ช่วงนี้วันหยุดเยอะเสียด้วย วัยรุ่นอย่างเราก็ต้องอยากจะออกผจญภัยเป็นธรรมดา และคงไม่มีอะไรจะน่าสนุกไปกว่าการแบกเป้สะพายหลังไปท่องโลกแล้ว ถ้าจะให้น่าตื่นเต้นกว่านั้น ลองไปเที่ยวภูเขาดูสิ
ว้าว! ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอก ภูเขานี่แหละ
รับรองว่าเราจะได้สัมผัสกับความแปลกใหม่มากมาย ได้ทดสอบพละกำลังทั้งแรงกายและแรงใจ และถ้าจะให้สนุกมากขึ้น กอดคอกันไปเป็นหมู่คณะเลย รับรองฟินเวอร์ ส่วนจะไปที่ไหนนั้น มาเลย เราจะแนะนำให้
เริ่มจากภูกระดึงยอดฮิต
ภูเขาสำหรับคนกล้า คนที่มีพละกำลังเข้มแข็งประมาณหนึ่งเลยทีเดียว และเป็นหนึ่งในภูเขายอดฮิต ทั้งวัยรุ่นวัยทำงานที่ต้องไปพิชิตสักครั้งหนึ่ง
ภูระดึงเป็นภูเขาสูงอยู่ในจังหวัดเลย มีพื้นที่ราวสามร้อยห้าสิบตารางกิโลเมตร ระยะทางเดินราวเก้ากิโลเมตร สามารถเช่าเต็นท์ของอุทยานค้างแรมด้านบนได้
นอกจากธรรมชาติที่เป็นเสน่ห์อันแพรวพราวของภูกระดึง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ น้ำค้างที่กลายเป็นน้ำแข็งบนยอดหญ้า หรือใบเมเปิ้ลสีแดงที่ไหลลงมากับน้ำตก ซึ่งเราจะเห็นปรากฏเป็นภาพถ่ายอันสวยงามอยู่บ่อยๆ แล้ว
ความท้าทายก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เร้าใจของภูกระดึง เพราะการจะไปให้ถึงยอดภูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
สำหรับการเตรียมตัวไปเดินขึ้นภูกระดึงนั้น
1. ควรจะเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งเบาๆ สักหนึ่งเดือน เพื่อให้ร่างกายชินกับการใช้กำลังหนักๆ สักหน่อย จากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นวิ่งด้วยระยะทางที่ไกลขึ้นและเร็วขึ้น
2. เตรียมอุปกรณ์และข้าวของเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ กระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อยที่ไม่จำเป็นไม่ต้องพกไปให้เหนื่อย การเดินทางระยะไกลๆนั้น ยิ่งแบกของน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
3. เช็คสุขภาพของตัวเองก่อนขึ้นด้วยว่าไม่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในภาวะเจ็บป่วย ร่างกายไม่พร้อม
4.จัดเตรียมยารักษาโรค ยาประจำตัว ยาสามัญที่จำเป็นไปด้วย เช่น ยาที่ใช้ใส่แผล พลาสเตอร์ สำลี เป็นต้น
5. เลือกรองเท้าผ้าใบที่สวมใส่สบาย เหมาะกับการเดินเป็นระยะเวลานานๆ
6. เตรียมกำลังใจให้พร้อม แล้วลุย! เลย
การเดินทางไปภูกระดึง
สามารถเดินทางได้ทั้งรถส่วนตัว และรถประจำทาง ไปลงที่ภูกระดึงเลยก็ได้ ซึ่งมีหลายบริษัทให้เลือก ขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายเหนือ หรือจะนั่งรถไฟไปลงอุดรธานี แล้วต่อรถโดยสารไปที่จังหวัดเลย รวมถึงคนที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินก็สามารถไปลงที่อุดรธานี แล้วต่อรถโดยสารไปได้เช่นเดียวกัน
