อยากหน้าเรียวสวยต้องทำยังไง? เดาว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับหัตถการด้านความงามกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์เอย โบท็อกซ์เอย หรือจะเป็นเครื่องกระชับผิวตัวดังอย่างไฮฟู แต่ก็ไม่กล้าไปลองซักที เพราะแยกไม่ออกว่าแต่ละชนิดต่างกันยังไง ทำแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน เดี๋ยวhttps://sistacafe.com/จะมาอธิบายเกี่ยวกับหัตถการสุดฮิตฉบับปี 2023 ให้หายสงสัยกันค่าา

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รูปภาพ:

หัตถการด้านความงามเค้าก็จะมีอยู่หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ วันนี้ซิสขอยกมาหลักๆ 2 แบบที่คนฮิตๆ ทำกัน แบบแรกจะเป็นชนิดของคนใจถึง พึ่งได้ เพราะเป็นหัตถการที่จะต้องใช้การฉีดเข้าไปในผิวด้วยเข็มนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่กลัวเข็มอันนี้คงต้องบ๊ายบาย แต่ถ้าคนที่ไม่ได้กลัว การจิ้มด้วยเข็มก็แค่มดกัด ก็รีบจัดชนิดนี้เลยจ้า ส่วนชนิดถัดมาที่ก็มาแรงไม่แพ้กันสำหรับคนที่หน้าคล้อย ห้อย เหี่ยว ก็จะเป็นหัตถการชนิดใช้เครื่องในการยกกระชับซึ่งชนิดนี้เค้าก็จะมาพร้อมราคาที่สูงจนเหงื่อแอบตก แต่ก็คุ้มค่าเพราะเห็นผลได้ระยะยาวกว่า เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าจะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้างน้าา

หัตถการ ประเภทฉีด

รูปภาพ:

เน้นยกกระชับเป็นหลัก

• Ultraformer III

HIFU เทคโนโลยี Macrofocus ผลลัพธ์แบบเดียวกับ Ulthera SPT แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานน้อยกว่า โดยอยู่ได้นาน 6-10 เดือน ราคาปานกลาง เจ็บแบบทนไหว เมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคาแล้ว ถือว่าเป็นตัวที่เหมาะสมกับราคาที่สุด

• Ulthera SPT

ใช้พลังงานสูง และจุดโฟกัสใหญ่กว่า Ultraformer III ทำให้อยู่ได้นานถึง 10-12 เดือน แต่แลกมากับราคาที่สูงกว่า และความเจ็บกว่าพอสมควร

เน้นสลายไขมันเป็นหลัก

• Thermage

ช่วยให้ผิวเนียนนุ่น และช่วยสลายไขมันเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ หากทนเจ็บได้ในระดับสูง จึงจะคุ้มค่าการทำที่สุด

รีจูรัน (Rejuran)

หัตถการที่มาแรงแซงทางโค้งแบบสุดๆ กับ

รีจูรัน (Rejaran)

ที่ชื่อแอบมีความเอ๊ะ น่าสงสัย แถมไปทางไหนก็ได้ยินผ่านหูกันบ่อยๆ ต้องบอกเลยว่าสายงานผิว เทรนด์ผิวฉ่ำแบบเกาหลีควรทำความรู้จักเป็นอย่างมาก! ซึ่งรีจูรันมีส่วนประกอบหลักจาก Polynucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์ ) ที่สกัดมาจากชิ้นส่วน DNA ของปลาแซลมอน ที่มีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์ถึง 98 %

ซึ่งก็ตามชื่อเลยค่ะ รีจูรันก็คือการ Rejuvenation แทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพด้วยการนำโพลีนิวคลีโอไทด์ที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง พอเราฉีดเข้าสู่ผิวหน้า ข้อดีก็คือเค้าจะสามารถเชื่อมต่อหลอดเลือดเล็ก ๆ ในเซลล์ (microvessel) ได้ จึงสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมหรือเสียหายให้ดีขึ้น นอกจากนั้นก็ทำให้เกิดการหลั่ง Growth factor (IGF, EGF และ FGF) ที่จะไปกระตุ้นการทำงานของ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน ควบคุมการหลั่งสารไซโตไคน์เพื่อลดการอักเสบ เลยช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นนั่นเอง แถมอีกข้อที่หลายคนเลิฟมากก็คือเค้าช่วยลดรูขุมขน เติมเต็มให้ใบหน้าเราดูเต็มกระชับ ปรับสภาพผิวให้ฉ่ำวาว ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีไปในตัว

สรุปอยากได้งานผิวสุขภาพดี ดูเต็มดูกระชับ ผิวกระจก ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี รีจูรันคือตอบโจทย์

ฟิลเลอร์ (Filler)

