ฮัลโหลลลล สวัสดีค่าชาวซิส ♥ รู้สึกไหมคะว่าช่วงนี้มีข่าวเรื่องของ " การนอกใจ "เยอะมาก ๆ เดี๋ยวคู่นั้นเลิกกันเพราะมีมือที่สาม เดี๋ยวคู่นี้ก็ทะเลาะกันเพราะอีกฝ่ายไปมีคนอื่น เยอะขึ้นจนงงว่าเอ๊ะ... มันเป็นปกติแล้วจริง ๆ เหรอในยุคนี้ หรือว่ามันไม่ปกติกันนะ? แล้วสถานการณ์ไหนบ้างที่จะนำไปสู่การนอกใจ บทความนี้เราจะพาทุกคนไปเมาท์มอยเรื่องนี้กันจ้า ว่าปัจจุบันนอกใจมันผิดไหม ? แล้วก็บอก 10 สถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่อาจจะนำพาไปสู่การนอกใจ และยังไม่หมดนะคะ เรายังบอกวิธีการหลีกเลี่ยงสถานการณ์พวกนี้ด้วย จะมีอะไรบ้างหลาย ๆ คนคงอยากเมาท์แล้วละสิท่า งั้นมาอ่านกันเลยจ้า!
❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤❤ ❤
ในปัจจุบัน " การนอกใจ " เป็นเรื่องที่ผิดไหม ?
หลาย ๆ คนก็เริ่มจะตั้งคำถามแล้วใช่ไหมคะว่าเดี๋ยวนี้เรื่องของการนอกใจเป็นเรื่องที่ผิดรึเปล่า? เพราะเห็นคนในสังคมนอกใจกันเยอะมากขึ้นจนดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งถ้าพูดกันจริง ๆ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง นั่นแหละค่ะ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องที่บังคับไม่ได้เช่นกัน เพราะคนเราจะเกิดความรู้สึกรักหรือชอบใครสักคนมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง ห้ามความรู้สึกกันไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะบอกว่าเราไม่ผิดเพราะบางสถานการณ์ตัวเราก็สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ เช่น เรามีแฟนแล้วแต่มีคนมาชอบเรา เราก็เลือกคุยกับคนนั้นด้วย เพราะมองว่าเรามีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ผิดที่เราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองนะคะ แต่เราต้องรู้ตัวว่าเรามีแฟนแล้วอะไรที่สุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดการนอกใจและมีมือที่สามนี่ต้องเลี่ยงเลยค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็เริ่มอยากจะรู้ใช่ไหมคะว่า มีสถานการณ์ไหนบ้างละที่สุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดการนอกใจ งั้นมาดู 10 สถานการณ์ด้านล่างนี้กันเลยจ้า
ส่อง 10 สถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การนอกใจ
1. ระยะทางที่ไกลทำให้ใจเริ่มห่าง
