ฮัลโหลสาวๆSistaCafeทุกคนนนน ^^
เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องเคยประสบปัญหาโลกแตกอย่าง" ผมร่วง ผมบาง "กันทุกคน แค่ใช้มือสางผมไม่กี่ที มองลงไปที่พื้นก็ต้องตกใจ ร่วงเป็นกระจุกจนนึกว่าเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย กรี๊ดดดดดดด T__________T
ปล่อยไว้นานๆ ผมก็เริ่มบางลงเรื่อยๆ ถ่ายรูปทีแสงอาทิตย์ส่องกลางศีรษะวิบวับ ร้องไห้หนักมากเวอร์ ไม่ได้ละ ต้องฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะโดยด่วน เรามาเริ่มจากการเลือกใช้แชมพูบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดีกันดีกว่า!
สาวๆ จ๋า เธอรู้ไหมว่าสาเหตุของอาการ
" ผมร่วง "
มาจากกรรมพันธุ์ 95% โดยมาจากฮอร์โมน Androgen หลักในเพศชายชื่อย่อว่า DHT ถ้าฮอร์โมนนี้ไปทำงานที่หนังศีรษะหรือรากผม ทำให้ต่อมรากผมฝ่อ ผมจึงร่วงและบางไวกว่าปกติ
( บางราย บางจนเห็นหนังศีรษะขาวๆ เลยล่ะ! ) เราจึงขอแนะนำเซ็ตแชมพูและเซรั่มบำรุงเส้นผมชื่อ
" AloEx Hair regrowth set "
ค่ะ
แชมพูเซ็ตนี้จะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนบริเวณหนังศีรษะ กระตุ้นให้ระบบไหลเวียนโลหิตตรงหนังศีรษะดีขึ้น เลือดจึงนำสารอาหารไปเลี้ยงรากผมได้ทั่วถึง ต่อมรากผมสร้างเซลล์ผมได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้คือรากผมแข็งแรงยังไงล่ะ!
เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ...งั้นก็เลื่อนลงมาอ่านรายละเอียดข้างล่างกันเล้ย!
แนะนำ : AloEx hair regrowth shampoo and serum
หลายคนอาจยังไม่คุ้นหูชื่อแบรนด์น้องใหม่นี้ จึงขอแนะนำว่า
AloEx
เป็นผลิตภัณฑ์ดูแล / ฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะจากสารสกัดธรรมชาติ โดยใช้คู่กันทั้งแชมพูและเซรั่ม ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแข็งแรง ทั้งเซ็ตนี้มีชื่อว่า
" AloEx hair regrowth shampoo and serum "
ค่ะ
AloEx hair regrowth shampoo
เป็นแชมพู Organic สำหรับสาวๆ ที่หนังศีรษะบอบบาง แพ้ง่าย พูดเลยว่าต้องลอง เป็น must-try item เพราะช่วยบำรุงฟื้นฟูเส้นผมอย่างอ่อนโยนไม่ทำให้ระคายเคือง ไม่ทิ้งสารตกค้าง อีกทั้งทำให้ผมดกหนามากขึ้นค่ะ
เหมาะกับคนที่มีผมบาง ไม่ว่าจะบางจากพันธุกรรม ความเครียด หรือแพ้สารเคมี รวมทั้งผลข้างเคียงจากการรักษาทางการแพทย์ ( เคมีบำบัด ) ช่วยให้ผมขึ้นเร็ว หนาขึ้น ผมที่งอกใหม่ก็แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ช่วยลดผมมัน อาการคันต่างๆ
สารสกัดจากธรรมชาติในแชมพูมีมากมาย เช่น
protein seeds extracts, root extracts, curcumin, soap nut tree, henna, butterfly pea flowers
และสารสกัดอื่นๆ ที่ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม ลดการอักเสบและความมันของหนังศีรษะ
ที่สำคัญคือ! ไม่ใส่สารกันเสีย แต่ใช้เม็ด Silver nano ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีความปลอดภัยสูง //มีความล้ำไปอีก
