1. SistaCafe
  2. เรียนต่อเกาหลีฟรี! ด้วยทุนรัฐบาลเกาหลีแบบ youtuber สาวไทย jaysbabyfood ( สมัครยังไง ? ยากแค่ไหน ? ) หาคำตอบมาให้แล้ว!!

อันยองสาวๆ ทุกคน


ขอทักทายเป็นภาษาเกาหลีกันสักหน่อย เพราะเมื่อไม่นานมานี้พวกเราชาว

SistaCafe

ได้มีโอกาส

พูดคุยสัมภาษณ์กับ youtuber สาวไทยที่ไปเรียนต่อที่ประเทศเกาหลี

( ประเทศในฝันของพวกเธอหลายๆ คนไง )



ในคลิปของสาวคนนี้ก็จะมี

Vlog ทั้งไลฟ์สไตล์กิน เที่ยว การใช้ชีวิต รวมไปถึงสาระความรู้เกี่ยวกับประเทศเกาหลี

และสิ่งนี้ที่


ทำให้เธอเป็นที่รู้จักของสาวๆ ชาวติ่



( ประเทศเกาหลี ) มากๆ ออนนีของเราคนนี้ก็คือสาว

"

https://www.youtube.com/channel/UCE5NeNZxvOB3Xfk_s7Xdf8g

"

นั่นเองจ้า




แต่กว่าจะได้ไปพบเจอประสบการณ์ติ่งสุดฟินหรือการใช้ชีวิตที่ประเทศเกาหลีนั้นขอย้อนกลับไปที่ว่า

คุณเจเขาไปเกาหลีเพื่อนเรียนต่อปริญญาโท

ค่ะ และเราก็พบว่าการไปเรียนต่อของคุณเจนั้นไม่ได้ไปแบบธรรมดาๆ แต่ไป

ด้วยการสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี!

โอ้วโหววว



ซึ่งคุณเจเองเขาก็ได้แชร์วิธีการสมัครทุนไว้ในชาแนล

https://www.youtube.com/channel/UCE5NeNZxvOB3Xfk_s7Xdf8g

ของเธอไว้แล้วค่ะ แต่วันนี้

SistaCafe


จะขอมาสรุปเป็นบทความให้เข้าใจง่ายอีกครั้ง

ถ้าพวกเธออยากไปเรียนต่อที่เกาหลีมีชีวิตดี๊ดีอยู่ใกล้ๆ โอปป้า

ทุนรัฐบาลเกาหลีคืออะไร ? , สมัครทุนรัฐบาลเกาหลียังไง ? , ใครสามารถสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีได้บ้าง ?

เราจะมาหาให้คำตอบพร้อมๆ กัน

เพื่อนๆ คนไหนที่อยากไปเรียนต่อเกาหลีแบบฟรีๆ ต้องเตรียมตัวด่วน!



● มารู้จักกับทุนรัฐบาลเกาหลีกันก่อน ●


ทุนรัฐบาลเกาหลี คืออะไร ?


#ทุนรัฐบาลเกาหลี

หรือ

Korean Government Scholarship

หลายคนมักจะเรียกสั้นๆ ว่า

" KGSP "


เป็นทุนฟรีที่แจกให้นักศึกษาชาวต่างไปชาติ

ไปเรียนต่อที่เกาหลี ดูแลด้วยหน่วยงานที่ชื่อว่า

NIIED

หรือ

National Institute For International Education



มีทุนการศึกษาระดับไหนบ้าง ?


มีทุนตั้งแต่ระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท ไปจนถึงปริญญาเอกเลยค่ะ



ทุนนี้เรียนกี่ปี ?


ทุน


KGSP

จะให้เราเรียนภาษาเกาหลีฟรีๆ ก่อน 1 ปีค่ะ หลังจากนั้นก็จะไปเริ่มเรียนตามโปรแกรมของเรา เช่น ป.ตรี 4 ปี , ป.โท 2 ปี เป็นต้น




ทุนรัฐบาลเกาหลีให้อะไรบ้าง ?


จะบอกว่าทุนรัฐบาลเกาหลีคือฟรีจริงๆ ฟรีทุกสิ่ง เพื่อนเอามาแค่ตัวกับความตั้งใจเรียนให้จบกลับไปพอ



1. ให้ทุนเต็มจำนวน

เป็นทุนฟรีที่

ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้เราทั้งหมด

ตั้งแต่เรียนค่าเรียนภาษาในปีแรกจนถึงการเรียนในมหาวิทยาลัย


2. ให้ค่าใช้จ่ายส่วนตัว

เราจะได้เดือนละ 800,000 วอน (ประมาณ 24,000 บาท) ฟรีทุกเดือน! แต่ถ้าเราเรียนไปเรื่อยๆ จนสอบ Topik ระดับ 5 ขึ้นไปจะได้เพิ่มเป็น เดือนละ 900,000 วอน (ประมาณ 27,000 บาท)

#เงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวนี้ไม่มีค่าที่พักให้เพิ่มแล้วนะคะ เราต้องบริหารจัดการเงินก้อนนี้เองจ้า


3.

