
Chico Cafe คาเฟ่แมว สุขุมวิทของคนญี่ปุ่น สไตล์อบอุ่นแบบเหมียวๆ
ร้าน Chico Cafe (ชิโกะคาเฟ่) เป็นคาเฟ่แมวย่านสุขุมวิทของชาวญี่ปุ่นที่แสนอบอุ่นและอบอวลไปด้วยบรรยากาศของฝูงเหมียวทั้งหลาย ทาสแมวคนไหนอยากเกาคางให้นาย ตามมา
ฝากตัวรับใช้นาย เป่าหัวผู้ขวางทางเดินนาย ~.. เพลงนี้ ทาสแมว ต้องฮัมให้ติดปากไว้เพราะเรามี คาเฟ่แมว สุขุมวิทแห่งใหม่ เป็น คาเฟ่แมว ใกล้ bts มาแนะนำ นั่นคือ Chico Cafe (ชิโกะคาเฟ่) คาเฟ่แมวเหมียวในซอยสุขุมวิท 53 ที่ไซส์ไม่ใหญ่มาก สไตล์อบอุ่น สงบร่มรื่นและเรียบง่ายแบบฉบับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ในซอยสุขุมวิท 53 จะมีบรรยากาศที่ร่มรื่น สงบ แต่ไม่ถึงกับเงียบสงัด ระหว่างทางมีร้านกาแฟเก๋ๆ ให้ชื่นชมและเมื่อเดินเข้ามาเกือบสุดซอย ก็จะเจอคาเฟ่แมวแสนอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น รอต้อนรับเราแบบกันเองๆ
ข้อมูลร้าน Chico Cafe คาเฟ่แมว ในซอยสุขุมวิท 53
Location
109 ซอย 53 ถนน สุขุมวิท Khwaeng Khlong Tan Nuea, Khet Watthana, Krung Thep Maha Nakhon 10110
รายละเอียดสถานที่
การเดินทางมาร้านชิโกะคาเฟ่ซึ่งเป็นคาเฟ่แมวใกล้ bts นั้นสามารถเดินจากรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อฝั่งสุขุมวิท 53 เดินเข้ามาจนเกือบสุดซอยจะเห็นซอยเรณูอยู่ทางขวามือ (เป็นซอยเล็กๆ ซอยสุดท้ายก่อนจะเป็นทางตันของสุขุมวิท 53) เลี้ยวเข้าซอยเรณู ไปสุดทางจะเจอร้าน Chico อยู่ที่สุดซอยเรณูนั้น
Short Note
Facilities
มีปลั๊กไฟ
ไม่มีบริการเดลิเวอรี่
Media
Short Note
จริงๆ แล้ว Chico Cafe ไม่ใช่เพียงคาเฟ่แมวในย่านสุขุมวิท แต่ในร้าน Chico เป็นทั้งพื้นที่จำหน่ายสินค้าแต่งบ้าน รวมถึง accessories ดีไซน์เก๋ๆ สไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานแบบไทยๆ และเป็นทั้งพื้นที่นั่งชิลล์ที่เปิดให้บริการตรงโซนคาเฟ่ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นนอกจากความเป็นญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่แล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์คือบรรดาเจ้าเหมียวทั้งหลายที่เดินป้วนเปี้ยนไปมา บ้างก็นอนหลับแบบลืมโลกไม่แคร์สายตาใคร และบ้างก็กำลังปฏิบัติหน้าที่ในร้านอย่างเคร่งครัดอยู่
ใครที่อยากอุ้ม อยากทักทาย อยากอุทิศตัวมารับใช้นายก็มาคาเฟ่แมวในย่านสุขุมวิทนี้ โดยปกติร้านจะเปิด 09.30-18.00 น. (ครัวปิด 17.00 น.) หยุดทุกวันอังคาร และหยุดเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ที่นี่มีบริการเรียกรถมารับ-ส่งผู้โดยสารให้ด้วย และยังมีที่จอดรถด้านในบริเวณลานบ้านอีก 5-6 คัน

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] โฉมหน้าของซอยเรณู ปากทางเข้าคาเฟ่แมว สุขุมวิท 53 เป็นซอยที่ร่มรื่นน่าเดินรับลมเย็นสบายๆ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ปากทางเข้าซอย ผนังสีขาวทางซ้ายมือจะมีชื่อร้าน Chico เพ้นท์บอกทางไว้บนกำแพงเก๋ๆ เป็นงัยล่ะการบอกทางไปร้านยังคูลล์สไตล์ญี่ปุ่นเลยใช่ม้า