ในตอนนี้ตัวแชมพูของ AloEx มีการปรับปรุงสูตรใหม่ให้อ่อนโยนยิ่งขึ้นด้วยการลดค่า pH ให้เหลือเพียง 5.5ทำให้คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ และยังมีส่วนประกอบของสารสกัดจากเซรั่ม ( สเปรย์บำรุงผม ) เข้มข้นถึง 40%จึงช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะในขณะสระผมด้วยค่ะ
แม้ว่าแชมพูจะมีส่วนผสมของเซรั่ม แต่เพื่อผมที่หนา นุ่ม มีน้ำหนักไม่ขาดง่าย ต้องใช้เซรั่มควบคู่ไปด้วย เพราะแชมพูใช้แล้วล้างออก แต่
เซรั่มมีส่วนผสมจากสารสกัดสมุนไพรเข้มข้น ฉีดแล้วไม่ต้องล้างออก ไม่มีสารเคมี ( Free chemical leave-in serum ) จึงบำรุงได้นาน ใช้ได้ทั้งวัน
ที่สำคัญ AloEx
ไม่มีส่วนผสมของ ฟีแนสเทอไรด์ และ ไมน็อกซีดิล จึงไม่ทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบาง
แน่นอน
ทางแบรนด์กล่าวว่า ผมร่วงจะน้อยลงภายใน 2-3 สัปดาห์หลังใช้ และเห็นผลรวมในระยะยาวประมาณ 2-3 เดือน ไรผมจะเริ่มงอก //ตื่นเต้น! แต่บางรายที่อาการรุนแรง ต่อมรากผมถูกทำลายมานาน อาจใช้เวลานานกว่านี้ ( 5-6 เดือน )
*แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมของแต่ละคน เช่น สระผมบ่อย สระตอนกลางคืน ใช้สารเคมีจัดแต่งทรงผม ซึ่งหากงดเว้นได้ ก็จะเห็นผลได้เร็วขึ้นค่ะ*
สาวๆ คนไหนที่มีข้อจำกัดเรื่องงบ กลัวว่าราคาจะสูงเกินไป เราอยากให้ซื้อมาลองใช้ดูก่อน เมื่อใช้ไปสักพักจนรากผมกลับมาแข็งแรงแล้ว จะหยุดใช้หรือใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ รับรองว่าผมไม่กลับมาร่วงอีกค่ะ ^^
เรามาทดลองใช้แชมพู AloEx กันเลยดีกว่า!
หลังไดร์จนผมแห้งแล้ว นี่คือผลลัพธ์ที่ได้...
รีวิวเปรียบเทียบ AloEx กับแชมพูแบรนด์อื่นๆ
THREE scalp & hair shampoo AC
สรรพคุณ THREE :
แชมพูสูตร Organic จากธรรมชาติมากถึง 95 % เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย มีส่วนผสมของ Botanic Oil ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ผมไม่แห้งแตกปลาย หยาบกร้าน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วผ่อนคลาย ใช้ได้กับทุกสภาพผิวและสภาพเส้นผม ไม่มีสารเคมีและซิลิโคน
เปรียบเทียบกับ AloEx:
มีสรรพคุณใกล้เคียงกันในเรื่องผิวแพ้ง่าย ใช้แล้วไม่ระคายเคืองหนังศีรษะทั้งคู่ แต่ AloEx จะได้เปรียบกว่าที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ในขณะที่ THREE จะช่วยเรื่องผมแห้งแตกปลายมากกว่า กลิ่นแชมพู THREE จะเป็นน้ำมันหอมระเหย จึงใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง AloEx จะราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์มากกว่าค่ะ ^^
Shiseido THE HAIR CARE Adenovital Shampoo
สรรพคุณ Shiseido :
แชมพูทำความสะอาดหนังศีรษะสูตรอ่อนโยน มอบความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ ปรับสมดุลและเตรียมความพร้อมของหนังศีรษะ ช่วยป้องกันผมร่วง ผมบาง ผมหงอก ให้เส้นผมดูหนานุ่ม สุขภาพดี เป็นเงางาม นิยมใช้ในร้านซาลอน ใช้คู่กับเอสเซนส์เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
