10 ทริคฟื้นฟู 'ริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุย' ให้ปากสวยเอิบอิ่ม ไม่ต้องง้อลิปบาล์ม (´ ε ` )♡
ใกล้เข้าหน้าหนาวล้าว ผิวก็เริ่มแห้งโดยเฉพาะปาก ทั้งลอกทั้งแตกเป็นขุย กินอาหารรสเผ็ดไม่ได้ แสบจี๊ดดด ที่สำคัญ ทาลิปก็ตกร่องไม่สวยอี๊ก ;___; เรามาฟื้นฟูปากให้อิ่มสวย ไม่ต้องง้อลิปมันกันจ้า!
เผยแพร่: 26 ก.ย. 2561 14:09 น.
Views: 12,308
รหัสบทความ: 55542
สวัสดีค่าสาวSistaCafeสุดน่าเลิฟทุกคนน (*¯ ³¯*)♡เข้าเรื่องเลยเนอะ ไม่พูดมาก ไม่ได้เจ็บคอนะ เจ็บปาก ปากแตกเว่ออออ อ อ่างล้านตัว เป็นคนไม่ค่อยพกลิปบาล์มเท่าไหร่ ( เชื่อว่าสาวๆ หลายคนก็เป็น บางทีขี้เกียจ บางทีก็ลืม )พอปากแห้งก็เลีย น้ำก็ไม่ชอบดื่ม สรุปปากแห้งเกินเยียวยา บางคนแพ้ลิปบาล์มที่ใส่สารเคมีอีก งั้นไม่ทาเลยแล้วกัน โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้วว
ถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบลิปบาล์มตามท้องตลาด เพราะใส่สี สารเคมี และกลิ่นฉุนเกินจะทานทน ราคาก็แพงเกิ๊นนน ล่ะก็ ลองปรับพฤติกรรมตัวเองให้เฮลตี้ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมากขึ้นดูไหม?และแน่นอนว่าเราชี้เป้าวัตถุดิบธรรมชาติ หาง่าย ราคาถูกที่ใช้แทนลิปราคาแพงๆ ได้รับรองว่าอ่านจบแล้วต้องเลิฟ! เลื่อนลงมากันเล้ยย Go go!
1. ดื่มน้ำเปล่าสะอาด อย่างน้อย 8 แก้ว / วัน
ใช่ กฎพื้นฐานในการดูแลสุขภาพเลยนี่แหละ ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ ค่ะสาวซิส อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว/วัน จะดีมาก! เชื่อว่าเธอรู้อยู่แล้ว แต่น้อยคนจะทำตามได้จริง แต่ทำเถอะ เพราะน้ำเปล่าทำให้ระบบในร่างกายทำงานเป็นปกติ ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำจากภายใน และส่งผลต่อผิวบริเวณริมฝีปากอีกด้วย ยิ่งช่วงหน้าหนาว ดื่มรัวๆ เลยค่าวิธีดื่มน้ำที่ถูกต้องคือจิบเรื่อยๆ เว้นระยะห่าง 2-3 ชั่วโมง จิบทั้งวัน อย่ากรอกทีเดียวทั้งขวดล่ะ ได้เข้าห้องน้ำออกมาหมดก่อน ยังไม่เข้าไปล้างระบบไหลเวียนเลย ค่อยๆ จิบนะคะ ^^
2. กินผักผลไม้ & อาหารที่มี น้ำ ' เป็นส่วนประกอบสูงๆ
นอกจากดื่มน้ำสะอาดแล้ว การกินผัก-ผลไม้ที่มีประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่สาวๆ ควรทำอย่างยิ่ง หากให้ปากชุ่มชื้นอยู่เสมอ แนะนำให้กิน ผัก-ผลไม้ที่มีส่วนประกอบของ ' น้ำ ' สูงๆ เช่น แตงโม สับปะรด กะหล่ำปลี มะเขือเทศ สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม แตงกวา ( แต่ระวังน้ำตาลในเลือดด้วยนะ )หากเธอลืมดื่มน้ำเปล่า น้ำในผักผลไม้เหล่านี้จะช่วยได้อีกทาง แต่ไม่สามารถทดแทนได้ 100% ยังไงก็ต้องดื่มน้ำเปล่าด้วย ถ้าปกติเป็นคนดื่มน้ำน้อย ก็เริ่มจากดื่มน้ำเปล่าครึ่งนึง กินผลไม้ครึ่งนึงก่อน เมื่อชินแล้วก็เพิ่มเปอร์เซนต์น้ำให้มากขึ้นค่ะ ( ´ ∀ `)ノ～ ♡
3. หลีกเลี่ยงอาหาร ' รสเค็มจัด เผ็ดจัด '
ไหน ใครสาวกราเม็งญี่ปุ่นแถวเอกมัย ทองหล่อ ขนมโปรดคือมันฝรั่งทอดกรอบผงชูรสเยอะๆ ชอบจกส้มตำ ลาบแซ่บๆ บ้าง อร่อยลืมเค็มลืมเผ็ดไปเล้ย! ได้เวลาปรับไลฟ์สไตล์การกินแล้วแหละ เราไม่ได้ขอให้เธองด แต่ต้องลดปริมาณบ้าง ถ้าอยากมีริมฝีปากอิ่มฟู แบบนี้ (´ ε ` )
นั่นก็เพราะ ' โซเดียม ' จากอาหารเหล่านี้จะไปดูดความชุ่มชื้นจากผิว ทำให้ผิวเธอแห้งลงโดยไม่รู้ตัว ยิ่งบริเวณที่โซเดียมสัมผัสโดยตรง อย่างริมฝีปากล่ะก็ แห้งกรอบเป็นใบไม้กรอบๆ เลยจ้า - - แล้วนึกภาพปากแตก แล้วกินส้มตำสิ แค่คิดก็แสบแทน ลดเถอะ เราเตือนแล้วนะ!
