เกิดเป็นผู้หญิงก็อยากมีรูปร่างดี เดินอวดหุ่นสวยให้ใครๆ เหลียวมองกันทั้งนั้น!แต่เจ้าพวกขนมหวานที่วางเรียงรายในตู้ก็ช่างล่อตาล่อใจซะเหลือเกิน รู้ตัวอีกทีก็หิ้วถุงเค้ก คุกกี้มาเต็มสองมือ จะไม่กินก็ไม่ได้เพราะซื้อมาแล้ว TT ขนมตามร้านค้ามักใช้น้ำตาลขัดสี ( น้ำตาลทรายขาว ) ในการทำขนม ซึ่งมีแต่โทษ กินมากๆ ก็อ้วนและอาจเป็นโรคเบาหวานได้ เสี่ยงต่อสุขภาพสุดๆ
ถ้ายังอยากกินขนม อมยิ้ม น้ำผลไม้แสนอร่อย ยังมีทางเลี่ยงด้วยการเปลี่ยนส่วนประกอบบางอย่างในอาหาร นั่นคือ " น้ำตาล " ค่ะ
วันนี้เรามีบทความรวมส่วนผสม / เครื่องปรุงที่สามารถใช้แทนน้ำตาลปกติได้ รสหวานเหมือนกันแต่คุณค่าทางอาหารมากกว่ากันเยอะ =w=b
จะมีอะไรบ้างต้องอ่าน!!!
1. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง ( โดยเฉพาะน้ำผึ้งธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมอื่นเจือปน ) เป็นสารให้ความหวานที่มีวิตามินและเกลือแร่กว่าน้ำตาลขัดสี
ทั้งยังมีผลให้น้ำตาลในเลือดคงที่ ไม่ทำให้ร่างกายผิดปกติ อ่อนล้า เพลีย หรือเกิดผลเสียต่อสุขภาพเหมือนน้ำตาลขาวค่ะ ^^
แต่ถึงน้ำผึ้งจะเป็นอาหารจากธรรมชาติ ก็ยังมีแคลอรี่สูงอยู่ กินมากๆ ก็อาจหน้าท้องมาได้ไม่รู้ตัว
ถ้าจะคิดใส่น้ำผึ้งรัวๆ ในเครื่องดื่ม ก็จงจำไว้ให้มั่นว่า 1 ช้อนชาให้พลังงาน 45 แคลอรี่นะจ๊ะ ใส่สัก 5-6 ช้อนก็ได้พลังงานเทียบเท่าข้าวหนึ่งมื้อแล้ว (／`o´)／
2. อินทผลัม
อินทผลัม ( Dates ) เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลในตัวอยู่แล้ว จึงใช้แทนน้ำตาลได้!
ผลอินทผลัมอบแห้งจะมีความเหนียว และคายความหวานออกมา นอกจากเป็นผลไม้ธรรมชาติ กินได้ไม่อันตรายแล้ว ยังมีไฟเบอร์ วิตามินและเกลือแร่มากมาย
ข้อเสียของอินทผลัมอย่างเดียวคือ ไม่ละลายในเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ จึงไม่สามารถใช้แทนน้ำตาลผงได้เต็มตัว TT
แต่ถ้าเธอรู้สึกว่าร่างกายขาดความหวาน อยากเคี้ยวอะไรสักอย่างให้หายง่วง ลองเลือกอินทผลัมเป็นตัวเลือกแรกๆ ก็ดีนะ ^0^
3. น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ( Agave Nectar )
คนไทยอาจจะไม่คุ้นหู แต่สาวๆ ในวงการทำอาหารอาจเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างกับคำว่า " น้ำหวานเกสรดอกไม้ ( Agave Nectar ) "
สารให้ความหวานจากธรรมชาตินี้ เป็นน้ำเชื่อมที่ได้จากต้นว่านหางจระเข้