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เดินเข้ามาสุดซอยเรณู ก็เจอป้ายร้าน Chico แล้วค่ะ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ทางเข้าร้าน Chico เป็นเหมือนบ้านที่เปิดประตูรอต้อนรับลูกค้าทุกๆ ท่าน ถึงแล้วก็เคาะประตูเตรียมเข้าไปทักทายเจ้าของบ้านกันเลยค่ะ
[ชิโกะคาเฟ่ คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เปิดประตูดูแมวที่ Chico Cafe

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] คุณซาชิโกะ เป็นดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นผู้เป็นเจ้าของร้าน Chico แห่งนี้ อยากจะต้อนรับลูกค้าแบบอบอุ่น เหมือนมานั่งเล่นที่บ้านเพื่อนกันเองๆ ดังนั้นพื้นที่บ้านขนาดกลางในซอยสุขุมวิท 53 หลังนี้จึงเหมาะและเข้ากับธีมสุดๆ ไปเลย
สาวญี่ปุ่นนัก interior design ทาสแมวผู้เป็นเจ้าของร้านสินค้าดีไซน์ Chico Design Bangkok พร้อมทั้ง คาเฟ่แมว สุขุมวิท ร้าน Chico Cafe มุมเล็กๆ ในร้านเดียวกัน โดยมีทีมงานแมวเหมียวทั้งหลายเป็นผู้ดูแลควบคุมงานและให้บริการอยู่ในร้านตลอดทั้งวัน
คุณชิโกะเล่าว่าเดิมเคยเปิดร้านที่สุขุมวิท 34 ก่อนจะย้ายมาที่ สุขุมวิท 53 จนกลายเป็นร้าน Chico ที่มีทั้งสินค้าดีไซน์และคาเฟ่แมวในซอยสุขุมวิท 53 ในปัจจุบัน รวมเวลาที่เปิดมาก็ 12 ปีแล้ว ที่ร้านเดิมนั้นตอนแรกมีแมวเพียงแค่ 4 ตัว จนตอนนี้ที่นี่มีแมวอยู่ 12 ตัว โดยมีทั้งแมวที่มาอยู่เอง แมวที่ได้มาจากเพื่อนคนรู้จัก แมวที่เก็บมา ไปจนถึงแมวที่มีคนเอามาใส่กล่องวางไว้หน้าร้านด้วย

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] หลังจากหมดยุคของชิโร่ซังผู้จัดการเหมียวคนก่อน ก็มี ลาล่า หนุ่มหล่อสีส้มตัวฟูมารับหน้าที่ต่อ โดยหน้าที่หลักๆ ก็คือการรับแขกและนอนในตะกร้าแคชเชียร์หน้าร้านนั่นเอง

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ตามมาดูสเต็ปการนอน เอ้ยการทำหน้าที่ผู้จัดการร้านของลาล่ากันค่ะ ~

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] นี่คือโมจิ ซีเนียร์รุ่นเก๋าก็จะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างหนักแน่น นั่นคือการนอนขดอยู่ในตะกร้าหน้าเคาน์เตอร์บาร์ของมุมคาเฟ่ให้ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาได้อิจฉาในอาการนอนสบายนั้นเล่นๆ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เวลาคุณโมจิหลับ ถึงจะน่าแกล้งขนาดไหน ดูจากสายตาแล้ว ก็ปล่อยให้เค้านอนดีกว่าค่ะ ^w^