ให้

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ

ทางรัฐบาลเกาหลีจะออกค่าตั๋วเครื่องบินในวันที่เราบินมาเริ่มเรียน และวันที่เราจบการศึกษากลับไทยให้ฟรี เป็นจำนวน 2 เที่ยวค่ะ


4.

ให้

ค่าตั้งถิ่นฐาน

ในช่วงที่เรามาถึงครั้งแรก จะมีค่าใช้จ่ายจุกจิกตอนเริ่มต้นให้เป็นเงิน 200,000 วอน (ประมาณ 6,000 บาท)


5. ให้ค่าใช้จ่ายทุกต้นเทอม

ในทุกๆ เปิดเทอมเราจะได้เงินเพิ่มอีก 200,000 วอน (ประมาณ 6,000 บาท) เพื่อเอาไปใช้สำหรับซื้อหนังสือ อุปกรณ์การเรียน


6.

ให้

ประกันสุขภาพ



เป็นไงคะเรียกว่าเป็นทุนฟรีมีแต่ได้ ให้ทุกสิ่งจริงๆ




ทุนรัฐบาลเกาหลีมีข้อผูกมัดไหม กลับมาต้องใช้ทุนหรือเปล่า ?


เป็นทุนเปล่าตลอดไป

ไม่ต้องใช้ทุน ไม่มีข้อผูกมัด

ใดๆ จ้า



ทุนรัฐบาลเกาหลีเปิดรับสมัครช่วงไหน ?


ระดับชั้น

ปริญญาตรี จะเปิดรับสมัครในช่วง เดือนกันยายน

ของทุกปี ส่วนของ

ปริญญาโท จะประมาณต้นปี (ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.)

การรับสมัครจะแยกกันนะคะ ใครสนใจจะไปเรียนแบบไหนต้องดูให้ชัดเจนจ้า



ดูรายละเอียดการรับสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีได้ที่ไหน ?


ข้อมูลที่ชัวร์สุดก็ต้องไปดูต้นทางที่


http://www.studyinkorea.go.kr/en/sub/gks/selectBoardList.do?bbsId=BBSMSTR_000000000461




เลยจ้า





● สมัครทุนรัฐบาลเกาหลีอย่างไร ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ? ●


คุณสมบัติผู้สมัครทุน ใครสามารถสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีได้บ้าง ?


1. มีสัญชาติไทย (พ่อหรือแม่ต้องไม่มีผู้ใดถือสัญชาติเกาหลี)


2. อายุไม่เกิน 25 ปี สำหรับปริญญาตรี และ อายุไม่เกิน 40 ปี สำหรับปริญญาโท


3. สุขภาพแข็งแรงทั้งร่ายกายและจิตใจ


4. เกรดเฉลี่ย 2.64 ขึ้นไป


5. จะต้องไม่เคยได้รับทุนจากเกาหลีในระดับปริญญาตรีจากที่อื่น, ไม่มีข้อจำกัดในการเดินทางต่างประเทศ



อะไรบ้างที่จะทำให้เราได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ?


1. มีคะแนนและความสามารถทางภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ


2. เป็นครอบครัวของทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลี


3. เลือกเรียนคณะที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (แต่จริงๆ คณะอื่นก็ให้ทุนเช่นกันนะคะ)


4. ครอบครัวมีรายได้น้อย



ขอดอกจันแรงๆ เลยค่ะว่าสำหรับทุนรัฐบาลเกาหลี*ไม่มีการสอบทุน*ฉะนั้นการคัดเลือกผู้รับทุนจะมาจากเอกสารที่เรายื่นไปล้วนๆ เท่านั้น!ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวเตรียมเอกสารให้ดีๆ เลยล่ะ


__________________________________________

สมัครทุนรัฐบาลเกาหลีใช้เอกสารอะไรบ้าง ?



