กราบสวัสดีสาวซิสต้าทุกคนค่ะ =w= บทความนี้เป็นเรื่องของสาวๆ ที่มีแฟนแล้ว " ล้วนๆ " ( แต่สาวโสดก็อ่านไว้เพื่อศึกษาข้อมูลได้นะ )
เมื่อเธอพบเจอ รู้จัก ตกหลุมรักและตกลงปลงใจคบเป็นแฟนกับผู้ชายคนหนึ่ง โลกช่างสดใส เปล่งประกายเป็นสีชมพู *_* แต่บางขณะก็แอบคิดเล่นๆ ในใจว่า
" ฉันจะคบกับเธอไปได้อีกนานแค่ไหนนะ เธอคือคนที่ใช่หรือเปล่า "
วันนี้เราจึงมีสัญญาณบ่งบอกว่าแฟนของเธอคือ " คนที่ใช่ " และดูแลกันไปจนแก่เฒ่าได้หรือเปล่า
ถ้ามีครบทุกข้อ ก็วางใจไว้ได้เลยว่า นี่คือตัวจริงแน่นอน
ไปอ่านกันได้เลย!
15 สัญญาณที่บอกว่าคุณมีแฟนที่เหมาะกับคุณ!! (ภาค1)
https://sistacafe.com/summaries/5448
9. วางแผนอนาคตไว้ร่วมกัน
ถ้าแฟนหนุ่มของเธอมักพูดถึงอนาคตข้างหน้าอยู่บ่อยๆ เช่น อีกห้าปี สิบปีข้างหน้าเขาอยากทำอะไร อาจเป็นการเลื่อนตำแหน่ง เปลี่ยนงานใหม่ เก็บเงินซือบ้านซื้อรถ และมีเธออยูในแผนการของเขาตลอดเวลา ( เช่น แต่งงาน วี้ดวิ้ว! ) ก็แน่ใจได้เลยว่าเขาอยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปนานๆ อย่างแน่นอนค่ะ
แม้ว่าเธอและเขาจะมีความสนใจต่างกัน เขาอาจจะยังรักสนุก อยากเที่ยวอยู่ แต่เธออยากลงหลักปักฐาน แต่งงานมีลูกแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาถ้ารักกันจริง! แค่พบกันครึ่งทางด้วยการแต่งงานแล้วไปเที่ยวด้วยกันสองคน เที่ยวจนหนำใจแล้วค่อยมีเจ้าตัวน้อยก็ยังไม่สาย ><
ในทางกลับกัน ถ้าถามถึงอนาคตทีไรเขาก็ตอบว่า " ไม่รู้สิ ก็เรื่อยๆ แหละ ", " ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นตอนนี้หรอก " ก็ทำใจได้เลยว่าเขาไม่คิดจริงจังกับเธอ และไม่น่าเอาอนาคตไปฝากไว้ด้วยเท่าไหร่ = =
10. เมื่ออยู่ด้วยกัน ทั้งเธอและเขาเป็นตัวของตัวเอง
ถ้าเธอและเขาคือ " คนที่ใช่ " ของกันและกันอย่างแท้จริง ทั้งสองฝ่ายจะไม่รู้สึกเกร็ง ขัดเขินเมื่ออยู่กับคนตรงหน้า แต่จะกล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ทั้งด้านดีและไม่ดีก็ตาม
เธอทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสบายๆ จะใส่ชุดเก่า ขาดๆ ปอนๆ หัวกระเซิงยุ่งเหยิง ใส่แว่นอันใหญ่เป็นป้าเฉิ่มๆ หรือนั่งแกะสิว เรอเอิ๊กก็ไม่ต้องกลัวอีกฝ่ายจะรังเกียจ แสดงอารมณ์ทั้งตอนมีความสุข เศร้า เหงา โกรธได้อย่างเต็มที่ และเธอก็ควรจะทำเช่นนั้นด้วย
อย่าเหนียมอายที่จะต้องแสดงตัวตนด้านแย่ๆ ของตัวเองออกมา เพราะหากได้แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันจริง ยังมีอุปสรรคที่หนักกว่านี้อีกมากให้ต้องเผชิญ ถ้าเขารับไม่ได้จะได้รีบถอยทันค่ะ
11. มีแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน
คำว่า " แรงดึงดูด " ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการที่เธอทั้งสองคนมีเคมีต่อกัน สารเคมีในที่นี้จะทำให้เธอรู้สึกหัวใจเต้นตึกตักเมื่ออยู่ใกล้แฟน อยากสัมผัส กอด หอมแก้ม จุ๊บๆ อยู่ตลอดเวลา โดยเราไม่สามารถบังคับสารเคมีตัวนี้ได้ ต้องรอเจอคนที่ " เคมีตรงกัน " เท่านั้น ( ตลอดชีวิตของบางคนก็อาจจะหาไม่ได้... ต้องทำใจ )
ถ้าเธอกับแฟนความรู้สึกตรงกันคือ " อยากใกล้ชิดอีกฝ่ายตลอดเวลา " ว่างไม่ได้ต้องขอสัมผัสตัวกันหน่อย จับมือถือแขนระหว่างเดินเล่นด้วยกัน กอดแน่นๆ หมั่นเขี้ยวอยากจุ๊บแก้ม นั่นหมายถึงทั้งสองฝ่าย " สปาร์ค " กันเรียบร้อยแล้ว!
12. พยายามเข้ากับครอบครัวอีกฝ่ายให้ได้
มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า " Love me love my dog " หรือ " รักฉันแล้วก็ต้องรักหมาของฉันด้วยสิ " ขนาดสัตว์เลี้ยงยังต้องรัก นับประสาอะไรกับครอบครัวของเขาล่ะ! ถ้าเธออยากใช้ชีวิตร่วมกับลูกชายของบ้านไหน เธอจะอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้นโดยอัตโนมัติ
ถ้าสไตล์ของครอบครัวแฟนไม่ตรงกับเธอเลย และเธอก็ทำใจให้มีส่วนร่วมกับพวกเขาไม่ได้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธอก็ได้พยายามแล้ว แค่อย่าสร้างศัตรูให้พ่อแม่ของเขาเกลียดเธอก็พอ เพราะถ้าได้แต่งงานกันจริงๆ แม้จะแยกบ้านกันอยู่ เธอก็หนีพ่อแม่ของเขาไม่พ้นอยู่ดี -.-
13. รักษาความสัมพันธ์ให้สดใหม่อยู่เสมอ
คู่รักที่คบกันนานมากๆ แล้วจะเริ่มถึงจุดอิ่มตัว ความรักไม่สดใสซาบซ่ามาแต่ก่อน เพราะเติบโต ใช้ชีวิตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์จึงค่อนข้างคาบเกี่ยวระหว่างเพื่อนสนิทกับแฟน หลายครั้งที่หลงลืมว่า " เฮ้ย! เราเป็นแฟนกันนะ " แต่ถ้าเธอทั้งคู่พยายามหมั่นเติมความหวาน ไม่ให้รักจืดจางล่ะก็ แปลว่าเธอคือคนที่ใช่ของกันและกัน
หากเป็นคู่ที่คบกันตั้งแต่เด็ก มักมีอุปสรรคเข้ามามากมาย เช่น เรียนหนักจนไม่มีเวลาให้กัน, เจอสังคมใหม่ๆ หนุ่มสาวคนใหม่ที่อาจทำให้หัวใจไขว้เขวชั่วคราว แต่ถ้าไม่มีใครคิดจะปล่อยมือ ยังคงห่วงใย ใส่ใจ ดูแลกัน เว้นระยะให้อีกฝ่ายหายใจบ้าง รับรองว่าความสัมพันธ์ยืนยาวแน่นอนค่ะ
14. พยายามทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน
ไม่ว่าเธอจะเพิ่งคบกับแฟนแค่ 9 เดือนหรือยาวนานถึง 9 ปี ก็ห้ามปล่อยให้ความสัมพันธ์ห่างเหิน! ถ้าเธอทั้งคู่พยายามหากิจกรรมสนุกๆ เพื่อทำร่วมกัน เช่น เข้าคอร์สทำอาหาร พากันไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส หรือแม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างกอด จับมือ หอมแก้มอีกฝ่ายในทุกๆ วัน ก็ทำให้ความรักยังคงหวานชื่นได้เสมอ