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ส่วนแก๊งนี้เป็นแก๊งจอมซน ชอบอยากรู้อยากเห็นไปซะหมด รวมถึงเมนูขนมและอาหารที่เราสั่ง ตัวซนวิเชียรมาศเหล่านี้ก็จะมาแจมด้วย
ตอนที่เราไปถึงจะมีแมววิเชียรมาศอยู่ 7 ตัว คอยส่งสายตาสีฟ้าสวยๆ ล่อให้อยากเดินเข้าไปทักทาย คุณชิโกะบอกว่าเจ้าวิเชียรมาศกลุ่มนี้เป็นครอบครัวเดียวกัน ได้มาจากคนรู้จักกันที่บ้านแมวอัมพวา สมาชิกกลุ่มนี้จะมีทะเลาะกันบ้างกับคุณลาล่าและโมจิ ดังนั้นจึงต้องสลับเวลาปล่อย ผลัดกันให้เข้ามาอยู่ในร้าน
แมวที่ คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53 เหล่านี้สามารถอุ้มเล่นได้ แต่ใครจะอุ้มก็ต้องเช็คอารมณ์น้องแมวกันนิดนึง ถ้าน้องๆ อารมณ์ดี ไม่เป็นการก่อกวนหรือทำให้เจ็บ คุณชิโกะก็อนุญาตให้อุ้มเล่นกันได้ตามสบายรวมถึงสามารถพาแมวมานั่งชิลล์พบปะเพื่อนเหมียวกันได้ แค่ไม่ปล่อยให้เหมียวๆ ทะเลาะกันก็โอเคเลยค่ะ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] นอนเกยกัน น่าเอ็นดูมาก แต่กว่าจะรวมตัวกันเหนียวแน่นอบอุ่นได้ขนาดนี้ก็เกือบฟัดกันไปรอบนึงละค่ะ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] จริงๆ ยังมีฝูงแมวให้เราเล่นได้อีกเพียบ แต่ตอนที่ไปถึงพวกเค้ากำลังนอนหลับกระจายกันหลบมุมไปตามที่ต่างๆ มีเพียงเจ้าเหมียวสีดำตัวนี้ที่ตั้งใจเดินมาอวด นวยนาดให้เราถ่ายรูปได้หลายรูปเลย

[ชิโกะคาเฟ่ คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เปิดเมนูสั่งขนมและของกินอร่อยๆ ในโซนคาเฟ่

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เรียกน้ำย่อยกันไปด้วยภาพนี้ บอกเลยมาที่นี่ ไม่ว่าอะไรก็จะได้ฟีลลิ่งญี่ปุ่นแท้ๆ แบบต้นตำรับไปเต็มๆ รวมถึงไฮไลท์สำคัญอย่างอาหาร ขนมหวานและเครื่องดื่มด้วยค่ะ
มาที่ คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53 ก็ต้องมีขนมและอาหารอร่อยๆ มาปรนเปรอความสุขเราได้ด้วย น่าตื่นเต้นตรงที่มุมคาเฟ่อาหารจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ราคาดีงามแถมรสชาติอร่อย กินเพลินด้วย สไตล์อาหารและของว่างจะออกแนวอาหารจานเดียวหรือแนวอาหารกล่องที่รู้จักกันดี เรียบๆ กินง่าย แต่ปริมาณ big size และรสชาติอร่อยได้ฟีลญี่ปุ่นสุดๆ จะเป็นประมาณไหน ไปชิมกันน

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เมนูอาหารยอดนิยมของที่นี่คือจานนี้ Omu Rice หรือ ข้าวห่อไข่ (160.-) รสชาติข้างในเป็นข้าวผัดซอส รสชาติกลมกล่อม กินกับไข่นุ่มๆ ด้านนอก เตือนก่อนว่ามาคนเดียวอาจกินไม่หมด เพราะจานใหญ่มากกก

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เมนูของหวานทานเล่นคือ Scoon (80.-) หรือสโคน รูปแมว 3 ตัว เสิร์ฟมาพร้อมกับฮันนี่เลมอนและเนยสด กินเพลิน หมดไม่รู้ตัวเลยค่ะ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ของหวานของคนญี่ปุ่นที่คนไทยช้อบชอบ Jumbo Honey Toast (130.-) มาแบบจัมโบ้จริงๆ หอมหวานน้ำผึ้งกำลังพอดี โรยด้วยอัลมอนด์สไลด์เข้ากัน (ปกติจะเสิร์ฟแบบไม่มีไอศครีม แต่ถ้าสั่งเพิ่มไอศครีมด้วย [55.-] ก็ได้นะ)

