สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะหลังจากที่ไม่ได้รีวิวสกินแคร์ไปนานเพราะมัวแต่ติดรีวิวเมคอัพอยู่ วันนี้มุกก็กลับมารีวิวสกินแคร์อีกครั้งแล้วว เย้ช่วงนี้นะคะเป็นช่วง Work From Home

ทำให้มุกมีโอกาสได้ลองใช้ผลิตใหม่ๆ มากมายมีทั้งที่ใช้แล้วถูกใจและไม่ถูกใจ

วันนี้มุกก็เลยมานำเสนอ1ในผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ที่มุกถูกใจนั่นเองค่ะ


งั้นก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักแบรนด์กันก่อนเลยดีกว่า

รูปภาพ:

Aesop (เอสอป) ก่อตั้ง ณ เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. 1987 ด้วยความตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงสุด มีทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเส้นผมตลอดจนผลิตภัณฑ์ปรับอากาศที่ใช้ๆ กันภายในบ้าน



Aesop (เอสอป) ก่อตั้ง ณ เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. 1987 ด้วยความตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงสุด มีทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเส้นผมตลอดจนผลิตภัณฑ์ปรับอากาศที่ใช้ๆกันภายในบ้าน

อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะมีเพื่อนๆที่ทั้งเคยได้ยินและไม่เคยได้ยินชื่อเหมือนกัน

แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะตอนแรกมุกยอมรับเลยว่าไม่เคยได้ยินผลิตภัณฑ์ตัวนี้เหมือนกัน55555 ( แอบขำตัวนี้นิดๆ ) พอได้ลองเซิร์ชหาข้อมูลก็งงตัวเองเหมือนกันเพราะคนรีวิวเยอะมากกกกก ทั้งช่องโมเมพาเพลินซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่สาวๆ ว่าถ้าไม่ดีจริงไม่มาอยู่ในช่องนี้นะจ้ะ แถมยังมี Beauty Blogger ท่านอื่นอีกมากมายที่มารีวิว เพื่อนๆ สามารถไปเซิร์ชหาอ่านกันได้ แต่เดี๋ยวมุกขออนุญาตแปะคลิปไว้ข้างล่างน้า

อย่างที่บอกไปว่าผลิตภัณฑ์ของเค้าเนี่ย ครอบคลุมมากๆ วันนี้มุกเลยยกมาให้ดูแค่2ตัวก็คือ

รูปภาพ:

B&C Facial Balancing Gel และ

รูปภาพ:

Sublime Replenishing Night Masque

รูปภาพ:

B&C Facial Balancing Gel มอยส์เจอไรเซอร์น้ำผึ้งที่ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ

ที่ต้องเรียกแบบนี้นะคะเพราะเนื้อสัมผัสเค้าเป็นเหมือนน้ำผึ้งนั่นเองค่ะฟังแบบนี้ทุกคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเวลาใช้จะเป็นยังไงเจ้าเจลตัวนี้ถึงเนื้อสัมผัสจะเหมือนน้ำผึ้งแต่เวลาทา เนื้อเจลจะแตกเป็นEssenceเพราะการที่เนื้อเจลเป็นแบบนี้

จะทำให้สามารถเก็บวิตามิน B ใน C ได้มากกว่าเนื้อเจลแบบอื่นๆ

รูปภาพ:

ส่วนประกอบที่เด่นๆ ของเค้านะคะ คือพวกวิตามินไม่ว่าจะเป็น

Vitamin C หรือ Vitamin B5 และซึ่งสิ่งที่ทำให้เค้าเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ

คือAesopเป็นเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั่นที่เลือกใช้ Magnesium Ascorbyl Phosphate

แล้ว Ascorbyl Phosphateดียังไง? ดีเพราะเป็นวิตามินที่ไม่เสื่อมสภาพง่ายนั่นเองและที่เพิ่มเข้ามาคือนอกจะเค้าจะช่วยในเรื่องผิวกระจ่างใสแล้วยังช่วยเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระอีก

นั่นเป็นเพราะว่าทางแบรนด์ได้ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของสินค้ามากๆ



รูปภาพ:

วิธีใช้ทาเจลให้ทั่วใบหน้า ลำคอและนวดจนเนื้อเจลกลายเป็น essence ใช้ทาเป็นลำดับสุดท้ายหลังจากทา Face oil หรือ Serum

และต่อไปเราจะมารีวิว

Sublime Replenishing Night Masque กัน

รูปภาพ:

ตัวนี้เป็นครีมที่มุกใช้ตอนกลางคืนอีกตัว ซึ่งอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะแบรนด์ไหน ถ้าเราได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้าร่วมกันไม่ว่า 2 หรือ 3 ตัว แน่นอนว่าประสิทธิภาพมันก็ต้องเพิ่มขึ้นมากกว่าทาตัวเดียวอยู่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมุกถึงใช้ 2 ตัวนี้ร่วมกัน แล้วผลมันก็ดีจริงๆ



รูปภาพ:

เนื้อเจลครีมสีขาวครีมๆ ทาแล้วเบาสบายไม่หนักหน้า



เมื่อทาลงบนหน้า เนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นฟิล์มบางๆ ประกอบด้วย Vitamin C และ Vitamin B3 ช่วยในเรื่องของรอยสิว



วิธีใช้

เกลี่ยพอกบางๆ อย่างน้อย 15 นาที หรือข้ามคืน

ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้เนื้อครีมสามารถป้องกันผิวได้ตลอดทั้งคืน

รูปภาพ:

ความรู้สึกหลังใช้

สำหรับมุกทั้ง2ตัวเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้คือตื่นมารู้สึกว่าหน้าไม่แห้งเลยแม้จะนอนในห้องแอร์ก็ตามในเรื่องของกลิ่นก็รู้สึกได้เลยว่าแบรนด์เค้าไม่ใส่น้ำหอมแน่ๆ ไม่ใช่เพราะกลิ่นมันเหม็นนะคะ555555

แต่กลิ่นออกแนวเหมือนยานิดนึงซึ่งมุกก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเค้าดีเหมือน

แพ็กเกจ

ตัวแพ็กเกจเป็นแก้ว ฝาเป็นพลาสติกดาน มองรวมๆ มีความมินิมอล สื่อถึงความเรียบง่าย

ราคาและจุดจำหน่าย

B&C Facial Balancing Gel ราคา 4xxx-

Sublime Replenishing Night Masque ราคา 4xxx-

ใครที่สนใจก็สามารถซื้อได้ทางออนไลน์

หรือจะ walk in เข้าไปที่ร้านค้าก็ได้นะคะ

Aesop ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้ ใครที่ยังไม่สนใจตัวนี้ก็ลองดูอันอื่นกันได้นะคะ

รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

ใครเคยใช้แล้วก็สามารถคอมเมนต์แบ่งปันความคิดเห็นกันได้นะคะ

ส่วนวันนี้สวัสดีค่ะ