ม่รู้เป็นอะไรพอเห็นท้องฟ้าสีเทาๆ หม่นๆ มันมีความรู้สึก"เหงา"ทุกที ทั้งที่ผู้คนรอบกายก็มีตั้งมากมาย


แต่หากพูดถึงความเหงาก็คงเป็นหนึ่งในความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของเราบ่อยครั้ง บางทีก็บ่อยเสียจนไม่อยากให้มันมาทักทายเท่าไร

พออารมณ์มันกลายเป็นสีเทา ก็ไม่รู้จะออกไปไหน อยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียว เพื่อไม่ให้ต้องนอนเหงาเรื่อยเปื่อย


ราขอแนะนำหนังเหงาๆ สำหรับคนขี้เหงาไม่ว่าจะดูเพื่อตอกย้ำความเหงา หรือจะดูเพื่อคลายเหงาก็ได้ทั้งนั้น ....

Her

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/99/53/cc/9953cc3b648deb68ee6f61e0fb18e008.jpgรูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/0e/6a/71/0e6a711947c1624865ef5f79dcc86d0f.jpg

หนังรักเหงาๆ ที่ต้องบอกว่าเหงาจริงๆ เพราะตัวเอกของเรื่องที่มีปฏิสัมพันธ์กับพระเอกนั้น ดันไม่ใช่คนแต่เป็นระบบ OS !  เรื่องราวคร่าวๆ ของหนังเรื่องนี้พูดถึง

Theodore ( Joanquin Phoenix )

นักเขียนจดหมายผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกที่ทุกอย่างง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เขาต้องพบเจอกับเรื่องอ่อนไหวมากมาย มิหนำซ้ำชีวิตยังต้องเจอกับการหย่าร้างอีก แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ

Samantha ( Scarlett Johansson ที่มาแค่เสียง ​)

ระบบปฏิบัติการ OS ที่เปรียบเสมือนปัญญาประดิษฐ์ (OS) เพราะสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหลงรักกับ OS ความรู้สึกของเราที่ดูหนังเรื่องนี้ มันคือความเหงาจริงๆ คนที่จะรู้สึกอะไรๆ กับสิ่งที่เหมือนไม่มีเลือดเนื้อได้นั้น โหมดของความรู้สึกก็ต้องเข้าสู่จุดที่เหงาสุดๆ จริงๆ หนังเรื่องนี้ถือเป็น Sci-Fi ที่มีกลิ่นของความโรแมนติคดราม่าอย่างเต็มเปี่ยม


Lost in Translation

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/df/3e/76/df3e76f52f696654cc8b6b5b7adf0f22.jpgรูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/cb/f0/a9/cbf0a97a6a41fcdd7bbef355e18cbfff.jpg

พูดถึงหนังเหงาจะขาดเรื่องนี้ได้อย่างไร เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยดู หรือไม่ก็ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว เพราะมันขึ้นชาร์จอันดับหนังเหงาตลอดกาล

Lost in Translation

ผลงานการกำกับของผู้กำกับสาว

Sofia Coppola

เรื่องราวภายในหนังพูดถึง

Bob ( Bill Murray )

นักแสดงชาวอเมริกาที่ต้องมาถ่ายงานในญี่ปุ่น และ

Charlotte ( Scarlett Johansson )

สาวสวยที่ต้องตามแฟนมาทำงานในญี่ปุ่น ความเหงาเกิดขึ้นเพราะการอยู่ผิดที่ผิดทาง ไม่ได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง แล้วความบังเอิญก็พาทั้งคู่มาเจอกัน แลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อกัน มันไม่ใช่เรื่องของความรัก หรือความฉาบฉวยใดๆ แต่เปรียบเสมือนเรื่องของคนสองคนที่มีความรู้สึกเดียวกัน ได้พบเจอกัน เหมือนกับคำโปรยของหนังที่ว่า

“ Everyone Want to be found ”


Drive

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/b5/9e/9c/b59e9c9ee79a0a6bab1a6fd67273a386.gifรูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/f9/11/7b/f9117b204e5f4494d0bc8bc1781a40f1.jpg

เหงา แต่โคตรเท่ น่าจะเป็นคำนิยามของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

Drive

ผลงานกำกับของ

Nicolas Winding Refn

ผู้กำกับหนังรางวัลคานส์ หากคุณคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังบู๊ มีฉากรถแข่งซิ่งกันทั้งเรื่อง ก็ต้องบอกว่าผิดถนัด เพราะหนังมันคือ หนังเหงาๆ ที่มีความดราม่าแทรกซ้อนอยู่เต็มไปหมด เรื่องราวของหนังเล่าถึงสตั๊นแมนหนุ่ม

( Ryan Gosling )

ที่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อ เขาทำหน้าที่เป็นสตั๊นแมน ที่รับจ๊อบขับรถให้กับแก๊งค์โจร ชีวิตที่ดาร์คๆ หม่นๆ ของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับ

Irene ( Carey Mulligan )

