1. SistaCafe
  2. ลักษณะและชื่อเรียกของ กระโปรง 15 ชนิด #คลายข้อสงสัยกันค่ะซิส

สวัสดีค่าสาวๆSistaCafe!

เอ...เพื่อนๆ เคยประสบปัญหาเดียวกันกับแฟงรึเปล่าคะ? นั่นก็คือแยกไม่ออกว่ากระโปรงทรงนี้กับอีกทรงหนึ่งมันต่างกันอย่างไร? หรืออ้าวแล้วตกลงทรงนี้มันมีชื่อเรียกว่าอะไรล่ะ? ดังนั้นวันนี้แฟงจึงได้นำเอาสาระความรู้มาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ เพื่อคลายข้อสงสัยนี้กันค่ะ


โดยแฟงจะยกประเภทของกระโปรงมาทั้งหมด 15 แบบแล้วเรามาดูกันว่าแต่ละแบบเนี่ย มันมีชื่อเรียกและลักษณะรูปทรงรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง


...งั้นพวกเราไปรู้จักกระโปรงทั้ง 15 แบบนี้กันเลยดีกว่า!! >0<


1. A-Line Skirt ( กระโปรงทรงเอ )

กระโปรงทรง A-Line หรือกระโปรงทรงเอซึ่งชื่อนี้มีที่มาจากลักษณะรูปทรงของทรงกระโปรงนั่นเองค่ะ! โดยลักษณะของกระโปรงจะมีลักษณะแคบในส่วนบนหรือช่วงเอว แล้วจะค่อยๆ บานออกแต่จะไม่มีจีบค่ะ เหมาะกับสาวๆ สะโพกใหญ่หรือต้นขาใหญ่กระโปรงทรงเอจะช่วยซ่อนรูปได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้เราสามารถใส่กระโปรงทรงเอได้ทั้งเป็นชุดแฟชั่น ชุดสุภาพหรือกระโปรงนักศึกษาก็ยังมีทรงเอด้วยนะ หากนักศึกษาสาวๆ คนใดสนใจกระโปรงนักศึกษาทรงเอล่ะก็...อย่าลืม! ดูความยาวที่เหมาะสมด้วยนะคะ จะได้เป็นนักศึกษาสาวที่ทั้งสวยและดูดี ไม่มีใครมาว่าหรือมองเราไปในทางที่ไม่ดีแน่นอน

2. Pencil Skirt ( กระโปรงทรงดินสอ/ทรงสอบ )

กระโปรงทรงดินสอหรือกระโปรงทรงตรงเป็นกระโปรงที่มีความยาวประมาณเข่าลงไปจนถึงครึ่งน่อง ไม่มีจีบและมีลักษณะเป็นทรงตรง ความกว้างของส่วนเอวเท่ากับส่วนปลายของกระโปรงวัสดุเนื้อผ้าที่เลือกใช้มักเป็นผ้าที่มีความยืดหยุ่น เหมาะกับการใส่ในโอกาสที่เป็นทางการเนื่องจากเมื่อใส่แล้วจะให้ลุคที่เรียบร้อย ปราดเปรียวและสุภาพ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในรูปแบบของกระโปรงนักศึกษาอีกด้วยนะ

3. Tube Skirt ( กระโปรงทรงกระบอก )

กระโปรงทรง Tube หรือกระโปรงทรงกระบอกมีลักษณะคล้ายกับกระโปรงทรงดินสอแต่ต่างกันที่ความยาว โดยความยาวของกระโปรงทรงกระบอกจะสั้นกว่า วัสดุเนื้อผ้าที่เลือกมาทำมักเป็นผ้าที่มีความยืดหยุ่น กระโปรงทรงนี้จะเหมาะมากๆ กับสาวๆ ที่มีรูปร่างเพรียวบางและมีเรียวขาที่ยาวสวย โชว์หุ่นเป๊ะปังกันไปเลยค่ะงานนี้!แต่ช้าก่อน! ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ลุคที่เปรี้ยวแซ่บอย่างเดียวนะคะ เราสามารถนำไปประยุกต์ใส่เป็นชุดทำงานหรือชุดสุภาพได้ด้วย เพียงแต่ต้องรู้จักมิกซ์แอนด์แมทซ์ เลือกสีและความยาวให้เหมาะกับงานและโอกาสค่ะ