( เอกสารที่เราต้องเขียน )


1. Application Form

เหมือนใบสมัครที่กรอกข้อมูลเราคร่าวๆ


เช่น ชื่ออะไร เรียนที่ไหน คณะอะไร ทำธีสิสหรือมีเอกสารตีพิมพ์อะไรบ้าง เป็นต้น รวมถึงเกรดและประวัติการทำงานก็อยู่ในส่วนนี้เช่นกันค่ะ


2. Letter of Self-Introduction

การเขียนจดหมายแนะนำตัว รายละเอียดการเขียนทางทุนจะไกด์มาให้เราแล้ว ดังนั้นควรเขียนให้ครบและทางที่ดีไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษนะคะ


3. Statement of Purpose

จะได้ทุนหรือไม่ได้ทุนอยู่ที่ใบนี้เลยค่ะ

ส่วนนี้เขาจะให้เราเขียน

Goal of study & Study Plan และ Future Plan after Study

เราเรียนอะไรมาทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ เขียนเพื่อให้เขามั่นใจในตัวเราและเกี่ยวข้องกับวิชาที่เราจะเรียน รวมไปถึงจบแล้วจะไปทำอะไร เราจะนำความรู้ของเราที่ได้ไปสร้างประโยชน์อะไรให้กับมหาลัยหรือประเทศเกาหลีบ้าง


4. Letter of Recommendation



เป็นเหมือนจดหมายรับรองตัวเราโดยต้องให้อาจารย์หรือหัวหน้างานเขียนให้กับเรา


#ย้ำว่าในการเขียนต้องใช้ภาษาอังกฤษหรือเกาหลีเท่านั้นนะคะ ส่วนนี้อยู่ที่คณะที่เราต้องการจะเข้าด้วยค่ะ




( เอกสารอื่นๆ )


1. ใบรับรองจบการศึกษา


2. ใบสูติบัตร


3. ผลสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาต่างๆ

TOPIK , TOEFL , IELTS , TOIEC


4. หรือใครมีเกียรติบัตรต่างๆ นานา ภาพถ่ายประกอบขณะทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคณะที่เราต้องการจะไปเรียนก็สามารถยื่นไปได้เช่นกันค่ะ


#เอกสารทั้งหมดต้องทำการแปลเป็นภาษาอังกฤษหรือเกาหลีเท่านั้นนะคะ



แล้วถ้าพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ ไม่มีผลคะแนน TOPIK สมัครทุนได้ไหม ?



หากเพื่อนๆ

พูดภาษาเกาหลีไม่ได้และไม่มีผลคะแนน TOPIK ( วัดระดับภาษาเกาหลี )ก็สามารถสมัครได้ค่ะ

เพราะบางคณะที่เราเลือกก็อาจจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ฉะนั้นการเลือกคณะก็มีผลในการพิจารณาทุนด้วยเช่นกัน

แต่สิ่งที่ควรจะมีก็คือผลสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษ จะ


TOEFL , IELTS , TOIEC ต้องมียื่นไปสักตัวนะคะ


สมัครยังไง ? มีกี่ช่องทางในการสมัคร ?



มีอยู่ด้วยกัน 2 คือ


1. Embassy Track สมัครผ่านสถานทูต


ยื่นเอกสารผ่านสถานฑูตเกาหลีในไทย โดยเราสามารถเลือกได้ 3 มหาลัย สถานฑูตเกาหลีจะเป็นคนเลือกจากเอกสารและนัดเราสัมภาษณ์ แม้ประกาศผลคุณคือหนึ่งในนั้นก็ยังไม่ได้หมายความว่าจะได้นะคะ เพราะเอกสารจะถูกส่งไปยัง NIIED เพื่อส่งต่อไปยัง 3 มหาลัยที่เราเลือกอีกที จากนั้นถ้ามีมหาลัยไหนตอบรับมานั้นคือเราได้ทุนค่า


2. University Track สมัครโดยตรงกับทางมหาวิทยาลัย


การยื่นนี้ก็คือยื่นกับมหาลัยที่เราอยากเข้าโดยตรงเลยค่ะ แต่ยื่นได้แค่มหาลัยเดียวเท่านั้น! ถ้าคัดเลือกผ่านเข้ามหาลัยได้แล้ว ทางมหาลัยก็จะส่งรายชื่อเราไปให้ทาง NIIED คัดเลือกอีกทีตามโควต้าของแต่ละประเทศค่ะ


#ในการยื่นเราสามารถเลือกยื่นได้แต่ช่องทางเดียวเท่านั้น หากยื่นทั้ง Embassy Track และ University Track จะกลายเป็นโมฆะทั้ง 2 ที่ทันทีเลยนะคะ




คำถามวันสัมภาษณ์เป็นอย่างไร สัมภาษณ์ยากไหม ?



