ถึงจะเป็นหน้าฝนแต่แดดก็แรงไม่แพ้เดือนเมษาหน้าร้อน หลังจากตากแดดนาน ๆ สาว ๆ หลายคนคงเจอปัญหาเดียวกันคือผิวไหม้คล้ำเสียเนื่องจากถูกแดดเผา และคงกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวคล้ำเสียให้กลับมาขาวเนียนใสเหมือนเดิมใช่ไหมคะ วันนี้เรามีวิธีฟื้นฟูสภาพผิวหลังการออกแดดด้วยวิธีง่าย ๆ สบายกระเป๋า เพียงแค่ทำตามวิธีต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด ผิวของคุณก็จะกลับมาขาวกระจ่างใสได้เหมือนเดิมแล้ว
1. ทา Aloe Vera Gel
หลังเพิ่งผ่านศึกใหญ่ ถูกแสงแดดรุมทำร้ายผิวจนไหม้เกรียม การทา Aloe Vera Gel หรือที่ใคร ๆ หลายคนคุ้นเคยในรูปแบบผลิตภัณฑ์ประเภท After Sun นั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่เห็นผลรวดเร็วและสะดวก เพราะไม่ต้องรอให้คุณกลับถึงบ้านก็สามารถปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นลงได้ง่าย ๆ ด้วยพลังความเย็นจากว่านหางจระเข้
2. ประคบน้ำแข็ง
หากคุณรู้สึกถึงอาการแสบร้อนบริเวณผิวจนทนไม่ไหว ให้มองหาน้ำแข็งก้อนเป็นตัวช่วย นำน้ำแข็งก้อนมาถูเบา ๆ ที่ผิวหรือบริเวณที่มีอาการแสบร้อน เพื่อปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นลง แต่ถ้ากลัวว่าจะเย็นจัดเกินไปก็ให้ห่อน้ำแข็งด้วยผ้าขนหนูแล้วประคบตามผิว แค่นี้อาการแสบร้อนก็ทุเลาลงได้บ้างแล้วล่ะ
3. มาส์กแตงกวา
สาว ๆ อย่างเราย่อมรู้ดีว่า "แตงกวา" นั้นเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น เราเลยมักนำมาใช้ดูแลผิวที่แห้งกร้านขาดความชุ่มชื่น สำหรับผิวที่เพิ่งผ่านการถูกแดดเผาไหม้จนแดงและแสบร้อนนั้น การนำแตงกวาแช่เย็นมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ แล้ววางลงบนผิว อาการแสบร้อนจะค่อย ๆ ลดลงไปพร้อม ๆ กับฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากคุณค่าของวิตามินมากมายที่มีอยู่ในแตงกวา
4. อาบน้ำเย็น
การอาบน้ำเย็นทันทีที่กลับถึงบ้าน เป็นการลดความร้อนให้กับผิวที่เพิ่งผ่านการถูกแดดเผาไหม้ นอกจากนี้น้ำเย็นยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันธรรมชาติบนผิวลดลง ช่วยลดขนาดรูขุมขน แต่หากมีผิวบริเวณไหนที่ยังเกิดอาการแสบร้อน ให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาประคบซ้ำจนกว่าจะดีขึ้น
5. นมสดช่วยได้
นำผ้าขนหนูนุ่ม ๆ ชุบนมสดแช่เย็นแล้วบิดพอหมาด เช็ดหรือประคบตามบริเวณที่เป็นรอยไหม้ซ้ำ ๆ หลายรอบจนกว่าอาการแสบผิวจะหายไป แต่ถ้าบ้านใครมีอ่างหรูอยู่กับตัวอย่าปล่อยให้ว่างเปล่า เทน้ำนมแช่เย็นลงไปแล้วนำร่างอันยับเยินจากการถูกแดดทำร้ายจนผิวไหม้เกรียมลงไปนอนแช่แบบชิล ๆ สวย ๆ ขอกระซิบว่าถ้าใช้วิธีลงไปนอนแช่ก็ต้องเปลืองนมกันหน่อยนะสาว ๆ