ตัวถัดมาที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีและแทบจะเรียกว่าหัตถการเพื่อนรัก เพื่อนคู่ใจที่ขาดไปไม่ได้ ก็คือฟิลเลอร์ (Filler)นั่นเอง ซึ่งฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง หลักๆ จะเน้นแก้ปัญหาริ้วรอย ปรับส่วนต่างๆ ของหน้า โดยสารที่ใช้ฉีดจะเป็นสารที่มีชื่อว่า “กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid)” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ขึ้นมาให้เหมือนกรดไฮยาลูโรนิกที่มีอยู่ในผิวคนเราอยู่แล้ว ทำให้การฉีดฟิลเลอร์นั้นค่อนข้างปลอดภัย และสามารถสลายไปเองได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในผิวด้วย ความดีงามก็คือฟิลเลอร์จะทำให้ผิวหน้ากลับมาดูเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น เลยทำให้ใบหน้าเราอ่อนเยาว์ลง บวกกับคุณสมบัติอุ้มน้ำของฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้

สรุปเอาแบบกระชับที่สุดเลย ฟิลเลอร์คือการเติม! ถ้าอยากแก้ไขปัญหาริ้วรอยและปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะหน้าผาก ขมับ คาง โหนกแก้ม หรือเติมให้ปากดูอวบอิ่ม ก็สามารถที่จะปรับสัดส่วนเหล่านี้ให้เป๊ะขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดอันนี้ต้องฟิลเลอร์เลยค่ะซิส


โบท็อกซ์ (Botox)

มีฟิลเลอร์แล้วจะขาดโบท็อกซ์ไปได้ยังไงใช่ไหมล่ะคะโบท็อกซ์ (Botox)จะเป็นการฉีดสารที่ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว โดยสารที่ใช้ฉีดเป็นโบท็อกซ์ มีชื่อว่าโบทูลินั่มท็อกซินเอ ( Botulinum toxin) ซึ่งเป็นสารที่สกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อว่า Clostridium botulinumเมื่อฉีด Botox เข้าสู่กล้ามเนื้อ สารก็จะไปจับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับ Botox หดตัวไม่ได้และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด ซึ่งปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเราไม่ว่าจะเป็นรอยช่วง หางตา ระหว่างคิ้ว หน้าผาก ก็ล้วนเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ดังนั้นเมื่อเราใช้ Botox ฉีดเข้าไปก็จะทำให้กล้ามเนื้อตรงนั้นคลายตัว ไม่มีริ้วรอยนั่นเอง

สรุปถ้ามีปัญหาริ้วรอย เช่น รอยตีนกา รอยหน้าผาก รอยเหี่ยวย่น หรืออยากแก้ไขกรามที่ใหญ่เกินความต้องการ อันนี้ต้องโบท็อกซ์เลยจ้าาา แต่ไม่แนะนำให้เติมโบท็อกซ์บ่อยจนเกินไปนะ เพราะอาจทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายเราต่อต้านโบท็อกซ์ ฉีดไปอาจจะไม่เห็นผล กลายเป็นว่าเสียเงินไปฟรีๆ ได้นะคะซิส

หัตถการประเภทใช้เครื่อง

รูปภาพ:

ไฮฟู (HIFU)

เคล็ดลับนางฟ้าที่ต้องรู้คือผิวหน้าจะกระชับหรือหย่อนคล้อยขึ้นอยู่กับความสมดุลของผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นส่วนที่จะเป็นตัวรักษาโครงสร้างของผิวหนังให้มีความยืดหยุ่น ความสมดุลของโครงสร้างนี้เองที่ช่วยให้ผิวหน้าเรามีความกระชับ แต่ถ้าเกิดว่าคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ก็จะทำให้ผิวหน้าเราสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อย แน่นอนว่าอายุที่มากขึ้นก็ส่งผลต่อผิวหนังชั้น SMAS ได้เช่นกัน

ทีนี้เราจะเซฟชั้นผิวให้อยู่กับเรานานๆ ได้ยังไง? คำตอบก็คือหัตถการในกลุ่มเครื่องยกกระชับนั่นเองค่ะ อย่าง

ไ

ฮฟู (HIFU)

เค้าจะช่วยกระชับผิวหน้าโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้น SMAS ด้วยพลังงานความร้อนที่ส่งไปยังชั้น SMAS โดยตรงจะทำให้ผิวหนังชั้นนี้เกิดการซ่อมแซมและสร้างใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยที่เกิดจากผิวหนังที่หย่อนคล้อยก็ช่วยทำให้ลดลงได้

สรุปHIFU เหมาะกับคนที่ไม่มีไขมันบนใบหน้าเยอะ แต่ผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการกระชับใบหน้า ถ้าเราเป็นคนที่อายุยังไม่ถึง 30 อันนี้แนะนำเลยค่ะเพราะราคาถือว่ายังไม่แรงมากในหมู่เครื่องยกกระชับผิว เหมาะกับคนที่พึ่งเริ่มต้นเข้าวงการนี้ และความเจ็บยังไม่มาก ยังพอทนไหว แต่HIFU ก็จะไม่สามารถกำจัดไขมันหรือลดไขมันบริเวณเหนียงได้นะคะและจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน อาจจะต้องเข้ามาทำบ่อยหน่อย ประมาณปีละ 2-3 ครั้ง


