สาวๆ ซิสต้าเคยมีอาการ “ห้ามปากไม่ได้” กันบ้างไหมคะสาเหตุของการที่เธอจะหิวโหยได้ถึงขนาดนั้นมีไม่กี่อย่าง เช่น วันแดงเดือดกำลังมา (ประจำเดือนนั่นเอง) หรือเพราะน้ำหนักที่พุ่งพรวดจนเธอไดเอทอย่างหนัก เมื่อถึงจุดที่ร่างกายรับไม่ไหว อาการกินแหลกก็ตามมาเมื่ออ้วนขึ้นก็ไดเอทอีก วนสลับกันไปอยู่อย่างนั้น

ที่จริงกฎการลดน้ำหนักไม่ยากอย่างที่คิดเลยนะ แค่เธอ “ลด” จำนวนแคลอรี่ที่รับเข้าร่างกาย น้ำหนักของเธอก็จะค่อยๆ ลดลงเองถ้าเธอเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าที่กินเข้าไป ยังไงก็ไม่อ้วน

แต่คนส่วนใหญ่แพ้ใจตัวเอง ห้ามความอยากไม่ค่อยได้ เลยไม่ผอมสักที

วันนี้เรามีบทความ

“6 วิธีหยุดตัวเองไม่ให้กินมากไป”

มาแนะนำสาวซิสต้ากันค่ะ

วางถุงโดนัทแล้วตั้งสติ เลื่อนลงมาอ่านข้างล่างช้าๆ นะคะ ไปกันเล้ย!  (* Ŏ∀Ŏ)


1. หยุดกินก่อนจะอิ่มจนยัดเข้าไปไม่ไหว!

รูปภาพ:http://i.ytimg.com/vi/1Hanb3u2mkM/maxresdefault.jpg

ถ้าเธอฟังเสียงหัวใจ เอ๊ย! กระเพาะของเธอดีๆ แล้วล่ะก็  ที่จริงมันคอยบอกอยู่ตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่ที่เธออิ่ม “จริงๆ”คอยสังเกตกระเพาะ เมื่อมันร้องเตือนว่าอิ่มเมื่อไหร่ รีบวางช้อนส้อมทันที!แม้ว่าอาหารข้างหน้าจะเป็นข้าวผัดเจ้าอร่อย สเต็กห้าดาว ข้าวมันไก่ที่ได้เชลล์ชวนชิมก็ตาม หยุดเดี๋ยวนี้เลย!ระหว่างกินก็ถามตัวเองเป็นระยะๆ ว่า “ฉันยังหิวอยู่หรือเปล่า”กระเพาะที่น่าสงสารถูกเติมเต็มแล้วใช่ไหมหลักการคือ กิน 2-3 ช้อน หยุดคิด แล้วกินต่อ ทำแบบนี้จนหมดจาน!

ถ้าเธอทำตามหลักการนี้อย่างเคร่งครัด ความอยาก “สวาปาม” อาหารจะค่อยๆ หดหายไปเปรียบกับเวลาที่เราอัดอั้นอะไรไว้เยอะๆ แต่เมื่อปล่อยระบายออกมาทีละน้อย ในที่สุดความอึดอัดนั้นจะหายไปเองโดยธรรมชาติ เธอจะหยุดกินเองโดยอัตโนมัติการที่เธอกินข้าวไม่หมดจาน ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงระดับชาติ ดังนั้นอย่าคิดมาก!

คำพูดที่ว่า “อย่ากินทิ้งกินขว้าง” ทำให้คนไทย (และทั่วโลก) กินเยอะเกินความจำเป็นจนน้ำหนักเกินพิกัด!ถ้าอิ่มแล้วก็เก็บไว้กินมื้อหน้าค่ะ ไม่ต้องฝืนกินจนไขมันพอกพูนนะจ๊ะ


2. เคี้ยวเยอะๆ เคี้ยวแล้วก็เคี้ยวอีก!

รูปภาพ:http://www.natural-homeremedies-for-life.com/images/woman-bites-apple.jpg

เคี้ยวให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้!การเคี้ยวทำให้เธอกินอาหารช้าลง รู้ตัวว่ากระเพาะมีอาหารเข้าไปเติมเต็มเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหยุดกินได้!มีงานวิจัยกล่าวว่าในคนที่น้ำหนักเกินเกณฑ์ สัญญาณในร่างกายที่ทำให้เรารู้สึก “พอ” กว่าจะส่งไปถึงสมอง ใช้เวลาถึง 20 นาทีเชียวนะ! (;´д`)

ถ้าเธออยากผอม ต้องรอให้สัญญาณสมองทำหน้าที่ของมัน เคี้ยวให้ละเอียดทีละคำๆทำความเข้าใจร่างกายว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอาหารเท่าไหร่กันแน่ข้อดีอีกอย่างของการเคี้ยวคือ ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น และยัง “หลอก” ให้มันคิดว่าได้รับอาหารมากกว่าที่กินเข้าไปจริงๆ อีกด้วย (●´ω`●)เคี้ยวอย่างละเอียดและเหมาะสมจึงทำให้หยุดยั้งอาการ “กินแหลก” ได้ค่ะ


3. ระหว่างกิน ดื่มน้ำตามเข้าไปด้วย!

