กรี๊ดด! ฮือๆ ฝันร้ายอีกแล้ว สวัสดีค่าเพื่อนๆ ที่ ชอบฝันร้ายและมีค่ำคืนที่ขมขื่นทุกคน ณ จุดนี้เราขอไม่พูดอะไรเยอะ และเราเข้าใจคนที่ประสบกับปัญหาการนอนฝันร้ายทุกคนเลยว่า มันเป็นอะไรที่เลวร้ายจริงๆ ซึ่งถึงแม้เราจะเป็นคนที่แทบไม่ฝันเลยก็จริง แต่เวลาฝันจริงๆ ก็คือฝันแต่เรื่องร้ายๆ แบบตื่นมาน้ำตาพรากอยู่หลายหนเหมือนกัน สำหรับใครที่หนักกว่าเราคือฝันร้ายบ่อยมากก อยากบอกว่า มันส่งผลต่อสุขภาพเราจริงๆ นะคะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย ยังไงก็แล้วแต่เพื่อนๆ ลองมาเช็กลิสต์กันดีกว่าว่ามีสาเหตุของฝันร้ายข้อไหนที่ตรง / ไม่ตรงกับเราบ้าง?
รวม 6 สาเหตุที่ทำให้ " ฝันร้าย " จนเกิดปัญหาสุขภาพ
1. ความเครียดและความวิตกกังวล
ความเครียดและความวิตกกังวล ไม่ว่าจะจากโรงเรียน, ที่บ้าน, ครอบครัว หรือความสัมพันธ์ ถือเป็นหนึ่งใน ปัจจัยหลักที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพของเราทั้งสิ้น โดยหลักการทำงานของสมองที่มีต่อความเครียดและฝันร้ายคือ สมองเราจะเอาความทรงจำแย่ๆ และความรู้สึกเครียดที่เรามีทั้งวันมาประมวลผลรวมกันตอนกลางคืน และส่งผลออกมาเป็นฝันร้ายนั่นเอง ซึ่งการที่เพื่อนๆ ฝันร้ายบ่อยนั้น ส่วนหนึ่งมันก็มาจากความเครียดสะสม และความพยายามที่ต้องการจะแก้ปัญหาของเราแต่ยังทำไม่ได้ โดยสมองจะนำเอาความคิดเหล่านี้ไปประมูลผลต่อตอนกลางคืน และตอบสนองออกมาในรูปแบบที่ดูน่ากลัวนั่นเอง
2. แผลจากอดีต
แผลจากอดีต หรือ Trauma คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ทำให้คนถึง 80% จำไปฝันร้ายตลอดเลย หรือที่เรียกกันว่า post-traumatic stress disorder ( PTSD ) คือการที่จิตใจของเราถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต โดยกรณีนี้สามารถทำให้เราฝันร้ายได้บ่อยและถี่จนเกิดอาการผวาได้เลย ซึ่งแผลจากอดีตที่ชอบมาหลอกหลอนเราเหมือนกับฉายหนังวนซ้ำไปมา ก็ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุ การสูญเสียคนรัก การถูกข่มขืน เป็นต้น
3. อาการตกใจและหวาดกลัว
อาการตกใจและหวาดกลัว หรือ Hyperarousal คือ อาการของคนที่นอนไม่หลับ เพราะรู้สึกกระสับกระส่าย ตกใจง่ายกับเรื่องธรรมดาในช่วงตอนกลางวัน
โดยคนที่มีอาการพวกนี้บ่อยๆ สมองจะเกิดการสะสมความรู้สึกกลัว ตื่นตระหนกต่างๆ และส่งผลออกมาในรูปแบบฝันร้ายตอนกลางคืนนั่นเอง ซึ่ง Hyperarousal จะคล้ายกับ PTSD เลย คือ เป็นคนที่เคยมีแผลเป็นจากอดีตและส่งผลมาถึงปัจจุบัน ที่ทำให้เราหวาดระแวงบ่อย ตกใจง่าย และชอบย้ำคิดย้ำทำ
4. ปมในวัยเด็ก