เปรียบเทียบกับ AloEx :
ด้านความชุ่มชื้นและบำรุงหนังศีรษะนั้นค่อนข้างทำได้สูสีกัน ( ชิเซโด้จะอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย ) แต่หลังสระผมแล้ว ถ้าสระด้วย AloEx ผมจะมันช้ากว่า คันหนังศีรษะน้อยกว่า ด้านกลิ่นของแชมพู แล้วแต่คนชอบ ชิเซโด้จะเป็นกลิ่นแนวหอมหวานจากผลไม้ ฟรุตตี้ๆ แต่ AloEx จะเป็นกลิ่นสมุนไพรค่ะ
Regro Shampoo for lady
สรรพคุณ Regro :
แชมพูป้องกันผมร่วงสำหรับสุภาพสตรี ทำความสะอาดเส้นผมอย่างอ่อนโยน อ่อนละมุนสำหรับเส้นผมและหนังศีรษะ รักษารากผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง พร้อมมอยส์เจอไรเซอร์ ให้ผมนุ่มสลวย สุขภาพดี สระได้ทุกวัน
เปรียบเทียบกับ AloEx :
ด้านการรักษาผมร่วง ผมบางทำได้สูสีกัน แต่หลังสระผมแล้ว AloEx จับแล้วเส้นผมนุ่มกว่าเล็กน้อย ในด้านกลิ่น เราชอบกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ หวานละมุนของ Regro มากกว่านิดหน่อย อิอิ
แต่ในด้านปัญหาผมมีรังแค AloEx จะใช้ได้ผลดีกว่า Regro เพราะหลังใช้ไปสักระยะ หนังศีรษะที่เคยหลุดลอกเป็นแผ่นๆ ก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ชุ่มชื้นขึ้นด้วย เรานี่เป็นปลื้มเลย!
Clinique Hair Care Daily Wash Shampoo
สรรพคุณ Clinique :
แชมพูชนิดเนื้อเจล บำรุงเส้นผมสูตรอ่อนโยน สระได้ทุกวัน ทำให้ผมสะอาด ชุ่มชื้น เงางาม ทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่มีน้ำหอม
เปรียบเทียบกับ AloEx :
ทั้งสองแบรนด์สระแล้วผมสะอาด ชุ่มชื้น เงางามเหมือนกัน แต่ Clinique สระแล้วรู้สึกสดชื่นเย็นสบายกว่า เพราะแชมพูเป็นเนื้อเจล มีกลิ่นผลไม้แบบแตงโมอ่อนๆ เลยได้ใจเรามากกว่า AloEx ที่เป็นสมุนไพร ><
แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อยาก สำหรับคนที่งบจำกัดอย่างเราแล้ว ไม่สามารถซื้อใช้ได้บ่อยๆ T T และ
หากใช้ Clinique โดยไม่ใส่ครีมนวดผม ผมจะแห้งมากกก ก็ถือว่าสองแบรนด์นี้มีข้อดีข้อเสียคนละแบบ แล้วแต่จะเลือกซื้อค่ะ
L 'Oreal Paris Total Repair 5 - Repairing Shampoo
สรรพคุณ L'oreal :
แชมพูทำความสะอาดเส้นผม ช่วยเคลือบปิดเกล็ดผม ช่วยแก้ปัญหาผมเสียทั้ง 5 ประการ ลดการเปราะหัก แห้งกรอบ หยาบกระด้าง ผมไม่เงางามและแตกปลาย กลิ่นหอม
เปรียบเทียบกับ AloEx :
ลอรีอัลใช้แล้วผมนุ่มลื่น ดูสุขภาพดี ได้เปรียบ AloEx ที่กลิ่นหอมๆ เหมือนขนมหวาน สระแล้วเพลิน อยากสระอีกบ่อยๆ >< ผมดูมีวอลลุ่ม ใช้คู่กับครีมนวดผมยิ่งลื่นไม่พันกัน ราคามิตรภาพ หาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปแต่ข้อเสียคือไม่เหมาะกับสาวๆ ที่หนังศีรษะบอบบาง เพราะลอรีอัลมีส่วนผสมของสารเคมี ในขณะที่ AloEx มีสารสกัดจากธรรมชาติ ( เป็นแชมพู Organic ) จึงถนอมเส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพดีมากกว่า ใครที่อยากได้แชมพูที่อ่อนโยนและไม่ระคายเคือง AloEx จะตอบโจทย์กว่าค่ะ