สถานการณ์แรกเลยที่สุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดการนอกใจคือความห่างของระยะทางนั่นเองค่ะ มีหลายคู่เลยที่จะต้องอยู่ไกลกันบางคนอาจจะแค่ระยะตำบล อำเภอ บางคนก็ระดับจังหวัด ประเทศหรือทวีปเลย สิ่งนี้ก่อให้เกิดการนอกใจได้ง่ายขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ เพราะคนที่เป็นแฟนกันแล้วอยู่ใกล้ ๆ กันมันยังพอจะนัดเจอกันได้ใช่ไหมละคะแต่ถ้าเราอยู่ไกลกันก็จะทำให้เจอกันได้ยากมากยิ่งขึ้น ช่องว่างก็จะมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเจอใครที่สามารถรับฟังอยู่ด้วยกันได้โดยที่ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางให้ยาวนานเหมือนคนรักของเรา มันก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกดี ๆ กับคนอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไปนะคะถ้าใจเรามั่นคง หมั่นคุยกันเรื่อย ๆ ประคับประคองความสัมพันธ์กันไป เติมเต็มกันและกัน โอกาสนอกใจก็อาจจะลดน้อยลงได้เหมือนกันค่ะ
2. ปล่อยให้อีกคนรู้สึกเหงา
ข้อนี้อาจจะคล้าย ๆ กับข้อด้านบนสักหน่อย เนื่องจากการอยู่คนละประเทศจะทำให้เวลาของคนสองคนไม่ตรงกัน บ้านเราเช้า ต่างประเทศอาจจะดึกมากเป็นต้น ก็เลยทำให้ได้คุยกันน้อยลง มีเวลาให้กันน้อยลงไปอีก แล้วนอกจากคนละประเทศก็ยังมีในเรื่องของช่วงอายุ อาชีพ เวลาทำงานต่าง ๆ ที่ไม่ตรงกัน เราหยุดเขาทำงาน เราทำงานเขาหยุดอะไรแบบนี้มันก็สุ่มเสี่ยงทำจะทำให้ต่างฝ่ายอาจจะไปเจอคนที่เวลาตรงกันแล้วนอกใจเราในที่สุดนะคะ วิธีการเลี่ยงเหตุการณ์พวกนี้คือพยายามหาเวลาที่ว่างตรงกันแล้วโทรหากันบ้างค่ะหรือไม่ว่างก็บอกกันบ้าง ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างช่วยกันประคับประคองมัน เวลามีน้อยให้ได้คุยได้เจอยังไงก็มีโอกาสน้อยลงนะคะที่จะเกิดการนอกใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องมั่นคงกับจิตใจตัวเองให้มากน้า อย่าไขว้เขวง่าย ๆ ล่ะ!
3. เวลาไม่เคยตรงกัน หรือเวลาตรงกันน้อยมาก
ข้อนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ อาจจะเพราะทำงาน/เรียนจนไม่มีเวลาว่าง หรือจะเป็นเพราะชอบไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ จนปล่อยให้อีกคนรู้สึกเหงาการที่ปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกเหงาหรือรู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีแฟนหรือไม่จำเป็นต้องมีเราก็ได้ สิ่งนี้แหละค่ะจะทำให้เขามีโอกาสนอกใจหรืออาจจะมีโอกาสเลิกกับเราสูงม้ากกกก ดังนั้นเนี่ยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราก็จะต้องพยายามค่ะ!พยายามในที่นี้ไม่ใช่การพยายามแบบฝืนใจนะคะ ต้องเป็นการพยายามด้วยความเต็มใจที่จะทำแม้เราจะไม่ว่างแค่ไหนก็พยายามแวะมาคุยมาบอกฝันดีกันหน่อยก็ยังดี หรือถ้าไม่ว่างจริง ๆ ก็บอกเขาไปว่าเราไม่ว่างนะช่วงนี้ไลน์มาได้แต่อาจจะตอบช้ามาก ๆ หรือไม่ตอบเลย บอกให้อีกฝ่ายสบายใจหน่อยก็จะดีกว่าการปล่อยให้เขาน้อยใจและนั่งเหงาคนเดียวน้า ไม่งั้นถ้าเขาไปเจอใครที่มาทำให้เขาหายเหงาได้ วันนั้นเราเองนี่แหละค่ะจะเป็นคนเสียใจ