มันอาจมีแคลอรี่มากกว่าน้ำตาลทรายขาว แต่อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีไป! เพราะมันหวานกว่านี่แหละ ถึงทำให้ควบคุมปริมาณให้กินได้น้อยลงไงล่ะ
ถ้าเธอคิดจะใส่น้ำหวานเกสรดอกไม้ในเครื่องดื่มร้อนๆ ค็อกเทล หรือเบเกอรี่ทั้งหลาย เธอสามารถลดปริมาณจากน้ำตาลปกติได้มากโข ( ไม่เปลืองด้วย -.- )
ข้อดีคือเป็นเส้นใยอาหาร ( ไฟเบอร์ ) จากธรรมชาติหรือที่เรียกว่า " พรีไบโอติก " ซึ่งมีแบคทีเรียชนิดดี ส่งผลต่อระบบลำไส้ ช่วยในระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้นค่ะ
4. กล้วย
สาวๆ หลายคนคงตาโตกับข้อนี้! ใช่แล้ว กล้วยก็เป็นผลไม้จากธรรมชาติที่ใช้แทนน้ำตาลได้ เพราะกล้วยมีน้ำตาลในตัว
สามารถบดให้ข้นละเอียดแล้วใส่ในขนมจำพวกเบเกอรี่ต่างๆ, สมูทตี้, เพิ่มรสชาติให้ข้าวโอ๊ต หรือเติมความหวานให้พุดดิ้งจานโปรดของเธอได้ ( แม้แต่อาหารคาว กล้วยก็ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นให้น่ากินยิ่งขึ้นได้ เช่น แกงกะหรี่ ใส่กล้วยลงไปทำให้ซุปข้นน่ากินขึ้นเยอะเลย )
กล้วยทั้งช่วยให้อิ่มท้อง มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โปรตีน และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วยนะ =w=
5. น้ำองุ่น
ถ้ามองหาสารให้ความหวานที่เป็นน้ำผลไม้ ลอง " น้ำองุ่น " สดๆ ไหมคะ ><
จะเป็นองุ่นขาวหรือองุ่นแดงก็ได้ ใช้แทนน้ำตาลเป็นส่วนผสมในค็อกเทลหรือขนมจำพวกเบเกอรี่ทั้งหลาย หวานอร่อยเหมือนกัน แต่ได้ประโยชน์จากองุ่นด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะเนี่ย
ถ้าเป็นไปได้ เธอควรคั้นองุ่นเอง จะได้น้ำผลไม้สดแท้ๆ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ซื้อน้ำองุ่น 100% แทนได้ค่ะ
อร่อยฟินจากธรรมชาติ ไม่มีน้ำตาลส่วนเกินให้อ้วนแน่นอน =w=b
6. มันเทศสุก ( Cooked Yams )
ใช่ ฟังไม่ผิดหรอก มันเทศก็ใช้แทนน้ำตาลได้!
แค่ต้มให้สุกแล้วบดละเอียดให้เป็นครีมข้นๆ ใช้แทนน้ำตาลขาวหรือน้ำเชื่อมข้าวโพด ใส่ในเมนูอาหารต่างๆ ก็อร่อย ฟินเฟ่อได้เหมือนกัน ^0^
มันเทศมีเนื้อสัมผัสอ่อนๆ ละลายในปาก และมีรสหวานนุ่มไม่บาดคอ จึงใช้แทนน้ำเชื่อมได้สบาย
จะนำไปใส่กับอาหารประเภทผัด อบ หรือตุ๋นก็โอเคนะ o＜´ω｀＞o
7. เมเปิ้ลไซรัป
เมเปิ้ลไซรัปหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล ชื่อนี้น่าจะคุ้นหูดีสำหรับสาวไทย เธอรู้ไหมว่ามันมีฉายาว่า " น้ำทองคำ " สำหรับคนแคนาดาเชียวนะ!
เพราะเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ ( ออร์แกนิค ) 100% และมีความหวานมากกว่าน้ำตาลจากอ้อยถึง 3 เท่า! ยังๆ ยังไม่พอ มีแคลอรี่น้อยกว่า และไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีเลย ทำให้ปลอดภัยกว่าอีกด้วย
ข้อดีของเมเปิ้ลไซรัปคือ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับร่างกายอย่างแมงกานีสและสังกะสี ( Zinc )
ซึ่งช่วย
บำรุงหัวใจให้แข็งแรง
ค่ะ (✿◖◡◗)
8. หญ้าหวาน ( Stevia )
หญ้าหวานสตีเวีย ( Stevia ) เป็นผงแป้งที่สกัดมาจากหญ้าหวาน
เป็นพืชชนิดหนึ่งในแถบอเมริกาใต้ มีตามแนวพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลและปารากวัย
เป็นสารให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาลได้ 100% แต่ให้พลังงาน 0 แคลอรี่
หรือไม่มีแคลอรี่ให้อ้วนเลยนั่นเอง 0_0!!!
สำหรับสาวๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักแต่อดใจกับรสหวานไม่ไหว
เปลี่ยนจากน้ำตาลขัดสีเป็นหญ้าหวานใส่ในเครื่องดื่มชา กาแฟแทนนะคะ
ลดไปอย่างน้อยก็ 2- 300 แคลอรี่ล่ะ!
9. น้ำตาลทรายดิบ / น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี ( Organic Raw Sugar )
ข้อเสียของน้ำตาลขัดสี หรือน้ำตาลสีขาวคือผ่านกระบวนการทางเคมีมาเยอะ เช่น ขัดสีให้เป็นสีขาวน่ากิน -.- ทำให้มีสารเคมีตกค้างเยอะ อันตรายต่อสุขภาพ
และยังไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแต่อย่างใดอีกด้วย ถ้าเธอเป็นแฟนพันธุ์แท้น้ำตาล เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติก็ดีนะ =w=
น้ำตาลไม่ขัดสี / น้ำตาลดิบจะมีสีน้ำตาล เพราะสกัดตรงๆ ไม่ต้องฟอกสี แค่นี้เธอก็ฟินกับความหวานได้โดยไม่ต้องห่วงสารเคมีที่ปนเปื้อน
แต่อย่าลืมว่ามันยังมีแคลอรี่สูงอยู่นะ จะเติมใส่ขนมหรือเครื่องดื่มอะไรก็ยั้งมือหน่อย
10. กากน้ำตาล ( Blackstrap Molasses )
สำหรับคนไทยอาจยังไม่คุ้นหู แต่ในฝั่งตะวันตก
" กากน้ำตาล "
ค่อนข้างเป็นที่นิยมเลยล่ะ =w=
เจ้าของเหลวข้นเหนียวเหมือนกาว สีดำมะเมื่อมนี้ เป็นผลผลิตจากอ้อยนั่นเองค่ะ
นอกจากมีรสหวานตามธรรมชาติแล้ว ยังมีประโยชน์มากมาย เช่น ธาตุเหล็ก วิตามิน B6 แมกนีเซียม แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
เทียบกับสารให้ความหวานทุกอย่างแล้ว กากน้ำตาลชนะขาดแน่นอน! （*థ౪థ）
===========================
หมดเวลาห่วงอ้วนกับน้ำตาลขัดสีไร้ประโยชน์ ในเมื่อเรายังมีเครื่องปรุงจากธรรมชาติรอให้เลือกไปทำอาหารอีกมากมาย! หลายอย่างเป็นสิ่งที่มีในบ้าน หรือหาได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น กล้วย มันเทศหรือน้ำผึ้ง =w=b หวานอร่อยได้เหมือนกัน แต่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าโขเลย
ครั้งหน้าถ้าอยากทำของหวานโฮมเมดกินเอง หรือสั่งเครื่องดื่มตามร้าน อย่าลืมนึกถึงสารให้ความหวานดีๆ ในบทความนี้นะคะ ไม่ต้องอดหวานก็อร่อยอย่างสุขภาพดีได้ เย้! ^0^
===========================
