สาวซิสต้าคนไหนที่กำลังมีเรื่องทะเลาะหรือ " ดราม่า " กับแฟนด้วยเรื่องหยุมหยิมบ้าง ยกมือขึ้นด่วนๆ! ตั้งแต่คบมา ไม่เคยมีเรื่องไหนที่ทำให้เสียน้ำตาได้เท่านี้มาก่อน ทำไมเขาไม่มารับ ทำไมเขาไม่โทรมาฝันดีก่อนนอน ทำไมเขาไม่ให้ของขวัญวันเกิด หรือบางคนอาจมีกรณีหนักคือแฟนนอกใจ ( ถ้าแบบนี้ก็สมควรโกรธอยู่ = = ) ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งหนัก จนร่ำๆ จะอยากเลิกเต็มแก่แล้ว

ใจเย็นๆ นะคะ! เหตุผลหลักที่คู่รักเลิกกันเพราะไม่มีฝ่ายไหนคิดจะรั้งไว้นี่แหละ! เป็นแฟนกัน แบ่งปันเรื่องราวในชิวิตด้วยกันบ่อยๆ ก็ย่อมจะมีเรื่องไม่ลงรอยกันบ้างเป็นธรรมดา อย่าปล่อยให้อุปสรรคเล็กน้อยมาทำให้เธอเสียคนมีค่าที่สุดไปเลย

ถ้าเธอกำลังมืดแปดด้าน ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรให้กับบรรยากาศมาคุครั้งนี้ จงอ่านบทความ " 10 วิธีก้าวข้ามผ่านอุปสรรคในชีวิตคู่ " เพื่อปรับทัศนคติและความคิดให้จูงมือผ่านไปด้วยกันได้ เริ่ม!

#1 มองหาเหตุผลและทัศนคติที่ตรงกัน

รูปภาพ:http://cdn.images.express.co.uk/img/dynamic/39/590x/Couple-reading-together-558959.jpg

คิดหาเหตุผลว่า เธอและเขาตัดสินใจคบกันครั้งแรกด้วยสาเหตุใด คู่รักหลายคู่ให้คำตอบว่าเขาต้องการเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน หาคู่ชีวิตที่จะสร้างครอบครัว วางรากฐานให้มั่นคง เพิ่มเติมความหวานให้กัน และเพิ่มความน่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งให้กับชีวิต ( ต้องมีสักข้อที่ตรงกับเธอแหละน่า )

เมื่อเธอหาผลสรุปให้สาเหตุของความสัมพันธ์ได้แล้ว รู้ว่าทำไมเธอกับเขาจึงตกลงเปลี่ยนสถานะจาก " เธอและเขา " เป็น " เรา " เธอจะมีมุมมองต่อชีวิตคู่ชัดเจนขึ้น ทำให้เธอก้าวผ่านปัญหาและอุปสรรคได้่ง่ายขึ้นค่ะ


#2 มองหาสัญญาณ " แปลกๆ " ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์

รูปภาพ:http://static1.squarespace.com/static/53679b1de4b0fc72e8c1e10b/t/548b29f1e4b092fbeab423f7/1418406393640/Couple+Fighting.jpg

เธอจำเป็นต้องรักษาระดับความสัมพันธ์ให้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในอารมณ์อยากวีนอยากเหวี่ยงแค่ไหนก็ตาม จำไว้ อย่าระเบิดลงใส่แฟน ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่คุ้มกันหรอก! ความสัมพันธ์ก็เหมือนระบบอวัยวะในร่างกายของเรา เพราะประกอบด้วยปัจจัยหลายส่วนกว่าจะได้ " รัก " ที่สมบูรณ์ เธอแค่ทำให้แต่ละส่วนอยู่ในสภาพดีที่สุดก็พอ

จงใส่ใจกับพฤติกรรมด้านลบในความสัมพันธ์ ทั้งความอดทนที่ต่ำลงเรื่อยๆ ความโกรธแค้น, ความเห็นไม่ตรงกันและอื่นๆ อีกมากมาย วิเคราะห์สาเหตุของการกระทำเหล่านี้ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อขจัดความรู้สึกและพฤติกรรมด้านลบจากชีวิต

รับมือกับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาไปทีละอย่าง แทนที่จะปล่อยให้ทับถมเป็นกองสูงแล้วพยายามแก้ในครั้งเดียว จะท้อไปซะก่อนนะ


#3 ชั่งน้ำหนักระหว่าง " ข้อดี " และ " ข้อเสีย "

รูปภาพ:http://blog.quizzle.com/wp-content/uploads/2014/08/Pros-and-Cons-of-Bankruptcy.jpg

เมื่อเธอและแฟนทะเลาะกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่มาคุ คิดว่าจะเลิกหรือไม่เลิกดีนะ!?!? ลองชั่งน้ำหนักถึงข้อดี-ข้อเสียว่าการคบกับผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร ( เขียนลงกระดาษเลยก็ได้เพื่อความชัดเจน )

จงดูว่าข้อไหนเยอะกว่ากัน ถ้าข้อดีเยอะก็ยังพอคุยปรับความเข้าใจกันไหว แต่ถ้ามีแต่ข้อเสีย... คิดว่าเธอก็คงมองเห็นภาพอะไรชัดเจนขึ้นแล้วล่ะ จะจบความสัมพันธ์หรือไม่ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเธอค่ะ

#4 อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม / ทัศนคติตัวเอง

รูปภาพ:http://www.vamshare.com/wp-content/uploads/2014/06/couple-on-park-bench.jpg

ถ้าเธอทะเลาะกับแฟนเป็นครั้งที่ร้อยพอดี เธอต้องย้อนกลับมาดูตัวเองแล้วว่า ต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง! คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกับแฟนต้องเปลี่ยนแปลงบางสิ่งถ้าอยากให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อย่ากลัวที่จะ " เปลี่ยน " ถ้าจำเป็นต้องทำค่ะ

หลายคนอาจเถียงว่า " เราไม่ควรเปลี่ยนตัวตนตัวเองเพื่อคนอื่นไม่ใช่เหรอ " แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเธอเปลี่ยนทัศนคติหรือพฤติกรรมแย่ๆ ( ที่ใครก็รับไม่ได้ ) เพื่อกลายเป็นคนที่มีความอดทน ใจดี เป็นที่รักใคร่ของผู้อื่นล่ะ โชคสองชั้นต่างหาก มีแต่ได้กับได้

ปรับปรุงข้อเสียของตัวเองแค่ไม่กี่อย่าง อาจทำให้ความรักหวานชื่นขึ้นมากกว่าที่คิดก็ได้

#5 ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ / ที่ปรึกษาด้านชีวิตคู่

รูปภาพ:https://www.drwealth.com/wp-content/uploads/2015/05/Top-Image-Say-No-to-the-Financial-Adviser-The-Best-FA-is-Myself.jpg

ถ้าเธอและเขากำลังอยู่ในบรรยากาศมาคุ ( เพิ่งทะเลาะไปอย่างดราม่าสุดๆ อีกนิดคงมีการเขวี้ยงปาข้าวของแล้วล่ะ ) และเธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป มืดแปดด้านรัวๆ อย่ากลัวหรืออายที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นค่ะ จะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาก็ได้ ก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้ TT

ถ้าเธอเป็นคู่แต่งงาน แนะนำให้หาที่ปรึกษาบำบัดชีวิตคู่ แต่ถ้าอายที่จะต้องเล่าปัญหาส่วนตัวให้คนแปลกหน้าฟังจริงๆ ล่ะก็ จะเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองก็ได้! เมื่อได้ฟังความเห็นจากคนนอกที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับความสัมพันธ์ เธอจะเห็นปัญหาของตัวเองและตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้นค่ะ  บางครั้งเธอก็ต้องพึ่งความคิดเห็นและคำปรึกษาของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรีแต่อย่างใด ดีซะอีกที่ได้เห็นมุมมองของคนอื่นโดยไม่ต้องทดลองด้วยตัวเอง ^^

หรือใครจะลองใช้แอปพลิเคชั่นมือถือ สำหรับคู่รักด้วยก็ได้นะคะ  ได้ทั้งปรึกษา และความสนิทกันเพิ่มขึ้นด้วย ลองไปดูว่ามีแอปอะไรบ้างได้ ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ


ไปดูวิธีที่ 6 - 10 กันเล้ย >>>

#6 มุ่งมั่นเพื่อ " เป้าหมายเดียวกัน "

รูปภาพ:http://www.justrunlah.com/wp-content/uploads/2015/03/Young-fitness-couple-celebrating.jpg

เคยมีคำพูดว่า " กุญแจสู่การมีชีวิตคู่ที่มีความสุขคือ ทั้งฝ่ายชายและหญิงต้องมุ่งมั่นในเป้าหมายเดียวกัน " ความสัมพันธ์ของเธอและแฟนจะสะดุดทันที ถ้าเป้าหมายในชีวิตของทั้งคู่ไปคนละทิศคนละทาง นึกภาพสถานการณ์ง่ายๆ เธออยากไปเที่ยวแต่แฟนอยากอยู่บ้านเฉยๆ ชวนไปไหนก็ไม่เคยไป ปล่อยให้เธอเที่ยวคนเดียว หากเป็นแบบนี้บ่อยครั้งเข้าก็เริ่มจะส่อลางไม่ค่อยดีแล้วล่ะ

นั่งจับเข่าคุยกับแฟน ถกกันตรงๆ ว่าเธอทั้งคู่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต เช่น ปีหน้ามีแผนจะทำอะไร แล้วอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าวางแผนจะต่อยอดอะไรต่อ ถ้ามีสิ่งที่สามารถทำร่วมกันได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มีทางบรรจบกันได้เลย ก็ต้องสิ้นสุดความสัมพันธ์แล้วล่ะค่ะ


#7 ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่เสมอ

รูปภาพ:http://www.live-alife.com/wp-content/uploads/2015/12/13-happy-loving-couple-hugging.jpg

ถ้าเธอถามคู่รักที่อาศัยอยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี ( และยังไม่เลิกกันไปเสียก่อน ) เช่น คู่ปู่ย่าตายาย ว่า

" เคล็ดลับที่ทำให้อยู่ด้วยกันนานๆ คืออะไร " เธอจะได้คำตอบว่า " ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยและเสียสละให้อีกฝ่ายมากๆ น่ะสิหนู " ซึ่งเป็นเรื่องจริง! บางครั้งเธอจำเป็นต้องยอมเขาบ้างเพื่อให้ความสัมพันธ์ดีๆ ดำเนินต่อไป ถ้าเอะอะก็เถียงกลับตลอด ไปกันไม่รอดในระยะยาวแน่นอน

กฎหลักๆ คือ " ประนีประนอม " และ " ถ้อยทีถ้อยอาศัย " กันให้มาก คอยสนับสนุนและให้กำลังใจฝ่ายตรงข้าม ถ้าเขาอยากไปไหนก็ไปเป็นเพื่อน ( แม้ว่าที่จริงจะไม่อยากไปเท่าไหร่ ) เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจความรู้สึกของเขา เห็นว่าเขาเป็นคนสำคัญ แค่นี้เธอทั้งคู่ก็มีความสุขแล้ว


#8 มองหา " ฟ้าหลังฝน " ที่สดใส

รูปภาพ:https://whatiamfor.files.wordpress.com/2013/04/cropped-silver-lining-image10.jpg

การฝ่าฟันอุปสรรคแย่ๆ ในความสัมพันธ์นั้นไม่ง่าย ถ้าเธอมีความรู้สึกในด้านลบกับอักฝ่ายอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เธอทำในปัจจุบันจะส่งผลกระทบถึงผลลัพธ์ในเวลาต่อมาแน่นอน ถ้าเธอไม่คิดจะดึงข้อดีหรือผลด้านบวกของสถานการณ์นั้นมาใช้บ้างเลย ความสัมพันธ์ก็ยิ่งดิ่งลงเหว

