มะเร็งเต้านมภัยเงียบอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก
โรคนี้เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รู้จัก ภัยเงียบ ที่เราไม่รู้ว่า เขาจะปะทุขึ้นมาเมื่อไหร่ เพราะงั้นวันนี้ เราลองมาตรวจเช็คกันดูหน่อยมีวิธีสังเกต และวิธีตรวจเช็กอยู่ค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้ไปพร้อมๆ กัน และจะพาทุกๆ คนไปทำความรู้จักกับมะเร็งเต้านมด้วย จะได้รู้ว่าต้องทำยังไงเป็นแล้วดูแลตัวเองยังไง รักษายังไงบอกหมดเลย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอาเป็นว่า เราไปทำความรู้จักกับโรคนี้กันเลยดีกว่าค่ะ
มะเร็งเต้านมเกิดขึ้นได้อย่างไร ? มีการเปลี่ยนแปลงอะไรให้รู้ได้บ้าง ?
มะเร็งเต้านมเกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม ทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก ซึ่งถ้าเราไม่รีบทำการรักษา มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้!
มะเร็งเต้านมจะแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1
ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กกว่า 2 ซม. และยังไม่มีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้
ระยะที่ 2
ก้
อนมะเร็งมีขนาดระหว่าง 2 - 5 ซม. และ/หรือมีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ข้างเดียวกัน
ระยะที่ 3
ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่กว่า 5 ซม. แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ข้างเดียวกันอย่างมาก จนทำให้ต่อมน้ำเหลืองเหล่านั้นมารวมติดกันเป็นก้อนใหญ่หรือติดแน่นกับอวัยวะข้างเคียง
ระยะที่ 4
ก้อนมะเร็งมีขนาดโตเท่าไหร่ก็ได้ แต่พบว่ามีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายที่อยู่ไกลออกไป เช่น กระดูก ปอด ตับ หรือสมอง เป็นต้น
อาการ
*
การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณหน้าอก
เช่น มีรอยบุ๋ม ย่น หดตัว หนาผิดปกติคล้ายเปลือกส้ม หรือบางส่วนเกิดเป็นสะเก็ด
*
ความเปลี่ยนแปลงของหัวนม
เช่น มีการหดตัว หัวนมบอด คันหรือแดงผิดปกติ เลือดออกทางหัวนม อาการเจ็บเต้านม หรือมีก้อนที่รักแร้
อย่าไรก็ตาม การมีก้อนเนื้อในเต้านม ไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็งเสมอไปนะ ดังนั้นพอคลำแล้วพบก้อนที่เต้านม อย่าเพิ่งตกใจและก็อย่านิ่งนอนใจด้วย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ ไม่ต้องรอให้เจ็บหรือปวดก่อน ให้ไปพบหมอทันที คุณหมอจะได้เร่งวินิจฉัยและรีบทำการระกษาโดยเร็ว
เมื่อไหร่ถึงควรตรวจมะเร็งเต้านม ?