6. น้ำมันมะพร้าวเช็ดผิว
สุดยอดไอเทมแห่งการดูแลความงามของสาวเมืองสยามจริง ๆ เพราะน้ำมันมะพร้าวไม่เพียงแค่ช่วยดูแลเส้นผมให้นุ่มลื่นมีน้ำหนัก แต่ยังสามารถดูแลผิวไหม้เกรียมจากการถูกแดดเผาได้อีกด้วย เพียงแค่นำสำลีมาชุบน้ำมันมะพร้าวแล้วเช็ดให้ทั่วผิวหน้าและผิวกาย ก่อนจะอาบน้ำชำระล้างร่างกายตามปกติ ด้วยคุณสมบัติอันเลอค่าของน้ำมันมะพร้าว จะช่วยลดรอยไหม้แดงจากการถูกแดดเผาให้ค่อย ๆ จางลง
7. ฉีดสเปรย์น้ำว่านหางจระเข้
สำหรับ Aloe Vera Gel อาจจะใช้ในการดูแลผิวกายได้ แต่สาว ๆ คนไหนที่กลัวว่าเนื้อเจลอาจจะอุดตันผิวหน้า การเลือกใช้เป็นรูปแบบสเปรย์น่าจะตอบโจทย์ได้โดนใจมากกว่า ยิ่งถ้าคุณนำสเปรย์แช่เย็นเอาไว้ด้วยแล้ว ความเย็นที่เพิ่มเป็นสองเท่าจะยิ่งช่วยบรรเทาอาการแสบไหม้ให้ทุเลาลงได้เร็วขึ้น แถมการฉีดสเปรย์ยังสามารถทำได้บ่อยครั้งตามแต่คุณต้องการ หรือถ้ากลัวเปลืองก็เพียงแค่ฉีดสเปรย์น้ำว่านหางจระเข้ลงบนแผ่นสำลีให้ชุ่ม วางบนผิวหน้าให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ทำซ้ำ ๆ หลายครั้งจนผิวหน้ากลับมาสดชื่นอีกครั้ง
8. ชโลมโยเกิร์ต
ด้วยคุณค่าที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว การนำโยเกิร์ตแช่เย็นมาชโลมผิวหน้ารวมไปถึงผิวกายเพื่อลดอาการผิวไหม้แดดจึงเป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดอุณหภูมิของผิว แต่โยเกิร์ตยังช่วยให้ผิวที่ไหม้เกรียมดูกระจ่างใสขึ้น แถมยังอ่อนโยนเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ผิวค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
9. ข้าวโอ๊ต
ในข้าวโอ๊ตนอกจากจะมีสาร Flavanoids ตัวช่วยดูดซับรังสียูวีเอขนานดี ช่วยทำให้ผิวที่คล้ำเสียจากการถูกแดดเผากลับมาดูดีอีกครั้งแล้ว ยังพบว่ามีสารที่ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคืองอีกด้วย นำข้าวโอ๊ตมาบดให้ละเอียดจากนั้นห่อด้วยผ้าขาวบางนำไปแช่ในน้ำเย็นสักครู่จากนั้นนำมาประคบที่ผิว สามารถทำซ้ำได้ทุก ๆ 4 - 5 ชั่วโมง
10. ถุงชา
ถุงชาเมื่อชงเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบทิ้งนะคะ เพราะนอกจากชาจะมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยระบบย่อยแล้ว ยังช่วยลดอาการแสบร้อนจากการถูกแดดเผาได้ เพียงนำถุงชาไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 20 นาที แล้วนำมาประคบที่ผิวของเรา แค่นี้เอง
เคล็ดลับทั้งหมดนี้ถ้าขยันทำอย่างสม่ำเสมอ ขอบอกว่าผิวสวย ๆ จะกลับมาหาคุณในเร็ววันอย่างแน่นอน และเพื่อไม่ให้ผิวคล้ำเสียอีก ต้องหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนที่จะออกไปสู้แดดนะคะ
