□ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะแอลกอฮอล์มันไม่มีประโยชน์ เปลี่ยนมาดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรเถอะสดชื่น แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยแล้วไม่ต้องกลัวอี๋นะจ๊ะเพราะแต่ละสูตรที่เราหยิบมาฝากในวันนี้ พูดตรงนี้เลยว่า ดื่มได้จริงๆ รสชาติดี ไม่น่าเกลียดหยิบมาแนะนำทั้งหมด10 สูตรเครื่องดื่มสมุนไพรอะ! แล้วเดี๋ยวก็จะมีคนถามต่ออีกว่าจะดื่มไปทำไมคะพี่!!เพราะฉะนั้นนอกจากสูตรเครื่องดื่มที่เราหยิบมาฝากแล้วเรายังมาบอกถึงสรรพคุณของสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องดื่มนั่นๆ ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันด้วยจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรกันเยอะไปดูกันเลยดีกว่าว่าเครื่องสมุนไพรที่หยิบมาแชร์ในวันนี้ มีเครื่องดื่มแบบไหนบ้างเช็คลิสต์ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ□ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □
1. น้ำใบเตย
น้ำใบเตย 1 แก้ว ให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรีนอกจากจะหอมหวานสดชื่นแล้ว รู้มั้ยว่าน้ำใบเตยยังช่วยบำรุงประสาท บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิตได้อีกเห็นมั้ยว่าน้ำสมุนไพรมีประโยชน์เยอะแยะ งั้นเราไปดูส่วนผสมและวิธีทำน้ำใบเตยกันเลยดีกว่า รับรองว่าเครื่องดื่มแก้วนี้จะต้องถูกเพื่อนๆ หลายๆ คนอย่างแน่นอนค่ะ!ส่วนผสมใบเตยหอมเกลือ เล็กน้อยน้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบน้ำเปล่าวิธีทำ1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน2. ตั้งน้ำจนเดือด ใส่ใบเตยลงไป ต้มไปเรื่อยๆ จนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี ตักเอาใบเตยออก ปิดเตา3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปนิดหน่อย คนจนน้ำตาลละลาย ตักใส่แก้วน้ำแข็ง จัดเสิร์ฟ
2. น้ำกระเจี๊ยบ
น้ำสีแดงๆ แบบนี้ ไม่ใช่น้ำแดงค่ะซิส แต่เป็นน้ำกระเจี๊ยบ อีกหนึ่งน้ำสมุนไพรที่หลายๆ คนชอบดื่มกัน รสชาติออกหวานนิดเปรี้ยวหน่อย ดื่มแล้วสดชื่น ยิ่งดื่มแบบเย็นๆ อือหือ! ยิ่งฟินค่ะน้ำกระเจี๊ยบ 1 แก้ว ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่มาพร้อมสรรพคุณดีๆ ทั้งช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือด ซึ่งก็เหมาะกับผู้หญิงที่เลือดลมไม่ดีลดอาการไอและอาการเจ็บคอ แล้วรู้มั้ยว่าน้ำกระเจี๊ยบมีวิตามินซีสูง จึงสามารถแก้อาการเลือดออกตามไรฟันได้อย่างดีเยี่ยมด้วยทั้งนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย พูดได้คำเดียวว่า Good!ส่วนผสมดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 1 กำมือพุทราจีน 1 กำมือน้ำ 1-1.5 ลิตรน้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยเกลือป่น 1 ช้อนชาวิธีทำ1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก ( อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร )2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย ( ชิมรสตามต้องการ ) ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทเก็บใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม
3. น้ำใบบัวบก
สีเขียวของน้ำใบบัวบกอาจจะไม่ค่อยถูกใจใครหลายๆ คนเท่าไหร่ แต่เค้าดื่มได้นะทุกคน รสชาติก็ไม่ได้แย่ด้วย แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ อีกต่างหากน้ำใบบัวบก 1 แก้ว ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่สรรพคุณของเค้าคือช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลาเจนและอิลาสติกให้ผิวหนังเปล่งปลั่งอยากผิวสวยดื่มเลย! นอกจากนี้ยังช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้สดชื่น แก้อักเสบหรือช้ำใน เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ มีวิตามินและแคลเซียมในปริมาณสูงอีกด้วยส่วนผสมใบบัวบก 600 กรัมน้ำ 6 ถ้วยใบเตย มัดเป็นปม 2-3 ใบน้ำเชื่อม 1+1/2 ถ้วยวิธีทำ1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด สะเด็ดน้ำออกจนหมด จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้นๆ เตรียมไว้2. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด พักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น3. แบ่งใบบัวบกเป็น 6 ส่วน ทยอยใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว 1 ถ้วยลงปั่นจนละเอียดเป็นน้ำ ทำซ้ำจนหมด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่เฉพาะน้ำเตรียมไว้4. ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบก คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทน้ำใบบัวบกใส่ลงไป พร้อมดื่ม
