1. SistaCafe
  2. อยู่ดีๆ กางเกงก็ฟิต? 7 เหตุผลคาดไม่ถึง ที่เธอ 'อ้วนขึ้น' โดยไม่รู้ตัว รีบแก้ไข ก่อนไซส์ขยายจนสายเกินไป

ฮัลโหลค่าาา สาวๆSistaCafeที่อยู่ดีๆ ก็' ไซส์ขยายขึ้น 'ทั้งหลายนี่ว่าเมื่อไม่กี่เดือน-ไม่กี่ปีก่อนหุ่นยังเซี้ยะอยู่เลยนะ แต่วันนี้มีอีเวนต์ต้องใส่ชุดตัวเก่งที่ดันเป็นกางเกงแบบติดกระดุมที่ใส่แล้วพอดีตัวเป๊ะ! งานเข้าจ่ะ ดึงจนสุดแรงเกิดก็ติดกระดุมไม่ได้ อะยังไม่เชื่อ คิดไปเองล่ะมั้ง กางเกงมันหดหรือเปล่า?? ชั่งน้ำหนักโลด ความจริงถึงมากระแทกหน้าว่า" อ้วนขึ้นจริงๆ ( ว้อย )!! "ถ้าสวรรค์ปรานีหน่อยก็อาจขึ้นแค่ 1-2 กิโล แต่บางคนก็ขึ้นพรวดจนไม่กล้ามองตัวเลขบนตาชั่งเลยก็มี เอ๊ะ!! ก็ใช้ชีวิตปกติทั่วไป ไม่ได้ยัดหมูกระทะ ชาบูทุกมื้อซะหน่อย ชานมก็ไม่ได้กินบ่อยขนาดนั้น เกิดอะไรขึ้น ช็อกมากแม่ ฮือออ TT^TTไม่ต้องห่วงค่ะซิส มีสาวๆ มากมายที่กำลังร่วมชะตากรรมเดียวกันกับเธออยู่! แม้ว่าหลายคนจะเป็นสายเฮลตี้ กินอาหารคลีน ดื่มน้ำเยอะ ออกกำลังกายตลอด ก็หนีไม่พ้นการที่น้ำหนักขึ้นมาซะงั้นแน่นอนว่าการอ้วนขึ้นแบบไร้สาเหตุมันไม่น่าจะใช่เรื่องดีหรอก แต่ที่จริงมันมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่รู้ว่าทำให้อ้วนขึ้น แม้จะดูแลตัวเองแค่ไหนก็ตาม จะมีอะไรบ้างตามมาเช็กกันได้ที่' 7 เหตุผลคาดไม่ถึงที่ทำให้เธออ้วนขึ้นโดยไม่รู้ตัว 'กันเลย! (」°ロ°)」


1. เธอไม่ได้ 'ชั่งน้ำหนักตัวเอง' มานานมากแล้ว

บางคนมักจะติดวลีขำๆ กับคำว่า " ไม่อ้วนขึ้นหรอกถ้าไม่ได้ชั่ง " แต่ที่จริงเธอหลอกตัวเองไม่ได้หรอก ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งเปอร์เซนต์ไขมัน กล้ามเนื้อ น้ำและแร่ธาตุในร่างกาย และมันจะไม่มีวันเท่าเดิมเพียงเพราะเธอไม่ยอมขึ้นตาชั่ง

การไม่สนใจ ละเลย หรือกลัวที่จะชั่งน้ำหนักเป็นประจำนี่แหละ หุ่นพังกันมาหลายรายแล้ว! บางคนพอลดจนได้น้ำหนักที่ชอบแล้วก็คิดว่าตัวเองหนักเท่านั้นตลอดไป เพราะไม่ยอมชั่งอีกเลย #แบบนี้ก็ได้เหรออ



กลับกันเลย ยิ่งชั่งน้ำหนักบ่อยเท่าไหร่ จะยิ่งเป็นการกระตุ้นเตือนให้เรามีสติในการหาของกินเข้าปากมากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การลดน้ำหนักเพื่อหุ่นสวยได้ง่ายขึ้น มีงานวิจัยเผยว่า ยิ่งชั่งบ่อย น้ำหนักก็ยิ่งลดเร็วเท่านั้น ลดโอกาสน้ำหนักพุ่ง และคุมน้ำหนักให้คงที่ได้ดีขึ้นด้วย