คงยากที่จะเห็น " ฟ้าหลังฝน " ที่มีสายรุ้งงดงามในวันที่เลวร้ายที่สุด แต่ถ้าเธอยังไม่อยากปล่อยมือจากคนข้างหน้า ก็ต้องยึดไว้ให้แน่น พยายามให้ดีที่สุด เช่น มองว่าสิ่งแย่ๆ ที่เผชิญในวันนี้คือ " ประสบการณ์ " ที่ได้เรียนรู้และเป็น " โอกาส " ที่จะได้แก้ไขในสิ่งที่ทำผิดไป จะได้ไม่เจอปัญหาเดิมอีกในอนาคตค่ะ


#9 มองย้อนกลับไปที่ความทรงจำดีๆ ในอดีต

รูปภาพ:http://howtokeepaguy.org/wp-content/uploads/2014/07/couple_happy.jpg

ถ้าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์มืดหม่น เศร้าหมอง อยากเลิกกับผู้ชายคนนี้เต็มทีแล้ว! ลองตั้งสติสักเฮือกหนึ่ง มองย้อนกลับไปกับความทรงจำที่ดีในอดีต วันที่เธอยังจับมือ หยอกล้อกัน นั่งกินไอศกรีม ยิ้มและมีความสุขให้แก่กัน ทำให้เธอตระหนักได้ถึงเหตุผลว่า เราคบกันเพราะอะไร

การตกอยู่ใน " ห้วงความคิดถึง " ทำให้เกิดความรู้สึกทางบวกมากมาย เช่น การชื่นชม ความสุข ความรักและที่สำคัญที่สุด เธอจะเกิดแรงฮึดที่อยากจะประคับประคองความสัมพันธ์ให้ดำเนินต่อไป ย้ำเตือนตัวเองไว้ว่า ปัญหานี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เธอต้องผ่านมันไปได้ด้วยดี!

#10 รู้สึก " ขอบคุณ " ในความรักที่เขามีให้

รูปภาพ:https://narasshi.files.wordpress.com/2015/02/p-588069-psatgv8e8v-11.jpg

เมื่อเธอรู้สึกขอบคุณในความรักที่เขามีให้ เธอจะรู้สึกว่าอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ในชีวิตไม่ได้แย่อย่างที่คิด ช่วยทำให้เธอก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในจิตใจให้เธอเป็น " คนที่ดีขึ้น " เพื่อฝ่ายตรงข้าม

ตั้งสติ นั่งเงียบๆ แล้วนึกทบทวนว่า ผู้ชายคนนี้ดีกับเธอขนาดไหน เขาทุ่มเท เสียสละ เป็นสารถีคอยขับรถรับส่งเธอมากี่หน ยอมทิ้งนัดกับเพื่อนเพื่อพาเธอไปหาหมอ และอีกมากมาย ความรู้สึกครั้งนี้ทำให้เธออยากตอบแทนเขาเช่นเดียวกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ค่ะ

=====================

เป็นอย่างไรบ้างกับ  " 10 วิธีก้าวข้ามผ่านอุปสรรคในชีวิตคู่ " ช่วยทำให้เธอและแฟนเข้าใจกันมากขึ้นไหมเอ่ย =w= โลกนี้ไม่ได้มีด้านที่สวยงามเพียงด้านเดียว ความรักก็เช่นกัน ไม่ได้ปูด้วยทางเดินโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ยิ่งคบกันนานเข้า ก็เริ่มมีบททดสอบเข้ามาท้าทายว่าจะจูงมือเดินไปด้วยกันถึงจุดหมายได้ไหม หลายคู่ต้องเลิกรากันไปเพราะไม่เข้าใจ ไม่กุมมือกันแน่นมากพอทั้งที่ยังรักอยู่ เป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก

ปรับวิธี เปลี่ยนมุมมองใหม่ ! หลังจากเกิดการทะเลาะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องแย่ๆ ที่ต้องทำให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ แต่คิดว่าเป็นประสบการณ์และโอกาสที่ทำให้เรารู้ตัวตนของเขามากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้นอีก ถ้าข้ามผ่านไปได้ สายสัมพันธ์ครั้งนี้จะยิ่งแน่นแฟ้นจนไม่มีใครทำลายได้เลยล่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าที่กำลังเจออุปสรรคอยู่ เธอจะต้องผ่านไปได้ค่ะ ^^

=====================