คู่รักที่คบกันนานๆ อาจรู้สึกเบื่อและคิดว่า " ไม่จำเป็นหรอก ขี้เกียจทำ ก็รู้อยู่แล้วว่ารักกัน " แต่การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ แม้จะพร่ำบอกคำว่ารักทุกวัน แต่ไม่มีการกระทำที่แสดงความใส่ใจเลย อาจลงเอยด้วยการเลิกราในที่สุด ถ้าเธอทั้งคู่แสดงให้โลกรู้ถึงความรัก ก็คบกันได้ยาวๆ แล้วล่ะ
15. ครอบครัวและเพื่อนๆ รู้จักอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
ถ้าเธอและแฟนคบกันแบบ " ไปได้สวย " เธอทั้งคู่จะรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจในการอวดแฟนต่อหน้าเพื่อนๆ และครอบครัว เพราะคนเหล่านั้นก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ รอยยิ้มกว้างๆ และดวงตาที่ยื้มจนหยีแสดงถึงความสุขที่อยากให้อีกฝ่ายเข้ามาร่วมชีวิต ไม่อายและไม่กลัวที่จะพาแฟนมาเยี่ยมบ้านบ่อยๆ รู้ตัวอีกทีพ่อกับแม่ก็เรียกแฟนว่า " เจ้าลูกชาย " ไปเสียแล้ว *_*
ในทางกลับกัน ถ้าเธอรู้สึกไม่มั่นใจหรืออับอายในตัวตนของแฟนเหลือเกิน ไปไหนต้องคอยหลบหน้าคนรู้จัก กลัวเขาถามว่าผู้ชายคนข้างๆ เป็นใคร ถ้ามีใครถามก็บอกว่าตัวเองเป็นโสดล่ะก็.. ปล่อยผู้ชายคนนี้ไปเถอะค่ะ เขาไม่เหมาะกับเธอหรอก
=========================
และแล้วทั้งสองภาคของ " 15 สัญญาณที่บอกว่าเธอมีแฟนที่เหมาะกับเธอ " ก็จบลง! ชายหนุ่มข้างกายของเธอเข้าข่ายสัญญาณเหล่านี้บ้างหรือเปล่าเอ่ย ( อย่าบอกนะว่าไม่มีสักข้อ ถ้าเป็นแบบนั้นก็โบกมือลาผู้ชายพรรค์นั้นเถอะค่ะ ยังมีผู้ชายดีๆ รอให้เลือกอยู่ข้างหน้าอีกเยอะ )
หลักสำคัญในการเช็คว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ใช่หรือเปล่า มีสองคำถามง่ายๆ คือ " เธออยากเปลี่ยนตัวตนของแฟนไหม " และ " ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้น เขาคือคนแรกที่เธอนึกถึงหรือเปล่า " ถ้าทั้งสองคำถามได้คำตอบว่าใช่ ก็พากันจูงมือไปสู่ประตูวิวาห์ได้เลย เธอเจอคนที่ใช่แล้วล่ะ
เป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าสมหวังในความรักทุกคนนะคะ ^^
=========================
Cr. 15 Signs You And Your Partner are Compatible [ lifehack.org ]
http://www.lifehack.org/articles/communication/15-signs-you-and-your-partner-are-compatible.html
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไอเดีย ถ่ายรูปคู่รัก ตั้งเป็นหน้าจอมือถือ หวาน ต้อนรับวาเลนไทน์
https://sistacafe.com/summaries/5408
ภาพถ่าย 'คู่รัก' ควงคู่ออกกำลังกาย ทั้งโรแมนติก ทั้งสุขภาพดี
https://sistacafe.com/summaries/5346