คนที่ไม่ชั่งเมื่อไม่เห็นตัวเลข ก็คิดว่าปล่อยตัวได้ กินอะไรก็ได้ สุดท้ายก็มานั่งร้องไห้เพราะใส่กางเกงตัวเดิมไม่ได้แล้ว... ดังนั้นเป็นมิตรกับตาชั่งไว้เถอะค่ะ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี แต่ถ้าจะลดน้ำหนักจริงจัง ชั่งทุกเช้าเพื่อติดตามผลตัวเองจะดีที่สุด



2. นอนดึก และคุณภาพการนอนไม่ดี หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืน

แม้จะกินอาหารคลีน ออกกำลังกายอย่างดีแค่ไหน แต่ถ้าลืมปัจจัยที่สำคัญอย่าง ' การนอนหลับพักผ่อน ' ไป น้ำหนักในฝันที่เคยไปถึงก็อาจเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นทีละน้อยจนสุดท้ายเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าไปเลยก็เป็นได้

มีงานวิจัยเผยว่ายิ่งการนอนน้อยสัมพันธ์กับดัชนีค่ามวลกาย ( BMI ) และรอบเอวที่ใหญ่ขึ้น หรือการอดนอนจะนำไปสู่การผลิตฮอร์โมนหิว หรือเกรลินที่มากขึ้น และลดการผลิตฮอร์โมนเลปตินหรือฮอร์โมนอิ่ม เมื่อไม่อิ่ม แต่หิวเยอะ หิวจุกจิก อะไรจะเกิดขึ้น อ้วนยังไงล่ะ!



งานวิจัยยังเผยให้เห็นว่า เมื่อเราอดนอน นอนน้อย นอนไม่พอ สมองของเราจะสั่งการให้เรานึกถึงแต่ของมันของทอด ของแคลอรี่สูงที่เติมพลังงานให้ร่างกายได้ทันทีเป็นพิเศษ เช่น ฟาสต์ฟู้ด ไอติม เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด เนื้อสเต๊กติดมันเยิ้มๆ เป็นต้น และจะลดความสามารถในการหักห้ามใจ มีแนวโน้มที่จะสั่งขนาดใหญ่กว่าช่วงปกติอีกด้วย


ทางแก้ไขคือนอนให้พออย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ อย่างน้อยคืนละะ 7-8 ชั่วโมง ความหิวและความอยากของไร้สาระจะน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เชื่อต้องลองดู!


3. งานที่ทำอยู่ / วิชาที่เรียนอยู่ 'สร้างความเครียด' ให้เธออย่างมาก

อย่าดูถูกผลกระทบของความเครียดเชียว! แม้จะดูเป็นแค่อารมณ์อย่างหนึ่ง หรือบางคนก็มองว่า " แค่สารเคมีในสมอง " แต่มันส่งผลกับร่างกายภายนอกได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะเวลาเราอยู่ในสภาวะกดดัน ร่างกายจะปลดปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาสูงมาก ซึ่งทำให้เกิดไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันช่องท้อง ทำให้มีแนวโน้มเกิดไขมันตรงพุง พุงป่องได้ง่ายขึ้นนั่นเอง



คอร์ติซอลที่สูงขึ้นยังมีผลทำให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดพุ่งสูง และยับยั้งผลของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้หิวเยอะ หิวบ่อย นำไปสู่การกินแหลกเกินพิกัด! ซึ่งกลูโคสที่ร่างกายนำไปใช้ไม่ทันก็จะกลายมาเป็นไขมันในภายหลัง สรุปว่าอ้วนทั้งขึ้นทั้งล่องกันไปเลยจ้า


ทางแก้เหมือนง่าย แต่ทำยากคืออย่าเครียด! ถ้ามีปัญหาอะไรให้เครียดก็พยายามแก้ที่ต้นเหตุ อย่าปล่อยเรื่องจุกจิกกวนใจมาทำให้เธอต้องสั่งข้าวตอนเที่ยงคืนบ่อยๆ แล้วมาโอดโอยกับน้ำหนักทีหลังเลย ไม่คุ้มกันหรอก!



4. กิน 'โปรตีน' ไม่พอกับที่่ร่างกายต้องการ

ใช่ค่ะ การกินอาหารไม่พอก็ทำให้อ้วนขึ้นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอาหารประเภท ' โปรตีน ' ที่ช่วยเผาผลาญไขมันและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญโดยตรง เมื่อได้รับโปรตีนไม่พอ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือร่างกายพัง!

