1. SistaCafe
  2. ปลายผมพัง แต่ไม่อยากตัดอะ! 7 ทริค 'ซ่อมผมแตกปลาย' ผมดูเรียบลื่นเงางาม โดยไม่ต้องเล็มออก ♡

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeผู้รักผมยาวสุดชีวิต! ทั้งหลาย (。’▽’。)♡เชื่อว่ามีสาวๆ มากมายที่หวงแหนผมของตัวเองสุดๆ แม้จะยาวถึงหน้าอก ถึงกลางหลังแล้วก็ตาม ถึงจะมีปลายผมแตกปลาย ชี้ฟู แบบที่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็คงตัดทิ้ง แต่เธอทำใจไม่ได้ที่จะใช้กรรไกรเล็มของรักของหวงออกทั้งกลัวไม่สวย กลัวผมกระเดิด เด้งออกเป็นเป็ดบ้างอะไรบ้าง ซึ่งผมแตกปลายเนี่ย ไม่ว่าใครก็ต้องมี เพราะปัจจัยมันเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันทั้งนั้น คำถามคือ ถ้าไม่เล็มออก แล้วจะอยู่กับมันยังไงให้ดูไม่น่าเกลียดล่ะ??ว่ากันตรงๆ ถ้าอยากได้ปลายผมนุ่มสลวย 100% เลย โดยยังใช้เส้นผมเส้นเดิม เป็นไปไม่ได้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ดับฝันเพราะเกล็ดผมที่พังยับเยินไปแล้ว ไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้แต่! สามารถซ่อมให้พอดูดีขึ้นได้ด้วยทรีทเมนต์จากธรรมชาติ การปฏิบัติตัวต่างๆ และการทำทรงผมที่ช่วยซ่อนผม หากเธอรับได้กับเงื่อนไขเหล่านี้ เพราะยังไงก็ไม่อยากเสียผมไป ก็มาอ่าน' 7 ทริคซ่อมผมแตกปลาย ให้ผมดูนุ่มเงางาม โดยไม่ต้องเล็มออก 'กันได้เลย!


1. ใช้ 'น้ำมันมะพร้าว' เพิ่มความชุ่มชื้นให้ปลายผม

อย่างที่รู้กันว่า

น้ำมันมะพร้าวหรือ coconut oil

มีประโยชน์ด้านความงามมากมาย ทั้งกับสุขภาพผิว เล็บ สุขภาพเส้นผม ช่วยล้างแปรงแต่งหน้าให้สะอาด และเป็นส่วนผสมทำอาหารอร่อยๆ ที่ได้ประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย!

เมื่อนำมาใช้กับเส้นผม เขาจะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังแค, เร่งให้ผมยาวเร็วขึ้น และซ่อมผมแตกปลายให้กลับมาดูดีขึ้นได้ แม้จะไม่ทำให้ปลายผมหายแตก 100% แต่จะดูเรียบลื่นขึ้น เป็นช่อผมมากขึ้น ไม่ดูแตกเป็นแฉกๆ ผมชุ่มชื้นขึ้นค่ะ



เริ่มจากสระผมด้วยแชมพู ใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมให้แห้งก่อน แล้วค่อยๆ ลงน้ำมันมะพร้าวตามเส้นผม เพราะน้ำมันจากธรรมชาติจะมีเนื้อค่อนข้างหนัก ดังนั้นอย่าโปะออยล์ตู้ม! ลงไปทีเดียว ให้เริ่มจากหยดเล็กๆ หรือเนื้อออยล์ 1 สกู๊ป ( 1/4 ของอุ้งมือ ) ก่อน


หากผมแห้งมากก็ค่อยเพิ่มปริมาณ โดยทาเป็นพิเศษช่วงรากผม จากปลายผมไปถึงช่วงกลางเส้นผม ใช้คลิปหนีบผมขึ้น ห่อในผ้าเช็ดตัวหรือแรปพลาสติก หมักทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกให้สะอาด แล้วสระผมอีก 2 รอบ เพื่อล้างคราบน้ำมันออกให้หมด ทำทุกๆ 2 สัปดาห์ ปลายผมจะดูนุ่มสลวยขึ้นจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยล่ะ



2. ใช้ครีมบำรุงผม ชนิด Leave-in (ไม่ต้องล้างออก)

หากเธอไม่ชอบใช้ครีมนวดผม เพราะขี้เกียจล้างออก กลัวเหนียวหัว ไม่ค่อยชอบใช้เวลานานๆ อยู่ในห้องน้ำ อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ขอนำเสนอก็คือ

' ครีมบำรุงผมชนิดไม่ต้องล้างออก ' หรือ leave-in conditioner

นั่นเอง

แค่ลูบที่ปลายผม ก็ทำให้ผมที่แตกปลายกลับมาชุ่มชื้นและนิ่มขึ้น ป้องกันผมถูกทำลาย ( แม้เพียงชั่วคราวก็ตามที ) ที่สำคัญใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผมด้วยค่ะ