4. Circle Skirt ( กระโปรงทรงวงกลม )


กระโปรงทรง Circle หรือกระโปรงทรงกลมลักษณะคือส่วนเอวจะพอดีและส่วนปลายจะบานออก วัสดุเนื้อผ้าที่เลือกมาทำกระโปรงนี้มักเป็นผ้าที่มีลักษณะบางเบาค่ะ และหากเพื่อนๆ ยังนึกไม่ออกว่ากระโปรงทรงนี้มันเป็นยังไงล่ะก็ ลองนึกถึงกระโปรงสไตล์วินเทจสิคะ นั่นแหละใช่เลย!ส่วนเรื่องของชื่อนั้นมีที่มาจากเมื่อจับกระโปรงกางออกจะเห็นได้ว่ามีลักษณะเป็นวงกลม แหนะ!นึกภาพกันไม่ออกใช่ไหมล่า~ไม่เป็นไรค่ะ นี่เลยเลื่อนลงไปอีกนิด แฟงเอาตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ดูแล้ว!

5. Pleated Skirt ( กระโปรงพลีท )


กระโปรงพลีท ( Pleated )กระโปรงทรงนี้แฟงเชื่อว่าสาวๆ ทุกคนน่าจะเคยเห็นและรู้จักกันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะคะ? เห็นได้บ่อยๆ เลยคือกระโปรงนักศึกษาค่ะ โดยลักษณะเด่นเลยคือการมีจีบรอบตัว จีบเล็กบ้างจีบใหญ่บ้าง กระโปรงพลีทเหมาะกับสาวรูปร่างท้วมเพราะจะสามารถช่วยซ่อนรูปได้อย่างดี ส่วนสาวๆ รูปร่างผอมบาง หากอยากมีสัดส่วนขึ้นมาพลีทก็เป็นอีกทางที่จะช่วยได้นะ!และไม่ใช่ว่ากระโปรงพลีทจะมีแต่กระโปรงนักศึกษาเท่านั้นนะคะ กระโปรงพลีทแฟชั่นก็มีเหมือนกัน มีมากมายหลายแบบเลยทั้งกระโปรงพลีทสั้น พลีทยาว ไหนจะสีและเนื้อผ้าอีก เลือกตามความชอบของตัวเองกันไปเลย!

6. Tennis Skirt ( กระโปรงเทนนิส )


กระโปรงเทนนิส ( Tennis )กระโปรงสไตล์สาวเกาหลีที่กำลังฮอตฮิตมาแรงแซงทางโค้งมากๆ ในขณะนี้นั่นเอง!! นอกจากจะได้ลุคที่ดูโคเรียนสุดๆ แล้วนะ ยังให้ลุคสปอร์ตเกิร์ลไปอี๊ก! และที่ชื่อว่ากระโปรงเทนนิสนั่นก็เพราะว่าต้นแบบมาจากกระโปรงที่นักกีฬาหญิงเทนนิสใส่เวลาเล่นเทนนิสค่ะโดยมีลักษณะเป็นกระโปรงสั้นมีจีบรอบตัว คล้ายกับพลีท แต่ต่างกันตรงที่ส่วนบนของกระโปรงนั้นจะแนบไปกับลำตัว ไม่บานออก ถ้าสาวๆ คนไหนไม่อยากเอ้าท์! รีบเลยค่ะ! ต้องมีติดตู้เสื้อผ้ากันไว้ซักตัวสองตัวซะแล้วว!

