รู้แล้วรีบหยุดด่วน! เช็ก 5 พฤติกรรมที่ทำให้ “ กลิ่นตัวแรง ” พร้อมบอกต่อ “ ตัวช่วยระงับกลิ่นกาย ” ห้ามพลาด 📌

ขอถามหน่อยสิว่ามีปัญหาไหนที่ทำให้เพื่อนๆ ไม่มั่นใจกันบ้างคะ ???เรามั่นใจว่าคำตอบของแต่ละคนคงแตกต่างกันไปแบบไม่ซ้ำ บางคนอาจไม่มั่นใจเรื่องผิวพรรณ บางคนอาจไม่มั่นใจเรื่องหุ่น หรือบางคนอาจไม่มั่นใจเรื่องเส้นผมแต่เราขอบอกเลยว่าหนึ่งในปัญหาสุดฮิตที่ทำลายความมั่นใจของหลายคนอยู่ในตอนนี้ก็คือเรื่องกลิ่นตัวนี่แหละค่ะถึงแม้ว่ากลิ่นตัวจะไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นหรือสังเกตได้ด้วยตา แต่ถ้ากลิ่นตัวแรงมากๆ ก็อาจส่งกลิ่นให้คนรอบข้างรับรู้ได้เหมือนกันนะโดยสาเหตุของกลิ่นตัวเกิดจากสารที่หลั่งออกมาจากต่อมกลิ่น สัมผัสกับแบคทีเรียบนผิวหนัง ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์ขึ้นแล้วเพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าพฤติกรรมบางอย่างที่เราทำ ก็อาจเป็นหนึ่งในตัวการกระตุ้นให้กลิ่นตัวแรงยิ่งขึ้นได้นะคะ วันนี้เราจึงลิสต์มาให้ได้ลองเช็กกัน พร้อมกับหยิบตัวช่วยระงับกลิ่นกายห้ามพลาด !มาฝากกันด้วยว่าแล้วก็ตามไปดูพร้อมกันเลย

⋆⋆⋆⋆⋆⋆⋆

【 เช็ก 5 พฤติกรรมที่ทำให้ “ กลิ่นตัวแรง ” รู้แล้วรีบหยุดด่วน !!! 】

➀ ไม่อาบน้ำติดต่อกันหลายวัน

เริ่มต้นเช็กพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุทำให้กลิ่นตัวแรงข้อแรกกันเลยค่ะ ถ้าใครรู้ตัวว่าเป็นคนที่ไม่ชอบอาบน้ำ ยิ่งวันไหนอากาศเย็นๆ ก็อาจถึงขั้นไม่อาบน้ำติดต่อกันหลายวัน นี่ก็อาจเป็นตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ เพราะการไม่อาบน้ำอาจทำให้มีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียสะสมอยู่บนร่างกายมากขึ้น พอแบคทีเรียเจอกับเหงื่อก็ทำให้กลิ่นตัวแรงทั้งเหม็นทั้งอับจนแทบจะต้องเอามือบีบจมูกไว้เลยทีเดียว ดังนั้น ต่อให้จะรู้สึกขี้เกียจหรืออากาศเย็นแค่ไหน ก็ต้องอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ช่วงเช้า - เย็นเป็นประจำทุกวัน เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก คราบเหงื่อ และแบคทีเรียออกไป ก็จะช่วยช่วยลดปัญหากลิ่นกายได้ค่ะ

หลังจากอาบน้ำเพื่อกำจัดกลิ่นกันไปแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาแวะมาส่อง ตัวช่วยระงับกลิ่นกายกันบ้างแล้วค่ะ โดยผลิตภัณฑ์ที่คนกลิ่นตัวแรงไม่ควรพลาดก็คือDEOKLEAR Mineral Deodorant Stickที่จะช่วยปกป้องกลิ่นกายได้ตลอดทั้งวัน แถมยังอ่อนโยนต่อผิวใต้วงแขนสุดๆเพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากสารส้มธรรมชาติ ช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรียที่เป็นตัวการทำให้เกิดกลิ่นและระงับกลิ่นใต้วงแขนไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ อย่างแอลกอฮอล์ / พาราเบน / สารกันบูด / สีสังเคราะห์ คนผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้อย่างสบายใจ แล้วยังปราศจากอลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต ไม่ทิ้งคราบบนผิวหรือคราบเหลืองบนเสื้อผ้าด้วย

โดยDEOKLEAR Mineral Deodorant Stickมีให้เลือกใช้หลากหลายสูตร ที่ช่วยปกป้องกลิ่นกายอย่างมีประสิทธิภาพและฟื้นบำรุงผิวใต้วงแขน ด้วยคุณค่าจากสารสกัดที่แตกต่างกันไป เช่น สารสกัดจากว่านหางจระเข้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น / สารสกัดจากมะละกอช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส / สารสกัดจากกาแฟช่วยเพิ่มพลังความสดชื่น / สารสกัดจากมัลเบอร์รีช่วยให้ผิวเรียบเนียน เป็นต้นแต่สูตรเด็ดที่อยากแนะนำให้ลองใช้กันก็คือสูตร Classic Pureที่มีความแตกต่างจากสูตรอื่นๆ ตรงที่ไม่มีน้ำหอม หยิบไปใช้ได้ทุกวันแบบไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะตีกับกลิ่นน้ำหอมที่ใช้อยู่เลย