4. ' สครับปาก ' เป็นประจำ
ถ้าริมฝีปากเริ่มมีความแห้ง ทางแก้อีกวิธีคือ ' ผลัดเซลล์ผิว ' หรือสครับเบาๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ปากนุ่มและอิ่มเอิบขึ้น ทำให้ริมฝีปากดูดซับความชุ่มชื้นได้มากขึ้นด้วย พูดเลยว่า A Must!ถ้าเธอพอมีงบหน่อย จะซื้อลิปสครับที่แบรนด์ต่างๆ มีขายก็ได้ เลือกแบบที่ชอบได้เลย หรือจะ D.I.Y จากวัตถุดิบธรรมชาติก็ได้ เช่น น้ำตาล ( หาง่าย ราคาถูก ) แล้วเพิ่มกลิ่นเข้าไปตามใจชอบ เช่น น้ำผึ้ง ลาเวนเดอร์ ผงกาแฟ ผสมให้เข้ากัน ปาดไปที่ริมฝีปาก ใช้นิ้วนวดวน 5 นาทีแล้วล้างออก เท่านี้ก็ได้ปากนุ่มสมใจแล้ว
5. ไม่เลียริมฝีปากเล่น
เราเชื่อว่าเธอก็ทำ! เราก็ทำ! ( เอ๊า... ) เวลาปากแห้งแต่ไม่มีลิปบาล์มใกล้ตัว ก็เลียปากไปก่อน คิดซะว่าทำให้ปากชุ่มชื้นชั่วคราว แต่จริงๆ ไม่ควรทำเลย เพราะสารเคมีบางอย่างในน้ำลาย ยิ่งทำให้ปากแห้งยิ่งขึ้นไปอีก แห้งอีกก็เลียอีกวนไป รู้ตัวอีกทีปากแตกจนห้อเลือดแล้วเธ้อออดังนั้น แม้ปากจะแห้งแค่ไหนก็อย่าเลียจะดีที่สุด หรือจะตัดปัญหาด้วยการพกลิปบาล์มแท่งเล็กๆ ไว้ใกล้ตัวก็ดีนะคะ
6. ทา ' น้ำผึ้ง ' บนริมฝีปาก
ถ้าเธอเป็นสาวกเครื่องสำอาง สนใจส่วนผสมของเมคอัพต่างๆ เธอจะเห็นว่า ' น้ำผึ้ง ' มักถูกดึงไปผสมในลิปสติก ลิปบาล์มหลากหลายแบรนด์ เพราะน้ำผึ้ง เป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำรุง แถมยังกินได้ มีรสหอมอร่อยอีกต่างหาก ราคาน้ำผึ้งแท้ก็ไม่สูงจนเอื้อมไม่ถึง วัยเรียนก็ซื้อได้ชิลล์ๆอยากให้ปากเรียบเนียน ลองบีบน้ำผึ้งหยดเล็กๆ ใส่นิ้วมือ แล้วทาให้ทั่วริมฝีปาก น้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยล็อคความชุ่มชื้น ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกวัน จะทำให้อาการแห้งแตกหายไป เย้! //แต่ทาบางๆ หน่อยก็ดีน้า ทามากไปจะเหนียวเกิน ขยับปากไม่สะดวกค่า
7. ทา ' เชียบัตเตอร์ ' ให้ปากนุ่มนวล
' เชียบัตเตอร์ ( Shea Butter ) ' เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่มักเป็นส่วนผสมของครีมอาบน้ำ โลชั่น ลิปบาล์ม ทุกอย่างที่เอาไว้ทาบำรุงผิว เพราะมันมีคุณสมบัติไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ดังนั้นถ้าใช้เชียบัตเตอร์เพียวๆ มาทาปาก ไม่ใส่สารเคมีเหมือนลิปบาล์มตามท้องตลาด ก็ยิ่งดีคูณสอง!เธอจะซื้อมาหลอม ใส่ตลับเองแบบโฮมเมด แต่ถ้ากลัวยุ่งยาก ซื้อตามร้านที่ทำเองโดยไม่ผ่านโรงงานก็ได้ค่ะ ถ้าเชียบัตเตอร์แท้จะมีราคาสูงและเนื้อค่อนข้างแข็ง ต้องวอร์มเนื้อสักพักก่อนนำมาทาปาก แต่รับรองได้ว่าธรรมชาติ 100% แน่นอน ♡
