การคบหากันในฐานะแฟนหรือคู่รัก ที่จะก้าวไปสู่การแต่งงาน ที่จะช่วยให้เกิดความสุขไปทั้งชีวิตนั้น แต่ถ้าวันใดที่รู้สึกว่ารักมันจืดจาง ก็อาจจะเลิกล้างกันไปได้ง่าย ๆ บางคนถึงขั้นแต่งงาน มีลูกด้วยกันไปแล้วถึงจะคิดออกว่าเข้ากันไม่ได้ เพราะฉะนั้น…ในช่วงที่ดูใจกันจะเป็นช่วงที่สามารถตัดสินใจได้ดีว่าเราควรอยู่ในสถานะใดกันแน่ จะคบกันต่อไปหรือจะต้องใส่ Converse แล้วต่างคนต่างไป
เพื่อการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาดลองมาดู 10 ข้อทดสอบที่จะทำให้ตัดสินใจได้ว่าควรจะคบกันในสถานะใดกันค่ะ
1.ลองชวนไปเที่ยวแบบตั้งแคมป์
ถ้าต้องการดูว่าคนที่เราคบอยู่เข้าท่าและสามารถที่จะไปกับเรารอดหรือไม่ ลองชวนไปตั้งแคมป์กันดูสิคะ เพื่อเป็นการได้พิสูจน์เรื่องของนิสัย ความอดทน ความมีน้ำใจ และพร้อมที่จะลำบากไปด้วยกันหรือไม่ เพียงแค่ชวนคู่รักของคุณไปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แล้วแบกเป้เข้าไปค้างคืน นอนกางเต็นท์กินกลางป่าดูสัก 2-3 วัน ถ้าเขาเป็นคนที่อดทน ไม่บ่น ไม่ทำตัวคุณหนูแตก พร้อมที่จะลุย หัวเราะและสนุกไปด้วยตลอดทั้งทริป หรือถ้าเป็นช่วงที่ต้องเจออากาศเลวร้ายพอดี แล้วเห็นถึงความอดทนพร้อมความมีน้ำใจ เป็นห่วงเป็นใยเมื่อไหร่ ก็ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยค่ะ
2.ลองพลาดเที่ยวบินดูสักรอบ
วิธีการนี้อาจจะต้องลงทุนสักนิดและมีดราม่าหน่อย ๆ เพียงแค่ทำตัวสายจนทำให้พลาดเที่ยวบิน แล้วคุณก็ลองดูปฏิกิริยาของแฟนดูว่ามีอาการโมโหหรือคิดโกรธแล้วโทษคุณหรือไม่ แต่ถ้าคิดว่ายังวัดไม่ได้ก็ให้คุณลองเป็นฝ่ายโวยวายเสียเอง โทษว่าแฟนของคุณเป็นคนผิดที่ทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทัน ดราม่าแบบจัดหนักไปเลยทันที เพื่อที่จะดูวิธีการแก้ปัญหาและอารมณ์ของแฟนคุณในขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร ถ้าเขาแสดงกลับมาในแง่มุมที่ไม่ดี ก็ขอบอกได้เลยว่าโบกมือบ๊าย บายกันได้เลยจ้ะ
3.ลองพาแฟนไปตรงจุดที่รถติดนาน ๆ
การจราจรจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้คุณได้เห็นอารมณ์ที่แท้จริงของแฟนคุณ เพราะฉะนั้นเตรียมตัวให้พร้อมแล้วหลอกล่อหรือทำเป็นบอกทางผิดให้แฟนคุณเข้าไปอยู่ในสถานการณ์รถติดที่แทบจะไม่ขยับดู มีผลวิจัยจากต่างประเทศว่า ในขณะที่ต้องอยู่บนที่แคบ สถานการณ์ตึงเครียด และต้องรออะไรเป็นเวลานาน ๆ จนทำให้รู้สึกเครียด หิว เพลีย และเมื่อนั้น คนที่อยู่ในสถานการณ์ก็จะแสดงธาตุแท้ของตนเองออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนนั่นเอง
4.ลองบอกแฟนคุณว่าตอนนี้คุณกำลังตกงาน