ปมในวัยเด็ก หรือ Childhood adversity คือ การมีเรื่องเสียใจในวัยเด็กที่ทำให้เกิดบาดแผลฝังลึกอยู่ในใจ ซึ่งเพื่อนๆ รู้ไหมคะว่าเรื่องปมฝังใจในวัยเด็กคือ หนึ่งในเรื่องที่มันจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไปและส่งผลเสียต่อสุขภาพเราได้ด้วย โดยสำหรับคนที่มีปมในวัยเด็กไม่ว่าจะเป็น การเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ครอบครัวหย่าร้าง การถูกล่วงละเมิด ทุกอย่างจะทำให้เราเกิดความกลัวแบบฝังลึกและกลายเป็นแผลเป็นในความทรงจำวัยเด็ก จนส่งผลออกมาในรูปแบบของฝันร้ายนั่นเอง
5. การอดนอน
ว่าไปปทุกคน! รู้ไหมคะว่า การนอนหลับไม่เพียงพอหรืออดหลับอดนอนบ่อยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราฝันร้ายได้แล้ว ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า การนอนหลับให้เพียงพอคือเรื่องที่สำคัญ แต่ทุกคนจะทำได้ไหมนี่ก็อีกเรื่อง ซึ่งสำหรับใครที่ ชอบตื่นกลางดึกบ่อยๆ หรือนอนแป๊บๆ ก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะฝันร้ายแล้ว ก็ลองคิดทบทวนดูนะคะว่าเราอดนอนหรือนอนไม่เป็นเวลาหรือเปล่าช่วงนี้ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ พักผ่อนให้เพียงพอนอกจากเราจะนอนได้ยาวและอื่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายของเราสดชื่น และขอบตาก็ไม่คล้ำดำด้วยนะคะ
6. หนังน่ากลัว
เอาละ ใครที่กลัวจังเลยเวลาดู หนังผี หรือ เรื่องสยองขวัญ แต่มันก็หยุดดูไม่ได้นี่แหละค่ะทุกคน คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราฝันร้ายและนอนไม่หลับ ซึ่งจากงานศึกษาหลายๆ ที่ก็พบว่า เวลาเราดูหรือฟังเรื่องผีมา เราก็จะเกิดการจินตนาการและเก็บเรื่องพวกนี้ไว้ในสมอง จากนั้นพอเวลาเรากำลังจะปิดไฟนอน อยู่ๆ เรื่องพวกนี้ก็จะเด้งขึ้นมาทำให้เรานอนไม่หลับ พอนอนก็จะฝันร้ายด้วย ส่วนสำหรับใครที่แค่เดินไปเข้าห้องน้ำก็ระแวงตลอดเพราะมีเรื่องน่ากลัวในหัวก็ลองลดๆ บ้างนะคะซิส แนะนำว่าถ้าอยากดูจริงๆ ก็ลองดูพร้อมๆ กันหลายคนดีกว่าเนาะ
เป็นไงบ้างคะเพื่อนๆ กับ 6 สาเหตุที่ทำให้ " ฝันร้าย " จนเกิดปัญหาสุขภาพ เพราะฝันร้ายไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป ! สำหรับใครที่ เข้าข่ายสาเหตุเหล่านี้ก็ลองนั่งสมาธิ หรือ หาเรื่องผ่อนคลายที่สบายๆ ดูก่อนอนนะคะ อย่าง ASMR ก็ช่วยได้ดีมากๆ เลยสำหรับคนที่นอนหลับยากและไม่เป็นเวลา ส่วนใครที่รู้สึกว่าฝันร้ายต่อเนื่องและบ่อยจริงๆ ลองไปปรึกษาแพทย์ดูจะดีที่สุดนะคะ ยังไงวันนี้เราก็ขอให้ทุกคนฝันหวานหลับสบายตื่นมาสดใสกันนะคะซิส บ๊ายบายย
Cr. Causes Of Nightmare Disorder
https://mind.help/topic/nightmares/causes/?fbclid=IwAR2RWBQMyxSwc3dB2lzUz-BPXdv7pXuGQEg_s4iNTjP0K2G3b5i_xj47a0Q