ในยุคที่ต้องอยู่บ้านเบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ สายรีวิวอย่างเราก็อยู่นิ่ง ไม่ได้ ต้องหาอะไรทำไปเรื่อย ล่าสุดไถฟีดไอจีก็เห็นเทรนด์เปลี่ยนสีผมมาแรงมากเลื่อนกี่โพสต์ กี่โพสต์ ก็มีแต่คนทำสีผมสวย ๆ ไปหมดเลย !!!แล้วเราจะเอาต์เทรนด์ได้อย่างไร ก็ต้องหาทำสีผมสวย ๆ กับเค้าบ้าง !!! แต่จะไปร้านทำผมก็ไม่ได้ เพราะไม่มีร้านไหนเปิดเลยจ้า ก็ต้องหาทำเองไปเลย แต่ปัญหาก็เกิดอีกจนได้!!! ได้สีโดนใจแล้วคือสีโทน Ash หม่น ๆแต่ไม่รู้จะเลือกแบรนด์ไหนดี ก็เลยปิ๊งไอเดียอยากมารีวิวเทียบให้ดูกันแบบชัด ๆ กับ 3 แบรนด์ดังยอดฮิตแต่ละแบรนด์ผลจะออกมาอย่างไรบ้าง ต้องตามไปดูผลกันค่ะ✐ ✐ ✐
สำหรับ 3 แบรนด์ย้อมสีผมสุดฮอตที่เราจะมาแนะนำสาว ๆ ในวันนี้ได้แก่
- Liese Bubble Color MINT ASH ( สีน้ำตาลหม่นเหลือบเทา )สำหรับตัวนี้เป็นโฟมเปลี่ยนสีผมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ความพิเศษของเค้าคือ เคลมว่าทำง่าย ตัวโฟมเปลี่ยนสีผมหนานุ่มให้สีผมสวยเปล่งประกายเด่นชัด ติดทนนาน มาพร้อม Royal Jelly และ Hydrolyzed Silk ช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื้น มั่นใจไม่กลัวเสีย❥❥❥
ราคากล่องละ 350 บาท
- Schwarzkopf Freshlight Milky Color MIRROR ASH ( สีน้ำตาลเทาสว่าง )
ครีมเปลี่ยนสีผมตัวฮิตอีกแบรนด์ เอกลักษณ์ที่ทุกคนรู้จักกันคือ หน้ากล่องเป็นน้องบลายธ์สไตล์ฮาราจูกุนั่นเองค่า ตัวนี้เค้าเคลมว่า เป็นเนื้อครีมเปลี่ยนสีผมที่เหมาะกับชาวเอเชียโดยเฉพาะ เม็ดสีแน่น ไม่เฟดง่าย สูตรดับเบิ้ลออยล์ ช่วยบำรุงให้เส้นผมนุ่มลื่นและมีประกายเงางาม
❥❥❥
ราคา กล่องละ 299 บาท
- Mise En Scene Hello Bubble Foam Color #DUSTY ASH ( สีน้ำตาลอมเทา )โฟมเปลี่ยนสีผมจากเกาหลีที่กำลังฮิต ด้วยหน้ากล่องเป็นสาวๆ Blackpink นั่นเอง ตัวนี้มาด้วยคุณสมบัติฟองโฟมหนานุ่ม พร้อมบำรุงล้ำลึกด้วยสารสกัดจากลาเวนเดอร์ มาดอนน่า ลิลลี่และคาโมมายล์ ให้สีสันสดใส ผมนุ่มลื่นและชุ่มชื้น ตัวนี้เค้าจะเน้นเรื่องไม่ทำให้ผมเสียจ้า❥❥❥
ราคากล่องละ 399 บาท
OPEN BOX
มาแกะกล่องLiese Bubble Colorกันก่อนค่ะ โดยในกล่องของเขาให้ อุปกรณ์มาทั้งหมด 7 อย่างคือ
1. ดีเวลลอปเปอร์
2. ฝาปั๊ม
3. คัลเลอร์โซลูชั่น
4. แผ่นพับวิธีใช้
5. ถุงมือ
6. แฮร์ทรีตเมนต์
7. แผ่นทดสอบการแพ้ความแตกต่างจากแบรนด์อื่นก็คือ มีแผ่นทดสอบการแพ้ ให้เราได้ลองดูก่อนว่าเราจะแพ้ผลิตภัณฑ์รึเปล่าค่ะ
มาแกะกล่องLiese Bubble Color MINT ASHกันบ้างจ้า ซึ่งอุปกรณ์ที่เขาให้มา มีทั้งหมด 6 อย่างคือ
1. ดีเวลลอปเปอร์2. ฝาหวีดีเวลลอปเปอร์3. ครีมเปลี่ยนสีผม4. แผ่นพับวิธีใช้5. ถุงมือ6. แฮร์มาสก์ถือว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการย้อมผม แต่ที่ต่างจากตัวอื่นคือฝาหวี เพราะตัวนี้จะเป็นครีมเปลี่ยนสีผม ซึ่งหวีจะช่วยให้การย้อมผมง่ายขึ้น พอ ๆ กับตัวโฟมเลยละค่ะ นอกจากนี้ยังมีแฮร์มาสก์ที่ช่วยปิดเกล็ดผม ล็อกสีผมให้ติดทนขึ้น พร้อมช่วยบำรุงผมให้นุ่ม ดูมีน้ำหนักอีกด้วย