4. การทะเลาะกันบ่อย ๆ ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง / ใช้อารมณ์นำเหตุผล
อีกหนึ่งสถานการณ์ที่ทำให้นำไปสู่การนอกใจได้ง่ายมาก ๆ ก็คือการทะเลาะกันบ่อย ๆ นั่นเองค่ะถ้าทะเลาะกันในเรื่องไม่เข้าใจกัน ไม่ได้ลงไม้ลงมือ ไม่ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายแต่มีการขึ้นเสียงใส่กันอาจจะยังพอปรับจูนเข้าใจกันได้เพราะความรักและการคบกันมันก็ต้องมีเข้าใจไม่ตรงกันบ้าง แต่ถ้าทะเลาะกันบ่อย เรื่องนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เอามาเป็นประเด็นจนบานปลาย เริ่มมีการทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของ ใช้คำหยาบคาย อะไรพวกนี้ถ้าเกิดขึ้นบ่อยมาก ๆ มันจะก่อให้เกิดความ Toxic หรือความสัมพันธ์เริ่มเป็นพิษคบกันไปก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีทั้งคู่ ยิ่งถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเจอคนที่ทำให้เขาสบายใจกว่า ไม่รู้สึกว่าที่รักกันมันเหนื่อยก็มีโอกาสสูงเลยค่ะที่จะทำให้การนอกใจเกิดขึ้น
5. นิสัยบางอย่างไม่ตรงกัน
ถึงแม้ว่าเราจะคบกับคนรักไปนาน ๆ จนรู้จักกันดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าต่างฝ่ายต่างจะตอบโจทย์เราไปซะทุกเรื่อง อาจจะมีบางเรื่องที่เข้ากันไม่ได้หรืออีกฝ่ายยังเติมเต็มให้เราได้ไม่มากพอ เช่น เราชอบศิลปินเกาหลีแต่แฟนไม่พอใจ แฟนไม่โอเคที่เรากรี๊ดกร๊าดมันก็อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ความสัมพันธ์เริ่มมีรอยร้าวได้เหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้าเราไปเจอใครอีกคนที่มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายได้มากกว่าเขาเข้าใจเราในเรื่องติ่งมากกว่าแฟนคนปัจจุบัน เขารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไรมันก็อาจจะทำให้รู้สึกหวั่นไหวได้เหมือนกันค่ะ ถามว่าสถานการณ์แบบนี้เลี่ยงได้ไหมก็อาจจะเลี่ยงได้นะคะ แต่ว่าบางครั้งมันก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหมือนกันอย่างบางคนบังเอิญว่ารู้จักกันมาก่อนแล้วดั๊นมาเข้าใจเราในจังหวะที่เรากำลังนอยด์แฟนพอดีอะไรงี้ มันก็มีสิทธิ์จะหวั่นไหวง่ายด้วยนะคะ
6. อยู่กับอีกคนแล้วสบายใจมากกว่า
อยู่กับอีกคนแล้วสบายใจมากกว่า อันนี้ต่อให้รักกันดีแต่ถ้าแฟนของเราเป็นผู้ฟังที่ไม่ดีเลย แล้วไม่สามารถพูดคุยปรึกษาหรือบ่นนั่นนี่ให้ฟังได้ มันก็มีโอกาสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเริ่มอยากหาคนที่คุยกับเราได้ทุกเรื่องจริง ๆ ขึ้นมาได้เหมือนกันค่ะสถานการณ์นี้จะบอกว่ายังมีโอกาสแก้ไขได้มากที่สุดแล้วนะคะ ถ้าใครเป็นผู้ฟังที่ไม่ดีบ่อย ๆ อยากให้ปรับปรุงดูน้า มันไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย สามารถปรับจูนกันได้ ลองค่อย ๆ ปรับกันไป ถ้าปรับได้รับรองว่าโอกาสที่จะนอกใจก็น้อยลงแน่นอนเลยละค่า~