JOICO moisture recovery shampoo
สรรพคุณ JOICO :
แชมพูที่ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้น อิ่มน้ำ มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเคลือบเกล็ดผม ทำให้ผมนุ่มลื่น ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับสาวผมแห้ง ขาด เปราะบาง หลุดร่วงง่าย
เปรียบเทียบกับ AloEx :
JOICO มีกลิ่นหอม สระแล้วผ่อนคลาย ช่วยทำให้เส้นผมนุ่มลื่น ชุ่มชื้นขึ้น ไม่ขาดง่าย สุขภาพดีได้จริง หากเป็นคนสุขภาพผมแข็งแรงอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ผมทำสีอย่างเรา รู้สึกว่าแบรนด์นี้ยังไม่ค่อยตอบโจทย์ จับแล้วผมยังแห้งๆ อยู่นิดหน่อยค่ะ
อีกทั้ง JOICO ยังมีส่วนผสมของสารเคมีอยู่บ้าง ไม่ใช่ส่วนผสมจากธรรมชาติ ( Organic ) หากใครที่กัดสีผม ทำสีผมเยอะๆ หนังศีรษะบอบบาง เราเชียร์ AloeX มากกว่าค่ะ ^__^
สรุป : ความประทับใจกับ AloEx Shampoo & Hair Serum Spray
สรุปโดยรวมแล้ว AloEx hair regrowth shampoo and serum ถือเป็นเซ็ตแชมพู + เซรั่มไร้สารเคมีที่แนะนำว่า" ต้องลอง! "สำหรับสาวผมบาง แพ้ง่ายอย่างแท้จริง
เพราะใช้แล้วผมนุ่มลื่น สุขภาพดี แก้ปัญหาผมหลุดร่วง ผมบาง มีรังแคได้จริง ทำให้สุขภาพเส้นผมดีขึ้นมากเลยล่ะค่ะ
ข้อแรกที่เราชอบคือ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ
( เราชอบอะไรที่เป็น Organic อยู่แล้ว เพราะค่อนข้างเซนซิทีฟกับสารเคมี ) ใช้แล้วไม่ระคายเคืองและไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ ให้คัน ต้องเกาให้เสียบุคลิกต่อหน้าคนอื่นๆ >__<
ข้อสองคือเราเป็นสาวผมบางที่มาจากทั้งพันธุกรรมและความเครียด เคยไม่มั่นใจกับการถ่ายรูปโชว์เส้นผม ต้องคอยใส่หมวกปิดไว้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้หมดห่วงไปเลย! เพราะ AloEx ช่วยสร้างผมใหม่ ทำให้ผมหนาขึ้น และยังลดความมันด้วย!
//ไม่ต้องใช้แป้งเด็กโรยเพื่อซับความมันอีกต่อไปแล้วววว อิอิ
อ้อ เกือบลืมข้อสุดท้าย! สาวๆ ที่ชอบทำสีผม กัดสีผมเราก็แนะนำให้ใช้นะเออ
เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่กัดสีผมมาค่อนข้างหนัก ( สีบลอนด์ทอง ) แต่ใช้ได้ปกติ
เพราะสูตรนี้ไม่ทำให้สีผมอ่อน / จางลง และยังช่วยกำจัดสารเคมีที่สะสมจากการทำสี และยังช่วยฟื้นฟูหนังศีรษะจากสารเคมีอีกด้วยล่ะ
ถูกและดี ไม่มีผลข้างเคียง คุณสมบัติมาเต็มขนาดนี้
ถ้าใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้จาก Facebook ด้านล่างนี้ได้เลย
หรือหากสะดวกสั่งทางไลน์
แอด line : @AloEx ( มี @ ด้านหน้า ) นะคะ โดยมีราคาดังนี้
แชมพู
595
บาท ขนาด
200 ml
เซรั่ม แบบสเปรย์990บาท ขนาด120 ml
ซื้อเป็นเซ็ต แชมพู +เซรั่ม ราคา
1,500 บาท
สำหรับวันนี้เราต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในคอนเทนต์หน้านะคะ บ๊ายบายค่า ^^/
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่...
ว่าง..
http://www.aloexhair.com/
ว่าง..
https://www.facebook.com/AloExOfficial/?fref=ts