ซัมเมอร์นี้ อยากจะโชว์ผิวสวยแต่ จะรับมือยังไงกับ แดด !!!
ครีมกันแดด คือคําตอบ .. แต่จะเลือกยังไงในเมื่อครีมกันแดดก็ หน้าตาเหมือนกันหมดมาดูกันดีกว่า
ว่าครีมกันแดดมีกี่ประเภท และ SPF กับ PA มันคืออะไร...ก่อนอื่นเลยมาทําความรู้จักเกี่ยวกับครีมกันแดดกันก่อน
ครีมกันแดด ช่วยปกป้องการทําลายเซลล์ผิว จากรังสีอุลตร้าไว้โอเลตในแสงแดด แล้วประเภทของครีมกันแดดละเราจะเลือกยังไง ?

ประเภทของครีมกันแดด มี 3 ประเภท มีอะไรบ้างมาดูกันเลย ..
1. Chemical Sunscreenเป็นครีมกันแดดประเภทเคมี จะดูดซึมรังสียูวีจากแดดมาเก็บไว้ ไม่ยอมให้ผ่านไปทําร้ายผิว ส่วนมากมีความคงทนต่อแสงแดด หลังจากโดนแดดสักพักสารเคมีก็เสื่อมสภาพ
เราต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง แม้ว่าครีมกันแดดประเภทเคมีจะมีสารกรองแสงบางตัวป้องกันได้ดี แต่ บางตัวก็อาจจะทําให้ระคายเคือง และทําร้าย ผิว ซึ่งก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทําให้เร่งอายุของผิว ถึงแม้จะมี SPF ที่สูงด้วย เคมีก็อาจจะทําให้มีผลข้างเคียงโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย

2. Physical Sunscreen
เป็นครีมกันแดดประเภทธรรมชาติ ปกป้องผิวจากแสงแดดโดยการสะท้อนและบล็อครังสียูวีจากแสงแดดแม้ SPF จะน้อยแต่ไม่ทําให้ผิวระคายเคือง เมื่อทาแล้วอาจจะทําให้ผิวดูสว่างไม่เป็นธรรมชาติ
3. ผสมทั้ง Chemical + Physical Sunscreenและเมื่อครีมกันแดดประเภท "เคมี" กับ "แบบธรรมชาติ" มารวมกัน ทําให้การลดการระคายเคือง รวมถึงมี SPF ที่สูง ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ปรับเรื่องความขาวที่ทําให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

เอ๊ะ .. แล้ว SPF มันคือะไร ที่เราเรียกอยูบ่อยๆว่า ค่า SPF สูงๆมีผลอะไรกับเราไหม มาดูกันเลย !

ค่า SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor คือตัวที่คอยปกป้องจากรังสี UVB ปกป้องผิวจากแสงแดดโดยที่จะไม่ทําให้ผิวไหม้ แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพก็อาจจะลดลงเมื่อเราเจอกับเหงื่อหรือทํากิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน

ค่า PA ย่อมาจากคําว่า Protection Grade of UVA ซึ่ง ทําหน้าที่ปกป้องรังสี UVA หรือ ค่ารังสีที่สูงกว่า UVB นั้นเอง เอ๊ะ.. ที่เป็น PA+++ คืออะไรกันนะ ตอบ.. มันคือความสามารถในการปกป้อง
ผิวจาก UVA แบบเท่าตัว เช่น PA+ก็เท่ากับการปกป้องเป็น 2 เท่า PA++ เท่ากับการปกป้องเป็น 4 เท่า PA+++ เท่ากับการปกป้องเป็น 8 เท่า
อย่างไรก็ตาม หลายคนคงได้รู้จักประโยชน์ของครีมกันแดดมากขึ้น อย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเราด้วยนะคะ ^ ^