รูปภาพ:http://www.pbwatersoftening.com/wp-content/uploads/2012/01/Drinking-Water.jpg

ดื่ม “น้ำเปล่า” กับอาหารทุกมื้อที่กิน ย้ำว่าน้ำเปล่าเท่านั้นนะคะจะให้ผลตรงข้ามกับน้ำอัดลม แอลกอฮอล์อย่างสุราหรือเบียร์ และเครื่องดื่มเพิ่มแคลอรี่ทั้งหลายแหล่การดื่มน้ำช่วยบรรเทาอาการขาดน้ำได้ และเจ้าน้ำเปล่านี่แหละมีส่วนสำคัญในการยับยั้งภาวะ “กินแหลก” ค่ะ!เหตุผลน่ะหรือ ข้อแรกน้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่! ย้ำอีกรอบ ไม่มีพลังงานแต่อย่างใด!แทนที่เธอจะสั่งกาแฟเย็นฉีดวิปครีมแก้วโต ดื่มน้ำเปล่าแทนดีกว่า ลดแคลอรี่ฮวบๆ!

สาวๆ บางคนอาจคิดว่าพลังงานส่วนเกินมาจากอาหารเท่านั้น แต่สิ่งที่ทุกคนมองข้ามคือเครื่องดื่ม!มอคค่า ลาเต้เย็น ชามะนาว โกโก้ ทั้งหมดล้วนเพิ่มไขมันหน้าท้องและมีพลังงานเท่ากับข้าวมื้อหลักเลยล่ะ (บางแก้วอาจมากกว่าด้วยซ้ำ)สาวรักสุขภาพบางคนจิบน้ำระหว่างกินข้าวทีละคำ ช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น และยังช่วยทำให้ย่อยอาหารดีขึ้นอีกด้วยต่อไปเข้าร้านสะดวกซื้อ ตรงไปที่ชั้นวางน้ำเปล่า แล้วซื้อรัวๆ เลยค่ะ ลุยโลด! ∩(´∀`)∩


4. กินให้ครบสามมื้อ!

รูปภาพ:http://www.ivillage.ca/sites/default/files/imagecache/node_photo_gallery_single_view/HEALTH17.jpg

เธอตบะแตก กินแหลกช่วงเวลาไหนของวันมากที่สุด? สาวซิสต้าคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ามื้อดึกเห็นแสงรำไรจากตู้เย็นช่วงตีสองตีสาม นึกว่าโจรเข้าบ้าน ที่แท้มานั่งแทะช็อกโกแลตหนุบหนับๆ อยู่นี่เอง!การอดมื้อเช้า มื้อเที่ยงจนท้องไส้กิ่วไปหมดไม่ช่วยให้เธอผอมได้หรอกนะผลลัพธ์ก็...อืม...ดูคราบขนมที่เลอะแก้มของเธอเอาเองแล้วกัน =_=

มีงานวิจัยกล่าวว่า การกินมื้อเล็กๆ ที่ซอยย่อยออกเป็นหลายมื้อ ยิ่งบ่อยเท่าไหร่ยิ่งดีดูจากการแบ่งกลุ่มทดลองกลุ่มที่กิน 6 มื้อจะกินจุบจิบน้อยกว่ากลุ่มที่กิน 5 มื้อถึง 27% เลยทีเดียว!หากเธอไม่มีเวลาจะกินหลายมื้อขนาดนั้น แค่กินให้ครบสามมื้อ เช้า เที่ยง และเย็นเมื่อเธอได้รับสารอาหารที่เพียงพอ สมองจะแล่นฉิว ทำข้อสอบผ่านฉลุยได้สบาย!

5. ซื้อจานสีที่ทำให้ไม่อยากอาหาร!

รูปภาพ:http://lakesides.us/ptf/wp-content/uploads/2013/11/chicken-fruit-salad.jpg

บางครั้งที่เรากินมากเกินความต้องการ เพราะเราใช้ภาชนะใส่อาหารขนาดใหญ่เกินไปนั่นเอง!สาวซิสต้าอาจสงสัยว่า“แล้วเราควรกินเท่าไหร่ถึงจะพอ”เราแนะนำให้ใช้จานเล็กๆ เข้าไว้เพราะเมื่อเทอาหารลงไปในจานใบเล็กแล้ว สมองจะหลอกความหิวว่า“อาหารเต็มจานขนาดนี้ กินให้หมดก็อิ่มแล้ว ไม่ต้องเติมอีก”

