เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อเราคบใครเป็นแฟนนาน ๆ ความหวานมันก็จะลดลง จากที่ช่วงแรก ๆ มีความกุ๊กกิ๊ก มุ้งมิ้งใส่กัน พอนานวันเข้าต่างฝ่ายก็จะเปิดเผยความเป็นตัวเองออกมา แต่
ระยะเวลาที่คบกันมานาน ก็แสดงให้เห็นว่าเรากับเขาผ่านช่วงเวลาที่ทั้งทุกข์และสุขมาด้วยกันประมาณนึง
แม้จะมีความน่าเบื่อบ้าง แต่
ถ้าต่างฝ่ายมีความหนักแน่นและยังรักกันอยู่ ก็ไม่มีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์ได้

แต่อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้หากความรักนั้นเกิดการ
" สั่นคลอน "
เมื่อมีใครบางคนมาทำให้เราสนใจ หากจะว่าไปมันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ สำหรับสาว ๆ ที่มีแฟนอยู่แล้ว เคยเป็นกันมั้ยคะที่จู่ ๆ เราก็
รู้สึกสปาร์คกับผู้ชายอีกคนทั้ง ๆ ที่เรามีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
มีทางเดียวที่เราจะทำได้คือ
" ยอมเลิกกับแฟน "
หรือ
" ตัดใจจากชายคนนั้นซะ "
ลองอ่าน 6 ข้อนี้ดูแล้วคุณอาจจะพบคำตอบที่อยู่ในใจ :)
1. ทบทวนใจตัวเองดี ๆ
สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ
" คิดทบทวน "
ให้ดีค่ะ ว่าที่จริงแล้วเรารู้สึกยังไงกับคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามา มันเป็นความ
รักจริง ๆ หรือแค่หวั่นไหว หลงใหลได้ปลื้มไปชั่ววูบ
เท่านั้น คงคล้าย ๆ เวลาที่ดูหนังดูละครแล้วเกิดอาการปลื้มพระเอกนั่นล่ะ แต่ต่างกันตรงที่คนใหม่ที่เรารู้สึกดีด้วยนั้นเอาก็อาจมีปฏิสัมพันธ์กับเราเหมือนกัน ( ไม่เหมือนพวกดาราชายที่เราได้แต่ดูทางหน้าจอ แต่เข้าถึงไม่ได้ ) แต่ในขณะเดียวกัน ก็อย่าลืมถามใจตัวเองด้วยว่า
กับแฟนที่คบกันอยู่นั้น เรายังรักเขาอยู่มั้ย?
2. แฟนทำผิดอะไร? หรือเรากำลังทำผิดต่อแฟน?
คำถามที่ชวนให้คิดในกรณีที่มีฝ่ายใดฝ่ายนึงนอกใจก็คือ
" คนที่เป็นแฟนเธอเขาทำผิดอะไร? "
ทำไมถึงต้องทำร้ายเขา/เธอด้วยการแอบมีคนอื่น ในหัวข้อนี้ก็บอกได้เลยค่ะว่าคนที่โดนกระทำนั้นไม่ได้มีความผิดหรอก ออกจะน่าสงสารด้วยซ้ำไป ถ้าเราคิดได้ก็จะรู้ว่าเราเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายผิดเสียเอง
แต่เอาเข้าจริงมันคือเรื่องของความรู้สึกเป็นหลัก
หากยังคบกันอยู่โดยที่ไม่เหลือความรู้สึกรักกับคนที่เป็นแฟนแล้วก็ไม่ควรปล่อยให้อีกฝ่ายต้องมาเสียเวลาและเสียความรู้สึกกับเรานาน
นะคะ เพราะสถานการณ์มันจะยิ่งแย่ทั้งเราและเขา เขาเจ็บ เราก็เจ็บและกลายเป็นคนไม่ดีไปด้วย
3. รักไม่ต้องการเวลา แต่กว่าจะรักเท่าวันนี้...ต้องใช้เวลา
แต่น้อยคนนักจะแยกแยะได้ว่าอะไรคือความรัก ความชอบ หรือแค่ความหลง 3 สิ่งนี้มันต่างกันแค่นิดเดียว จริงอยู่ที่ความรักอาจจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วในเวลาไม่นาน เหมือนกับเพลง
" รักไม่ต้องการเวลา "
แต่ในชีวิตจริงมันก็ดูจะเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไป เหมือนกับการเจอใครสักคนในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วรู้สึกดี แต่ไม่รู้ว่ามันคือความรักหรือเปล่า?