คุณแม่ลูกหนึ่งที่อาศัยอยู่ห้องพักข้างๆ ที่สามีของเธอติดคุกอยู่ เขาทั้งสองได้ใช้เวลาสั้นๆ อยู่ด้วยกัน จนสามีของเธอพ้นโทษออกมา แต่ก็มีเหตุทำให้ต้องกลับไปพัวพันกับเรื่องเลวร้ายอีก และ Driver คนนี้ก็เอื้อมมือเข้าไปช่วย ทำให้มีเหตุการณ์ต่างๆ ตามมา หนังเรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดงนำทั้งสองคนที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางแววตาได้อย่างเหมาะสม สีภาพของหนังที่ให้ฟิลลิ่งเทาๆ ให้อารมณ์เหงาได้ดี อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ก็คือ Ryan Gosling คูลมากทีเดียวสำหรับบทบาทนี้ ถึงจะเหงา แต่ก็มีความมันส์ที่ ไม่ควรพลาด

In the Mood for Love

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/e3/0a/0b/e30a0b61eb0c08d5c2ba5377d1d2ffaa.jpgรูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/ff/e4/51/ffe451a4c310af704c1931038b98676e.jpg

หากจัดลิสต์หนังเหงา แล้วต้องมีหนังของ

หว่อง กา ไว

อยู่ด้วย เพราะฟิลเหงาถือเป็นลายเซ็นของหว่อง กา ไว  สำหรับ

In the Mood for Love

นั้นเป็นหนังรักดราม่าแสนเหงา ที่ว่าด้วยเรื่องราวของความรักที่ถูกที่ แต่ผิดเวลา เพราะคนสองคนต่างก็มีคนรักของกันและกันอยู่แล้ว ฉากของฮ่อกกงในยุค 60s Su Li-zhen หรือ

Mrs.Chan ( Maggie Cheung )

ภรรยาของสามีที่ต้องบินไปทำงานต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เธอต้องเหงาอยู่คนเดียวในห้อง และ

Chow Mo-wan ( Tony Chiu Wai Leung )

สามีของภรรยาผู้ที่ต้องทำงานกะดึกจนแทบไม่มีเวลาได้พบหน้ากัน Su Li-zhen และ Chow Mo-wan ได้พบเจอกันเป็นประจำเพราะห้องพักของพวกเขาอยู่ติดกัน ก่อเกิดเป็นความรักที่ห้ามรัก เพราะมันผิดจารีตประเพณี ทำให้เกิดความเหงาที่เกาะกินหัวใจแบบสุดๆ ฉากของหนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่มาถ่ายทำในเมืองไทยด้วย

Into the Wild

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/40/72/e6/4072e6b0925c5075101eb28290e4cacb.jpgรูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/55/da/84/55da84e48f4d5318f680f6a64a574170.jpg

เรื่องราวของความขบถที่น่าจะเข้ากับหนุ่มสาวในสมัยนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคนต่างมีความต้องการที่จะออกไปทำอะไรที่เป็นของตัวเอง หรืออยากออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ควรที่จะดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เรื่องราวเล่าถึง

Chris McCandless (Emile Hirsch)

หนุ่มนักคิดที่มีความคิดว่าการตั้งใจเรียน และรับปริญญาให้พ่อแม่ได้เป็นความหวังสูงสุดที่พวกเขาต้องการ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มแสดงอาการขบถต่อสิ่งต่างๆ อย่างเรื่องที่ชัดเจนเลยก็คือ การที่พ่อแม่อยากซื้อรถใหม่ให้ Chris แต่เขากลับเถียงว่ารถคันเก่ายังสามารถขับได้ดีอยู่ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจออกจากบ้านไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เดินไป เข้าไปอยู่ในป่า หากินด้วยตัวเอง ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากในตำรา และไม่สามารถพบเจอได้ถ้าเขายังอยู่ในระบบตามแบบที่คนอื่นเป็น ความเหงาที่เกิดขึ้นจากความโดดเดี่ยว การเอาชีวิตรอดจากสิ่งต่างๆ สร้างอารมณ์เหงาเป็นอย่างมาก สิ่งที่ Chris จะต้องจดจำ คงเป็นสิ่งเดียวกันที่เราจะได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของ

Sean Penn

นักแสดงมากฝีมืออีกหนึ่งคนของวงการ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/65/ee/b4/65eeb491a51f300a039b1e6d31bf81de.jpg

หนังทั้งหมดที่เราแนะนำมา อยากรู้ต้องลองชมและตัดสินใจด้วยตัวคุณเองสำหรับเราดูแล้วมันเป็นความเหงา อึมครึมอย่างประหลาดทีเดียว

หลายคนก็ชื่นชอบกับความรู้สึกเหงา บางคนก็พยายามวิ่งหนีมัน แต่ความจริงแล้ว ความเหงา คือ เพื่อนคนสนิทที่วันใดเราขาดไป เราอาจจะคิดถึงมันก็ได้ ต่อให้มีแฟนมีเพื่อนมากมาย ความเหงาก็มาทักทายเราเสมอ ถ้าอย่างนั้นเราก็หันหน้ามายอมรับ และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตไปกับมันดีกว่าไหมครับ.

บทความที่เกี่ยวข้อง