มาที่กล่องของMise En Scene Hello Bubble Foam Colorกันบ้าง สำหรับกล่องนี้เขาให้อุปกรณ์มาแบบแน่น ๆ เลยจ้า ได้แก่
1. ดีเวลลอปเปอร์
2. ฝาปั๊ม
3. ครีมเปลี่ยนสีผม
4. แผ่นพับวิธีใช้
5. ถุงมือ
6. แฮร์ทรีตเมนต์
7.แผ่นคลุมกันเปื้อน8.ออยล์ปรับสภาพผม
ก็คือแน่น ๆ จุก เพิ่มความสะดวกสบายมาก ๆ ทั้งออยล์ปรับสภาพผมที่เพิ่มมา และผ้าคลุมกันเปื้อนขนาดกระทัดรัด
Texture : เนื้อผลิตภัณฑ์ / กลิ่น
- สำหรับ เนื้อโฟมเปลี่ยนสีผมของLiese Bubble Color MINT ASH ( สีน้ำตาลหม่นเหลือบเทา )ผสมมาแล้วจะเป็นฟองนุ่มสีโทนเหลือง กลิ่นไม่ค่อยแรงเลยมีความหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนเวลาลงสีผม
- ส่วนเจ้าตัวSchwarzkopf Freshlight Milky Color MIRROR ASH ( สีน้ำตาลเทาสว่าง )ครีมเปลี่ยนสีผมที่ผสมออกมาแล้วจะเป็นครีมชมพู มีกลิ่นหอมเหมือนเข้าซาลอน ซึ่งในบรรดาทั้ง 3 ตัวเจ้าตัวนี้เป็นเนื้อครีม กลิ่นเลยชัดสุดค่ะ แต่ถามว่าแรงมั้ย ไม่นะคะ หอมแบบโอเค ไม่ฉุน
- สุดท้ายคือMise En Scene Hello Bubble Foam Color #DUSTY ASH( สีน้ำตาลอมเทา )เนื้อโฟมเค้าจะเป็นฟองโฟมหนานุ่ม ผสมแล้วจะได้โฟมสีน้ำเงิน ตัวโฟมจะแน่นกว่าแบรนด์ Liese เล็กน้อย มีกลิ่นที่ค่อนข้างหอม เป็นกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ
หลังจากที่เราย้อมปอยผมสีสว่างระดับ 10 ไว้ 20 นาที แต่ละปอยก็เริ่มเปลี่ยนสีที่ชัดเจนมากขึ้น โดยตัวโฟมเปลี่ยนสีผมอย่างLieseBubble ColorและMise En Scene Hello Bubble Foam Colorจะแห้งไวกว่า ทำให้เริ่มเห็นสีที่ชัดเจน ในขณะที่แบบครีมอย่างSchwarzkopf Freshlight Milky Colorยังคงมีความชุ่มชื้นที่ปอยผมอยู่ ทำให้ยังมองไม่เห็นตัวเฉดสีนัก ต้องรอสระดูผลลัพธ์กันอีกทีค่ะ
Color
ท้าดา...และมาที่จุดไคลแมกซ์ของการรีวิวกันแล้วนั่นก็คือสีผมที่ได้ของแต่ละแบรนด์เลยค่ะ✰ ✰ ✰
เริ่มที่Liese Bubble Color MINT ASH ( สีน้ำตาลหม่นเหลือบเทา )
สีที่ได้นั้นจะตรงกับชื่อภาษาอังกฤษเลย คือ mint Ash หรือสีเขม่าควันอมมินต์ จะมีความเป็นสีเทาโดยมีเม็ดสีเขียวแฝง ซึ่งเป็นสีที่น่าสนใจมาก พึงพอใจ พร้อมให้คะแนนอยู่ค้า
ส่วนเจ้าตัวSchwarzkopf Freshlight Milky Color MIRROR ASH ( สีน้ำตาลเทาสว่าง )
สำหรับปอยนี้ ส่วนตัวคิดว่าได้สีออกมาน่าประทับใจเลยค่ะ สีเทาสว่างมีความเป็นเทาเมทัลลิคน่าพอใจมากๆ เป๊ะกับนิยามชื่อภาษาอังกฤษอย่าง Mirror Ash
และที่เซอร์ไพรส์มากก็เจ้าMise En Scene Hello Bubble Foam Color #DUSTY ASH ( สีน้ำตาลอมเทา )
