สวัสดีสาว ๆ ชาวซิสสสวันนี้กลับมากับบทความที่จะทำให้สาว ๆ ของเรากลับมาหุ่นดีอีกครั้งหลังจากการบวมโซเดียม ! ก็แหมม ของอร่อยก็ใส่โซเดียมกันเยอะจนขนาดนั้น ชีวิตนี้เราอยู่เพื่อกินไม่ใช่กินเพื่ออยู่ ! ไหนจะส้มตำเอย หมูกระทะเอย ยำเอย ทุกอย่างก็ล้วนมีโซเดียมกันทั้งนั้น ก็เข้าใจว่าช่วงนี้ปล่อยจอย แต่จะปล่อยให้ตัวเองบวมโซเดียมอันนี้ก็ไม่ไหวนะคะ ไหนวันนี้เรามาส่องกันดีกว่า ว่ามีวิธีลดบวมโซเดียมอะไรบ้างที่จะช่วยขับเจ้าโซเดียมนี้ออกไป !

สาเหตุของการบวมโซเดียม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4f/44/32/4f44324c525572d08afe40e0f9d78544.jpg

สาเหตุของการบวมโซเดียม ที่ 1. การบริโภคโซเดียมมากจนเกินไป:

การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีปริมาณโซเดียมสูงเกินไปอาจทำให้ระดับโซเดียมในร่างกายสูงขึ้น และทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำเก็บไว้ใต้ผิวหนังมากไป จึงเกิดอาการบวมน้ำได้ ตัวอย่างเช่น การบริโภคอาหารอุดมด้วยเกลือหรืออาหารที่ผ่านกระบวนการใส่เกลือหรือเครื่องปรุงมาก ๆ เช่น อาหารจานด่วน อาหารตามสั่ง อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มที่มีปริมาณโซเดียมสูง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สาเหตุของการบวมโซเดียมที่ 2. การดื่มน้ำน้อยเกินไป

เพราะว่าการที่เรานั้นดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายขาดน้ำและทำให้โซเดียมคงอยู่ในระดับสูงจึงก่อให้เกิดอาการบวมโซเดียมได้ และยังอาจเกิดขึ้นในบางกรณี เช่น ในการออกกำลังกายหนักโดยไม่ได้ดื่มน้ำเพียงพอหรือในสภาวะที่อากาศร้อนและชื้น ทำให้เกิดการเสียเหงื่อและขาดน้ำ

สาเหตุของการบวมโซเดียมที่ 3. การใช้ยาบางชนิด

บางยาที่ใช้ในการรักษาโรคบางประเภทอาจมีผลกระทบต่อระดับโซเดียมในร่างกาย อย่างเช่น ยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโดรไซด์ หรือยาต้านอัลดอสเตอโรน การใช้ยาเหล่านี้ในปริมาณที่เกินหรือในระยะเวลาที่ยาวนานอาจทำให้เกิดการบวมโซเดียมในร่างกายได้

วิธีลดบวมโซเดียม ที่ 1. ดื่มน้ำในปริมาณที่มากเพียงพอ

สาเหตุของการบวมโซเดียมที่ 4. สภาวะทางสุขภาพอื่นๆ

มีสภาวะทางสุขภาพบางอย่างที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการบวมโซเดียม เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจ ภาวะตับเลือดและโรคอื่น ๆ ซึ่งสามารถกระทบต่อการปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกายได้

อาหารตัวบวมที่ควรลด ถ้าไม่อยากบวมโซเดียมต้องรู้จักห้ามใจ

รูปภาพ:

อาหารตัวบวมที่ควรลด 1. อาหารแปรรูป

อาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตต่าง ๆได้แก่ ไส้กรอก หมูยอ ลูกชิ้น อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารเหล่านี้นั้นล้วนมีโซเดียมประกอบอยู่ ซึ่งก็มักที่จะมีปริมาณที่มาก ถ้าหากรับประทานเข้าไปเกินความจำเป็นของร่างกาย ก็อาจก่อให้เกิดโรคตามมาได้