4. น้ำมะตูม
น้ำมะตูมเป็นอีกหนึ่งน้ำนะ ที่น้องวัยใสสามารถดื่มกันได้ รสชาติไม่ได้แย่ อร่อยและสดชื่นมากๆ ด้วยน้ำมะตูม 1 แก้ว ให้พลัง 120 กิโลแคลอรี่น้ำมะตูมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นยาระบายขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ และแก้อาการร้อนในได้ดีส่วนผสมมะตูมแห้ง 8 กรัมน้ำ 300 กรัมน้ำตาลทราย 15 กรัมวิธีทำ1. นำมะตูมแห้งไปปิ้งไฟจนมีสีเหลืองจัด2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะตูมลงไป เครียวสักครู่3. เติมน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ เสร็จแล้วยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง จัดเสิร์ฟใส่แก้วได้เลยค่ะ
5. น้ำอัญชัน
อย่างที่รู้กันดีว่าสรรพคุณของดอกอัญชันนอกจากเอามาบำรุงผมให้ดกดำหรือคั้นน้ำมาทำขนมได้แล้วยังทำเป็นน้ำสมุนไพรได้อีกด้วย น้ำดอกอัญชันสามารถรักษาอาการอาหารเป็นพิษและช่วยล้างสารพิษ ขับของเสียออกจากร่างกายได้ทั้งยังลดอาการปวดเมื่อยช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังทำให้ร่างกายมีแรงขึ้นนอกจากนี้แล้วยังมีประโยชน์อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงสมอง ป้องกันและบรรเทาอาการเหน็บชาเรียกได้ว่าดีต่อร่างกายสุดๆ แบบนี้มองข้ามไม่ได้แล้ว!
ส่วนผสมดอกอัญชัน 100 กรัมน้ำสะอาด 2 ถ้วยน้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. นำดอกอัญชันล้างน้ำให้สะอาด แล้วไปต้มกับน้ำสะอาดจนเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองดอกอัญชันขึ้นจากหม้อต้ม2. นำน้ำดอกอัญชันที่ได้ผสมน้ำเชื่อม และน้ำผึ้งผสมรวมกัน ชิมรสตามชอบ และเมื่อทำเสร็จควรรีบดื่มให้หมดเพื่อให้ได้สารอาหารที่มีคุณค่า
6. น้ำว่านหางจระเข้
ไม่ใช่แค่ช่วยบำรุงผิวของเราให้ดูชุ่มชื้นหรือช่วยรักษาพวกรอยไหม้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่านหางจระเข้ก็เป็นอีกหนึ่งน้ำสมุนไพรดีๆ ที่พลาดไม่ได้รู้มั้ยว่าน้ำว่านหางจระเข้มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลากหลายด้าน แล้วใครที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก น้ำว่านหางจระเข้แก้วนี้ก็ช่วยได้นะจ๊ะน้ำว่านหางจระเข้มีสรรพคุณเป็นยาระบายโดยสารอาหารในว่านหางจระเข้จะช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดและด้วยคุณสมบัติช่วยล้างพิษ กระตุ้นการขับถ่ายนี่เอง จึงทำให้ว่านหางจระเข้เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีเอ้า! ไปดื่มซิ รออะไรส่วนผสมว่านหางจระเข้ 1 ถ้วยตวงน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวงน้ำผึ้ง ½ ถ้วยตวงวิธีทำ1. นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วแช่น้ำทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างเพื่อเอาน้ำยางออกให้หมด ทำความสะอาดบริเวณลำต้นให้สะอาด2. เสร็จแล้วหั่นว่านหางจระเข้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำลงไป ปั่นให้ละเอียด3. นำว่านหางจระเข้ที่ปั่นแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกรองเศษของว่านออกเหลือแต่น้ำ ใส่น้ำผึ้งลงในน้ำว่านหางจระเข้ คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟใส่แก้วได้เลย
7. น้ำเก็กฮวย
เก๊กฮวย สมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้มีไว้ทำเครื่องดื่มแก้กระหายอย่างเดียว ดอกเก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็นช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แถมยังแก้อาการร้อนในได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยส่วนผสมดอกเก๊กฮวยแห้งน้ำตาลทราย 3-5 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่า 1.5 ลิตรวิธีทำ1. นำเก๊กฮวยที่เตรียมไว้ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นเคียวไฟประมาณ 5 นาที2. เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามใจชอบ แล้วเคี่ยวต่อให้น้ำตาลละลายดี จากนั้นปิดไฟ เทใส่แก้วหรือนำไปแช่เย็นให้เย็นก่อนแล้วค่อยดื่มก็ได้