ครีมบำรุงแบบนี้จะมีส่วนผสมพิเศษ ที่เติมสารอาหารอย่างโปรตีนให้ผมแห้งเสีย ผมแตกปลายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผมดูสุขภาพดีขึ้นเหมือนเสกได้

เพียงทาปลายผมหลังสระผมเสร็จ หวีสางๆ หน่อย ไม่ต้องรอเวลาหมัก ก็ทำผมต่อหรือออกจากบ้านได้เลย และควรทาตอนที่ผมยังชื้นอยู่

แต่ข้อเสียคือ เมื่อครีมเริ่มแห้ง ปลายผมก็จะเริ่มแห้งตาม ถ้าอยากดูผมสวยทั้งวัน ก็ต้องคอยเติมครีมเรื่อยๆ ระหว่างวันค่ะ



3. เพิ่มโปรตีนให้เกล็ดผม ด้วยการหมักผมกับ 'อะโวคาโด'

หากสาวๆ เป็นสายรักษ์โลก อยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เราขอแนะนำ ' อะโวคาโด ' ที่ช่วยป้องกันผมแห้งเสีย แตกปลาย อุดมด้วยสารอาหารที่ทำให้เส้นผมสุขภาพดี เกล็ดผมชุ่มชื้นยิ่งขึ้น


แทนที่จะเอาไปทำอาหารคลีนซะหมด ก็เอามาหมักเส้นผมบ้าง จะได้สุขภาพดีตั้งแต่หัวจรดเท้าค่ะ อิอิ



สูตรง่ายๆ คือใช้อะโวคาโดหนึ่งลูก ไข่หนึ่งฟอง และน้ำมันมะกอก 2-3 หยด บดผสมเข้าด้วยกันจนเนื้อเนียนเข้มข้น แล้วนำมาพอกปลายผม ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น


มาส์กสูตรนี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมัน วิตามิน E และ K ที่ช่วยทำให้ผมนุ่มชุ่มชื้น ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และไม่ทำให้ผมเสียมากไปกว่าเดิม ใครอยากผมดูดีมีวอลลุ่ม คงได้เวลาเปิดตู้เย็น มอบอาหารดีๆ ให้เส้นผมแล้วล่ะค่ะ =w=b



4. ฟื้นฟูสภาพเส้นผมด้วย 'น้ำมันปลา (Fish-Oil)'

นอกจากจะเป็นวิตามินดีๆ บำรุงร่างกายที่ใครก็รู้จักแล้ว รู้ไหมว่า ' น้ำมันปลา ( fish oil ) ' ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางาม นุ่มลื่น ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นอีกด้วยนะ!



แม้กลิ่นอาจจะไม่ค่อยรัญจวนใจนัก แต่ด้วยคุณประโยชน์ของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่ช่วยเร่งผมยาว ซ่อมแซมเกล็ดผม ทำใหเส้นผมแข็งแรงขึ้น และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในหนังศีรษะ ก็เป็นอีกหนึ่งสูตรที่สาวๆ ควรลองทำดูเพื่อผมสวยจนใครๆ ก็ต้องอิจฉา!



วิธีทำง่ายๆ ใช้น้ำมันปลา 2 แคปซูล, น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ, ลาเวนเดอร์ออยล์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้าด้วยกันในกระทะผัด ( ไม่ได้จะทำอาหารนะ อย่าเข้าใจผิด! ) ตั้งไฟระดับต่ำ 5 นาที เทใส่ชามใบใหญ่ แล้วจุ่มปลายผมลงไปในชาม

ลูบให้น้ำมันซึมซาบเข้าสู่ทั้งเส้นผม ยกเว้นช่วงรากผมตรงหนังศีรษะ ห่อเส้นผมไว้ในผ้าเช็ดตัวหรือแรปพลาสติก ทิ้งไว้ 40 นาทีแล้วล้างออก ผมแตกปลายจะมีสภาพที่ดูดีขึ้นจนเธอรู้สึกได้!



5. ไม่สระผมบ่อยเกินไป และไม่หวีผมแรงเกินไปด้วย!

นอกจากการบำรุงรักษาด้วยทรีทเมนต์แบบต่างๆ แล้ว ก็ต้องไม่ละเลยขั้นตอนดูแลเส้นผมขั้นพื้นฐาน อย่างการหวีผมและสระผมด้วย!