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] และเมนูเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้อย่างกาแฟเมล็ดพันธุ์จากเชียงราย Cafelatte (90.-) โฟมเหมียวน่ารักข้างบนชวนให้เราอยากถ่ายรูปน่ารักๆ (แต่ละครั้งที่เสิร์ฟอาจจะได้จำนวนแมวเหมียวไม่เหมือนกัน บางทีก็มาเป็นเหมียวแฝดก็มีนะ)
[ชิโกะคาเฟ่ คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เปิดหูเปิดตา เที่ยวชมบรรยากาศใน Chico Cafe
เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม..เมื่อมาถึง คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53 เราก็เลยต้องมาเที่ยวชมบรรยากาศการตกแต่งร้านกันแบบทุกซอกทุกมุม ให้เหมือนกับการเดินเที่ยวเล่น ชมนกชมไม้ของเจ้าเหมียวแสนซน แสนอยากรู้อยากเห็นกันซะหน่อย

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] โซนด้านนอกเป็นสวน ชวนให้เพลิดเพลินกับสีเขียวของต้นไม้ ความเป็นธรรมชาติ และความสงบ เหมาะมากถ้าได้มานั่งช่วงเวลาที่แดดร่มลมตก

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] เมื่อเข้ามาข้างใน ด้านในร้านจะมีแสงไฟสีส้มอ่อนๆ เพิ่มบรรยากาศอบอุ่น ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และหินแบบเข้าถึงง่าย เหมือนได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] ตรงกลางมีโต๊ะขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ที่นั่งเป็นกลุ่มได้ หรือจะมานั่งทำงานคนเดียว มีแมวเหมียวเป็นเพื่อนอีกเพียบก็ได้เหมือนกันนะ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] มุมคาเฟ่จะมีโต๊ะหลายขนาดให้เลือกนั่งได้ มีมุมหนังสือเกี่ยวกับดีไซน์ และถัดมาอีกฝั่งก็จะเป็นโซนสินค้าแต่งบ้านและแอ็คเซสเซอรี่ต่างๆที่ส่วนใหญ่คุณชิโกะดีไซน์เองด้วย

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] สินค้าที่คุณชิโกะดีไซน์เองซะส่วนใหญ่เน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมีทั้งสินค้าออกไทยๆ และญี่ปุ่น แต่ละชิ้นน่ารักน่าซื้อสุดๆ สาวๆ อย่างเราเห็นแล้วตาโต แต่ละชิ้นน่ารักถูกใจมากๆ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นชาวญี่ปุ่น วันธรรมดาลูกค้าจะมาเรื่อยๆ แต่ศ ส อา จะเน้นไปทางคาเฟ่ทั้งคนไทย ครอบครัว ต่างชาติและลูกค้าประจำ ถ้าใครมีแมวก็สามารถพามาเล่นกันได้

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53] คุณชิโกะยังมีสมุดคอมเมนท์เอาไว้ให้เขียนหรือบอกเล่าความรู้สึกต่อที่นี่ลงไปได้ด้วย เป็นแนวคิดที่น่ารักมากๆ ใช่มั้ยล่ะคะ

[คาเฟ่แมว สุขุมวิท] ใครเป็นทาสแมวหรืออยากซึมซับบรรยากาศญี่ปุ่น แวะมาที่ชิโกะคาเฟ่รับรองว่าไม่ผิดหวัง มาครั้งแรกแล้วต้องมีแพลนมาครั้งที่สองและครั้งต่อๆ ไปอีกแน่นอนค่ะ
เปิดกันไปหมดแล้วทั้งเปิดประตูดูแมวเหมียว เปิดเมนูสั่งอาหาร และเปิดหูเปิดตาเที่ยวชมบรรยากาศสุดชิลล์แสนอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่นแบบทุกซอกทุกมุม ต้องยอมรับเลยว่าที่ Chico Cafe เป็นคาเฟ่แมวในซอยสุขุมวิท 53 ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ชิลล์ได้เหมือนนั่งในบ้าน มีแมวเหมียวทั้งหลายมาให้เราทักทายได้ทุกมุม
ใครกำลังมองหา คาเฟ่ในโซนสุขุมวิท มานั่ง หรือหา คาเฟ่แมว ใกล้ bts อยู่ หรือแม้แต่หา ร้านกาแฟในสุขุมวิท/ทองหล่อนั่งทำงาน ก็อย่าลืมนึกถึง คาเฟ่แมว สุขุมวิท 53 ที่ร้าน Chico Cafe แล้วสาวๆ จะต้องหลงใหลสไตล์และรสนิยมแบบญี่ปุ่นเรียบง่ายและหลงรักฝูงแมวสุดอินดี้เหล่านี้ไปแบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