7. ไม่ได้คิดจะคบคนนี้แบบจริงจัง
ไม่ได้คิดจะคบกับคนนี้อย่างจริงจังฟังดูแรงม้ากกก แต่มีหลายคนเป็นแบบนี้จริง ๆ ค่ะเพราะเขารู้สึกว่าเขาเลือกได้ เขาสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ เขาไม่ผิด คือก็ใช่แหละค่ะว่าเขามีสิทธิ์เลือกได้แต่เขาจะต้องไม่เลือกตอนที่มีคนที่คบอยู่ มันคือการให้เกียรติอีกฝ่ายแล้วก็เป็นการซื่อสัตย์ต่อความสัมพันธ์ด้วย ถ้ายังอยากจะเลือกคนที่ดีที่สุดจริง ๆ ก็อยากให้หาจนเจอก่อนค่ะถ้าเจอก็ค่อยคบ การมาคบคนนี้แล้วนอกใจไปหาคนนั้นทีคนนี้ทีมันไม่ใช่แล้วน้า อย่าเอามาอ้างว่าเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเพราะนี่มันคือ การกระทำของคนเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ได้มากกว่า ( อันนี้เป็นกรณีคบแล้วนอกใจไปหาคนอื่นเลยเอาเหตุผลมาอ้างนะคะ ถ้าคบแล้วไม่ใช่เลยต้องเลิกเพื่อเปลี่ยนคน อันนั้นถึงจะใช้การเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ค่ะ )
8. การได้กลับมาเจอ/คุยกับแฟนเก่า คนคุยเก่า คนที่เคยแอบชอบ
การได้กลับมาคุยกับคนที่ชอบ คนที่เคยคุยด้วย หรือแฟนเก่าอีกครั้ง เนี่ยมีโอกาสเหมือนกันนะคะ ที่จิตใจเราจะเปลี่ยนและหวั่นไหวอีกครั้ง โดยเฉพาะคนที่เคยแอบชอบนี่เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก ๆ นะคะ คือเราเคยได้แค่แอบชอบเขาไกล ๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้มาคุย ได้มาใกล้ชิด แล้วยิ่งถ้าอีกคนเอาใจใส่ ตอบโจทย์ในใจเราได้หมดทุกอย่างอีก โอกาสที่เราจะไขว้เขวมีสูงพอสมควรเลยค่ะ เพราะเขายังไม่เคยได้มาเป็นแฟนเรา ทำให้เราอาจจะรู้สึกอยากลองดูสักตั้งก็ได้
นอกจากคนที่เคยแอบชอบก็ยังมีถ่านไฟเก่าแบบคนคุยเก่าและแฟนเก่าอีก คนพวกนี้พอจะรู้ความชอบ/ไม่ชอบของเราด้วยนะคะ ถ้าเรากับแฟนคนปัจจุบันมีความสัมพันธ์ระหองระแหงด้วยคือ เสี่ยงกลับไปอ่านหนังสือเล่มเดิมได้มากขึ้นไปอีกค่ะ หรือเราอาจจะยังลืมเขาไม่ได้ เหตุผลนี้คือจบได้เลยแบบไม่ต้องเสี่ยงเพราะโอกาสรีเทิร์น 80% ค่ะ ถ้ารู้ทั้งรู้ว่ายังลืมใครไม่ได้ก็ไม่อยากให้ไปคบคนใหม่นะคะ เพราะถ้าวันนึงลืมไม่ได้จริง ๆ ทั้งเราและแฟนคนปัจจุบันก็จะเจ็บปวดเปล่า ๆ สรุปเลยก็คือถ้ายังไม่ลืมใครก็อย่าเพิ่งคบคนใหม่ แล้วถ้ากลัวว่าตัวเองจะไขว้เขวก็ให้เลี่ยงการพูดคุยกับเขาไปเลย จะได้ไม่กลับไปรู้สึกอะไรอีก โอเคนะค้า~
9. เซ็กซ์ / การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ตรงจริตกัน