อาหารตัวบวมที่ควรลดที่ 2. เครื่องปรุงรส

ไม่ว่าจะเป็นเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสมะเขือเทศ น้ำมันหอย กะปิ ผงปรุงรส/ซุปก้อน หรือผงชูรส อย่างที่เราสามารถคาดคะเนจากเครื่องปรุงรสที่มีรสเค็มนั้น ประกอบไปด้วยปริมาณโซเดียมที่สูงปรี๊ดเลยละค่ะ อย่งซอสมะเขือเทศปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ก็มีโซเดียมมากถึง 140 มก. กันเลยทีเดียว

แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะวิเศษมากไปกว่าการดื่มน้ำแล้ว ซึ่งในกรณีนี้ถ้าหากเรากินอาหารที่มีโซเดียมมากจนเกินไป เราก็ควรจะขับมันออกด้วยการดื่มน้ำเข้าไปเยอะ ๆ นั่นเองค่ะ ในขั้นตอนนี้จะทำให้ร่างกายสามารถขับโซเดียมออกทางปัสสาวะได้ ซึ่งจะช่วยให้อาการบวมน้ำดีขึ้นนั่นเอง

อาหารตัวบวมที่ควรลดที่ 3. อาหารที่มาจากธรรมชาติบางชนิด

นส่วนนี้หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าบางทีแล้วอาหารจากธรรมชาติก็มีโซเดียมในปริมาณที่ค่อนข้างสูงเหมือนกัน ซึ่งโซเดียมที่ว่านั้นอาจจะไม่ใช่โซเดียมที่อยู่ในตัวของอาหารนั้นตั้งแต่แรก แต่อาจจะเป็นโซเดียมที่เพิ่มเข้ามาในขั้นตอนของการผลิต เช่น กุ้งแช่แข็ง หรืออาหารทะเลแช่แข็ง หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากุ้งแช่แข็งมีการเติมเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ และอาจจะมีการใส่สารกันบูดเพื่อทำให้อาหารไม่เน่าเสีย และในสารกันบูดมันก็มีโซเดียมอยู่จำนวนหนึ่งเลยทีเดียว โดยปกติแล้วกุ้งแช่แข็ง 85 กรัม มีโซเดียมากถึง 800 มก.  และอาหารอีกอย่างที่มีโซเดียมสูงเพราะขั้นตอนการผลิตนั้นก็คือแฮม โดยปกติแล้วแฮมในปริมาณ 85 กรัม มีโซเดียมสูงถึง 1,117 มก. กันเลยทีเดียว

อาหารตัวบวมที่ควรลดที่ 4. อาหารประเภท Fast Food

อาหารอีกประเภทที่มีโซเดียมค่อนข้างสูงก็คืออาหารฟาสฟู๊ด เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นอาหารที่มีแป้ง มีน้ำตาล ไขมันและ ขาดไม่ได้เลยก็คือโซเดียมในการปรุงรสหรือว่าในการผลิต เช่น พิซซ่าหนานุ่ม ถาดกลาง 1 ชิ้น มีโซเดียมมากถึง 1,113 กรัม โดนัท 1 ชิ้น เองก็มีโซเดียม 300 มก. เลยทีเดียวน้าา

อาหารตัวบวมที่ควรลดที่ 5. อาหารประเภทหมักดอง

เรียกได้ว่าดับฝันสาวกคนรักปลาร้าและมะม่วงดองเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนรู้หรือไหมคะว่าอาหารหมักดองมีโซเดียมที่สูงมากกก ยกตัวอย่างเช่น ขนาดแค่ผักกาดดองปริมาณ 100 กรัม มีโซเดียมสูงถึง 1000 มก.

วิธีลดบวมโซเดียม มีอะไรบ้าง ?