หากสระผมบ่อยเกินไป หรือสระไม่บ่อยแต่สระแต่ละที ใช้แชมพู 4-5 รอบ จะทำให้เกล็ดผมอ่อนแอลงอย่างรุนแรง จนเกิดผมแตกปลายได้ในที่สุด และยังมีงานวิจัยค้นพบว่า โครงสร้างไฟเบอร์ของเส้นผมจะเปลี่ยนไป หากหวีหรือสระผมผิดวิธี ทำสีผมบ่อย ใช้น้ำยาดัดผม เป็นต้น



แก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยการไม่แปรงผมอย่างรุนแรง ไม่กระชากเส้นผมเด็ดขาด แม้จะมีผมพันกันก็ใช้นิ้วสาง หรือน้ำมันช่วยแยกช่อผมออกจากกัน และไม่สระผมเยอะเกินไป ( ไม่ควรเกิน 3 ครั้ง/สัปดาห์ )


แม้ทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้ผมแตกปลายที่มีอยู่เดิมกลับมานุ่มลื่น เงางาม แต่จะทำให้ไม่เกิดผมแตกปลายใหม่ๆ ขึ้นมาให้กังวลใจกว่าเดิมค่ะ



6. ใช้ 'น้ำผึ้ง + น้ำมันมะกอก' บำรุงเส้นผมให้นุ่ม เงางาม

หากต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างสูงสุดให้เส้นผม เราขอมอบมงให้ ' น้ำผึ้ง และ น้ำมันมะกอก ' สองดูโอ้นี้ เมื่อนำมาผสมรวมกันจะยิ่งมีคุณสมบัติบำรุงผมที่แห้งเสียอย่างล้ำลึก

ด้วยประโยชน์ของน้ำผึ้งที่ทำให้ผิวนุ่มนวล เก็บรักษาความชุ่มชื้น จึงเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ชั้นยอดของผมแห้งเสีย แตกปลาย ( หรือมีแนวโน้มจะแตกปลาย ) ผลพลอยได้อีกอย่างคือ ทำให้ผมเงางามสุดๆ เลยล่ะค่ะ



สูตรคือ น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งดิบอีก 2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมให้เข้ากัน หมักบนเส้นผมที่สระจนสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ 20-30 นาทีแล้วล้างออก สระผมซ้ำด้วยแชมพูทำความสะอาด

ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ปลายผมจะนุ่ม เส้นผมโดยรวมก็จะเงางาม สะท้อนแสง สวยวิ้งสุดๆ



7. ทำทรงผมที่ซ่อน 'ผมแตกปลาย' ให้เห็นไม่ชัด เช่น ผมเปีย ผมบัน

ทริคข้อสุดท้ายไม่เชิงซ่อม แต่

' ซ่อน '

ผมแตกปลายซึ่งเป็นจุดด้อย ให้อยู่ไกลมุมสายตาของคนอื่น หากต้องรีบใช้ผมออกงาน บำรุงผมไม่ทันหรืออะไรก็แล้วแต่ สามารถเอาตัวรอดได้ด้วยการ

' ทำทรงผมที่เก็บปลายผม หรือซ่อนส่วนแห้งเสียได้โดยไม่เป็นจุดสังเกต '


เช่น ทำผมบันรวบขึ้นไปบนศีรษะ, ถักผมเปีย หรือจะใช้ accessories ดึงดูดความสนใจ เช่น ผ้าพันคอ หมวก กิ๊บสวยๆ ก็ได้เช่นกัน



อีกวิธีที่ไม่ต้องทำผมอะไรเยอะก็คือการ ' เหน็บผม ' หากผมค่อนข้างสั้นจะเหน็บไว้ที่หูก็ได้ หรือถ้าผมยาวหน่อย ก็ซ่อนปลายไว้ใต้เสื้อเชิ้ตมีปกหรือเสื้อกันหนาว


หากเป็นเรื่องฉุกเฉินจริงๆ ทำผมไม่ทัน ก็หาเสื้อที่มีปกใหญ่ไว้ก่อน ซ่อนปลายผมลงไป จะช่วยให้ผมไม่เสียทรง และไม่ชี้โด่เด่ให้อายผู้คนด้วยค่ะ




----------------------------------


สำหรับสาวที่รัก ( เส้น ) ผม ก็น่าจะสบายใจกันได้แล้ว แม้จะอยากเก็บผมไว้ แต่ก็คงไม่มีใครอยากโชว์ปลายผมแห้งสากๆ เหมือนไม้กวาดให้สังคมภายนอกเห็น ดูเสียบุคลิกด้วย แต่หากทำตาม 7 ทริคในบทความนี้ ก็จะช่วยซ่อมผมที่เกล็ดผมแห้งเสีย ให้ดูนุ่มเรียบลื่นขึ้นได้อย่างที่บอกว่ามันไม่ได้กู้ชีพเส้นผมคืนมาได้ 100% ดังนั้นเราแนะนำว่า ถ้าอยากผมเพอร์เฟกต์จริงๆ ช่วงที่ไม่ต้องเจอคน ไม่ต้องใช้ผม ก็ตัดใจเล็มผมส่วนเกินออกไปบ้างจจะดีกว่า เพื่อผมสวยน่าสัมผัสในระยะยาวนะคะ ลองไปทำตามกันดู ถ้าชอบก็มาคอมเมนต์บอกกันได้น้า รออ่าน วันนี้ขอตัวไปแล้ว บ๊ายบายค่า



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้