โปรตีนสำคัญมากด้วยสองเหตุผล คือหนึ่ง มันใช้เวลาย่อยกว่าแป้งขัดสี จึงทำให้อิ่มนานและป้องกันเธอจากการหน้ามืดกินไม่เลือกได้ และสอง มันช่วยป้องกันไม่ให้เธอสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นเตาเผาไขมันในร่างกายค่ะ



เมื่อกินโปรตีนน้อยเกินไป ร่างกายจะลงเอยด้วยการสลายกล้ามเนื้อ เอาสารอาหารสำคัญในมวลกล้ามเนื้อมาใช้แทน ซึ่งกล้ามเนื้อที่น้อยลง ระบบเผาผลาญก็จะต่ำลงด้วยเช่นกัน เมื่อร่างกายเป็นแบบนี้ต่อเนื่องหลายเดือนหรือเป็นปี ก็ไม่แปลกที่น้ำหนักจะขึ้นแบบก้าวกระโดด!ดังนั้นอย่าลืมที่จะกินโปรตีนให้เพียงพอในมื้ออาหารเสมอ ทั้งอกไก่ เต้าหู้ โยเกิร์ต นมงาดำ ไข่ ชีส แต่อย่าเยอะเกินไป เพราะถ้าเผาผลาญไม่ทันก็จะกลายเป็นไขมันส่วนเกินได้ค่ะ


5. ออกกำลังกาย 'หนักเกินไป'

สาวๆ หลายคนมี mindset ที่ว่า " ออกกำลังกาย = เผาผลาญแคลอรี่ เพราะฉะนั้น ยิ่งออกเยอะก็ยิ่งผอมไวขึ้น " จึงมีสายฮาร์ดคอร์ที่แทบจะสิงตัวอยู่ในฟิตเนสทั้งวัน เล่นเครื่องนั้นจบไปเครื่องนี้ต่อ เอาทั้งเวททั้งคาร์ดิโอ ไม่พอยังไปคลาสโยคะ เต้นแอโรบิก พิลาทีสต่อ


บางวันก็ไปเล่นกีฬาแบบ extreme ทั้งปีนเขา ชกมวย พายเรือทั้งวัน แต่ไปๆ มาๆ อ้าวอ้วนขึ้นเฉย นั่นเป็นเพราะเธอออกกำลังเยอะเกินไปยังไงล่ะ เยอะไปก็อ้วนขึ้นนะ ไม่ใช่จะผอมลงอย่างเดียว



มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า เมื่อผู้คนพยายามออกกำลังกายหนักเกินไป จนเกินความสามารถของร่างกายตัวเองนั้น มักจะจบลงด้วยการกินเกินแคลอรี่ที่ควรได้รับต่อวันทุกครั้งไป หายากที่เบิร์นไปเป็นหมื่นๆ แคลอรี่แล้วจะหักห้ามใจตัวเองให้กินแค่สลัดผักกับอกไก่ได้ถ้าทำได้ก็อาจเข้าข่ายอีกโรคอย่างอะนอเร็กเซีย ( โรคกลัวอ้วน ) ที่ต้องไปรักษาอยู่ดี ดังนั้นเพื่อป้องกันน้ำหนักพุ่ง ออกกำลังแต่พอดีแต่เน้นทำเป็นประจำสม่ำเสมอก็พอ เมื่อเหนื่อยพอดี ก็จะกินแต่พอดี ไม่ต้องห่วงเรื่องไขมันส่วนเกินค่ะ


6. ร่างกายบาดเจ็บ / มีบาดแผล อยู่ในช่วงรักษาตัว

Musculoskeletal conditions หรือภาวะที่มีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและโครงกระดูก เช่น ต้องเข้าเฝือกกระดูกช่วงแขนขา หรือกล้ามเนื้อช้ำ ซ้น มีบาดแผลช้ำใน จะทำให้ขยับตัวได้น้อยลง จึงส่งผลโดยตรงให้เบิร์นแคลอรี่ในร่างกายได้น้อยลง จึงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ง่าย

โดยเฉพาะถ้าเธอไม่ปรับปริมาณอาหารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ขณะนั้น แต่กินเท่าเดิมกับตอนไปฟิตเนส จะอ้วนขึ้นก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะร่างกายชินกับการเผาผลาญเท่านั้นไปแล้ว