นอกจากเรื่องความรักที่มีให้กัน เรื่องของเซ็กซ์หรือการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เข้ากันก็มีโอกาสที่ทำให้อีกคนนอกใจได้เหมือนกันนะคะ จริงอยู่ว่าความรักไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ตลอดก็ได้ แต่บางคนเขาต้องการจะมี แล้วก็อาจจะมีในรูปแบบที่เราไม่คุ้นเคย เช่น BDSM ( การมีเพศสัมพันธ์แบบชอบความเจ็บปวดและชอบให้อีกฝ่ายเจ็บปวด ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นความเจ็บปวดที่ได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย มีสติทั้งสองฝ่าย ตกลงกติกาทั้งสองฝ่ายและได้ทำการศึกษาวิธีการทำมาแล้วด้วย ห้ามคิดลองทำเล่น ๆ เป็นอันขาดนะคะ อันตรายมาก ๆ ) เป็นต้น เรื่องพวกนี้ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็มีบ่อยเลยค่ะที่อีกฝ่ายไปนอกกาย แถมบางคนก็นอกใจไปด้วย ถ้ามันไม่ตรงกันจริง ๆ อยากให้ลองคุยปรับเข้าหากันก่อนแล้วถ้ามันไม่ใช่จริง ๆ ก็ยอมเลิกกันดีกว่านะคะ จะได้ไม่เสียความรู้สึกทั้งสองฝ่ายด้วย
10. ไม่รู้สึกรักอีกคนแล้ว
ข้อสุดท้ายปิดได้เจ็บปวดสุด ๆ นะคะ แต่ถึงจะเจ็บปวดแต่มันเกิดขึ้นได้จริงค่ะ คือความรักบ่อยครั้งถ้ามันเดินทางมาถึงจุดนึงที่เรารู้สึกว่ามันทำครบหมดแล้ว มันไม่มีอะไรที่ต้องทำด้วยกันแล้ว แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเราไม่รู้สึกรักอีกคนแล้วจริง ๆ มันเป็นอะไรที่พูดยากมากนะคะ คือการรู้สึกไม่รักแล้วแต่ยังคบมันอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่บางคู่ก็คบกันมานานมากจนไม่รู้จะพูดยังไง จะบอกเลิกยังไงกลัวอีกคนเสียใจก็เลยเลือกเก็บมันไว้กับตัวแทน จนวันนึงได้ไปเจอคนที่ใช่และทำให้ใจเต้นแรงอีกครั้งในขณะที่ยังคบอีกคนอยู่ ทีนี้แหละค่ะ บอกเลยว่ารู้สึกแย่กันไปกว่าเดิมอีก อยากบอกทุกคนจริง ๆ นะคะว่าถ้ามันอิ่มตัวจนเราไม่รู้สึกแล้วจริง ๆ ยอมบอกเลิกไปดีกว่าเขามารู้ทีหลัง มันจะได้ไม่เสียความรู้สึกขนาดนี้เน้อ
มีวิธีแก้ไขไม่ให้มันเกิดไหม หรือถ้ามันเกิดขึ้นแล้วจะทำยังไงได้บ้าง ?
แล้ววิธีแก้ไขหรือทางเลือกอื่น ๆ ที่จะยับยั้งไม่ให้มันเกิดการนอกใจมีรึเปล่า? ว่ากันตามจริง มันก็ไม่มีตายตัวหรอกนะคะ เพราะเรื่องนี้มันอยู่ที่จิตใจของเรามากกว่า ถ้าเรามั่นคงต่อคนรัก ทั้งเราและเขาช่วยกันประคับประคองกันอย่างดีเรื่องการนอกใจหรือไปรักคนอื่นก็แทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย แต่ถึงอย่างนั้นจิตใจคนเรายากแท้หยั่งถึงนะคะ แม้จะรักกันดี อยู่ด้วยกันทุกวันหรือมีเรื่องทะเลาะ มีเรื่องให้อยู่ห่างไกลกัน สุดท้ายแล้วถ้าจิตใจของเรามันเปลี่ยนไปจริง ๆ ก็ต้องยอมรับค่ะว่าฉันได้นอกใจคนรัก/หรือเลิกรักเขาไปแล้วจริง ๆ สิ่งที่เราควรจะทำมากที่สุดก็คือบอกเลิกอีกฝ่ายให้มันเคลียร์ ๆ ดีกว่า ไม่ต้องยื้อเขาไว้กับเรา แล้วก็ไม่ต้องยื้อให้ตัวเราต้องทนอยู่กับเขา เขาจะได้ไม่ต้องมาเสียใจและเสียความรู้สึกมากไปกว่านี้... ( มีต่อ )