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนมีคำถามเยอะแยะมากในหัวว่า มันจะเกิดขึ้นกับใครได้บ้าง ช่วงอายุเท่าไหร่ แล้วเมื่อไหร่ควรตรวจมะเร็งเต้านม วันนี้เรารวบรวมคำตอบมาให้เพื่อนๆ แล้วจริงๆ แล้วมะเร็จเต้านมพบมาให้ผู้หญิงนะคะ ซึ่งโอกาสที่จะพบในเพศชายมีเพียง 1% ของมะเร็งเต้านมทั้งหมดเท่านั้น ว่ากันว่า มะเร็งเต้านมมันจะพบได้บ่อยตั้งแต่อายุ 40 - 50 ปีหรือ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่กินยาฮอร์โมนทดแทน ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน
จริงๆ พออายุเริ่มมากขึ้น ก็ควรจะไปตรวจได้แล้วแหละ
เพราะยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งมีความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มมากขึ้นด้วย
ซึ่งผู้หญิงทุกคนควรเข้ารับการตรวจ
คัดกรองมะเร็ง
ด้วยการทำแมมโมแกรม อย่างเป็นประจำ
✸ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
✸ ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
✸ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ในการตรวจ คือ 7-10 วันหลังหมดประจำเดือน
รู้จักการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม
เพื่อนๆ อาจจะสงสัยกันว่า แมมโมแกรม คืออะไร?แมมโมแกรมคือการตรวจเอกซเรย์เต้านม โดยใช้เครื่องมือเฉพาะ กดเต้านมให้แบนราบมากที่สุด และถ่ายภาพเต้านม 2 ท่า อาจมีการทำอัลตราซาวด์เพิ่ม เพื่อช่วยให้วินิจฉัย หรือยืนยันว่าสิ่งที่พบผิดปกติในแมมโมแกรม จะช่วยให้วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
⁂ข้อดีของการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม
- ปริมาณรังสีต่ำ มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีการควบคุมปริมาณรังสีตามมาตรฐาน
- ภาพเอกซเรย์คมชัด สามารถแยกความแตกต่างของไขมันและเนื้อเยื่อต่างๆ ของเต้านมได้
- มีความถูกต้องแม่นยำสูง
- รวดเร็ว ลดระยะเวลาในการตรวจ
- มีการบันทึกภาพเต้านมแบบดิจิตอล สามารถมองเห็นภาพบนจอคอมพิวเตอร์ได้เลย
⁂ข้อจำกัดของแมมโมแกรม
- บางครั้งการตรวจด้วยแมมโมแกรม อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่เพียงพอต่อแพทย์ โดยเฉพาะเมื่อเจอจุดที่น่าสงสัย แพทย์อาจจะแนะนำให้เราตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม เพื่อความแม่ยำยิ่งขึ้น
- เนื้อเยื่อเต้านมของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน โดยเฉพาะกับคนที่ทำหน้าอกมา นั่นอาจทำให้การแปลผลของการตรวจแมมโมแกรมนั้นยากตามไปด้วย
- แมมโมแกรม ไม่สามารถแสดงให้เห็นมะเร็งเต้านมได้ทุกชนิด โดยส่วนใหญ่แล้วจะตรวจพบเพียงแค่มะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่ม และบางครั้งผลที่ได้ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น เช่น แมมโมแกรมตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ทั้งๆ ที่ความจริงอาจจะไม่ได้เป็นก็ได้
- ถุงเต้านมเทียม มีผลทำให้ผลตรวจความแม่นยำของการตรวจแมมโมแกรมลดลง
⁂ การตรวจแมมโมแกรมเหมาะกับใคร
เหมาะสำหรับตรวจผู้ที่คลำเต้านมได้ลำบาก ผู้ที่ผ่านการเสริมหน้าอก และผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
สำหรับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ส่วนคนที่อายุ 55 ปีขึ้นไป ควรตรวจปีละ 2 ครั้ง แต่หากพบความผิดปกติ แพทย์จะนัดตรวจทุกๆ 3 - 6 เดือน
แล้ว
ใครที่
ไม่เหมาะกับการตรวจเครื่องแมมโมแกรม
แม้การตรวจแมมโมแกรม จะเป็นการตรวจที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ไม่แนะนำสำหรับคนที่อยู่ในช่วงประจำเดือนมา และคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นะจ๊ะ
วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
• การคลำในแนวก้นหอย โดยเริ่มจากคลำส่วนบนของเต้านมตามแนวก้นหอยไปจนถึงฐานนมบริเวณรอบรักแร้
• การคลำในแนวรูปลิ่ม เริ่มคลำจากส่วนบนของเต้านม จนถึงฐานแล้วกลับขึ้นสู่ยอดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งเต้านม
• การคลำในแนวขึ้นลงจากใต้เต้านม เริ่มคลำจากใต้เต้านมจนถึงกระดูกไหปลาร้า แล้วขยับนิ้วทั้งสามนิ้ว คลำในแนวขึ้นและลงสลับกันไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งเต้านม
อาการเสี่ยงมะเร็งเต้านม
ก่อนที่จะเป็นมะเร็งเต้านม วันนี้ให้เพื่อนๆ เริ่มสังเกตตัวเองก่อน ซึ่งมันอาจจะช่วยเพิ่มโอกาสพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกๆ เพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น
จริงๆ แล้วมันมีสัญญาณ หรืออาการบางอย่าง
ที่บ่งบอกออกมาว่า
เต้านมเราผิดปกติ
วันนี้
เราได้ทำการรวบรวมสั
ญญาณเตือนต่างๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองตรวจเช็กตัวเองดู
จะมีอะไรบ้าง ดูตามลิสต์นี้ได้เลยค่ะ
1.ขนาด หรือรูปร่างของเต้านมเปลี่ยนไป
2. ผิวเต้านมมีรอยแดง, ผื่นแดงร้อนบวมหนาคล้ายเปลือกส้ม, แผลเปิดที่รักษาไม่หายที่เต้านม, แผลหรือผื่นรอบหัวนมที่รักษาไม่หายขาด
3. คลำพบก้อนผิดปกติที่เต้านมหรือบริเวณรักแร้
4. มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น มีรอยบุ๋มลงไปคล้ายลักยิ้ม
5. หัวนมบุ๋ม
6. มีของเหลวไหลออกจากหัวนม เช่น น้ำเลือดหรือน้ำเหลือง
7. ปวดเต้านมที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน
อาการปวดเต้านม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนความผิดปกติ แต่อย่าเข้าใจผิดระหว่าง ปวดเพราะประจำเดือน กับปวดเพราะมะเร็ง มันต่างกัน!ถ้าปวดเพราะเป็นประจำเดือน มันจะต้องมีอาการปวดที่สัมพันธ์กับประจำเดือนค่ะ ซื้อผู้หญิงทุกคนรู้กันดี ในช่วงที่เราเริ่มมีประจับเดือน อาการปวดเต้านมจะเป็นอาจปวดทั่วๆ ข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และอาจมีปวดร้าวมาที่รักแร้ได้ แต่ถ้าเป็นอาการปวดที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน มันจะรู้สึกปวดตลอดเวลา หรือมีตำแหน่งที่ปวดเป็นพิเศษซึ่งสาเหตุอาจจะเกิดจากความผิดปกติของเต้านมเอง หรือความผิดปกติจากสาเหตุภายนอกเต้านมทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าพบว่าอาการปวดที่เป็น ไม่เกี่ยวโยงกับการมีประจำเดือน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยเลยตามเลยนะจ๊ะ
วิธีการรักษามะเร็งเต้านม
วิธีรักษามะเร็งเต้านมที่ได้ผลดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับ มีอยู่ทั้งหมด 5 วิธี1. การรักษาโดยการผ่าตัด2. การรักษาโดยการฉายแสง3. การรักษาโดยยาต้านฮอร์โมน4. การรักษาโดยยาเคมีบำบัด5. การรักษาโดยยาที่มีการออกฤทธิ์จำเพาะซึ่งมะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก ส่วนใหญ่แล้วจะรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นอันดับแรกเลยค่ะ และจะตามด้วยการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อเสริมให้ผลการรักษาดีขึ้นนั่นเอง
การป้องกันมะเร็งเต้านม
นอกจากการตรวจมะเร็งเต้านม ทั้งแบบตรวจด้วยตัวเองและตรวจแมมโมแกรมทุกปีแล้ว วิธีการป้องกันมะเร็งเต้านม ยังมีอีกหลายวิธี เช่น
1. การควบคุมน้ำหนัก
: ว่ากันว่าน้ำหนักตัวมีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมด้วย เพราะฉะนั้นเราควรควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์ ยิ่งถ้าเพื่อนๆ อยู่ในวัยที่หมดประจำเดือนแล้ว ยิ่งต้องระวังให้มากๆ ควรคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เน้นกินโปรตีนที่ดีและลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตนะจ๊ะ
2. เลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์
: อย่างที่เขาว่ากันไง กินอะไร ก็ได้อย่างนั้น ถ้าอยากมีสุขภาพที่ดี ก็ต้องเลือกกินแต่ของดีๆ อาหารจากพืชธรรมชาติ ธัญพืชไม่ขัดสี รวมถึงเนื้อปลา ว่ากันว่ามีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมได้ โดยสัดส่วนที่แนะนำให้ทานคือ กินผักผลไม้ 2 ใน 3 จากอาหารมื้อหลัก และกินเนื้อสัตว์เพียง 1 ใน 3 จากอาหารมื้อหลัก เพื่อให้อยู่ในระดับการกินอาหารที่พอดี ทั้งนี้ยังมีการแนะนำให้ดื่มชาเขียวหรือชาดำด้วย เพราะชาเหล่านี้มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์ร้ายในร่างกายได้นั่นเอง
3. ออกกำลังกาย
: แน่นอนว่า ประโยชน์ของการออกกำลังกายนั้นมีเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเราอายุเริ่มมากขึ้นแล้ว ควรออกกำลังกายบ่อยๆ นะ การออกกำลังกายดีต่อสุขภาพและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลงได้ แต่ก็อย่าออกแบบหักโหมจนเกินไป แค่ออกให้สม่ำเสมอก็พอแล้ว
4. อยู่ให้ห่างไกลสารพิษ
: สารพิษบางอย่าง เราหลีกเลี่ยงได้ แต่มันก็จะมีบางอย่าง ที่เราไม่รู้ และเผลอกินหรือเข้าใกล้มัน ซึ่งสารพิษเหล่านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสารพิษจากผักผลไม้ที่ผ่านยาฆ่าแมลง หรือสารพิษจากบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอแนะนำให้ถอยห่างค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้ มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้ เพราะงั้นเลี่ยงได้จะดีที่สุด
5. ทานวิตามิน
: พออายุเราเพิ่มขึ้นทุกวันๆ วิตามินบำรุงร่างกาย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ นะ มันต้องหาทานเสริมสักหน่อย อาหารเสริมที่ดีต่อสุขภาพเต้านมของผู้หญิงมีชื่อว่า Calcium D – Glucarate นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ยังช่วยให้ตับขับฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่ว่าปริมาณที่รับประทานควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น นอกจากนี้วิตามินดี วิตามินซี วิตามินรวม ก็สามารถทานเสริมได้นะ แต่ก็ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เช่นกันค่ะ
เรื่องของมะเร็งเต้านม เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราไม่ควรจะเลยตามเลย รู้เร็วดีที่สุดค่ะ จะได้รีบทำการรัษา ง่ายๆ คือลองสังเกตตัวเองดู จากวิธีการที่เราหยิบมาแนะนำในวันนี้ ถ้าพบว่ามีความผิดปกติ ให้รีบไปพบคุณหมอด่วนเลย จะได้รักษาได้ทันในระยะแรก อย่าปล่อยเอาไว้ ไม่งั้นมันอาจจะเสี่ยงลามไปเป็นมะเร็งอื่นๆ ได้นะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย
Cr. มะเร็งเต้านม
https://www.vejthani.com/th/campaign-page/breast_cancer/?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_campaign=breast_cancer&gclid=Cj0KCQiArsefBhCbARIsAP98hXSTdIdUxg3fsWTZ7vbLN0KLk_lRPRwuyLNYZee4YSLCVxIJe3YkLgkaAtnNEALw_wcB
Cr. 6 ไลฟ์สไตล์ลดเสี่ยงห่างไกลมะเร็งเต้านม
https://www.wattanosothcancerhospital.com/all-about-cancer/6-lifestyles-to-reduce-the-risk-of-breast-cancer
Cr. รู้จักมะเร็งเต้านม
https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/breast-cancer/
Cr. รู้ลึก วิธีการรักษามะเร็งเต้านม
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/breast-cancer-treatment