ทั้งนี้ ก็ไม่อยากให้สาวๆ อดอาหารจนหิวโซในช่วงบาดเจ็บ เพราะร่างกายก็ต้องการสารอาหารเพื่อไปฟื้นฟูบาดแผลให้หายดีเช่นกัน จึงควรกินอาหารให้พอดี เน้นโปรตีน และออกกำลังกายแบบเบาๆ แทน เช่น เดินเล่นช้าๆ ปั่นจักรยานธรรมดาที่ไม่ใช่ปั่นวิบาก เดินในน้ำ เพื่อไม่ให้กระดูกหรือข้อต่อเสียดสีและบาดเจ็บกว่าเดิม

หรือจะเล่นเวทแบบเบาๆ หรือออกกำลังกับยางยืดกายภาพบำบัด (  therapeutic bands ) ก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ข้อต่อ ป้องกันน้ำหนักขึ้นไปด้วยในเวลาเดียวกันค่ะ



7. อายุมากขึ้น การเผาผลาญก็ลดลงตามธรรมชาติ

ข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องชวนเศร้าใจสักหน่อย เพราะจะยับยั้งหรือหลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ นั่นคือ ' อายุ ' ที่มากขึ้นตามกาลเวลานั่นเอง เมื่อวันเกิดมาถึงในแต่ละปี อายุมากขึ้นเรื่อยๆ จนแตะเลข 30 ขึ้นไปเมื่อไหร่ ผู้หญิงจะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อลงทีละนิด จึงทำให้ระบบเผาผลาญแย่ลงไปทีละน้อย

สังเกตว่าคนที่อายุเยอะมักชอบบ่นว่า " แค่หายใจก็อ้วนแล้ว " เพราะมวลกล้ามเนื้อน้อยและกินปริมาณเท่ากับตอนวัยรุ่น แต่เมตาบอลิซึ่มลด น้ำหนักจึงเพิ่มขึ้นผันแปรตามกันไป



ทางแก้ให้เธอยังคงอัตราเผาผลาญไว้ให้เยอะที่สุด และยังมีร่างกายที่อ่อนเยาว์ รักษามวลกล้ามเนื้อไว้ให้ได้ ต้องไม่ขี้เกียจ ออกกำลังกายเยอะๆ โดยเฉพาะเวทเทรนนิ่ง เพื่อเสริมสร้างมวลและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อให้มากขึ้น


ลองดูนักเพาะกายหรือคนที่เล่นเวทเป็นประจำในฟิตเนสสิ บางคน 40-50 แล้วแต่หุ่นยังฟิตเฟิร์มเต่งตึงอยู่ นั่นแหละรางวัลของการดูแลกล้ามเนื้ออย่างดี ถ้าไม่อยากอ้วนขึ้นตามวัย ก็อย่ารังเกียจการเล่นเวท และควรเล่นเป็นประจำเพื่อคงกล้ามเนื้อให้แข็งแรงนะคะ




-----------------------------------


การที่อยู่ดีๆ น้ำหนักขึ้น นั่นหมายถึงว่าระบบในร่างกายมีบางอย่างเปลี่ยนไป ซึ่งบางครั้งอาจไม่ใช่เพราะการปล่อยตัว กินอาหารขยะบ่อย หรือละเลยการออกกำลังเสมอไป แต่เป็นเพราะเรื่องอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น การนอน การเจ็บป่วย ความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังหนักเกินไป หรือปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างอายุที่เพิ่มขึ้น การเผาผล่าญที่น้อยลง หรืออาจจะเป็นเรื่องที่ละเลยไป เช่นไม่ได้สนใจที่จะชั่งน้ำหนัก จึงไม่ได้ควบคุมตัวเองเท่าที่ควร อะไรก็เป็นไปได้ค่ะลองสังเกตว่าที่สาวๆ ไซส์เพิ่มขึ้นเกิดจากอะไร และแก้ไขเท่าที่ทำได้ แม้บางครั้งอาจกลับไปน้ำหนักตั้งต้นที่จุดเดิมไม่ได้ แต่ต่อไปก็จะใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น กินอย่างมีสติมากขึ้น หรือต้องเพิ่มไลฟ์สไตล์บางอย่างให้น้ำหนักคงที่ เป็นต้น ถ้าสาวๆ ร่างกายแข็งแรง ควบคู่กับการกินอาหารดี ออกกำลังเป็นประจำ น้ำหนักจะถูกปรับให้เหมาะกับสุขภาพของเธอเอง ไม่ต้องผอมหรืออ้วนเกินไป แต่สมส่วนและเฮลตี้ที่แท้จริง ขอให้สาวๆ หุ่นสวยกันทุกคนน้าาา วันนี้ขอตัวไปก่อน บ๊ายบายค่า



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้