8. ทา ' น้ำมันมะพร้าว ' เพิ่มความชุ่มชื้น
นอกจากเชียบัตเตอร์แล้ว วัตถุดิบธรรมชาติ ( และแน่นอนว่ากินได้! ) ที่เราเชียร์อีกอย่างคือ ' น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil ) ' นอกจากทำให้เส้นผมดกดำเงางามแล้ว ยังช่วยรักษาปากแห้งแตกได้เริ่ด เก๋กู้ดได้อีก เพราะขึ้นชื่อว่าน้ำมัน การบำรุงเป็นเลิศอยู่แล้ว รับรองปากอิ่มสวยชัวร์ค่ะซิสจะใช้น้ำมันมะพร้าวเพียวๆ หรือนำไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น โกโก้บัตเตอร์, เชียบัตเตอร์, อะโลเวร่า,น้้ำมันมะกอก etc. ทำเป็นลิปบาล์มสูตรตัวเองแบบ D.I.Y ก็ได้นะเออ ขึ้นอยู่กับความครีเอทของสาวๆ เลย
9. ใช้ 'วาสลีน' ธรรมดาๆ เนี่ยแหละ
อ๊ะ ไม่ใช่ลิปวาสลีนกระปุกจิ๋วๆ นะจ๊ะเธอ วาสลีนธรรมดากระปุกใหญ่ที่ไว้ป้ายกันรองเท้ากัด ป้ายขนคิ้วเนี่ยแหละ ทาปากก็ได้สบายมาก! ช่วยล็อคความชุ่มชื้นได้ดีในหน้าหนาว ถ้าปากแห้งเป็นเกล็ดๆ วาสลีนนี่แหละตัวช่วยไม่แพง หาง่าย และช่วยชีวิต ( ปาก ) ได้อยู่หมัด พอกก่อนนอน ตื่นมาปากนิ่มขึ้นแน่นอน!แต่แอบกระซิบนิดนึงว่า ถ้าปากแห้งมากถึงมากที่สุด วาสลีนอาจช่วยได้ไม่มากนะคะ เพราะคุณสมบัติของเขาคือล็อคความชุ่มชื้น ไม่ได้ช่วยรักษา ถ้าปากแตกขนาดเป็นแผล แนะนำให้ใช้ลิปครีมเนื้อเข้มข้นดีกว่าน้า
--------------------
เพียงทำตามวิธีต่างๆ ในบทความนี้ ผิวปากที่แห้งแตก ก็จะกลับมาอิ่มเอิบ นุ่มชุ่มชื้นได้อย่างใจแน่นอน เราการันตี เพราะเราทำมาหมดแล้ว! ทั้งน้ำผึ้ง เชียบัตเตอร์ วาสลีน ทามาหมดแล้ว ปากแห้งเป็นแผ่นๆ หายหมดเลย เชียร์~ยิ่งใกล้หน้าหนาวแล้ว ผิวจะแห้งลงเรื่อยๆ หากเป็นสาวผิวแห้งขั้นวิกฤติ หนาวทีผิวแตก คัน แสบแดง ต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะจุดเน้นความสนใจอย่าง ' ริมฝีปาก ' ที่ใครๆ ก็ต้องเห็น บำรุงให้ดี จะได้ปากสวยไปตลอดหน้าหนาวนี้นะจ๊ะ
วันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ขอไปกวนลิปบาล์มใช้เองแป๊บ ซื้อตามร้านทั่วไปแล้วแพ้ เสียใจ ;__; บ๊ายบายย
--------------------
![ลิงค์: Cr. 11 Ways To Deal With Chapped Lips Without Lip Balm [ gurl.com ]](https://sistacafe-assets.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com/web-assets/sample-img-170x170.webp)