โยคะเป็นการฝึกสมาธิเพื่อพัฒนาร่างกายอย่างง่ายๆ แค่สาวๆ มีเสื่อสักผืนและ “ความตั้งใจ” ก็เล่นโยคะได้แล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเล่นได้ถูกต้องหรอกนะการเล่นมั่วๆ อยู่คนเดียวทำให้ไม่รู้ว่าเธอออกท่าผิดหรือไม่ออกแรงไปหรือเปล่าทำให้ร่างกายบาดเจ็บหรือเพิ่มความเสี่ยงในการปวด เมื่อยล้าเกินจำเป็น*ไม่ว่าเธอจะเพิ่งรู้จักโยคะหรือเล่นจนชำนาญแล้ว เธอก็ต้องเล่นให้ถูกต้องเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี*
และนี่คือข้อผิดพลาด 10 ข้อในการเล่นโยคะลองดูซิว่าข้อไหนตรงกับเธอบ้าง เธออาจรู้สาเหตุว่า ทำไมเธอเล่นโยคะได้ไม่ดีสักที!
1. กลั้นหายใจ!
การหายใจเนี่ย เป็นเรื่องปกติที่เธอทำโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่ถ้าเธอหายใจผิดวิธีระหว่างเล่นโยคะท่ายากๆ จะเกิดผลเสียตามมาแน่นอนถ้าเธอกำหนดลมหายใจไม่สม่ำเสมอ กล้ามเนื้อจะไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอที่จะเผาผลาญไขมันหรือพูดง่ายๆ ก็คือทำให้เธอลดน้ำหนักไม่ลงนั่นเอง! แขนและขาของเธอจะสั่นกึกๆ และถ้าอยู่ในท่าที่ต้องการความสมดุล มันก็ร่วงลงมาเลยจ้า!
หายใจกระเพื่อมเบาๆ แค่ยกหน้าอกขึ้นลงไม่ช่วยอะไรหรอกนะเธอต้องหายใจให้ทั่วหน้าท้อง หายใจเข้าให้เต็มปอดรู้สึกถึงอากาศเย็นๆ ที่ไหลผ่านลำคอและกระเพาะแล้วหายใจออกช้าๆ ผ่านทางปากจนกว่าปอดจะโล่ง
2. ตั้งใจออกแรงมากเกินไป!
“ ยิ่งทำหนัก ยิ่งดี”อาจใช้ได้กับการออกกำลังกายชนิดอื่นๆแต่ไม่ใช่โยคะ!ยิ่งถ้าเธออยาก “โชว์พาว” ด้วยการยืดแขนเหยียดขาจนตึงเปรี๊ยะ เส้นเลือดปูดโปน ห้อยหัวลง 90 องศา ตีลังกากลับด้านทั้งที่ร่างกายไม่พร้อมนั้นมันไม่โอเคอย่างแรง! กล้ามเนื้อของเธอจะตึง เคล็ดขัดยอก และเกิดการบาดเจ็บได้ โยคะไม่ควรก่อให้เกิดการบาดเจ็บนะ! ถ้ารู้สึกเจ็บให้หยุดซะ
โยคะคือการตระหนักรู้สติ รู้จักฟังสัญญาณของร่างกายว่าจะบอกอะไรกับเราและถ้าร่างกายบอกว่าไม่ไหวแล้ว ก็พอเถอะ!
3. เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น!
ถ้าเธอไปเสียเงินเข้าคลาสในยิม เชื่อว่าจะมีคนหนึ่งในคลาสที่ยืดหยุ่นได้เป็นเลิศพูดง่ายๆ คือเก่งกว่าคนอื่นนั่นเองท่ายากแค่ไหนนางก็ทำได้หมดจนสงสัยว่านางมีกระดูกหรือเปล่า (หรือไม่มี?) หรือเธออาจจะเจอคนที่แก่นกลางลำตัวแข็งแกร่งมาก บิดนู่นนี่ไปมาได้หมดจนเธอสู้ไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยว
เฮ้ อย่าเพิ่งท้อสิ ถ้าเธอเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น นอกจากคอเธอจะปวดแล้ว ความสนุกของเธอก็หายไปด้วย เธอจะเริ่มหงุดหงิดและคิดว่า“โยคะไม่ใช่ทางของฉันนี่หว่า”ซึ่งไม่จริงเลย ใครๆ ก็เล่นโยคะได้ การฝึกโยคะก็เพื่อฝึกตัวเธอเอง ไม่ใช่เพื่อใครทั้งนั้น ร่างกายของคนเราต่างกัน และแต่ละคนก็ได้ผลต่างกันไปค่ะ สู้ต่อไปนะ!
4. เล่นโยคะในคลาสเรียนผิดตำแหน่ง!
