สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนน่ารัก ( ที่กลัวพุงป่อง ) ทั้งหลาย~

เชื่อว่าเป็นปัญหากวนใจรายวันของผู้หญิง รองจากปัญหาผิวเลยแหละ

กับการหน้าท้องป่องเป็นคนท้องหลังกินเสร็จ อาหารไม่ย่อย กระเพาะอ่อนแอ ทั้งที่ไม่ได้กินเยอะ น้ำหนักก็น้อย แต่พุงนี่ยื่นยังกะกินบุฟเฟ่ต์ คือถ้ากินคนเดียวอยู่บ้านก็ไม่เท่าไหร่ แต่คนเราก็ต้องมีสังคมอะเนาะ จะนัดเพื่อนกินข้าว ไปปาร์ตี้ ไปงานเลี้ยงที่ทำงาน แฟนนัดเจอไปคาเฟ่ คือต้องพับเสื้อครอปใส่ตู้เลย ใส่แต่เดรสหลวมๆ เพราะอายหน้าท้อง


บางทีก็หายได้เอง แต่บางทีก็ตัวบวมไปทั้งวัน เซ็งมากก ทำยังไงถึงจะหน้าท้องแบน ไม่มีลมเข้าเหมือนคนอื่นเขาบ้าง??

การที่กินเสร็จแล้วหน้าท้องยื่น ทางฝรั่งจะเรียกว่า " bloating " ค่ะ ถ้าแปลตรงตัวก็คือ " พอง " จากแก๊สที่มาจาก ' กรดเกินในกระเพาะอาหาร ' นั่นเอง ซึ่งเป็นได้กับคนทุกเพศทุกวัย บางคนก็จะมีอาการกรดไหลย้อนร่วมด้วย

เห็นท้องป่องของคนอื่นดูเหมือนจะฮานะ แต่เจอกับตัวเองไม่สนุกอย่างที่คิดหรอกค่ะ ท้องจะแข็งๆ แขม่วก็ไม่ได้เพราะมีแต่แก๊สบอกเลยว่าทรมานเวอร์!!

รูปภาพ:https://media0.giphy.com/media/fo4LET4L6NwpnzyE8p/giphy.gif

สาวซิสคนไหนที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ในบทความนี้เราได้หาทางแก้มาให้แล้ว! กับที่ได้ผลจริง ทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องหาหมอผ่าตัดให้ต้องเป็นเรื่องใหญ่ แต่ผลลัพธ์คือหน้าท้องแบนราบ ได้ใส่ครอปสมใจอยากแน่นอนแต่ก่อนจะรู้วิธีรักษา เราไปดูถึงสาเหตุคร่าวๆ กันก่อนดีกว่า~~--------------------------------

✧ "กรดเกินในกระเพาะอาหาร " เกิดจากอะไร จะลดได้ยังไง? ✧

รูปภาพ:https://instagram.fbkk2-5.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/e35/101073975_302899277396686_5245388990480541597_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk2-5.fna.fbcdn.net&_nc_cat=110&_nc_ohc=BmeyTA4UQIsAX8u2yFF&oh=8ca66e81c117a31c2abbdceddc50b2b5&oe=5F888A4F

อะไรคือสาเหตุของ ' แก๊สเกินในท้อง '

>> สาเหตุที่เกิดขึ้นง่ายที่สุด เวลาแก๊สเยอะๆ เข้าไปในระบบย่อยของร่างกาย คือสาวๆ

" กลืนอากาศเข้าไปเป็นจำนวนมาก "

นั่นเองค่ะ โดยปกติเราจะกลืนอากาศเรื่อยๆ อยู่แล้วเวลากินหรือดื่มอะไรสักอย่างเพราะปากเราขยับ

แต่อาหารบางอย่างมีแนวโน้มที่ทำให้เรา " กลืนอากาศมากกว่าปกติ "  เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง ดื่มเครื่องดื่มอัดลมที่ฟองเยอะๆ หรือกินดื่มเร็วเกินไป หากไม่เรอออกให้หมด ลมก็จะผ่านเข้าไปถึงลำไส้ในที่สุด

อีกสาเหตุคือแบคทีเรียและยีสต์ในลำไส้ใหญ่ของคนเรา ปกติแล้ว ลำไส้ใหญ่จะเป็นที่อยู่ของเหล่าคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำตาล แป้ง ไฟเบอร์ที่ย่อยแล้ว เป็นต้น ซึ่งจะ

มีเชื้อจำพวกแบคทีเรียและยีสต์ชนิดดีและเลวอยู่ด้วย ถ้าเป็นแบคทีเรียชนิดดี จะช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตที่ยังไม่ย่อยได้ แต่ชนิดเลวจะทำให้เกิดแก๊สเกินและพุงป่องได้ค่ะ

จะลดแก๊สในท้องได้ยังไง??>>> หากสาวๆ เป็นคนหนึ่งที่ทรมานกับกรดเกินหลังมื้ออาหารมาตลอด ต้องลองย้อนกลับไปคิดแล้วค่ะว่า " เธอกินอะไรเข้าไป " เพราะส่วนใหญ่มักอยู่ที่อาหารที่กินนั่นแหละ! อาจมีสาเหตุอื่นบ้างเช่น การติดเชื้อบางอย่างหรือความเครียด การนั่งโต๊ะทั้งวันจนแก๊สไม่ถูกขจัดออกจากร่างกายอย่างไรก็ตาม ก็ยังมี7 วิธีด้านล่างนี้ ที่จะช่วยให้กรดเกิน แก๊สเกินได้หายไปอย่างเป็นธรรมชาติ!!มาค่ะ มาดูว่ามีทริคไหนให้ไปทำตามกันบ้าง??

1. ลองเปลี่ยนประเภท 'อาหารที่กิน' เป็นประจำดูสิ!

รูปภาพ:https://instagram.fbkk2-3.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/e35/s1080x1080/111188334_1516656885185867_6109483384110172422_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk2-3.fna.fbcdn.net&_nc_cat=111&_nc_ohc=QvQI1RryCfQAX8Tf63J&oh=7a5e6372f7bcce8c6a41d41ce2be2944&oe=5F894D3C

ข้อแรกนี่อย่าเพิ่งเบะปากนะคะ ก็ใช่แหละ รู้ๆ กันอยู่ ต้นตอมาจากอาหาร ก็ต้องแก้ที่อาหาร แต่มันก็เป็นวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุดแล้ว!

และบางคนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า อาหารที่ตัวเองกินประจำทุกวัน ส่งผลให้เกิดกรดแก๊สเกินรึเปล่า ดังนั้นเราจะมาบอกในข้อนี้กันค่ะ

หากเธอกินผักประเภทบร็อคโคลี่, กะหล่ำปลี, หัวหอม หรือผลไม้ประเภทแอปเปิ้ล พืชตระกูลถั่วต่างๆ ( legumes ) และลูกแพร์ล่ะก็ นั่นแหละตัวทำพุงป่องเลยจ้า! รวมถึงอาหารประเภทโฮลเกรน รำข้าว และผลิตภัณฑ์นมทุกชนิดด้วย โดยเฉพาะนมและครีมที่มีเปอร์เซนต์ไขมันสูงๆ ยิ่งกินเยอะยิ่งพุงป่องเกินห้ามใจ

หากวันไหนต้องออกงาน ไปเจอเพื่อน อยากให้หน้าท้องแบนราบ แนะนำว่าเลี่ยงอาหารประเภทข้างต้นจะดีกว่า จะช่วยลดกรดแก๊สเกินได้ชะงัดแน่นอนค่ะ

2. เวลาเคี้ยวอาหาร อย่ารีบกลืน 'เคี้ยวช้าๆ ให้กระเพาะทำงานง่ายขึ้น'

รูปภาพ:https://instagram.fbkk2-7.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/e35/p1080x1080/100654046_579366816026262_4703546575600905700_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk2-7.fna.fbcdn.net&_nc_cat=106&_nc_ohc=LTrvo7wl_bQAX_HIVot&oh=4fa6ce0cade97a29f8a44d5e59b8695a&oe=5F8B48F2

เข้าใจนะว่าชีวิตสาวๆ ยุคใหม่ต้องแข่งกับเวลา เร่งรีบไม่ได้ ยิ่งตอนเช้า ตอนพักเที่ยงที่เวลาจำกัด ต้องกินอาหารง่ายๆ รีบกิน รีบกลืนให้เร็วที่สุด แต่ก็นั่นแหละค่ะ สาเหตุของพุงป่องๆ เพราะกระเพาะมันย่อยไม่ทันจ้า กระเพาะมันไม่ได้รีบไปกับเราด้วยเด้อ!

หากเป็นของเหลวอย่างนม กาแฟก็ยังพอว่า แต่ถ้ากินเป็นข้าวกล่อง แซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ ยังไงภาวะพุงป่องมาเยือนแน่นอน

ลองเจียดเวลาให้การกินมากขึ้น ค่อยๆ เคี้ยวช้าๆ ในแต่ละคำ ให้กระเพาะได้พักผ่อน ช่วยลดปริมาณแก๊สที่สาวๆ เผลอกลืนโดยไม่ตั้งใจ เอาง่ายๆ คือตอนอาหารคาเต็มปาก วางช้อนส้อมลงก่อน อย่าเพิ่งรีบยัด!

ข้อดีอีกอย่างคือสมองจะรับรู้ถึงความอิ่มเร็วขึ้น ทำให้ไม่กินเกินที่ร่างกายต้องการ ไม่อ้วนอีกด้วย!

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเคี้ยวคำละ 32 ครั้งกำลังดี หรือถ้าขี้เกียจนับ ก็แค่เคี้ยวจนกว่าจะไม่มีเศษแข็งๆ แล้ว นิ่มเละคล้ายโจ๊กค่อยกลืน

แบบนั้นจะเป้นมิตรกับกระเพาะอาหารมากๆ ไม่มีท้องอืด พุงป่องกวนใจแน่นอน

3. หากท้องอืดหนักๆ อาจต้องพึ่ง 'สมุนไพร' ช่วยย่อย

รูปภาพ:https://static.toiimg.com/thumb/msid-66636383,imgsize-927703,width-800,height-600,resizemode-75/66636383.jpg

หากปรับอาหารแล้ว หรือมีวันที่ต้องไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือลูกค้า แล้วเลี่ยงประเภทอาหารไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องใช้สมุนไพรช่วยกันล่ะนะ!

ถ้าที่ดังๆ มาตั้งแต่รุ่นแม่ก็คงเป็น ' ขมิ้นชัน ' เพราะมีสรรพคุณช่วยขับลม ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ กรดเกินในกระเพาะ และยังมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบอีกด้วยค่ะ

เดี๋ยวนี้ขมิ้นชันมีเป็นแบบแคปซูล หาซื้อได้ทั่วไปแล้ว ราคาก็ไม่แพง เพียงกิน 2 แคปซูลหลังมื้ออาหาร แต่ถ้าไม่อยากกินเป็นเม็ดยา ก็กินอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ผสมขมิ้นชันก็พอใช้ได้เหมือนกันค่ะ

เช่น เมนูปลาทอดขมิ้น ไก่ย่างขมิ้น แกงเหลือง แกงไตปลา น้ำขมิ้นชัน ขมิ้นชันลาเต้ร้อน เป็นต้น

4. 'คาร์บอนแก้ท้องเสัย' ก็มีสรรพคุณช่วยลดท้องอืดได้!

