สาวซิสต้าคนไหนที่กำลังมีเรื่องทะเลาะหรือ " ดราม่า " กับแฟนด้วยเรื่องหยุมหยิมบ้าง ยกมือขึ้นด่วนๆ! ตั้งแต่คบมา ไม่เคยมีเรื่องไหนที่ทำให้เสียน้ำตาได้เท่านี้มาก่อน ทำไมเขาไม่มารับ ทำไมเขาไม่โทรมาฝันดีก่อนนอน ทำไมเขาไม่ให้ของขวัญวันเกิด หรือบางคนอาจมีกรณีหนักคือแฟนนอกใจ ( ถ้าแบบนี้ก็สมควรโกรธอยู่ = = ) ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งหนัก จนร่ำๆ จะอยากเลิกเต็มแก่แล้ว
ใจเย็นๆ นะคะ! เหตุผลหลักที่คู่รักเลิกกันเพราะไม่มีฝ่ายไหนคิดจะรั้งไว้นี่แหละ! เป็นแฟนกัน แบ่งปันเรื่องราวในชิวิตด้วยกันบ่อยๆ ก็ย่อมจะมีเรื่องไม่ลงรอยกันบ้างเป็นธรรมดา อย่าปล่อยให้อุปสรรคเล็กน้อยมาทำให้เธอเสียคนมีค่าที่สุดไปเลย
ถ้าเธอกำลังมืดแปดด้าน ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรให้กับบรรยากาศมาคุครั้งนี้ จงอ่านบทความ " 10 วิธีก้าวข้ามผ่านอุปสรรคในชีวิตคู่ " เพื่อปรับทัศนคติและความคิดให้จูงมือผ่านไปด้วยกันได้ เริ่ม!
#1 มองหาเหตุผลและทัศนคติที่ตรงกัน

คิดหาเหตุผลว่า เธอและเขาตัดสินใจคบกันครั้งแรกด้วยสาเหตุใด คู่รักหลายคู่ให้คำตอบว่าเขาต้องการเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน หาคู่ชีวิตที่จะสร้างครอบครัว วางรากฐานให้มั่นคง เพิ่มเติมความหวานให้กัน และเพิ่มความน่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งให้กับชีวิต ( ต้องมีสักข้อที่ตรงกับเธอแหละน่า )
เมื่อเธอหาผลสรุปให้สาเหตุของความสัมพันธ์ได้แล้ว รู้ว่าทำไมเธอกับเขาจึงตกลงเปลี่ยนสถานะจาก " เธอและเขา " เป็น " เรา " เธอจะมีมุมมองต่อชีวิตคู่ชัดเจนขึ้น ทำให้เธอก้าวผ่านปัญหาและอุปสรรคได้่ง่ายขึ้นค่ะ
#2 มองหาสัญญาณ " แปลกๆ " ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์

เธอจำเป็นต้องรักษาระดับความสัมพันธ์ให้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในอารมณ์อยากวีนอยากเหวี่ยงแค่ไหนก็ตาม จำไว้ อย่าระเบิดลงใส่แฟน ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่คุ้มกันหรอก! ความสัมพันธ์ก็เหมือนระบบอวัยวะในร่างกายของเรา เพราะประกอบด้วยปัจจัยหลายส่วนกว่าจะได้ " รัก " ที่สมบูรณ์ เธอแค่ทำให้แต่ละส่วนอยู่ในสภาพดีที่สุดก็พอ
จงใส่ใจกับพฤติกรรมด้านลบในความสัมพันธ์ ทั้งความอดทนที่ต่ำลงเรื่อยๆ ความโกรธแค้น, ความเห็นไม่ตรงกันและอื่นๆ อีกมากมาย วิเคราะห์สาเหตุของการกระทำเหล่านี้ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อขจัดความรู้สึกและพฤติกรรมด้านลบจากชีวิต
รับมือกับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาไปทีละอย่าง แทนที่จะปล่อยให้ทับถมเป็นกองสูงแล้วพยายามแก้ในครั้งเดียว จะท้อไปซะก่อนนะ
#3 ชั่งน้ำหนักระหว่าง " ข้อดี " และ " ข้อเสีย "

เมื่อเธอและแฟนทะเลาะกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่มาคุ คิดว่าจะเลิกหรือไม่เลิกดีนะ!?!? ลองชั่งน้ำหนักถึงข้อดี-ข้อเสียว่าการคบกับผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร ( เขียนลงกระดาษเลยก็ได้เพื่อความชัดเจน )
จงดูว่าข้อไหนเยอะกว่ากัน ถ้าข้อดีเยอะก็ยังพอคุยปรับความเข้าใจกันไหว แต่ถ้ามีแต่ข้อเสีย... คิดว่าเธอก็คงมองเห็นภาพอะไรชัดเจนขึ้นแล้วล่ะ จะจบความสัมพันธ์หรือไม่ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเธอค่ะ
#4 อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม / ทัศนคติตัวเอง

ถ้าเธอทะเลาะกับแฟนเป็นครั้งที่ร้อยพอดี เธอต้องย้อนกลับมาดูตัวเองแล้วว่า ต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง! คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกับแฟนต้องเปลี่ยนแปลงบางสิ่งถ้าอยากให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อย่ากลัวที่จะ " เปลี่ยน " ถ้าจำเป็นต้องทำค่ะ
หลายคนอาจเถียงว่า " เราไม่ควรเปลี่ยนตัวตนตัวเองเพื่อคนอื่นไม่ใช่เหรอ " แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเธอเปลี่ยนทัศนคติหรือพฤติกรรมแย่ๆ ( ที่ใครก็รับไม่ได้ ) เพื่อกลายเป็นคนที่มีความอดทน ใจดี เป็นที่รักใคร่ของผู้อื่นล่ะ โชคสองชั้นต่างหาก มีแต่ได้กับได้
ปรับปรุงข้อเสียของตัวเองแค่ไม่กี่อย่าง อาจทำให้ความรักหวานชื่นขึ้นมากกว่าที่คิดก็ได้
#5 ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ / ที่ปรึกษาด้านชีวิตคู่

ถ้าเธอและเขากำลังอยู่ในบรรยากาศมาคุ ( เพิ่งทะเลาะไปอย่างดราม่าสุดๆ อีกนิดคงมีการเขวี้ยงปาข้าวของแล้วล่ะ ) และเธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป มืดแปดด้านรัวๆ อย่ากลัวหรืออายที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นค่ะ จะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาก็ได้ ก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้ TT
ถ้าเธอเป็นคู่แต่งงาน แนะนำให้หาที่ปรึกษาบำบัดชีวิตคู่ แต่ถ้าอายที่จะต้องเล่าปัญหาส่วนตัวให้คนแปลกหน้าฟังจริงๆ ล่ะก็ จะเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองก็ได้! เมื่อได้ฟังความเห็นจากคนนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับความสัมพันธ์ เธอจะเห็นปัญหาของตัวเองและตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้นค่ะ บางครั้งเธอก็ต้องพึ่งความคิดเห็นและคำปรึกษาของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรีแต่อย่างใด ดีซะอีกที่ได้เห็นมุมมองของคนอื่นโดยไม่ต้องทดลองด้วยตัวเอง ^^
หรือใครจะลองใช้แอปพลิเคชั่นมือถือ สำหรับคู่รักด้วยก็ได้นะคะ ได้ทั้งปรึกษา และความสนิทกันเพิ่มขึ้นด้วย ลองไปดูว่ามีแอปอะไรบ้างได้ ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ

รวม 8 App สำหรับ 'คู่รัก' ทำให้คุณใกล้ชิดกันมากขึ้น (灬♥ω♥灬)
https://sistacafe.com/summaries/1608
ไปดูวิธีที่ 6 - 10 กันเล้ย >>>
#6 มุ่งมั่นเพื่อ " เป้าหมายเดียวกัน "

เคยมีคำพูดว่า " กุญแจสู่การมีชีวิตคู่ที่มีความสุขคือ ทั้งฝ่ายชายและหญิงต้องมุ่งมั่นในเป้าหมายเดียวกัน " ความสัมพันธ์ของเธอและแฟนจะสะดุดทันที ถ้าเป้าหมายในชีวิตของทั้งคู่ไปคนละทิศคนละทาง นึกภาพสถานการณ์ง่ายๆ เธออยากไปเที่ยวแต่แฟนอยากอยู่บ้านเฉยๆ ชวนไปไหนก็ไม่เคยไป ปล่อยให้เธอเที่ยวคนเดียว หากเป็นแบบนี้บ่อยครั้งเข้าก็เริ่มจะส่อลางไม่ค่อยดีแล้วล่ะ
นั่งจับเข่าคุยกับแฟน ถกกันตรงๆ ว่าเธอทั้งคู่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต เช่น ปีหน้ามีแผนจะทำอะไร แล้วอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าวางแผนจะต่อยอดอะไรต่อ ถ้ามีสิ่งที่สามารถทำร่วมกันได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มีทางบรรจบกันได้เลย ก็ต้องสิ้นสุดความสัมพันธ์แล้วล่ะค่ะ
#7 ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่เสมอ

ถ้าเธอถามคู่รักที่อาศัยอยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี ( และยังไม่เลิกกันไปเสียก่อน ) เช่น คู่ปู่ย่าตายาย ว่า
" เคล็ดลับที่ทำให้อยู่ด้วยกันนานๆ คืออะไร " เธอจะได้คำตอบว่า " ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยและเสียสละให้อีกฝ่ายมากๆ น่ะสิหนู " ซึ่งเป็นเรื่องจริง! บางครั้งเธอจำเป็นต้องยอมเขาบ้างเพื่อให้ความสัมพันธ์ดีๆ ดำเนินต่อไป ถ้าเอะอะก็เถียงกลับตลอด ไปกันไม่รอดในระยะยาวแน่นอน
กฎหลักๆ คือ " ประนีประนอม " และ " ถ้อยทีถ้อยอาศัย " กันให้มาก คอยสนับสนุนและให้กำลังใจฝ่ายตรงข้าม ถ้าเขาอยากไปไหนก็ไปเป็นเพื่อน ( แม้ว่าที่จริงจะไม่อยากไปเท่าไหร่ ) เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจความรู้สึกของเขา เห็นว่าเขาเป็นคนสำคัญ แค่นี้เธอทั้งคู่ก็มีความสุขแล้ว
#8 มองหา " ฟ้าหลังฝน " ที่สดใส

การฝ่าฟันอุปสรรคแย่ๆ ในความสัมพันธ์นั้นไม่ง่าย ถ้าเธอมีความรู้สึกในด้านลบกับอักฝ่ายอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เธอทำในปัจจุบันจะส่งผลกระทบถึงผลลัพธ์ในเวลาต่อมาแน่นอน ถ้าเธอไม่คิดจะดึงข้อดีหรือผลด้านบวกของสถานการณ์นั้นมาใช้บ้างเลย ความสัมพันธ์ก็ยิ่งดิ่งลงเหว
คงยากที่จะเห็น " ฟ้าหลังฝน " ที่มีสายรุ้งงดงามในวันที่เลวร้ายที่สุด แต่ถ้าเธอยังไม่อยากปล่อยมือจากคนข้างหน้า ก็ต้องยึดไว้ให้แน่น พยายามให้ดีที่สุด เช่น มองว่าสิ่งแย่ๆ ที่เผชิญในวันนี้คือ " ประสบการณ์ " ที่ได้เรียนรู้และเป็น " โอกาส " ที่จะได้แก้ไขในสิ่งที่ทำผิดไป จะได้ไม่เจอปัญหาเดิมอีกในอนาคตค่ะ
#9 มองย้อนกลับไปที่ความทรงจำดีๆ ในอดีต

ถ้าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์มืดหม่น เศร้าหมอง อยากเลิกกับผู้ชายคนนี้เต็มทีแล้ว! ลองตั้งสติสักเฮือกหนึ่ง มองย้อนกลับไปกับความทรงจำที่ดีในอดีต วันที่เธอยังจับมือ หยอกล้อกัน นั่งกินไอศกรีม ยิ้มและมีความสุขให้แก่กัน ทำให้เธอตระหนักได้ถึงเหตุผลว่า เราคบกันเพราะอะไร
การตกอยู่ใน " ห้วงความคิดถึง " ทำให้เกิดความรู้สึกทางบวกมากมาย เช่น การชื่นชม ความสุข ความรักและที่สำคัญที่สุด เธอจะเกิดแรงฮึดที่อยากจะประคับประคองความสัมพันธ์ให้ดำเนินต่อไป ย้ำเตือนตัวเองไว้ว่า ปัญหานี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เธอต้องผ่านมันไปได้ด้วยดี!
#10 รู้สึก " ขอบคุณ " ในความรักที่เขามีให้

เมื่อเธอรู้สึกขอบคุณในความรักที่เขามีให้ เธอจะรู้สึกว่าอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ในชีวิตไม่ได้แย่อย่างที่คิด ช่วยทำให้เธอก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในจิตใจให้เธอเป็น " คนที่ดีขึ้น " เพื่อฝ่ายตรงข้าม
ตั้งสติ นั่งเงียบๆ แล้วนึกทบทวนว่า ผู้ชายคนนี้ดีกับเธอขนาดไหน เขาทุ่มเท เสียสละ เป็นสารถีคอยขับรถรับส่งเธอมากี่หน ยอมทิ้งนัดกับเพื่อนเพื่อพาเธอไปหาหมอ และอีกมากมาย ความรู้สึกครั้งนี้ทำให้เธออยากตอบแทนเขาเช่นเดียวกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ค่ะ
=====================
เป็นอย่างไรบ้างกับ " 10 วิธีก้าวข้ามผ่านอุปสรรคในชีวิตคู่ " ช่วยทำให้เธอและแฟนเข้าใจกันมากขึ้นไหมเอ่ย =w= โลกนี้ไม่ได้มีด้านที่สวยงามเพียงด้านเดียว ความรักก็เช่นกัน ไม่ได้ปูด้วยทางเดินโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ยิ่งคบกันนานเข้า ก็เริ่มมีบททดสอบเข้ามาท้าทายว่าจะจูงมือเดินไปด้วยกันถึงจุดหมายได้ไหม หลายคู่ต้องเลิกรากันไปเพราะไม่เข้าใจ ไม่กุมมือกันแน่นมากพอทั้งที่ยังรักอยู่ เป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก
ปรับวิธี เปลี่ยนมุมมองใหม่ ! หลังจากเกิดการทะเลาะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องแย่ๆ ที่ต้องทำให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ แต่คิดว่าเป็นประสบการณ์และโอกาสที่ทำให้เรารู้ตัวตนของเขามากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้นอีก ถ้าข้ามผ่านไปได้ สายสัมพันธ์ครั้งนี้จะยิ่งแน่นแฟ้นจนไม่มีใครทำลายได้เลยล่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าที่กำลังเจออุปสรรคอยู่ เธอจะต้องผ่านไปได้ค่ะ ^^
=====================
Cr. 10 Ways to Get Through a Rough Patch in a Relationship [ lovepanky ]
http://www.lovepanky.com/love-couch/broken-heart/ways-to-get-through-a-rough-patch-in-a-relationship