7. Skater Skirt ( กระโปรงบาน )


กระโปรง skater หรือกระโปรงบานกระโปรงทรงนี้จะมีลักษณะเด่นเลยคือความบานและความพลิ้วไหว โดยกระโปรงทรงนี้มีทั้งแบบสั้นและยาว เป็นกระโปรงที่ให้ลุคผู้หญิ๊งผู้หญิงสุดๆ ไปเลยล่ะ! ยิ่งใส่กับเสื้อผ้าสีหวานๆ แล้วด้วยนะโอ้โห! หวานน้ำตาลเรียกพี่เลยทีเดียว ฮ่ะๆส่วนชื่อ skater นั้นมีที่มาจากกระโปรงทรงนี้นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระโปรงของนักสเก็ตน้ำแข็งค่ะ

8. Bubble Skirt ( กระโปรงทรงบอลลูน )


กระโปรงทรง Bubble หรือกระโปรงทรงบอลลูนกระโปรงรูปทรงน่ารักที่มีลักษณะคือมองแล้วลักษณะของมันจะพองๆ ส่วนปลายของกระโปรงมีลักษณะที่งุ้มเข้าไปด้านใน ส่วนมากเป็นกระโปรงสั้น เหมาะสำหรับสาวๆ หุ่นเพรียวหรือสาวๆ ที่มีขาเรียวเล็ก จะยิ่งทำให้ดูมีส่วนเว้าส่วนมากขึ้นค่ะ

9. Tulip Skirt ( กระโปรงทรงทิวลิป )


กระโปรงทรงทิวลิป ( Tulip )ลักษณะของกระโปรงก็ตามชื่อเรียกของเขาเลยค่ะ นั่นก็คือมีลักณะคล้ายรูปทรงของดอกทิวลิป คือ ด้านหน้าของกระโปรงจะมีการพับซ้อนกันเหมือนกับกลีบของดอกทิวลิป มีความยาวประมาณเข่า กระโปรงทรงนี้เหมาะกับการเป็นชุดสุภาพ เนื่องจากให้ลุคที่ดูดีและเรียบร้อย

10. Mermaid Skirt ( กระโปรงทรงนางเงือก/หางปลา )


กระโปรงทรงนางเงือกหรือกระโปรงหางปลา ( Mermaid )เป็นกระโปรงที่มีลักษณะเหมือนกับหางของนางเงือกหรือว่าหางปลา โดยตั้งแต่เอวลงมาจนถึงเข่าจะมีลักษณะแนบติดกับลำตัวและมาบานออกช่วงส่วนปลายมีทั้งแบบสั้นและแบบยาว ซึ่งแบบสั้นในที่นี้ ความยาวของกระโปรงจะสิ้นสุดประมาณหัวเข่าค่ะ เหมาะกับการใส่เป็นชุดราตรี เนื่องจากให้ลุคที่ดูสวย สง่าและดูแพงไฮคลาสมากๆ

11. Gypsy Skirt ( กระโปรงทรงยิปซี )


ระโปรงทรงยิปซี ( Gypsy )เป็นกระโปรงที่มีความพลิ้วไหวสูงเหมาะมากกับสาวๆ ที่ตัวสูง เพราะใส่แล้วจะยิ่งสวยเนื่องจากเป็นกระโปรงยาวหรือใส่คู่กับรองเท้ามีส้น ( ส้นสูง ) ก็ช่วยได้นะ ทั้งยังเหมาะกับสาวๆ ที่ต้องการจะปกปิดขาของตัวเองอีกด้วยแต่หากใส่กระโปรงตัวนี้ การเลือกมิกซ์แอนด์แมทซ์เสื้อ ไม่ควรเลือกใส่เสื้อที่ตัวใหญ่ รุ่มร่าม เพราะจะยิ่งดูเยอะค่ะ นอกจากนี้หากใครอยากเพิ่มความโบฮีเมียนให้ครบสูตรล่ะก็...ลองหาเข็มขัดลายสวยๆ เข็มขัดหนังเก๋ๆ หรือเครื่องประดับพวกหินหรือโลหะมาใส่ดูด้วยสิ!

