงไม่ได้กำลังร้องไห้เหมือนกับสายฝนที่สาดลงมาอยู่นะคะ แต่พอพูดถึงเรื่องฤดูกาลสาวๆ หลายๆ คนคงรู้กันอยู่แล้วว่าในหลายๆ ประเทศที่อยู่เหนือแถบเส้นศูนย์สูตรนั้นมีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดูหลักๆ ต่างกับ
ประเทศไทยของเราที่มีแค่ 3 ฤดูกาลเท่านั้น นั่นก็คือ ฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนโคตร
5555 ไม่ใช่ๆ อย่าแซวฤดูกาลประเทศเราสิ มี
ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาวที่ไม่หนาวเอาซะเลย
ซึ่งถ้าถามสาวๆ ว่าชอบฤดูกาลไหนกันบ้าง ก็คงจะมีคนชอบฤดูฝนน้อยที่สุดแน่นอน แต่สาวๆ รู้ไหมคะว่าคนส่วนน้อยที่ชอบฤดูฝนเหล่านี้
พวกเขามีความคิดหรือมุมมองที่ต่างจากคนที่ชอบฤดูกาลอื่นอย่างไรที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีความสุขในชีวิตแบบนี้
นั่นแหน่! ต้องอยากรู้แล้วแน่เลย ถ้าอยากรู้แล้วก็ไปดูที่ข้อแรกกันเลยค่า
1.เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตผ่านประสาทสัมผัส
สำหรับแต่ละคนคงเคยมีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับฤดูฝนต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ดีหรือแง่ร้ายก็ตาม ซึ่งสำหรับ
คนที่ไม่มีปัญหากับฤดูฝน สามารถนอนขดตัวหาเครื่องดื่มอุ่นๆ มาดื่ม หาหนังสือดีๆ มาอ่านได้
เรียกว่า
Pluviophiles
หรือ
คนที่รักฝน
นั่นเองค่ะ คนเหล่านี้เขาจะใช้
หู
ในการฟังเสียงฝนที่ตกกระทบลงมาและสามารถจินตนการถึงภาพทิวทัศน์ของมันผ่านหน้าต่างได้เลย แต่ไม่เพียงแค่หูเท่านั้น พวกเขายัง
มีความสุขจากการได้กลิ่นไอน้ำของฝนและชอบลิ้มรสชาติเย็นฉ่ำจากน้ำฝนที่ตกกระทบลงบนผิวกายและลิ้น
ที่ทำให้รู้สึกสดชื่น และไม่ลังเลที่จะอ้าแขนรับฝนที่พร่างพรายลงมาเหล่านั้นอีกด้วย
สำหรับบ้านสาวๆ คนไหนที่ไม่ค่อยมีควันรถและอากาศดีสามารถลองสัมผัสประสบการณ์ดีๆ อย่างการออกมาข้างนอกตอนฝนตกและปล่อยให้ฝนชำระล้างความเครียด ความเหนื่อยล้าให้ออกไปได้นะ
แต่หลังจากนั้นต้องอย่าลืมรีบกลับเข้ามาอาบน้ำเช็ดผมนะคะ เดี๋ยวจะป่วยเอาเสียก่อน
2. การมีความมั่นใจในตัวเอง
มีใครเคยคิดว่าอยากลอง
“ทำตัวเหมือนเด็ก 4 ขวบที่สามารถวิ่งเล่นกลางสายฝนโดยไม่สนใจว่าใครจะมองหรือกำลังคิดอะไรอยู่บ้างไหมคะ?”
สำหรับคนที่ชอบฤดูฝน หรือ Pluviophiles พวกเขาคงไม่คิดว่าการเปียกฝนจนผมเสียทรงหรือเครื่องสำอางบนหน้าหลุดเป็นเรื่องที่หน้าอายเลย เพราะพ
วกเขาไม่สนใจกับมันและอยากปล่อยตัวปล่อยใจท่ามกลางสายฝนที่สาดลงมามากกว่า
ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ทำได้นะคะ เพราะ คนที่ทำนั้นจะต้อง
มีความมั่นใจในตัวเองมากระดับนึงและไม่แคร์สายตาที่คนอื่นมองเลย
สำหรับเราถ้ามีโอกาสก็คิดว่าอยากลองทำแบบนี้สักครั้งในชีวิตเหมือนกันค่ะ
3. Pluviophiles มีความยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ถ้าฝนไม่ตก ดอกไม้ก็คงไม่บาน ถ้าไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้น เราก็คงไม่สามารถเติบโตขึ้นมาได้ขนาดนี้
การที่ฝนตกลงมาในฤดูฝนสำหรับบางคนอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่าเศร้า รำคาญใจ
เช่น เราจะเอาผ้ามาตากก็ไม่แห้ง จะไปข้างนอกก็ไม่สะดวก แต่สำหรับ Pluviophiles
พวกเขาจะสนใจในข้อดีที่ซ่อนอยู่ของฤดูฝนมากกว่า
อย่างการที่ฝนตกลงมานั้นสามารถช่วยทำให้ดอกไม้หรือพืชพรรณต่างๆ เจริญงอกงามได้ดี อีกทั้งฝนยังช่วยเติมเต็มแหล่งน้ำตามธรรมชาติให้เต็มและเพียงพอสำหรับใช้สิยได้ด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ฤดูฝนไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่น่ารำคาญใจหรือส่งผลกระทบต่อ Pluviophiles เลย
เพราะพวกเขาเลือกที่จะมองในแง่มุมที่ดีของมันมากกว่า
ซึ่งข้อดีในส่วนนี้ของ Pluviophiles ก็สามารถนำไปปรับใช้กับเรื่องอื่นๆ รอบตัวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
4. การมองเห็นความสวยงามในความเศร้า
ในฤดูฝนที่ฟ้าครึ้ม เมฆเริ่มจับตัวหนา จนกระทั่งมีเม็ดฝนตกลงมาทีละหยดจนสาดเป็นสายลงมาจากฟ้า เปรียบ
เหมือนกับเรามองเห็นใครบางคนกำลังร้องไห้อยู่เลยนะคะ มันให้ความรู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสงบอีกแบบ
สำหรับเราและใครหลายๆ คนคงจะมีช่วงเวลาที่เหงาและนั่งกอดเข่าอยู่บนที่นอนในฤดูฝนบ้างใช่ไหมคะ? เรามองว่าถึงแม้ท้องฟ้าตอนฝนตกอาจไม่ได้ดูสวย ไม่ได้มีแดดอบอุ่น มีแค่เสียงฝนเทกระหน่ำและฟ้าร้อง
แต่มันก็แฝงไปด้วยเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ไม่มีใครเหมือน นั่นก็คือ เป็นเพื่อนแบ่งปันความทุกข์ยามเศร้านั่นเอง
เราอาจลองคิดว่าอุปสรรคและปัญหาที่เข้ามาในชีวิตเป็นเหมือนกับฝนที่นานๆ จะตกที
แต่หลังจากตกเสร็จก็มองเห็นฟ้าสว่างพร้อมกับคราบน้ำตาที่เหือดแห้งไปดูสิคะ
เราว่ามันน่าจะช่วยทำให้สาวๆ รู้สึกว่าเราไม่ได้กำลังร้องไห้อยู่คนเดียว แต่เรายังมีฝนที่ร้องไห้เป็นเพื่อนข้างๆ กันอยู่ตรงนี้เสมอไม่ไปไหน
5. Pluviophiles รู้ว่าพายุที่แท้จริงคืออะไร
สำหรับใครที่คิดว่าการที่
ฝนตก เท่ากับการเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่
มีแนวโน้มที่จะถูกมองว่า
เป็นคนที่มีความอดทนต่อความเหนื่อยยากได้น้อยกว่าคนอื่นๆ
