1. SistaCafe
  2. ยาคุมกำเนิด กินอย่างไรให้ถูกวิธี ?

ในขณะที่โลกพัฒนาไปไกลจนเข้าสู่ปี 2025 แล้วแต่ปัญหาการกินยาคุมไม่ถูก ไม่รู้วิธีกิน กินยาคุมผิดก็ยังมีอยู่ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าสาวไทยนั้นมีความรู้เรื่องของเพศ และ การคุมกำเนิดค่อนข้างน้อย สาเหตุหนึ่งนั้นมาจากทัศนคติที่หยั่งรากลึกภายใต้ต้นไม้ที่ชื่อว่า ' ค่านิยมของสังคมไทย ' แผ่กิ่งก้านออกไปปกคลุมเหนือหัวเหล่าเยาวชน จนเกิดความเชื่อว่าการมี Sex เป็นเรื่องผิดมหันต์ ขัดต่อจารีตประเพณีอันดีงาม จะดีกว่าหรือเปล่าถ้าเราเปลี่ยนคำสอนที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากการสั่งสอนให้รักนวลสงวนตัวให้เป็นรักตัวเองด้วยการป้องกันและดูแลตัวเองเพราะเรื่อง Sex เป็นเรื่องที่ควรเปิดเผย พูดถึงได้ การทำความเข้าใจและหาหนทางป้องกันรับมือต่างหากที่ควรยึดถือเป็นสิ่งสำคัญ

- - - - - - - - - - - - - - -

จริง ๆ แล้วยาเม็ดคุมกำเนิดไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องของการคุมกำเนิด แต่ยังสามารถช่วยในเรื่องอื่นทางการแพทย์ด้วย แต่วันนี้ซิสขอเน้นย้ำในเรื่องคุณประโยชน์หลักของยาชนิดนี้ก่อนนั้นคือการเป็น " ยาเม็ดคุมกำเนิด" เพื่อให้ชาวซิสทุกคนเข้าใจว่า “ การกินยาเม็ดคุมกำเนิด ” มีกลไกการทำงานอย่างไร มีกี่ประเภท ต้องกินยังไง ? หากลืมกินต้องทำยังไง ? และคนเราแพ้หรือเมายาคุมได้จริงหรือเปล่า ? มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันทีละสเต็ปกันเลย

- - - - - - - - - - - - - - -

กลไกออกฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิด



➊ ป้องกันไม่ให้ไข่สุกและระงับการตกไข่

สกัดกั้นอสุจิไม่ให้เข้ามดลูก โดยทำให้ปากมดลูกปิด และทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียวขึ้น

ขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว โดยทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เจริญหรือฝ่อตัว และทำให้ไข่ที่ผสมแล้วเดินทางเร็วกว่าปกติ


♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊

ชนิดยาเม็ดคุมกำเนิด

วิธีการคุมกำเนิดสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดจะเป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบชั่วคราว และยาคุมกำเนิด ไม่สามารถคุมกำเนิดได้แบบ 100 % แบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน

ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว จะมีส่วนประกอบของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ( progesterone ) เพียงอย่างเดียว

ชนิดฮอร์โมนรวม ในแต่ละเม็ดมีฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจน ( estrogens ) ผสมกับฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสติน ( progestins )

- - - - - - - - - - - - - - -

ยาเม็ดคุมกำเนิดกินยังไง ?

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับยาคุมชนิดต่าง ๆ สิ่งที่เราควรจะรู้ก่อนจะกินยาเม็ดคุมกำเนิดเลยก็คือวิธีการกินที่ถูกต้องซึ่งโดยปกติแล้วการกินยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นให้กินในวันแรกของการมีประจำเดือนหรือภายใน 5 วันแรกของการเป็นประจำเดือนและการกินยาเม็ดคุมกำเนิด ควรจะต้องกินเวลาเดิมทุกวัน เพื่อให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายของเรามีกราฟที่เท่ากันในทุก ๆ วัน และเพื่อกันลืม เพราะถ้าลืมกินยาจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลงได้ ดังนั้นต้องเคร่งครัดกันด้วยนะ



โดยปกติแล้วยาเม็ดคุมกำเนิดที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ จะมีจำนวนเม็ดในแผงยาแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีแผงละ 21 หรือ 28 เม็ดค่ะ มาดูความแตกต่างและวิธีกินของแต่ละแบบไปพร้อม ๆ กันเลย

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงละ 21 เม็ดยาคุมชนิดนี้ทุกเม็ดจะมีตัวยาทั้งหมด ( ไม่มีเม็ดแป้ง ) ให้กินยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วต้องหยุด 7 วันก่อนที่จะเริ่มกินแผงใหม่นะ ซึ่งในช่วงระหว่างที่เราหยุดยาก็จะเริ่มมีประจำเดือน

