เพื่อนๆ เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องภาวะติดน้ำตาลกันไหมคะ? เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะพึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่อันตรายน่าดูเลยล่ะค่ะ เพราะว่า ในปัจจุบันด้วยความที่น้ำตาลนั้นหาง่ายมากๆ และเป็นส่วนประกอบของอาหารแทบทุกประเภท ทำให้คนเราเสพติดหวานมากขึ้นเรื่อยๆ และจากงานวิจัยหลายชื้นถึงกับบอกกันว่า การเสพติดน้ำตาลเนี่ย ใกล้เคียงกับการเสพติดนิโคตินในบุหรี่เลยนะคะ!

ติดน้ำตาล อันตรายยังไง

รสหวานนั้นจะทำให้สมองของเรามีความสุข และทำให้รู้สึกอยากทานอีกเรื่อยๆ โดยถ้าหากเราทานเป็นประจำล่ะก็ ปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายต้องการต่อวันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ โดยความอันตรายของมันก็คือ จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ ตามนั่นเองค่ะ

รูปภาพ:http://antonyhampel.com.au/wp-content/uploads/2014/05/sugar-evil.jpg

โรคที่อาจจะเกิดจากการกินหวานมากไป

1. โรคอ้วน :เมื่อน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากๆ จะไปสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และแปรเปลี่ยนเป็นไขมัน ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดโรคอ้วนค่ะ

รูปภาพ:http://db.lnwfile.com/gnek2q.jpg

2. เลือดเหนียว :

เมื่อมีปริมาณน้ำตาลในเลือดมากเกินไป จะทำให้เลือดเหนียว ทำให้สารอาหารหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ช้าลง

รูปภาพ:http://www.prachachat.net/online/2013/11/13842274711384227489l.jpg

3. ตับทำงานหนัก :

ก่อนที่น้ำตาลจะเข้าสู่กระแสเลือดนั้นจะผ่านไปที่ตับก่อน ซึ่งจะย่อยสลายให้เป็นกลูโคสหรือฟรุกโตส ถ้าหากว่าเราทานน้ำตาลมากๆ และบ่อยเกินไป อาจจะทำให้ตับของเราทำงานหนักและ อาจทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้อีกค่ะ

รูปภาพ:http://p3.isanook.com/me/0/ud/0/1684/liver.jpg

4. เบาหวาน

: อีกโรคนึงที่อันตรายมากๆ อย่างโรคเบาหวาน ที่มีสาเหตุอยู่หลายอย่างในการเกิดมา ซึ่งการทานหวา



นมากๆ นั้น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ค่ะ

รูปภาพ:http://www.rd.com/wp-content/uploads/2015/11/06-diabetes-myths-blood-sugar.jpg

แล้วจะแก้ยังไงดี?

ถ้าหากว่าเราคุ้นชินกับของหวาน ล่ะก็การจะเลิกเลยเป็นอะไรที่ยากมาก สิ่งที่เราแนะนำคือควรค่อยๆ ลดค่ะ ในตอนแรกอาจจะไม่ชิน แต่พอเราทานหวานน้อยลงเรื่อยๆ ก็จะคุ้นชินเองค่ะ

รูปภาพ:https://childdevelopmentinfo.com/wp-content/uploads/2014/05/Foods-that-negatively-affect-your-child%E2%80%99s-mood-_mini.jpg

พยามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มหรือขนมที่หวานจัดๆ โดยเฉพาะพวกน้ำผลไม้ หรือชา หลายๆ ยี่ห้อ ซึ่งสามารถดูปริมาณได้จากฉลากค่ะ

รูปภาพ:http://issue247.com/wp-content/uploads/2015/05/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1.jpg

สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือใจของเรานั่นเองค่ะ ถ้าหากว่าเราอดทนได้ล่ะก็ รับรองว่าสุขภาพดีจะตามมาแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าจะห้ามกินของหวานเลยนะคะ นานๆ ทีอาจจะทานได้บ้าง เพียงแต่ว่าต้องลดลง และอย่าให้ความอยากมาบงการจิตใจเราได้ค่ะ!

รูปภาพ:http://totalawake.com/blog/wp-content/uploads/2015/04/Happy-Hands.jpg

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ สำหรับบทความนี้ หวังว่าเราจะได้ลองเช็คตัวเองกันดูนะคะว่าตอนนี้กำลังติดหวานอยู่หรือเปล่า ถ้าหากว่าใช่ล่ะก็ มาพยายามค่อยๆ ลดน้ำตาลกันเถอะค่ะ รับรองว่าสุขภาพของเราจะต้องดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยแน่ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง