เมื่อคนรักสัตว์มีแฟน เราจะปรับตัวยังไงไม่ให้เป็นปัญหากัน?
ตอนเป็นสาวโสดก็มีแต่น้องหมา น้องแมว น้องกระต่าย พอมีแฟนปุ๊บ ทำไงนะไม่ให้มีปัญหากัน
เผยแพร่: 25 ม.ค. 2559 10:58 น.
Views: 9,858
รหัสบทความ: 6442
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องน่ารักเมื่อสาวๆ ได้อุปการะสัตว์เลี้ยงสักตัวไว้ในบ้านหรือคอนโดส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นน้องแมว น้องหมา น้องกระต่าย หรือสัตว์เลี้ยงแสนแปลกตัวจิ๋วแบบใดก็ตาม ไว้แก้เหงา เป็นรูมเมทแสนน่ารัก เป็นบัดดี้ที่รู้ใจกันตลอดเวลา ตอนโสดยังไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่หรอก เพราะเราเลี้ยงเอง ดูแลเอง ใครไม่ชอบก็ช่างเขาไป แต่พอมีแฟนนี่สิต้องคิดหนัก ยิ่งมีแฟนที่ไม่รักสัตว์เอาซะเลย จะให้เลิกกับแฟนมันก็ดูเป็นเรื่องที่เล็กน้อยเกินเหตุสิ้นดี
มาค่ะสาวๆ มาหาวิธีประนีประนอมระหว่างน้องๆ ของเรากับแฟนเราดีกว่า ไม่แน่นะ แฟนเราอาจจะหลงรักน้องเราด้วยคนก็ได้
#1 เราต้องมั่นใจมากๆ ว่าเราสามารถรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงเราได้ดีเยี่ยม
สัตว์เลี้ยงเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน มันจะกินตอนไหน อึตอนไหน ค่าใช้จ่ายประมาณไหน มีแต่เราผู้เป็นเจ้าของเท่านั้นที่รู้ดี ก่อนจะให้แฟนปรับตัวเข้าหาเราและสัตว์เลี้ยงได้ อันดับแรกเราต้องทำให้แฟนมั่นใจก่อนว่าเราสามารถรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงได้ดีมาก รบกวนคนอื่นให้น้อยที่สุดหรือไม่รบกวนเลย เพื่อตัดปัญหาการทะเลาะกันโดยมีสัตว์เลี้ยงเป็นต้นเหตุ ( ไม่ว่าจะทะเลาะกับแฟน หรือเราไปทะเลาะกับเพื่อนบ้านก็ตาม )
#2 อย่าให้ความสัมพันธ์แต่ละส่วนปะปนกัน
อย่าห่วงสัตว์เลี้ยงจนลืมความรู้สึกแฟน ในขณะเดียวกันก็อย่ารักแฟนจนลืมความรู้สึกสัตว์เลี้ยง ค่อยๆ จัดสรรปันส่วนความรักแต่ละแบบให้ลงตัว อย่าเพิ่งนำมาปนกันจนแยกไม่ออกว่าจะแคร์ใครก่อน รักใครดี
#3 อย่าฝืนใจให้แฟนต้องชอบสัตว์ รักสัตว์เหมือนกับเรา
มันก็เหมือนตอนที่เรากับแฟนอยู่ในระหว่างคุยกัน เป็นเพื่อนกัน ยังไม่ตกลงเป็นแฟนกันนั่นแหละ จะให้รักกันในทันทีมันคงเป็นไปไม่ได้ เราต้องค่อยๆ ซึมซับนิสัยกันและกันไปเรื่อยๆ ก่อน
ถ้าเขาเป็นคนไม่ชอบสัตว์ก็อย่าเพิ่งบังคับฝืนใจเขา เราทำเป็นตัวอย่างให้เขาดูก่อนว่าการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของเราเป็นยังไง ? มั่นใจได้แค่ไหนว่ามันจะไม่ทำร้ายแฟน ? เขาจะสังเกตความอ่อนโยน การดูแลที่ละเอียดของเรา จนเปิดใจยอมรับลูกๆ เราได้เองในที่สุด
#4 เปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับสัตว์เลี้ยงเราบ้าง โดยมีเราประกบอยู่
เมื่อเขาชินได้สักพักแล้วที่เห็นเราดูแลสัตว์เลี้ยงมาตลอด ก็ลองเปิดโอกาสให้เขาได้ลองเล่นกับมัน ให้อาหารมัน สัมผัสมันดูบ้างว่าก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เราต้องอยู่ประกบด้วยเพื่อเป็นคนกลางคอยแก้ปัญหาไม่ให้แฟนเราดูแลลูกเราผิดๆ หรือทำร้ายลูกๆ เรา และในขณะเดียวกันก็เพื่อดูแลลูกๆ เราไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้แฟนเราด้วยเช่นกัน
#5 ถ้าสุดท้ายแล้วต้องทะเลาะกันรุนแรง เลิกกัน อย่าโทษว่าเป็นความผิดของใคร
สาเหตุที่คนเลิกกันมันก็แค่ใจไม่ตรงกัน อย่าโทษว่าเป็นเพราะแฟนไม่รักสัตว์เลี้ยงของเราอย่างเดียว อย่าโทษว่าสัตว์เลี้ยงของเราเป็นต้นเหตุ และที่สำคัญก็คืออย่าก่อความรุนแรงกับสัตว์อย่างไรเสียถึงจะเป็นสัตว์ตัวน้อยๆ แต่มันก็เป็นตั้ง' ชีวิต 'นึงเลย