รูปภาพ:https://cdn11.bigcommerce.com/s-dis4vxtxtc/images/stencil/1280x1280/products/3372/3305/image_1140__22572.1567254948.jpg?c=2?imbypass=on

ข้อนี้แอบว้าวเหมือนกันนะสำหรับเรา แต่ใช่ค่ะ ยาคาร์บอนเม็ดดำๆ แก้ท้องเสียนี่แหละ ช่วยลดกรดเกินในกระเพาะอาหารได้!

ข้อดีคือปลอดภัยแน่ๆ และยังมีสรรพคุณลดแก๊สเกินและอาการท้องอืดอย่างได้ผล เพราะคาร์บอนชนิดนี้ถูกผลิตมาแล้วว่ามนุษย์กินได้ ไม่เป็นอันตราย

วิธีการทำงานของยาคือ เมื่อเธอกลืนลงท้องไปแล้ว มันจะกวาดสารพิษและของเหลวเข้าสู่ตัวมันเอง ฟีลคล้ายๆ ดีท็อกซ์ ซึ่งจะช่วยเรื่องตัวบวมไปโดยปริยาย

แต่มีคำเตือนนิดนึงว่า ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียง และไม่ได้มีผลโดยตรงเท่าสมุนไพรหรือยาอื่นๆ ดังนั้นก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความแน่ใจนะคะ

5. ปรับสภาพกระเพาะให้ดีขึ้นด้วย 'โพรไบโอติก (Probiotic)'

รูปภาพ:https://instagram.fbkk2-6.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/e35/19051960_1265129410276327_8236675017962684416_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk2-6.fna.fbcdn.net&_nc_cat=107&_nc_ohc=cKAVqw_nqzcAX_amEQA&oh=728c2bfb7f0c7e6102c5c0f72fb292af&oe=5F89EB33

' โพรไบโอติก ' เป็นเชื้อที่สาวๆ รู้จักกันดีในโยเกิร์ตชนิดต่างๆ ซึ่งมันเองก็มีสรรพคุณช่วยลดกรดเกินในกระเพาะอาหารได้! เพราะมันจะเข้าไปปรับสมดุลเชื้อแบคทีเรียชนิดดีและเลวในลำไส้ ให้ชนิดดีทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ( แต่ถ้ากินเยอะมากๆ คนธาตุอ่อนอาจจะถ่ายท้องจู๊ดๆ ได้เหมือนกันค่ะ )

ในปัจจุบันนี้ โพรไบโอติกก็ได้ทำออกมาในรูปแบบอาหารเสริม มีทั้งแบบเม็ดและแบบผงกรอกใส่ปาก ก็เลือกซื้อได้ตามความถนัดและงบประมาณที่มี

แต่ถ้าให้เราแนะนำแบบบ้านๆ แค่กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติตอนเช้าสักถ้วย แล้วดื่มน้ำเปล่าตามเยอะๆ หน่อย ก็ช่วยให้หน้าท้องแบนราบได้ง่ายๆ แล้วค่ะ

6. งดอาหาร/เครื่องดื่มที่ใส่ 'สารให้ความหวาน (artificial sweeteners)'

รูปภาพ:https://cdn1.i-scmp.com/sites/default/files/styles/1200x800/public/2014/09/18/93b58e5c95ff3b83fb226fe6a8914633.jpg?itok=fLz3Y7fF

ข้อนี้สาวๆ ที่กำลังไดเอทต้องเซ็งแน่เลย แต่ ' สารให้ความหวาน ( artificial sweeteners ) ' ยี่ห้อต่างๆ ในท้องตลาด รวมถึงอาหาร ขนมไดเอทที่ใส่สารเหล่านี้แทนน้ำตาล ถ้าไม่อยากตัวบวม ควรงดกินทั้งหมด!

เพราะผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่เคลมว่าตัวเองไม่มีน้ำตาล มักใส่สารให้ความหวานอย่าง ซอร์บิทอล และแอสปาร์แตม ในปริมาณที่สูงจนตกใจเลยล่ะค่ะ

เมื่อกินเข้าไป ร่างกายจะเกิดอาการงง และไม่สามารถย่อยน้ำตาลเหล่านี้ด้วย ( มันถึงได้ 0 แคลอรี่ไงล่ะ ) ซึ่งผลข้างเคียงก็คือพุงป่อง กรดแก๊สเกิน ยิ่งถ้ากินของพวกนี้เยอะ ก็ยิ่งมีแนวโน้มจะกลืนอากาศเยอะตาม อาการท้องอืดก็ยิ่งแย่กว่าเดิมที่สำคัญอาหารไดเอทใส่น้ำตาลเทียมเหล่านี้ มักมีสารอาหารต่ำ และเสี่ยงเกิดปัญหากับร่างกายในระยะยาวด้วย ดังนั้นเลิกกินได้ก็จะยิ่งดีค่ะซิส

7. 'ไม่กินข้าวคำ น้ำคำ' ระหว่างมื้อ >> กระเพาะทำงานหนัก ท้องอืดง่าย!

รูปภาพ:https://instagram.fbkk2-4.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/e35/89667875_4257882657571297_7338314258275894365_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk2-4.fna.fbcdn.net&_nc_cat=101&_nc_ohc=lh-G-l-AC-wAX-2CFy2&oh=145fcd0659a6863361a1650cc75b9ec7&oe=5F889304

สาวซิสบางคนติดนิสัย' กินข้าวคำ น้ำคำ 'ทุกมื้ออาหาร กลัวข้าวติดคอแหละ บางคนก็ว่ากลัวอ้วน ดื่มน้ำเยอะๆ จะได้กินข้าวน้อยๆ ว่าซั่น -..- แต่หารู้ไม่ว่ามันมีผลเสียกับระบบย่อยอาหารอย่างรุนแรง!

แทนที่น้ำย่อยจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่เธอดื่มน้ำเติมเข้าไปเจือจางน้ำย่อยเรื่อยๆ และยังทำให้กระเพาะทำงานหนักโดยไม่จำเป็น ผลลัพธ์คือย่อยอาหารไม่หมด เกิดเป็นกรดแก๊สในกระเพาะอาหารนั่นเองค่ะ

ลองปรับพฤติกรรม ลดครั้งที่ดื่มน้ำระหว่างกินข้าวดูบ้าง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้จากกินข้าวจานนึงต้องดื่มน้ำ 10 รอบ ก็ลดลงเหลือ 5-6 รอบพอ( ที่จริงระหว่างกินข้าว แค่จิบๆ น้ำให้คล่องคอก็พอ ไว้ดื่มน้ำทีเดียวตอนกินข้าวเสร็จดีกว่า )

แล้วเธอจะตกใจว่า อาการท้องป่องนั้นดีขึ้นเหมือนเสกได้เลยทีเดียว

---------------------------

ครบทั้งหมดแล้ว กับ 7 วิธีช่วยลดกรดเกินในกระเพาะอาหาร ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้ตามไลฟ์สไตล์ของสาวซิสกันดูน้า~ ทุกวิธีคือทำได้เองง่ายๆ เป็นธรรมชาติ ง่ายสุดก็แค่เปลี่ยนอาหารที่กิน แต่ถ้ามีสถานการณ์จำเป็นก็อาจต้องพึ่งยาหรือสมุนไพร แต่ไม่กินอะไรที่ก่อให้เกิดแก๊สแต่แรกน่าจะดีกว่า เท่านี้สาวๆ ก็มีหน้าท้องแบนราบอย่างที่ตั้งใจ ใส่เสื้อครอปโชว์ หรือเสื้อพอดีตัวได้ไม่ต้องอายใครอีกต่อไป >< ยังไงวันนี้เราขอตัวไปกินโยเกิร์ตก่อนละค่า กินไอติมเยอะพุงออก อิอิ เจอกันใหม่ บ๊ายบายยยย