8. น้ำตะไคร้ใบเตย
คือถ้าเป็นน้ำตะไคร้อย่างเดียว เราว่าน้องๆ หลายๆ คนอาจจะดื่มไม่ไหว ฉะนั้นเพิ่มความหอมของใบเตยเข้ามาหน่อย น่าจะช่วยให้ดื่มได้ง่ายขึ้นเนอะพอจับทั้งสองอย่างมารวมกันแล้ว แน่นอนว่าประโยชน์ที่เราจะได้รับก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างใบเตยมีสารที่สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ช่วยบำรุงหัวใจได้ส่วนตะไคร้มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลมจุกเสียดในช่องท้องแน่นอนว่าเมื่อทั้งสองมามิกซ์รวมกันแล้ว มันจะต้องดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลยละส่วนผสมน้ำ 1 ลิตรใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก 5 ใบตะไคร้ทุบ 3 ต้นน้ำตาลทราย 100 กรัมน้ำมะนาว ปริมาณตามชอบน้ำแข็งวิธีทำ1. ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย และตะไคร้ ต้มจนเดือด และน้ำเปลี่ยนสี ยกลงกรองเอากากออก2. เทน้ำตะไคร้ใบเตยกลับใส่หม้อต้มอีกครั้ง ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น3. ตักน้ำตะไคร้ใบเตยลงในแก้ว ตามด้วยน้ำมะนาวตามชอบ ใส่น้ำแข็ง พร้อมดื่ม
9. น้ำมะเฟือง
เคยดื่มกันมั้ย รู้มั้ยว่ามะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะรับประทานสดๆ เป็นผลไม้แล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อสุขภาพได้อีกด้วยเพราะในมะเฟืองนั้นมีวิตามินซีสูง ดื่มแล้วสดชื่นทั้งยังเป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง ขับปัสสาวะรวมทั้งป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วยค่ะส่วนผสมมะเฟืองสุก หั่นเป็นชิ้น 5 – 6 ผลน้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวงเกลือ 1 ช้อนชาน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงวิธีทำ1. ใส่เนื้อมะเฟือง และน้ำต้มสุกลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำ ตักน้ำมะเฟืองใส่แก้ว ใส่น้ำเชื่อมและเกลือป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็ง พร้อมดื่ม
10. น้ำขิง
น้ำสมุนไพรแก้วสุดท้ายที่หยิบมาแชร์ในวันนี้ น้ำขิง รู้มั้ยว่าน้ำขิงมีประโยชน์ต่อสาวๆ อย่างเรามากๆ เลยนะ ทั้งแก้ปวดประจำเดือน แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ในช่วงวันนั้นของเดือนนอกจากนี้สรรพคุณที่ดีต่อใจอีกอย่างคือน้ำขิงช่วยลดน้ำหนักได้มันเริ่ด!น้ำขิงอุ่น ๆ 1 แก้ว ดื่มก่อนมื้ออาหารสัก 1.30 ชั่วโมงรสเผ็ดร้อนของขิงจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย ช่วยลดความอยากอาหารและช่วยในเรื่องการขับถ่ายอีกดี๊ดีอะ!ส่วนผสมขิงแก่ 1 กิโลกรัมน้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วยตวงน้ำสะอาด 3 ลิตรวิธีทำ1. นำขิงแก่มาปอกเปลือกออก จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด 1-2 น้ำ แล้วทุบให้แตก เสร็จแล้วใส่น้ำสะอาดลงในหม้อขนาดพอเหมาะ พร้อมใส่ขิงที่ทุบแล้วลงไป จากนั้นนำหม้อขึ้นตั้งไฟเพื่อเคี่ยวน้ำขิงออกมา2. เมื่อน้ำเดือดให้เบาไฟลงและเคี่ยวอีกสักพักหรือประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้น้ำขิงละลายออกมาจนเป็นน้ำสีเหลืองอ่อนๆ3. ยกหม้อขึ้นจากเตาเมื่อเคี้ยวน้ำขิงจนได้ที่แล้ว ตักน้ำใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ โดยให้เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนละลาย ก็พร้อมดื่มได้ทันที4. สำหรับใครที่อยากดื่มน้ำแข็งแบบเย็นๆ ให้รู้สึกชื่นใจ แค่เติมน้ำแข็งลงไปสักหน่อย ก็จะได้น้ำขิงที่อร่อย สดชื่นทุกครั้งที่ดื่มแล้วล่ะ
□ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □ □เป็นยังไงบ้าง นี่คือเครื่องดื่มสมุนไพรนะ ไม่ใช่แค่ดื่มได้จริงๆ แต่เห็นมั้ยว่า แต่ละเครื่องดื่มที่เราหยิบมาแชร์เพื่อนๆ ในวันนี้ ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น ใครที่ยังไม่เคยดื่ม อยากให้ลองเปิดใจ นอกจากราคาจะถูกแล้ว ยังทำตามสูตรได้ง่ายๆ ด้วย มันดีจริงๆ ค่ะ อยากให้ลองดื่มกันดูไม่เสียหายถ้าได้ลองดื่มสักแก้ว ลองไปทำตามสูตรที่เราหยิบมาฝากในวันนี้ดู สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย
Cr. น้ำสมุนไพร
https://www.fisheries.go.th/sf-ratburi/drink1/drink.htm
Cr. 7 สูตรน้ำสมุนไพร ดื่มคลายร้อน ได้ประโยชน์
http://travel.trueid.net/detail/YVreZR4lVnY