12. Asymmetrical Skirt ( กระโปรงไม่สมมาตร )


กระโปรง Asymmetric หรือกระโปรงไม่สมมาตรเป็นกระโปรงที่มีความหลากหลายของรูปแบบและมีความแปลกใหม่ซึ่งลักษณะเด่นเลยคือความแตกต่างของความยาวกระโปรง โดยจะค่อยๆ มีการไล่ลำดับความยาวลงมา เช่นบางแบบอาจเป็นกระโปรงที่หน้าสั้นหลังยาว หรือในบางแบบอาจจะเป็นกระโปรงที่ซ้ายหรือขวาข้างใดข้างหนึ่งสั้นค่ะ เหมาะกับการใส่ออกงานเป็นชุดราตรี

13. Tulle Skirt ( กระโปรงทรงเจ้าหญิง )


กระโปรงทรง Tulle หรือกระโปรงทรงเจ้าหญิงเรียกได้ว่าเป็นกระโปรงที่เหมาะกับสาวๆสายหวานฟรุ้งฟริ้งโดยตรงเลยนะคะเนี่ย! กระโปรงทรง Tulle เป็นกระโปรงที่มีลักษณะบานเป็นสุ่มมีหลายชั้นคล้ายกับกระโปรงของเจ้าหญิงที่เราเคยเห็นกันในนิทานนั่นแหละ โดยวัสดุที่นำมาใช้ทำมักจะเป็นเนื้อผ้าที่บางเบา มีความฟูฟ่อง เหมาะกับการใส่ออกงานเป็นชุดราตรีค่ะ

14. Ruffle Skirt ( กระโปรงระบาย )


กระโปรงRuffleหรือกระโปรงที่มีระบายลักณะสำคัญของกระโปรงนี้คือการแบ่งเป็นหลายๆ ชั้นค่ะ มีระบายพลิ้วๆ เป็นส่วนตกแต่ง ให้ลุคความเป็นผู้หญิงม๊ากมากก ใส่ได้ทั้งเป็นชุดแฟชั่นและชุดออกงานค่ะ นอกจากจะให้ลุคที่เป็นผู้หญิงแล้วหากเป็นกระโปรง ruffle แบบยาวจะยิ่งให้ลุคที่สวยสง่าอีกด้วย

15. Wrap Skirt ( กระโปรงป้าย )


กระโปรง wrap หรือกระโปรงป้ายเป็นหนึ่งกระโปรงที่เหมาะมากๆ กับการใส่เป็น casual style เนื่องจากเป็นกระโปรงที่มีความเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่!ดูดีและมีสไตล์มากๆ ใส่ได้ทั้งเป็นชุดแฟชั่นและชุดสุภาพค่ะโดยกระโปรงนี้จะมีลักษณะที่คล้ายกับการนุ่งผ้าถุงหรือผ้าซิ่น คือจะมีการซ้อนทับกันของกระโปรง เหมือนเรานุ่งผ้าถุงแล้วป้ายผ้าไปอีกฝั่งนั่นเองค่ะ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ หายสงสัยกันรึยังเอ่ย? จะเห็นได้ว่ากระโปรงแต่ละแบบก็มีชื่อเรียกและลักษณะที่แตกต่างกันออกไป หรือในบางตัวก็มีการเอามาผสมผสานกันได้ด้วยนะ ดังนั้นเวลาที่เราเลือกจะนำเอากระโปรงเหล่านี้มามิกซ์แอนด์แมทช์แล้วล่ะก็...อย่าลืม! เลือกให้เข้ากับรูปร่างและเรียวขาของตนเองกันด้วยนะ

จะได้ใส่แล้วสวยปัง10 10 10 ไปเลยจ้า!!

♥***♥♥***♥♥***♥♥***♥♥***♥♥***♥♥***


สุดท้ายนี้หากใครถูกใจบทความนี้แล้วล่ะก็กดไลค์กดแชร์ให้ด้วยน้าสำหรับวันนี้ต้องขอตัวลา แล้วมารออ่านกันว่าครั้งหน้าแฟงจะเอาไอเดียแฟชั่น สาระความรู้หรือว่าจะพาใครมาให้เพื่อนๆ ได้ส่องกันอีก... ขอบคุณนะค้า!...

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1