คิดจะเลือกเรียนโยคะแล้ว ก็เลือกตำแหน่งที่เรียนให้ดี! จุดที่ดีที่สุดคือแถวก่อนแถวหลังสุดค่ะ! หลายคนอาจคิดว่า “เฮ้ย ต้องอยู่หน้าๆ สิ ครูจะได้ช่วยสอน” แต่ส่วนใหญ่ครูจะขยับตัวนู่นนี่อยู่ตลอดเวลา บางทีก็เดินไปช่วยคนแถวหลัง ถ้าเธออยู่ข้างหน้าเธอจะไม่เห็นว่าท่าที่ถูกต้องทำยังไง ที่เธอทำอยู่ถูกต้องหรือเปล่า ที่สำคัญบางท่าต้องใช้พื้นที่ในการทำซึ่งการอยู่หลังห้องตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว!
ดังนั้นถ้าเธออยู่แถวหลังๆ จะการันตีได้ว่ามีคนให้เธอลอก เอ๊ย! ทำท่าตาม โดยไม่ต้องหันซ้ายหันขวาไปมามองคนข้างๆเธอจะทำท่าต่างๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นด้วยค่ะ!
5. มาคลาสเรียนทั้งที่อิ่มตื้อ!
เวลาเธอซัดมื้อเที่ยงจนแน่นท้อง นอกจากจะทำให้เล่นโยคะอึดอัด ไม่สบายท้อง ยังทำให้เลือดในร่างกายไม่ไหลเวียนไปที่หน้าท้องเพื่อดูดซึมสารอาหารอีกด้วย กล้ามเนื้อจะขาดพลังงานสำหรับเล่นโยคะ แต่ไม่กินเลยก็ไม่ได้ เธอจะยิ่งไม่มีแรง ดังนั้น พบกันครึ่งทางด้วยการลดปริมาณอาหารลง และเว้นระยะห่าง 1 ชั่วโมงก่อนเข้าคลาส เลือดของเธอจะได้ไหลเวียน ดูดซึมสารอาหารและส่งต่อไปยังกล้ามเนื้อได้อย่างดี
อาหารเพิ่มพลังงานที่แนะนำคือกล้วย เนยถั่ว หรือถั่วสักหนึ่งกำมือ กินคู่กับขนมปังปิ้งเมนูเหล่านี้เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่ให้พลังงาน ช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดไม่แกว่งจนเป็นลมระหว่างคลาสเสียก่อน
6. คิดมาก ฟุ้งซ่าน!
“เย็นนี้กินอะไรดีน้า” “เลิกคลาสแล้วต้องรีบไปซื้อเสื้อลดราคาจากป้าย 80% วันนี้ลดวันสุดท้ายแล้วด้วย” “ฉันชอบเพลงที่เปิดห้องข้างๆ จังเลย”ความคิดเหล่านี้รบกวนสมาธิในการทำโยคะอย่างมาก เพราะทำให้เธอไม่สามารถตั้งสมาธิกับท่าโยคะตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ หยุดมองก้นหนุ่มหล่อคนข้างหน้า หรือคิดถึงขนมที่อยากกินหลังเลิกคลาสได้แล้ว! ตั้งใจหน่อย!
มีงานวิจัยพบว่าสมองของคนเราไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน ถ้าเปรียบกับคอมพิวเตอร์ก็คงโอเวอร์โหลดนั่นแหละ! ตั้งสติให้ร่างกายและความคิดไปด้วยกัน กำหนดลมหายใจ เลิกคิดถึงนั่นนี่ซะ เพราะมันคือมารผจญ!
7. ข้ามท่าพื้นฐานไปท่าปราบเซียนเลย!
โธ่ ใครๆ ก็อยากเก่งทั้งนั้นแหละ! เธอคงเถียงคำนี้อยู่ในใจ แต่หลายคนรีบทำท่าปราบเซียนต่างๆ โดยไม่ทันได้ทำท่าพื้นฐานก่อนเลย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมากถึงมากที่สุด! เพราะท่าโยคะทุกท่าทำงานประสานกันการเล่นท่าพื้นฐานก่อนช่วยพัฒนาความแข็งแรง ความสมดุล และความยืดหยุ่นที่ต้องนำไปใช้ในท่ายากๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้น!
ถ้าเธอรีบทำท่าปราบเซียนทั้งที่ยังไม่พร้อม เธอจะทำท่านั้นอย่างถูกต้องตามหลักเป๊ะๆ ได้ยากมากพูดง่ายๆ ว่าเธอกะน้ำหนัก ลงกล้ามเนื้อไม่ถูก และเสื่ยงจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้ที่สำคัญท่าพื้นฐานนี่แหละ ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงที่สุดฝึกฝนและเก็บประโยชน์จากตรงนี้ไว้!
8. เงียบเป็นเป่าสาก!
เธอมาเรียนโยคะเพื่อเอาความรู้ไม่ใช่เหรอเราจ้างครูไม่ใช่เพื่อสอนท่าให้เราดูเท่านั้น แต่เราสามารถถามหรือขอความช่วยเหลือได้ถ้าเราไม่เข้าใจถ้าแค่มองครูแล้วทำตามไปแกนๆ ดูวิดีโออยู่ที่บ้านก็พอแล้ว!การเล่นโยคะในคลาสเรียนก็เพื่อช่วยทำให้เก่งขึ้นนะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ยกมือถามเลย!