แล้ววิธีใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายตัวนี้ก็ง่ายและสะดวกมากๆ แค่วางDEOKLEARไว้ในห้องน้ำ หลังจากที่อาบน้ำและเช็ดตัวเสร็จแล้ว ก็ให้นำแท่งสารส้มไปผ่านน้ำแล้วถูวนบริเวณผิวใต้วงแขน เท่านี้ก็ช่วยปกป้องกลิ่นกายได้อย่างแห้งสบาย รู้สึกเหมือนไม่ได้ทาเลยค่ะ

➁ ชอบกินอาหารรสจัด / อาหารกลิ่นฉุน

ขอให้ชาวซิสท่องไว้เลยว่า#เรื่องกิน เรื่องใหญ่เพราะอาหารทุกชนิดที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อ ไม่ได้แค่ช่วยเติมพลังให้รู้สึกอิ่มท้องเท่านั้น แต่ส่งผลต่อร่างกายของเราด้วยค่ะ อย่างคนที่ชอบกินอาหารรสจัดหรืออาหารที่มีกลิ่นฉุน ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กลิ่นตัวแรงได้เหมือนกันนะเพราะอาหารรสจัด อาหารกลิ่นฉุน รวมทั้งเครื่องเทศต่างๆ พอกินเข้าไปมากๆ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากขึ้น แถมกลิ่นอาหารเหล่านั้นก็จะซึมออกมาทางรูขุมขนจนทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัวที่แรงไม่แพ้กลิ่นอาหารฉุนๆ เลยค่ะ

➂ ปล่อยให้เกิดความเครียดสะสม

นอกจากความเครียดจะเป็นภัยเงียบที่คอยทำลายสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต และสุขภาพผิวแล้วเนี่ย ก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้กลิ่นตัวแรงได้ด้วยนะคะ สำหรับคนที่สงสัยว่าความเครียดและกลิ่นตัวมันเกี่ยวข้องกันยังไง…คำตอบก็คือช่วงไหนที่เรารู้สึกเครียด กังวล หรือโกรธ ก็จะทำให้ต่อมเหงื่อขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ พอเหงื่อออกมาขึ้นก็จะยิ่งทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นตามไปด้วยนั่นเองเพราะฉะนั้นใครที่เป็นคนชอบคิดมากหรือปล่อยให้เกิดความเครียดสะสมนานๆ ก็ต้องรีบหยุดพฤติกรรมนี้ด่วนๆ แล้วอย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดด้วยนะคะ

➃ ใส่เสื้อผ้าซ้ำโดยที่ไม่ซักให้สะอาดก่อน

แม้ว่าตอนนี้เทรนด์รักษ์โลกด้วยการนำเสื้อผ้ากลับมาใส่ซ้ำวนไปจะมาแรงมากๆ แต่ชาวซิสจะใส่เสื้อผ้าซ้ำหลายวันโดยที่ไม่ซักให้สะอาดก่อนไม่ได้เด็ดขาดเลยนะคะ โดยการใส่เสื้อผ้าชุดเดิมแบบโดยที่ยังไม่ซัก ใช้วิธีหยิบออกจากตะกร้ามาสะบัดๆ แล้วนำกลับมาใส่ใหม่ พฤติกรรมนี้ก็อาจทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัว หรือยิ่งทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นกว่าเดิมเพราะเสื้อผ้าที่เคยใส่แล้วและยังไม่ได้ซักจะมีความอับชื้น มีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียสะสมอยู่บนเสื้อผ้า พอหยิบกลับมาใส่ใหม่อีกครั้งแล้วออกไปใช้ชีวิตประจำวัน เวลาเหงื่อออกก็จะยิ่งทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นแบบนี้จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ผ่านการซักจนสะอาดแล้วค่ะ

➄ ไม่ดูแลความสะอาดผิวใต้วงแขน

ถ้ามัวแต่ดูแลผิวหน้าและผิวกาย แต่มองข้ามการดูแลความสะอาดของผิวใต้วงแขน ก็เป็นพฤติกรรมอีกหนึ่งข้อที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัวได้ค่ะ เหตุผลก็เป็นเพราะบริเวณรักแร้เป็นส่วนที่มีต่อกลิ่นที่ทำหน้าที่สร้างสารกลิ่นจำนวนมากถ้าไม่รักษาความสะอาดของผิวใต้วงแขนหรือปล่อยให้ขนรักแร้เยอะ ก็อาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย จนเกิดกลิ่นตัวเหม็นๆ อับๆ ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้รู้แบบนี้แล้วก็ควรทำความสะอาดผิวใต้วงแขนทุกวัน แล้วก็ต้องไม่ลืมกำจัดขนรักแร้อย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ

⋆⋆⋆⋆⋆⋆⋆

เป็นยังไงบ้างคะ หลังจากที่ได้ส่องพฤติกรรมที่ทำให้กลิ่นตัวแรงที่เราลิสต์มาฝากกันไปจนครบทั้ง 5 ข้อแล้ว เพื่อนๆ เผลอทำพฤติกรรมตามที่เราบอกไปจนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้กลิ่นตัวแรงอยู่รึเปล่า ???แต่ในเมื่อวันนี้รู้ตัวแล้วก็ต้องรีบหยุดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ ต้องใส่ใจเรื่องการรักษาความสะอาดของร่างกายและเสื้อผ้า หลีกเลี่ยงการกินอาหารกลิ่นฉุน อย่าปล่อยให้เกิดความเครียดสะสม แล้วที่สำคัญก็อย่าลืมหาซื้อผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมาเป็นตัวช่วยแก้ปัญหากลิ่นตัวกันด้วยนะคะ ♥