แม้แต่ร้านอาหารหรูก็ใช้วิธีนี้เพื่อแยกขนาดจานอาหารมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น เธออาจตกใจถ้ารู้ว่าปริมาณอาหารของเที่ยงและเย็นไม่ต่างกัน แต่มื้อเที่ยงใช้จานที่เล็กกว่าเท่านั้นเอง!ในทางจิตวิทยาแล้ว จานเล็กแต่มีอาหารอยู่เต็มจะ “ยั่ว” ให้คนอยากกินมากกว่าจานใหญ่แต่มีอาหารนิดเดียวค่ะ

ข้อที่สอง เลือกสีจานให้เหมาะกับการไดเอทมีงานวิจัยสังเกตว่าถ้าจานมีสีเหมือนอาหารที่กิน คนจะยิ่งกินอาหารชนิดนั้นมากขึ้น!งานวิจัยอีกชิ้นกล่าวว่าเสิร์ฟอาหารในจานสีขาวทำให้คนกินอาหารมากกว่าในจานสีดำถึง 22% เลยทีเดียวจงเลือกสีที่ไม่นิยมมาทำอาหาร เช่น สีโทนน้ำเงินและดำ ในทางจิตวิทยาจะทำให้รู้สึกว่า “นี่ไม่ใช่ของที่กินได้” ทำให้ความอยากอาหารลดลงโดยปริยายทำบ่อยๆ น้ำหนักลดลงชัวร์ (ᇴ‿ฺᇴ)


6. อย่ากินอาหารไปด้วย ดูโทรทัศน์ไปด้วย!

รูปภาพ:http://i0.wp.com/jenniferlmcdonald.com/wp-content/uploads/2013/09/woman-watching-tv.jpg

ถ้าเธอเป็นผู้หญิงประเภทชอบเคี้ยวกร้วมๆ อยู่หน้าโทรทัศน์ต้องอ่านด่วน!นึกภาพว่ากำลังดูพิธีกรรายการกำลังย่างเนื้ออยู่ แหม หนังไก่เนื้อสีน้ำตาลไหม้หอมๆ ย่างจนควันขึ้นอ่อนๆ ถ้าโทรทัศน์ส่งกลิ่นมาได้เธอคงยื่นหน้าเข้าไปแทบติดหน้าจอแน่ๆจะรออะไรล่ะคะ เข้าครัวไปอุ่นพิซซ่ากับป๊อบคอร์นที่เหลือไว้มานั่งกินด้วยดีกว่า อ้าวไม่มี สั่งไก่ทอดเจ้าอร่อยมาแทนก็ได้!เคี้ยวไปจิบน้ำอัดลมหวานซ่าไปด้วย โอ๊ย สวรรค์ชัดๆ!กินเพลินจนรู้ตัวอีกทีท้องก็อืดเหมือนชูชกเรียบร้อยแล้ว

มีงานวิจัยเร็วๆ นี้กล่าวว่าโทรทัศน์เป็นสิ่งที่ทำให้คน “วอกแวก” จึงทำให้กินได้มากกว่าปกติ(ถึงเธอจะปิดเสียง ดูแต่ภาพ ผลก็ไม่ต่างกันอยู่ดี)ยิ่งถ้าเธอดูรายการโทรทัศน์เจ๋งๆ มันส์ๆ ตื่นเต้นเร้าใจ แทนที่จะดูข่าวล่ะก็ น้ำหนักขึ้นรัวๆ ไปเลยจ้า

ดังนั้น ทางแก้คืออย่ากินอะไรระหว่างดูโทรทัศน์ เพราะเธอจะหยุดปากและมือตัวเองไม่ได้ละครจะสนุกแค่ไหนก็อดใจไว้ดูหลังมื้ออาหารเท่านั้นคนที่ก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ จะกินได้น้อยกว่ามาก เพราะไม่มีอะไรมากวนใจ จึงมีสมาธิกับอาหารตรงหน้าได้เต็มที่ค่ะ (♥ó㉨ò)ノ♡


-------------------------------------------ป้องกันอาการตบะแตกได้ง่ายๆ หากเธอรู้จักต้นตอและแก้ไขให้ถูกวิธีส่วนใหญ่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำด้วยความเคยชิน มักก่อเกิดให้น้ำหนักขึ้นโดยไม่ตั้งใจทั้งการกินแล้วไม่เคี้ยว กินข้าวกับกาแฟน้ำตาลท่วม กินระหว่างดูทีวี จีงก่อเกิดอุปนิสัยการกินที่ทำร้ายสุขภาพกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อาจอ้วนจนเรียกว่า“หมูตอน”ไปโดยไม่รู้ตัว

แต่ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับซิสต้า แค่ทำตามคำแนะนำนี้อย่างเคร่งครัด เธอจะเริ่มรู้สึกว่าตัวเบาสบายขึ้น น้ำหนักลดลงจนอยู่ในระดับที่น่าพอใจหากออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อทำให้กล้ามเนื้อกระชับก็ยิ่งดีค่ะ มาหุ่นดีไปพร้อมกันนะคะ (・ω<)-------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง และ ที่มา