นี่เลยค่ะ เซอร์ไพรส์ตรงที่สีค่อนข้างจัดจ้านมาก สีออกเป็นเม็ดสีน้ำเงินชัดเจน จนจินตนาการไม่ออก เลยว่ามันจะออกมาเป็นสี Ash ได้ยังไง 555 ต้องลองเอามาสระดูกันต่อไปว่าถ้าเฟดแล้วจะดีขึ้นมั้ย
มาดูสีผลหลังจากสระ 4 ครั้งกันบ้างค่ะ ว่าแต่ละสีจะเฟดเยอะขนาดไหน และสีเป็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มที่Liese Bubble Color MINT ASHจากสีเขม่าควันอมมินต์ หลังสระก็เฟดชัดเจนเลย มีความสว่างขึ้น เป็นสีเทาที่แฝงเม็ดสีเหลืองหน่อย ๆ ซึ่งก็โอเคอยู่ค่ะ
ในขณะที่Schwarzkopf Freshlight Milky Color MIRROR ASHเป็นปอยที่เฟดน้อยสุด จากเทาเมทัลลิคเฟดเป็นเทาควันบุหรี่ที่พอดี ๆ สีสวยแบบต้องให้ยืน 1 เลย ปรบมือ
ในส่วนของMise En Scene Hello Bubble Foam Colorก็เป็นไปตามคาด ถึงแม้จะต้องหักคะแนนเรื่องการเฟด ที่เฟดเยอะมาก แต่สีที่เฟดกลับดูสวย มีความเป็นสี Ash ตามที่ควรจะเป็นเลย
นอกจากเรื่องสีที่ได้แล้ว อีกเรื่องที่เราจำเป็นต้องเทียบให้ดูกันแบบตาต่อตา ก็คือสีหน้ากล่องจ้ามาดูกันว่า แต่ละแบรนด์นั้นตรงปกมั้ย และคำตอบก็คือ..." ไม่ตรงกันเลยจ้า " แง่ว...อาจจะเป็นเพราะปอยผมที่เราเอามาย้อมนั้นเป็นสีสว่างระดับ 10 จึงให้สีไม่เหมือนหน้าปกกล่องเพราะว่าแต่ละแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์เอเชีย จึงใช้ผมตัวอย่างที่เป็นโทนของสาวเอเชีย คือมีความเข้มเลย พอย้อมโทน Ash จึงออกมาเป็นสีน้ำตาลเทาแบบหน้ากล่องมากกว่าค่ะ ซึ่งถ้าจะให้คะแนน แบรนด์ที่ใกล้เคียงสีแบบหน้ากล่องได้อยู่ ! ก็คือLiese Bubble Color MINT ASHและSchwarzkopf Freshlight Milky Color MIRROR ASHส่วนMise En Scene Hello Bubble Foam Colorก็ตามผลเลยค่ะ ไปคนละเฉดกันเลยค่ะซิส...
การละลายน้ำ
ในส่วนของการทดสอบการละลายน้ำนั้น
แบรนด์Liese Bubble Colorทำได้ดีเลยค่ะ ไม่ค่อยมีสีน้ำละลายมา เช่นเดียวกับ แบรนด์Schwarzkopf Freshlight Milky Colorในส่วนของMise En Scene Hello Bubble Foam Colorตามหลังมาหน่อยเพราะมีสีละลายน้ำที่สังเกตได้ชัดเลยจ้า
♕ สรุปตารางคะแนน♕
♕ Sis Favourite ♕
และตัวที่มงลงจากการรีวิวเทียบแมตช์นี้ก็คือSchwarzkopf Freshlight Milky Color MIRROR ASHครีมเปลี่ยนสีผม น้องบลายธ์สุดฮิตจากญี่ปุ่น ถือว่าเค้าค่อนข้างโดดเด่นเรื่องสีผมแฟชั่นเลย ได้เม็ดสีชัด สวย ไม่เฟดง่าย ติดทน ไม่ละลายน้ำ และตอบโจทย์ความเป็น Ash สุด ๆ ถึงจะเป็นครีมเปลี่ยนสีผม แต่ก็ใช้ง่าย ไม่แพ้แบบโฟมเลย พร้อมด้วยหัวแปรงหวี ที่สาว ๆ สามารถทำได้ที่บ้านเลยค่ะ ปังมาก♕
♕♕
สาว ๆ คนไหนที่กำลังอยากจะเปลี่ยนสีผมอยู่ล่ะก็ ก็ลองทั้ง 3 แบรนด์ที่เราหยิบมารีวิวได้เลยค่ะ ใครชอบเฉดไหน ถูกจริตกับแบรนด์อะไร ก็ไปตำกันได้แบบรัว ๆ เลยจ้า สำหรับวันนี้รีวิวกันจุก ๆ บนปอยผมไปแล้ว ก็ขอไปย้อมผมตัวเองหนึ่งกรุบนะแล้วเจอกันคอนเทนต์หน้านะคะ บ๊ายบาย