หากยื่น

Embassy Track ผ่านสถานทูต

เราก็ต้องไปสัมภาษณ์กับสถานฑูตก่อนค่ะ ถ้าผ่านเมื่อเอกสารส่งไปถึงมหาลัย บางมหาลัยอาจจะโทรมาสัมภาษณ์เราอีกที แต่ถ้ายื่น

University Track โดยตรงกับทางมหาวิทยาลัย

ทางมหาวิทยาลัยก็จะโทรมาสัมภาษณ์เองเลยค่ะ โดยทั้งหมดใน

การสัมภาษณ์จะใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาเกาหลี

นะคะ



( ไกด์คำถาม เป็นเพียงแนวทางทั่วๆ ไป คำถามอาจแตกต่างกันไปนะคะ )


1. แนะนำตัวเองแบบสั้นๆ


2. ทำไมถึงสนใจอยากจะมาเรียนที่เกาหลี ?


3. เคยมาเกาหลีไหม? ชอบอะไรในเกาหลี ?


4. ข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่เราสมัคร ทำไมถึงเลือกคณะนี้ เรียนไปจะไปทำอะไร



#เคล็ดลับอยู่ที่เราต้องมั่นใจ พูดจาฉะฉาน วางตัวให้ดี และที่สำคัญคือเป็นธรรมชาติและเป็นตัวของเราเองดีที่สุดค่ะ




แถมส่งท้าย ข้อควรรู้หากได้ทุนรัฐบาลเกาหลี



- ในการเรียนภาษา 1 ปี ก่อนเรียนโปรแกรมที่เราเลือก

ถ้าเราไม่สามารถสอบวัดระดับภาษา TOPIK ได้ผ่านตามเกณฑ์ ( ระดับ 3 ) ก็จะถูกส่งตัวกลับบ้าน

ไม่ให้ทุนต่อแล้วจ้า


- แต่ถ้าใครมีผล TOPIK ระดับ 5 ขึ้นไปแล้วสามารถเข้าเรียนได้เลยโดยไม่ต้องเรียนภาษาอีก 1 ปี


- ในระหว่างปีแรกที่เรียนภาษา

ถ้าไม่ไปเรียนวันไหนเราจะโดนหักเงินค่าขนมรายเดือน

ของเรา ( 800,000 วอน ที่ได้มาฟรีๆ ก็จะโดนหักไปรายวัน ) แต่ถ้าผ่านการเรียนภาษาแล้วเข้าเรียนตามโปรแกรมแล้วถ้าไม่เกิน 30 วันก็จะไม่โดนตัดเงินค่ะ


- ระหว่างเรียนต้องรักษาเกรด ( อย่าลืมว่าได้ทุนมา )

โดยจะต้องทำให้ได้ 80% ของเกรดเต็ม

( เกรดเต็มของเกาหลีคือ 4.3 )


- ทำงานพาร์ททามถูกกฎหมายได้แต่ต้องเกี่ยวข้องกับคณะที่เรียน และต้องขออนุญาตก่อนทำ


- ก่อนจะออกนอกประเทศไม่ว่าจะไปไหนต้องแจ้งมหาลัยก่อนเสมอถึงจะออกได้


- หากทำผิดกฎติดทัณฑ์บน 3 ครั้ง จะถูกยกเลิกทุนทันที




__________________________________________


เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย

บอกแล้วว่าไปเรียนเกาหลีฟรีๆ มีชีวิตดีๆ อยู่ไม่ไกลเกินฝัน ใครๆ ก็สามารถทำได้นะ

เอาเป็นว่าเพื่อนๆ คนไหนที่ถามตัวเองแล้วว่าอยากไปเรียนต่อที่เกาหลีเหลือเกินก็ไปติดตามรายละเอียดตามช่องทางที่เราไปแวะให้กันเล้ย!

แต่ย้ำอีกครั้งว่าไปเรียนไม่ได้เหมือนการไปเที่ยวนะคะ หาคำตอบของตัวเองให้ได้จริงๆ แล้วค่อยตัดสินใจ ไปแล้วไม่ใช่จะเสียดายเวลาเอาน่า




สุดท้าย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และได้แรงบันดาลใจดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ติ่ง (ประเทศเกาหลี ) ของเราทุกคน

แล้วอย่าลืมไปติดตามเรื่องราวเกาๆ จากช่องของคุณเจ


https://www.youtube.com/channel/UCE5NeNZxvOB3Xfk_s7Xdf8g

กันด้วยนะ

ส่วนปีหน้าใครจะลองลงสนามสมัครทุนรัฐบาลเกาหลีก็ขอให้ฟังข่าวดีได้ไปเกาหลีสมใจจ้าาา



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1