อีกหนึ่งการวิจัยจากนักบำบัดต่างประเทศที่น่าสนใจ คือการทดสอบที่จะทำให้รู้ว่าควรที่จะมีความสัมพันธ์กันในแบบใด ด้วยวิธีการบอกกับแฟนของคุณว่าคุณกำลังตกงาน ว่างงานหางานทำไม่ได้ หรืองานที่คุณทำอยู่เงินเดือนน้อย ตำแหน่งไม่สูงมาก แล้วรอดูปฏิกิริยาว่าเขาจะคิดแบบไหน ทำพฤติกรรมอะไร และคิดจะช่วยคุณในช่วงเวลาที่เดือดร้อนหรือไม่งานนี้คุณอาจจะต้องแสดงละครให้ดูว่าเดือดร้อนแบบสุด ๆ เพื่อให้แฟนของคุณได้แสดงสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าเขารักคุณจริง เขาต้องพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณได้ทุกเมื่อและจะยอมลำบากไปพร้อมคุณ ทั้งยังจะช่วยส่งเสริมให้คุณได้งานที่ดี เป็นต้น
5.ลองไปเจอเพื่อนสนิทและครอบครัวของแฟนคุณดูสักครั้ง
การได้ไปพบเพื่อนสนิทหรือครอบครัวของแฟนคุณในครั้งแรกนั้น สิ่งที่ต้องทำคือการจับทุกจุดและสังเกตทุกพฤติกรรมของคนรอบข้างให้มากที่สุด เพราะการที่เราจะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน พื้นฐานเป็นคนอย่างไร หรือเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบใด ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเพื่อที่เราจะได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริง และปัญหาที่เราอาจจะต้องเจอในอนาคตเมื่อแต่งงานกันไป จึงอย่าพลาดที่จะขอติดเขาไปหาเพื่อนหรือครอบครัวดูค่ะ และถ้าแฟนคุณบ่ายเบี่ยงไม่ให้เจอนั่นก็ยิ่งช่วยให้คุณตัดสินใจได้เร็วขึ้นเลยทีเดียว
6.เมื่อมีงานเลี้ยงที่ทำงานต้องชวนแฟนไปด้วย
การชวนแฟนไปงานเลี้ยงบริษัท หรืองานเลี้ยงรุ่นของกลุ่มเพื่อนสนิท ไม่ใช่การนำเอาแฟนไปอวดเพื่อน แต่เป็นการทดสอบดูบุคลิกและความคิดของแฟนคุณ ว่าจะสามารถเข้ากับคนรอบข้างคุณได้หรือไม่ และมีทัศนคติในด้านใดเกี่ยวกับเพื่อน ๆ หรือคนรู้จักของคุณ ถ้าเพื่อนคุณไม่ได้เลวร้ายแต่แฟนคุณกลับแสดงท่าทีอึดอัด พร้อมขอกลับก่อนแบบไม่สนใจจะรอคุณ หรือบังคับให้คุณต้องกลับไปด้วย แนะนำว่าให้ลองพูดคุยกับแฟนคุณดูถึงเหตุผลดูก่อน ถ้าเหตุผลไม่เข้าท่าหรือคุณรู้สึกไม่ดีก็คงต้องโบกมือลาแล้วค่ะ
7.รับสัตว์มาเลี้ยง
ถ้าคุณกับเขาเริ่มที่จะอยู่ร่วมกัน หรือเขามาเยี่ยมบ้านคุณบ่อยขึ้น ให้เริ่มเลี้ยงสัตว์หรือถ้าเลี้ยงมาอยู่แล้วก็จะดีมากค่ะ เพราะถ้าเขาสามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงคุณได้ หรือแสดงความชื่นชอบ ความเมตตาต่อสัตว์แบบไม่ Fake ทั้งยังพร้อมที่จะช่วยคุณดูแลและเข้าใจความรักที่คุณมีต่อสัตว์เลี้ยง นั่นก็หมายความว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมที่จะมาดูแลคุณอย่างมาก สัตว์เลี้ยงเป็นการทดสอบทางจิตวิทยาที่จะทำให้เห็นว่าแฟนของคุณจะละเลยความรักของคุณในอนาคตหรือไม่