แล้วก็อย่าให้ถึงขั้นคบซ้อนหรือไปถึงขั้นอื่น ๆ ลับหลังแฟนด้วยนะคะเพราะนอกจากมันจะเป็นเรื่องที่ผิดและแย่มาก ๆ แล้ว มันยังเป็นการไม่ให้เกียรติอีกฝ่ายมาก ๆ ด้วย นอกจากนี้ก็อยากจะฝากไว้ด้วยว่า ตัวเราก็ต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้แฟนของเรารู้สึกไม่สบายใจด้วย เช่น การคุยกับแฟนเก่าบ่อย ๆ หรือคุยกับคนที่มาแอบชอบตัวเอง( อันนี้เป็นการให้ความหวังเขากลาย ๆ ด้วยนะคะ ถึงเราจะแสดงออกว่าไม่ใช่แต่คนที่ชอบมีโอกาสคิดเข้าข้างตัวเองสูงมาก ๆ ค่ะ ดังนั้นคุย/ทักทายเท่าที่จำเป็นจะดีที่สุดนะคะ ) เป็นต้น เรื่องพวกนี้เป็นต้นตอที่ทำให้ความสัมพันธ์หลายคู่ผิดใจกันมานักต่อนักแล้ว แม้ว่าใจจริงแล้วเราจะไม่ได้คิดอะไรหรือเกิดการนอกใจก็ตาม เพื่อความสบายใจของเขาและเลี่ยงสถานการณ์สุ่มเสี่ยงด้วยก็นับว่าโอเคอยู่นะคะ( ใด ๆ ไม่ใช่ว่าเขาหึงไปเรื่อยด้วยเน้อ ถ้าแค่คุยกับเพื่อนที่ทำงานเรื่องงานก็ไม่พอใจ อันนี้ค่อนข้างจะเกินเหตุไปหน่อย ก็ต้องลองคุยกับเขาให้รู้เรื่องดูนะคะ หรือแสดงความบริสุทธิ์ใจให้แฟนเห็นก็ได้นะเออ )
❤ ❤ ❤❤ ❤ ❤ ❤ ❤❤ ❤
จบการเมาท์มอยเรื่องของ" การนอกใจ "แล้วจ้า เรื่องนี้ยอมรับเลยว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆสำหรับความสัมพันธ์เพราะเรื่องนี้มักจะเป็นจุดจบของความสัมพันธ์ของหลาย ๆ คู่เลย อย่างที่บอกนะคะว่าถ้าเรารู้สึกกับใครอีกคนมากกว่าแฟนก็เลือกจบความสัมพันธ์กับแฟนไปเลยจะดีกว่า อย่ายื้อให้มันเสียความรู้สึกกันไปมากกว่านี้ แม้ว่าความสัมพันธ์ของเรากับอีกคนยังไม่ถึงขั้นคบซ้อนก็ตาม แค่เรารู้สึกกับใครอีกคนมากกว่าแฟนก็ควรทำทุกอย่างให้มันถูกต้องนะคะ ส่วนชาวซิสมีความคิดเห็นยังไงก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้นะคะ หรือจะกดแชร์ไปคุยกับเพื่อน ๆ ในโซเชียลก็ได้น้า ส่วนทางเราก็ขอตัวลาทุกคนไปก่อนแล้วค่า บทความหน้าจะมีอะไรมาชวนเมาท์มอยอีกก็รอติดตามด้วยน้า บ๊ายบาย :-D
Designer : lilybaecon
Writer : pumxpurin
บทความแนะนำ
นอกกายแต่ไม่นอกใจ ถือว่าผิดไหม ? แล้วควรทำยังไงกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นดี ? | บทความของ pumxpurin | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/97520
ทำไมแฟนถึงนอกใจ จับผิด 7 นิสัยตัวเอง ที่ทำให้แฟนหนุ่มทนไม่ไหว ต้องขอเลิก | บทความของ belfry | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/66635
ถูกทรยศมันเจ็บแบบนี้! 7 ทริคมูฟออนเมื่อ 'ถูกแฟนนอกใจ' สลัดความทรงจำเลวร้าย พร้อมมีชีวิตใหม่ได้สักที ❤ | บทความของ Mollacake | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/81015