วิธีลดบวมโซเดียม ที่ 1. ดื่มน้ำในปริมาณที่มากเพียงพอ

แน่นอนว่าอย่างที่เรารู้กันดีว่า การดื่มน้ำ นั้นดีต่อร่างกายทั้งในแง่ของสุขภาพและการดูแลรูปร่าง เพราะการดื่มน้ำนั้นเป็นการช่วยขับสารพิษหรือโซเดียมออกจากร่างกายนั่นเอง นอกจากนี้ยังควรดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ไม่น้อยจนเกินไปเพราะจะมีผลกระทบต่อระบบขับถ่าย ร่างกายขับโซเดียมออกได้ไม่เต็มที่ โดยปริมาณน้ำที่ควรดื่มใน 1 วันจะอยู่ที่ 1.5 – 2 ลิตร และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ออกกำลังกายก็อย่าลืมดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้น เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปด้วยนะคะ

วิธีลดบวมโซเดียมที่ 2. พักผ่อนให้เพียงพอ

ในข้อนี้ใครหลายคนอาจจะไม่เชื่อ แต่การพักผ่อนให้เพียงพอจนครบ 6 - 8 ชั่วโมงนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ เพราะหากร่างกายมีการพักผ่อนที่เพียงพอ ระบบต่าง ๆ ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างให้ร่างกายสามารถขับโซเดียมออกไปได้ดีด้วยค่ะ

รูปภาพ:

วิธีลดบวมโซเดียมที่ 3. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะเป็นสิ่งที่หลายคนทำเพื่อการลดหุ่นแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สามารถช่วยลดการบวมน้ำได้ดีอีกด้วย เพราะว่าการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายสามารถที่จะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น และเช่นกันกับการขับน้ำอกจากร่างกายค่ะ

วิธีลดบวมโซเดียมที่ 4. ลดการกินอาหารแปรรูปต่าง ๆ

เพราะว่าอาหารแปรรูปนั้นมาพร้อมกับปริมาณโซเดียมที่สูงมาก ๆ มันจึงจำเป็นที่เราควรจะจำกัดปริมาณการกินในแต่ละวัน ซึ่งใน 1 วันคนทั่วไปควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม แต่เราจะเห็นได้ว่าแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางยี่ห้อเพียงซองเดียวก็ปาไป 1,000 + มิลลิกรัมแล้ว

วิธีลดบวมโซเดียมที่ 5.

เพราะการกินผักและผลไม้นั้นสามารถทำให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น ซึ่งผักผลไม้ที่ช่วยในการลดบวมได้ดีก็คือชนิดที่มีน้ำอุดมอยู่ในปริมาณที่สูง อย่างเช่น แตงกวา สับปะรด กีวี และกล้วย เป็นต้นค่า

❀。• *₊°。 ❀°。❀。• *₊°。 ❀°。❀。• *₊°。 ❀°。

รูปภาพ:

ก็จบกันไปแล้วกับวิธีลดบวมโซเดียมในวันนี้ หวังว่าเราจะสามารถช่วยให้สาว ๆ ลดอาการบวมน้ำจากโซเดียมได้นะคะ แน่ละว่าของอร่อยก็มักจะมีโซเดียมเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็บริโภคในปริมาณที่เหมาะสม และหมั่นออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่ที่https://sistacafe.com/อีกน้าาา บ๊ายบายยย

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล

Cr.https://www.tropmedhospital.com/knowledge/sodium01.html#:~:text=A%3A%20%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B0,%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99

Cr.https://www.rajavithi.go.th/rj/?tag=%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1

Cr.https://fitkabdao.com/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3/https://www.healthline.com/nutrition/foods-high-in-sodium#3.-Ham

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

https://sistacafe.com/summaries/79820

https://sistacafe.com/summaries/26533

https://sistacafe.com/summaries/65794

https://sistacafe.com/summaries/84678

https://sistacafe.com/summaries/91087