ในขณะเดียวกันสำหรับบางคนความรักก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์จนกว่าจะแน่ใจ เหมือนอย่างในเพลง
" กว่าจะรัก "
ที่มีเนื้อหาช่วงหนึ่งว่า
" กว่าจะรักเท่าวันนี้ กว่าจะมีคนมาเข้าใจต้องใช้เวลา ใช่เพียงมองตากันเมื่อไร "
ซึ่งมันคือเรื่องจริงค่ะ คู่รักหลายคู่กว่าจะมาเป็นแฟนกันก็ต้องใช้เวลาศึกษานิสัยใจคอกันนาน มันจึงเหมือนเป็นการบ่มเพาะความรู้สึกดี ๆ เอาไว้ บางครั้งการมีใครคนใหม่เข้ามา แม้จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น กระชุ่มกระชวย แต่เราต้องไม่ลืมคนข้างหลังที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามาก่อนนะคะ
4. แฟนที่คบกันมานาน กับผู้ชายที่รู้จักกันไม่นาน มันเทียบกันไม่ได้

เป็นการขยายความจากข้อที่แล้วค่ะ
คนที่เป็นแฟนกันมานาน ย่อมจะรู้ดีว่าต่างคนต่างมีนิสัยใจคอเป็นยังไง
เรียกง่าย ๆ ก็คือรู้ไส้รู้พุงจนเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มันมีความพิเศษมากกว่านั้น ตรงที่คนเป็นแฟนนั้นคือเพื่อนคู่คิด หรือมากกว่านั้นอาจเรียกว่าเป็นคู่ชีวิตของเรานั่นเอง
ต่างจาก
คนที่เราเพิ่งรู้จักไม่นาน
แม้เราจะชอบพอในตัวผู้ชายอีกคนที่เข้ามาใหม่ แต่เราก็
ไม่สามารถฟันธงได้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร
ความชอบตรงนี้จึงเป็นอะไรที่ฉาบฉวยเกินไป มันเทียบกันไม่ได้เลยกับคนที่เรารู้จักคุ้นเคยกันมานาน
5. จะมีใครทนและรักเรา ได้เท่าคนที่เป็นแฟนมั้ย?
ต่อจากข้อที่แล้วเลย แน่นอนว่าสัมพันธ์ของคนที่เป็นแฟนกัน มันไม่ได้มีแต่ความชื่นมื่น อารมณ์ดี และรอยยิ้มตลอดเวลา บางครั้งมันก็มีเรื่องของความไม่เข้าใจ ความแง่งอน หรืองี่เง่าใส่กัน
ยิ่งคบกันนานเท่าไหร่ นิสัยจริง ๆ ของแต่ละคนมันก็จะเริ่มออกมา แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างยอมรับในข้อเสียของกันและกันได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
ฉะนั้นหากคิดจะยุติความสัมพันธ์กัน จงคิดให้ถี่ถ้วนว่า
หากไปคบกับอีกคนแล้วเขาจะรักในความเป็นเรา รับนิสัยเสีย ๆ ของเราได้เหมือนคนคนนี้มั้ย?
นี่คืออีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก เพราะคนเรานั้นมีความคิดไม่เหมือนกัน จะให้ใครมาแทนที่ใครไม่ได้!
6. นิยามความรักของเรา จริง ๆ แล้วมันคืออะไร?
การนิยามความรักของคนเรานั้นต่างกัน อย่างที่เราได้ยินบ่อย ๆ ก็อาจจะมี รักคือการให้ คือการเสียสละ คือการเห็นคนที่เรารักมีความสุข แต่
สำหรับบางคนรักคือความสุขสบาย
อย่างที่พวกผู้ชายชอบนิยามการเลือกของผู้หญิงว่า ผู้หญิงชอบคนดี คบคนเลว และแต่งงานกับคนรวย... ( เหมือนเป็นการกระแนะกระแหน แต่มองอีกทางก็ทำให้คิดได้ว่าพวกเขากำลังบอกว่าตัวเองเป็นคนดีหรือคนเลวล่ะ? )
มาถึงตรงนี้ก็น่าคิดอีกเหมือนกันว่า
ถ้าเกิดคนที่เข้ามาใหม่ เขามีพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ อนาคต และความมั่นคง เรียกว่าเพียบพร้อมกว่าแฟนที่กำลังคบอยู่ เราจะตัดสินใจอย่างไร
วกกลับไปที่นิยามความรักที่คุยกันตอนแรก ถ้านิยามของเราคือความมีชีวิตดี สะดวกสบาย ก็ต้องกลับมาคิดทบทวนบ้างแล้วค่ะว่าแฟนคนที่คบมานี้เขาเป็นแบบที่เราเองต้องการหรือเปล่า? แล้วถ้าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น เรายังจะเป็นแฟนกับเขาต่อไปมั้ย? ความรักที่มีให้กันมานั้นจะประคับประคองสถานะและความสัมพันธ์ของเราและคนรักไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า?
ถ้าไม่ใช้เรื่องความรัก เราคงได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ในหัวข้อนี้ เราคงหาคำตอบด้วยตัวเอง อย่าใช้ข้อนี้ตัดสินเพียงอย่างเดียว นำข้ออื่น ๆ มาประกอบการตัดสินใจด้วย แล้วเราก็จะเจอคำตอบที่ใช่สำหรับตัวเอง
**************************************
7. ความรู้สึกเพียงชั่ววูบ ปล่อยให้มันเป็นความรู้สึกดีที่่ผ่านมา แล้วก็ผ่านไปเท่านั้น
เป็นเรื่องที่จะหาคำตอบได้ยากจริง ๆ ในท้ายที่สุดแล้วก็คงต้องถามใจตัวเองดูแล้วล่ะว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญต่อเรามากที่สุด แต่ถ้าเป็นไปได้ เราก็ไม่สนับสนุนให้สาว ๆ ไปปันใจให้ชายอื่นที่ไม่ใช่แฟน หรือมีการคบซ้อนนะคะ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ก็อย่างว่า มันคือเรื่องของความรู้สึก แต่ทางที่ดี
ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ผ่านมา แล้วจางหายไปดีกว่า เพราะเรามีคนที่รัก และรักเราอยู่แล้วทั้งคน
สุดกำลังใจให้หาคำตอบกันได้นะคะ แล้วพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่ะ