ยิ่งถ้าเป็นหน้าใหม่ในคลาส ถ้าครูถามว่า“มีใครไม่เคยเล่นโยคะมาก่อนไหมคะ”ไม่ต้องอายที่จะยกมือบอกครูจะเข้าใจและเข้ามาช่วยเรามากขึ้นอีกต่างหากถ้าเธอเอาแต่เงียบเป็นเป่าสาก ไม่เข้าใจก็เงียบ กล้ามเนื้อระบมก็เงียบ ปวดคอปวดไหล่จนขยับไม่ได้แล้วก็ยังเงียบเก็บของแล้วกลับไปเล่นที่บ้านเถอะ เพราะค่าก็เท่ากันนั่นแหละเธอจ๋า!
9. เรียนไปซะหมดทุกคลาส!
โอ้โห ตารางเรียนแน่นไปหมดแล้ว!เธออาจเถียงว่าสมัครฟิตเนสมาแพงก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ แต่การสมัครดะไปหมดทุกคลาสเรียนอย่างนี้ โดยไม่ได้ดูว่าเธอเหมาะที่จะเรียนหรือเปล่าจะทำให้เธอหงุดหงิด หนักเข้าก็เกิดการบาดเจ็บได้เลยนะ!ถ้าเพิ่งเริ่มต้น ก็อยู่ในคลาสชั้นต้นไปก่อน ถึงเธอจะเคยเล่นโยคะมาบ้างแล้วก็เถอะ เมื่อเธองงและเริ่มมั่วท่าก็ไปคลาสอื่นดีกว่า
อ่านรายละเอียดก่อนสมัครให้ดีโยคะมีหลายระดับ หลายรูปแบบมากบางอย่างเธออาจไม่ชอบ หรือบางท่าเธออาจรู้สึกว่า“ทำไปทำไมฟะ?”เช่น ถ้าเธออยากผ่อนคลาย ท่าฤาษีดัดตนก็ไม่น่าใช่ทางของเธอ จริงไหม?
10. เล่นเสร็จแล้วไม่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ!
เรียนโยคะมาจะจบคาบแล้ว เพื่อนร่วมห้องก็เริ่มม้วนเสื่อออกจากห้องไปอาบน้ำ เม้าท์กับเพื่อน โทรศัพท์หาแฟน พาสุนัขไปเดินเล่นและอื่นๆ อีกมากมาย คนเหล่านี้จะข้ามขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของโยคะ นั่นคือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหรือ cool down นั่นเองการยืดหยุ่นร่างกายอย่างถูกวิธีจะบรรเทาอาการปวดของกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดระดับการเต้นของหัวใจและความดันเลือด ป้องกันการเวียนศีรษะซึ่งอาจเกิดได้หลังออกกำลังกายเสร็จ
นี่คือขั้นตอนที่ดีที่สุดในการ “จบ” กระบวนการฝึกโยคะคุมสติและทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น ถ้าเธอเล่นโยคะที่บ้านลองผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยท่าเอี้ยวตัวแตะเข่า (Easy Spinal Twists)และท่านั่งขัดสมาธิ (Seated poses)และอย่าลืมท่าที่ผ่อนคลายที่สุด ท่าศพ (Corpse pose)นั่นเองได้นอนแผ่บนพื้นสบายๆ หลังจากฝึกมาทั้งวัน คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆ เลยล่ะ!
สังเกตไหมว่าสาเหตุเกือบทั้งหมดที่ทำให้เธอเล่นโยคะไม่สำเร็จเกิดจาก “ตัวเธอเอง” ทั้งนั้นเลย!ไม่ว่าจะการเล่นไม่ถูกวิธี กดดันตัวเอง ตั้งสติให้อยู่กับตัวไม่ได้ ขี้เกียจ ไม่คิดใฝ่หาความรู้ มักง่ายไม่ยอมผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หากเธอรู้จักกำหนด รวบรวมสติให้อยู่กับตัว (ซึ่งไม่ยากเกินไปถ้าเธอไม่ล้มเลิกความตั้งใจไปเสียก่อน) ทั้งร่างกายและความคิดของเธอก็จะค่อยๆ ดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัย บุคลิกดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ถ้าขยันและตั้งใจฝึกโยคะอย่างแท้จริง หุ่นที่สวยงามจะไปไหนเสีย! ♥
Credit : The 10 Biggest Yoga Fails
http://www.fitbie.com/slideshow/worst-yoga-moves
บทความที่เกี่ยวข้อง
5 ท่าโยคะ สำหรับคลายเครียด !
https://sistacafe.com/summaries/1083
7 ท่าโยคะช่วยผ่อนคลาย สำหรับสาวนักวิ่ง!
https://sistacafe.com/summaries/1074
รวมประโยชน์ของการเล่นโยคะ เล่นโยคะนั้นดียังไง ?
https://sistacafe.com/summaries/1018