เพราะในความเป็นจริงแล้วฝนหรือฤดูฝนนั้นไม่ใช่อุปสรรคที่ใหญ่เท่าไหร่เลย เมื่อเทียบกับพายุ สำหรับ Pluviophiles นั้นพวกเขาสามารถเรียนรู้ความยากลำบากของชีวิตผ่านพายุที่พัดโหมกระหน่ำในธรรมชาติอย่างไม่หวาดหวั่นได้ผ่านมุมมองและแนวคิดจากธรรมชาติอย่าง
ต้นไม้
นั่นเอง โดยปกติต้นไม้ไม่สามารถเคลื่อนที่หนีฝนหรือพายุได้
พวกมันต้องเตรียมตัวเผชิญกับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายที่จะถาโถมเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ซึ่งถ้าหากมันยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ต้องพยายามดิ้นรนและปรับตัวตามสถานการณ์อยู่เรื่อยไปเนื่องจากไม่สามารถหลบหลีกได้ Pluviophiles ก็เช่นกัน
พวกเขามักจะมีวิธีการรับมือต่ออุปสรรคเล็กๆ ที่เข้ามาได้เป็นอย่างดี
ดัง
นั้นพวกเขาจึงไม่หวาดหวั่นกับสายฝนเล็กๆ ที่มี แต่
เตรียมพร้อมหาวิธีสำหรับพายุลูกใหญ่ที่จะพัดเข้ามามากกว่า
6. Pluviophiles รู้จักตัวเองดี
คนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบฤดูฝน
มักจะรู้จักตัวเองเป็นอย่างดี ถึงความสามารถ ความชอบ ไปจนถึงการวางแผนอนาคตว่าอยากจะมีชีวิตเป็นแบบใด
แม้แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด พวกเขาก็ไม่ย่อท้อและพยายามชื่นชมความสวยงามที่เป็นไปในชีวิต โดยการ
ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีความสุขไปกับสายฝน ที่สามารถช่วยทำให้เขาลืมความเครียดที่มีอยู่และสร้างความสุขเล็กๆ ให้กับตัวเองแทน
สำหรับสาวๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าทำไมคนที่ชื่นชอบฝนเจ๋งจังเลย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะ
ในส่วนลึกของสาวๆ ก็อาจจะมีส่วนที่ชื่นชอบฝนกันบ้างก็ได้
เพียงแต่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้สึกและแสดงออกว่ารักฝนจริงๆ
จบลงไปแล้วกับ 6 มุมมองของคนที่ชอบฤดูฝน ว่า
พวกเขาเห็นและมีมุมมองแบบไหนที่ต่างกับคนอื่นๆ บ้าง
สาวๆ ที่อ่านครบแล้วเห็นว่ามีข้อไหนที่ตรงกับตัวเองบ้างรึเปล่าคะ? แต่ถ้ามีครบแล้วสาวๆ ไม่ใช่ Pluviophiles ก็ลองแชร์มาพูดคุยกันได้นะคะ
ส่วนสาวๆ ที่ชอบฤดูกาลอื่นที่ไม่ใช่ฤดูฝนก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนที่ไม่มีความสุขนะคะ
แค่สำหรับคนที่ชอบฤดูฝนเขาอาจจะมองเห็นในมุมที่คนอื่นไม่ค่อยมองแค่นั้นเองค่ะ
ซึ่งบางทีการจะเห็นมุมมองดีๆ เหล่านี้ก็ไม่จำเป็นว่าต้องพยายามจะมีความชอบแบบนี้ก็ได้นะคะ เพราะการเรียนรู้ความสุขจากมุมมองคนอื่นก็เป็นการสร้างมุมมองความสุขแบบหนึ่งให้ตัวเองได้เช่นกันค่ะ
เพราะฉะนั้นถ้าชีวิตของสาวๆ มีเรื่องยุ่งยากให้ต้องเผชิญแล้วคิดหาทางออกไม่ได้ ก็ลองเปิดโอกาสให้ฝนช่วยลบล้างความเศร้าเสียใจเหล่านั้นดูนะคะ
เพราะ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ถ้าไม่มีฝนตกลงมา พวกเราก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นสายรุ้งสวยๆ พาดผ่านอยู่บนฟ้าอย่างแน่นอน ดังนั้น
อย่ากลัวฝนเล็กๆ ที่สาดและเตรียมพร้อมทุกโอกาสสำหรับพายุลูกใหญ่ที่จะมาดีกว่านะคะ สู้ๆ ค่าา สาวๆ ซิสต้าทุกคน