อัลเทอรา (Ulthera)

เครื่องสำหรับยกกระชับตัวถัดมาจะคล้ายๆ กับ HIFU เลยค่ะ ตัวนี้จะมีชื่อว่าอัลเทอรา (Ulthera)ลักษณะการทำงานจะคล้ายกันตรงที่เป็นการส่งพลังงานอัลตร้าซาวนด์ลงไปในผิวหนังชั้นลึก ทั้ง Ulthera กับ HIFU ถึงจะจัดอยู่ในหมวดเดียวกันแต่สิ่งที่ทำให้ราคาเค้าแตกต่างกันมากทั้งๆ ที่ก็ช่วยยกกระชับผิวเหมือนกัน ก็เป็นเพราะเทคโนโลยีการส่งพลังงานเข้าไปใต้ผิวและความคงที่ของพลังงานนั้นแตกต่างกันค่ะ ความพิเศษของ Ulthera คือเค้าจะมีหน้าจอแสดงผลการทำงานให้ดูแบบเรียลไทม์ ทำให้เราสามารถการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปได้ จึงมีความแม่นยำสูง ปลอดภัย และไม่ก่อผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง

สรุปUlthera เหมาะกับคนที่มีงบขึ้นมาหน่อย มีไขมันบนหน้าไม่มาก ผิวหน้าหย่อนคล้อย แต่อยากได้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น แม่นยำขึ้น อยู่ได้นานถึง 10-12 เดือน หรือ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับพลังงานที่ใช้ ยี่ห้อเครื่อง ความชำนาญของแพทย์ แต่อาจจะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า และความเจ็บกว่าพอสมควร

เทอร์มาจ (Thermage)

มาถึงเครื่องยกกระชับตัวสุดท้ายกันแล้วกับเทอร์มาจ (Thermage)เครื่องนี้จะเป็นการส่งคลื่นวิทยุ (Radio frequency or RF) ความถี่สูงเพื่อลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปใบหน้าให้ยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน ซึ่งการทำงานของ Thermage จะเป็นการส่งคลื่นความร้อนจากคลื่นวิทยุ โดยก้อนความร้อนจะถูกส่งลงสู่ชั้นผิวหนัง Dermis (ตื้นกว่าชั้นผิวหนัง SMAS) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน เค้าเลยสามารถกระตุ้นได้อย่างทันที ข้อดีของการที่เป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ ก็คือเค้าจะครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าการยิงแบบจุดที่ไม่มีทิศทางแบบเครื่องอื่นๆ และเทอร์มาจเองก็เด่นในการฟื้นฟูผิว กระชับผิว ลดชั้นไขมันที่ใบหน้า และกำจัดไขมันบริเวณเหนียงได้อีกด้วยสรุปใครมีไขมันบนหน้าเยอะๆ ผิวย้วย ไม่กระชับ มีเหนียงเยอะ Thermage คือคำตอบ! จะเน้นไปที่การสลายไขมันเป็นหลัก ช่วยให้ผิเรียบเนียนขึ้น แถมยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่อาจจะเจ็บและราคาแพงกว่าแบบอื่น ซึ่งถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 1 - 2 ปี ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะจ่ายครั้งเดียวอยู่ได้นานมากจ้า

ตารางสรุป 6 หัตถการน่าทำปี 2023

อะแฮ่ม รู้นะว่ามีคนที่ขี้เกียจอ่านข้อความยาวๆ เพราะฉะนั้นซิสเลยทำตารางสรุปมาให้อ่านกันได้ง่ายๆ ทีนี้แค่กวาดตาใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็รู้เรื่องครบ พร้อมพุ่งตรงไปคลินิกแล้วเลือกคอร์สทำหน้าได้เลยจ้า

รูปภาพ:

เป็นยังไงกันบ้างคะ ทีนี้พอจะเข้าใจหัตถการความงามแบบต่างๆ มากขึ้นกันรึยัง แน่นอนว่าแต่หัตถการแต่ละแบบเค้าก็จะมีข้อดีต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ผลลัพธ์และรับราคาแบบไหนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนไปทำด้วยนะคะ เช็กให้ดีว่าเราจัดอยู่ในกลุ่มที่ห้ามทำหัตการประเภทนั้นอยู่หรือเปล่า และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นสิ่งแรกๆ เลยคือผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับแบรนด์ของเครื่องที่ใช้ คุณภาพของคลินิก และความชำนาญของแพทย์ เพราะฉะนั้นต้องเช็กหรือดูรีวิวเคสคลินิกให้ดีก่อนไปทำด้วยน้า

- - - - - - - - - - - - - - -

Designer:kidasindahouse

Writer :BabyPeachy

อ่านบทความเพิ่มเติมจาก

https://sistacafe.com/

ได้ที่นี่

https://sistacafe.com/summaries/92104

https://sistacafe.com/summaries/95272

https://sistacafe.com/summaries/93567