เพิ่มความหวาดเสียวขึ้นมาอีกกับเขาช้างเผือก
เป็นยอดเขาที่โด่งดังได้ไม่นาน แต่ขึ้นชื่อเรื่องความท้าทายระดับต้นๆ เป็นเขาที่อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งการจะเดินขึ้นไปนั้นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานานให้นำทางเท่านั้น และทางเจ้าน้าที่จะให้เราค้างบนยอดเขาอย่างน้อยหนึ่งคืน ซึ่งหนทางเดินค่อนข้างลำบากมาก แต่รรยากาศนั้นบอกเลยว่า ยกนิ้วโป้งได้สองนิ้วเลยทีเดียว
สุดยอดเสน่ห์ของเขาช้างเผือกก็คือสันคมมีด ที่สองข้างทางเป็นทางสไลด์ลงเขา ซึ่งทั้งน่ากลัวทั้งหวาดเสียว และสวยงามในคราวเดียวกัน เป็นความท้าทายที่เรียกร้องให้เหล่านักท่องเที่ยวต่างก็พยายามเดินทางมาสัมผัสสถานที่แห่งนี้
แต่บอกไว้ก่อนว่า ถ้าจะขึ้นไปเดินเขานั้นต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ และจำกัดให้ขึ้นได้เพียงวันละประมาณ 5-60 คนเท่านั้น
อ๊ะ! ก่อนจะไปเช็คด้วยนะว่าเขาช้างเผือกนั้นเปิดหรือยัง เพราะในแต่ละปี จะมีช่วงเวลาที่เปิดให้นักเที่ยวเข้าไปเพียงไม่นานเท่านั้น!
ออกจากเขาช้างเผือกแล้วไปภูเขาชื่อสวยๆ อย่างภูสอยดาวกันบ้างดีกว่า
อุทยานแห่งช่ติภูสอยดาวครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และพิษณุโลก ความสูงนั้นจัดอยู่ที่อันดับ 4 ของประเทศไทย มีความเป็นธรรมชาติและสวยงาม จึงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยี่ยมชมอยู่เรื่อยๆ และเป็นอีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติทางภาคเหนือที่มีชื่อเสียง อีกหนึ่งความสวยงามที่ท้าทายสำหรับคนที่สามารถเดินทางขึ้นภูมากกว่าสี่ชั่วโมงขึ้นไปได้ ด้วยระยะทางราว 6 กิโลเมตร กับธรรมชาติป่าสองข้างทางที่จะทำให้คุณหลงรักได้ง่ายๆ
เสน่ห์ของภูสอยดาวนอกจากความท้าทายแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามอย่าง ดอกหงอนนาคที่จะบานช่วงสิงหาคม ซึ่งยามบานนั้นจะบานเป็นทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วง สวยงามมากทีเดียว ทั้งตลอดสองข้างทางยังได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทั้งแอ่งน้ำ และความเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่
อ๊ะๆ! แต่ก่อนจะไปเดินป่าอย่าลืมแวะน้ำตกภูสอยดาวกันก่อนล่ะ
การเดินทางไปภูสอยดาว สามารถโดยสารรถประจำทาง มายังจังหวัดพิษณุโลก แล้วนั่งรถต่อไปที่อำเภอชาติตระการ จากนั้นจึงนั่งรถสองแถวต่อไปยังบริเวณน้ำตกภูสอยดาว หรือใครจะติดต่อเช่ารถของอุทยานให้มารับที่ที่ขนส่งจังหวัดพิษณุโลกเลยก็ได้
แต่หากไปเป็นหมู่คณะใหญ่ๆ จะเช่ารถตู้ไปเองก็สะดวกดีเช่นเดียวกัน
เห็นแต่ละที่แล้ว สาย backpack อาจจะร้องว้าวกันเลยทีเดียว งานนี้บอกเลยว่า อย่าช้า! ฟิตร่างกายให้พร้อมแล้วไปท้าทายยอดเขากันเลยยย