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงละ 28 เม็ด ( 21+7 ) ยาคุมชนิดนี้จะเหมาะกับคนที่มักหลงลืม กลัวพลาดนับวันนั่นเองค่ะ เพราะเค้าจะมีตัวยาฮอร์โมนจำนวน 21 เม็ดและไม่มีตัวยาหรือที่เรียกว่า " เม็ดแป้ง " อีก 7 เม็ดไว้ให้เรากินก่อนจะเริ่มแผงถัดไป ยาคุมชนิดนี้ให้กินยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไปได้เลยโดยไม่ต้องพักช่วงที่กินเม็ดแป้งไปประมาณ 1-3 เม็ดจะเริ่มมีประจำเดือนมา

โดยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงละ 21 เม็ด หรือแผงละ 28 เม็ด บางยี่ห้อ หรือบางสูตรนอกจากคุมกำเนิดได้แล้วมีข้อบ่งใช้ เช่น ใช้รักษาอาการซึ่งเกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติในสตรีเช่น สิว , การมีขนเจริญมากกว่าปกติ เป็นต้น

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ( 24+4 ) ชนิดนี้ถึงแม้นับรวมแล้วจะ 28 เม็ดเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างเล็กน้อยตรงที่มีตัวยาฮอร์โมนจำนวน 24 เม็ดและมีเม็ดแป้งอีก 4 เม็ดค่ะ โดยการเพิ่มจำนวนวันที่ได้รับยาจาก 21 เม็ด เป็น 24 เม็ดจะเป็นการเพิ่มระยะเวลาของการได้รับฮอร์โมนอีก 3 วัน ข้อดีคือทำให้ระดับของฮอร์โมนในร่างกายมีระดับต่อเนื่อง 28 วันจนกระทั่งเริ่มกินแผงใหม่ โดยส่วนใหญ่ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 24+4 จะมีข้อบ่งใช้ก็คือใช้รักษาอาการปวดประจำเดือน และอาการอารมณ์ผิดปกติก่อนมีรอบเดือน ใช้รักษาสิวที่มีอาการปานกลางและยังอาจได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น คือ ไม่ทำให้เกิดการบวม อ้วน หรือน้ำหนักเพิ่มที่เกิดเนื่องจากการคั่งของน้ำในร่างกาย วิธีกินก็คล้ายกับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงละ 28 เม็ดเลย คือให้กินยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ดกินจนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไปได้เลยโดยไม่ต้องพัก

วิธีการกินแบบ 24+4 เพิ่มเติม ถ้าเดิมกินแบบ 21 เม็ดอยู่ก็ให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดแผงเก่าให้หมดก่อน พอหมดแล้วสามารถขึ้นแผงใหม่แบบ 24 + 4 กินต่อเนื่องได้เลย ถ้าเดิมกินแบบ 28 เม็ด ( แบบ 21+7 ) เมื่อกินหมดถึงเม็ดที่เป็นตัวยาก็ให้เปลี่ยนเป็นแบบ 24 + 4 ได้เลยโดยไม่ต้องกินเม็ดแป้งที่เหลือ


♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊

ลืมกินยาคุม ควรทำยังไง ?

หากลืมทานยา 1 เม็ดช้ากว่ากำหนดไม่เกิน 12 ชั่วโมง ให้รีบทานยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แล้วทานเม็ดต่อไปในเวลาเดิม ในกรณีนี้ไม่ต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นเสริม

หากลืมทานยา 1 เม็ดช้ากว่ากำหนดเกิน 12 ชั่วโมง ให้ทานทันทีที่นึกขึ้นได้ หรือถ้านึกขึ้นได้ในวันถัดมา ให้ทานเพิ่มเป็น 2 เม็ด คือทานเม็ดที่ลืมไปด้วย ในกรณีนี้ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่น เช่น ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เป็นเวลา 7 วันนับตั้งแต่วันที่ลืมทานยา

หากลืมทานยา 2 เม็ด ให้ทานวันละ 2 เม็ด ใน 2 วันถัดไป แล้วให้ทานยาต่อไปตามเวลาเดิมจนหมดแผง และใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่น เช่น ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ลืมทานยา

หากลืมทานยามากกว่า 2 เม็ดติดต่อกัน ควรหยุดยาแล้วรอให้รอบเดือนมา แล้วค่อยเริ่มต้นทานยาแผงใหม่ โดยเริ่มทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีรอบเดือน และยังต้องป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัยใน 7 วันถัดไป

หากลืมทานเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมน (ยาหลอกหรือเม็ดแป้ง) เม็ดใดเม็ดหนึ่ง ให้ทิ้งเม็ดสีขาวที่ลืมทานไปเลย จะได้ไม่สับสน จากนั้นก็ให้ทานยาเม็ดต่อไปตามปกติได้

♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊

ยาคุมฉุกเฉินกินยังไง ?

ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 21 และ 28 เม็ดที่เราพูดถึงไปนั้นเค้าจะจัดเป็นยาคุมกำเนิดประเภทแบบแผงที่ต้องกินเป็นรายเดือนเพื่อคุมกำเนิด นอกจากนั้นแล้วก็ยังมียาคุมอีกประเภท นั่นก็คือยาคุมฉุกเฉินที่เดาว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยิน แต่ยังไม่รู้ว่าใช้ตอนไหน ใช้ในสถานการณ์อะไร ไม่รู้ไม่เป็นไรเดี๋ยวซิสจะเล่าให้ฟัง ไปต่อกันเล้ย~



หลายคนอาจจะยังสับสนว่ายาคุมฉุกเฉินนั้นต่างจากยาคุมแบบอื่นยังไง? อย่างแรกเลยคือยาคุมฉุกเฉินจะมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่ายาคุมแบบธรรมดา ก็คือมีฮอร์โมน progesterone เดี่ยวขนาดสูง และจากที่เราเห็นคำว่า " ฉุกเฉิน " ซึ่งนั่นก็หมายความตามชื่อตรงตัวเลยว่าควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ตัวอย่างกรณีฉุกเฉินเช่น ใช้ในกรณีถูกข่มขืน หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกัน ซึ่งหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ

แบบ 1 เม็ด มีขนาดฮอร์โมนเท่า 2 เม็ดแต่กินครั้งเดียวจบ โดย กินทันทีหรือไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์

แบบ 2 เม็ด ขนาดฮอร์โมนจะถูกแบ่งครึ่งไว้ใน 2 เม็ด เม็ดแรกให้กินทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง ส่วนเม็ดที่ 2 ให้กินหลังจากนั้น 12 ชั่วโมง

มีอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนยังคงเข้าใจผิดคือ เราไม่สามารถกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ได้อย่างยาคุมแบบธรรมดานะคะ เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงกับรังไข่ในระยะยาวได้ ดังนั้นจึง ไม่แนะนำให้กินยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 กล่อง หรือ 4 เม็ดต่อเดือน

♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊

อาการเมายาคุม มีจริงมั้ย ?


อาการเมายาคุม ในทางการแพทย์นั้นจริง ๆ แล้ว คือ อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดที่ไม่เหมาะกับร่างกายของเรา ซึ่งอาจทำให้มีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ และมวนท้อง เป็นต้น เมื่อคนที่รับยาคุมเข้าสู่ร่างกาย มีอาการดังกล่าวจึงอาจทำให้เกิดภาวะเบลอจากอาการวิงเวียนได้ เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนสาว ๆ หรือเพื่อน LGBTQ+ ชอบแซวกันว่าเมายาคุมนั้นเอง


♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊


ผลข้างเคียงจากการกินยาคุม



ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจาก ยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา คือ อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง ฝ้า เลือดออกกะปริบกะปรอย

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจาก ยาคุมฉุกเฉิน คือ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เจ็บคัดเต้านม ปวดท้อง มีเลือดออกกะปริบกะปรอย ประจำเดือนมาช้าหรือเร็วกว่าปกติ

ส่วนการกินยาคุมฉุกเฉินในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากใช้ยานี้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ดังนั้นจึง ไม่ควรใช้ยานี้เกิน 2 กล่องหรือ 4 เม็ดต่อเดือน

หากสาว ๆ มีอาการจากผลข้างเคียงจากยาเม็ดคุมกำเนิดข้างต้นอย่างรุนแรง ควรหยุดยาทันทีแล้วรีบปรึกษาเภสัชกร หรือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการปรับยานะคะ


♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊♡˚✧₊


สรุปสุดท้ายที่ซิสอยากฝากทุกคนไว้คือ การกินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ชั่วคราว และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างการสวมถุงยาง และควรได้รับคำแนะนำจากเภสัชกร หรือ แพทย์ก่อนจะเลือกซื้อมากินนะคะ เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดแต่ละชนิดแต่ละยี่ห้อเค้าก็จะมีรายละเอียดต่างกัน เช่น เรื่องของปริมาณฮอร์โมน สาว ๆ ควรได้รับคำแนะนำจากเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนนะคะ เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เลยนะ สงสัยอะไรให้ถามไปเลย เอาให้เคลียร์เลยค่ะ ไม่ต้องเขินอายนะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติจ้า เพราะการซื้อยาคุมเป็นเรื่องปกติและการที่เรารู้จักป้องกันตัวเองถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ ด้วยน๊าา

- - - - - - - - - - - - - - -

ขอบคุณข้อมูลความรู้จากไบโอฟาร์ม เพื่อนคู่สุขภาพ



บทความแนะนำ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้