8.หาโอกาสทะเลาะกันบ้าง
ลองหาเรื่องน่าหงุดหงิดอะไรสักอย่าง จับประเด็นขึ้นมาดราม่าแล้วทะเลาะกันดูสักครั้ง ถ้าแฟนคุณไม่มีท่าทีจะทะเลาะด้วย หรือยอมให้คุณชนะก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่ยอมแล้วลุกลามไปจนถึงการอาละวาด จนสามารถที่จะทำร้ายคุณได้ก็แนะนำว่าให้หยุดการทะเลาะนั้นไว้ แล้วทำตัวเนียน ๆ ออกมาจากสถานการณ์นั้น เมื่อกลับมาอยู่คนเดียวก็ลองวิเคราะห์ดูว่าสมควรจะคบกันต่อหรือไม่ ซึ่งวิธีนี้อาจจะดูว่าเสี่ยงแต่คุณจะได้รู้เลยว่าการแต่งงานในอนาคตคุณจะได้สามีจริง ๆ ที่ไม่ใช่ฆาตกรนั่นเอง
9.ทดสอบความเห็นเรื่องเกี่ยวกับเงิน
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สามีภรรยามีปัญหาจนเกิดการหย่าร้างกันจำนวนมากคือ เรื่องของการเงิน เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการจะรู้ว่าแฟนคุณในอนาคตจะอยู่กับคุณรอดหรือไม่ ก็ควรที่จะดูที่การใช้จ่าย และฐานเงินเดือนที่แฟนคุณมี ถ้าในแต่ละเดือนเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรจนต้องมาขอยืมเงินคุณบ่อยครั้ง หรือไม่เคยปริปากมายุ่งเรื่องเงินของคุณ ก็ถือว่าน่าพิจารณาค่ะ แต่ทั้งนี้อย่าลืมสืบเรื่องการใช้เงินและรายได้ของเขาแบบลับ ๆ ด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงโดนหลอกเอาตอนหลังแต่งงานไปแล้ว
10.ดูพฤติกรรมการตอบสนองของแฟนคุณเมื่อยามที่คุณเครียด
เมื่อยามที่เราต้องเจอเรื่องเครียด ๆ หรือเรื่องเลวร้ายที่ทำให้อารมณ์ขุ่นมัว ลองดูว่าคู่ของคุณมีการปลอบโยน พูดคุยและแนะนำไปในทางบวกหรือไม่ ถ้าเขาสามารถช่วยให้คุณหายเครียดด้วยเรื่องสนุกสนานหรือเป็นที่ปรึกษาในด้านที่ดีได้ ก็ควรรับเขาไว้พิจารณาให้เป็นแฟนต่อได้เลยค่ะ แต่ถ้าเขาทำเฉย ๆ ไม่สนใจต่อความเครียดของเรา ทั้งยังซ้ำเติมในสิ่งที่เราพลาดพลั้งไปก็แนะนำว่าเขี่ยทิ้งได้เลยแบบไม่ต้องเสียดายค่ะ
=====================================
แบบทดสอบทั้ง 10 ข้อนี้ เป็นแบบทดสอบที่ทำขึ้นจริงจากนักบำบัดเรื่องชีวิตคู่และจิตแพทย์ของต่างประเทศที่ต่างก็ผ่านการรักษาคู่ที่มีปัญหาทั้งหลายมาอย่างยาวนาน
จึงทำการรวบรวมเอาแบบทดสอบเหล่านี้ออกมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้หญิงอย่างเราได้เลือกผู้ชายที่เหมาะสมที่สุด และไม่ต้องกลัวจะมีปัญหาหลังแต่งงานในอนาคต แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าบางสถานการณ์อาจจะต้องทำใจไปก่อนทดสอบ เพราะถ้าได้เห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็นของหนุ่ม ๆ ข้างตัวคุณขึ้นมาก็อาจจะทำให้เสียใจจนแทบรับไม่ได้นั่นเอง
