สาวๆ ซิสต้าที่คงสถานะ " โสด " มาตลอด บางคนอาจมีสเปคหนุ่มในฝันว่าต้องเป็นแบดบอย เพราะรู้ว่าผู้ชายประเภทนี้หาตัวจับยาก ฝัน มโนไปเองว่าเขาจะหยุดที่เธอได้ แต่ความเป็นจริงกลับตีแสกหน้าจนทำให้ต้องตื่นแรงๆ นอกจากเขาจะไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้แล้ว กลับนอกใจรัวๆ จนเธอต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าและนั่งถามตัวเองว่า " ฉันทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย นี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ เหรอ T_T "
อย่ามัวแต่ทดสอบความอดทนของตัวเองอยู่อีกเลย! ไม่คุ้มกับความรู้สึกหรอก เราเข้าใจว่าผู้หญิงอยากมีแฟนดีๆ มีนิสัยในอุดมคติ เหมือนเจ้าชายในเทพนิยายวอลท์ดิสนีย์ แต่เสียใจด้วย นี่คือโลกความจริง ไม่มีความสัมพันธ์ที่เพอร์เฟกต์หรอก
แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ทุกคนย่อมต้องมีเนื้อคู่ของตัวเอง คนที่จะอยู่กับเธอไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข ดีใจหรือเศร้าใจ แต่จะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเจอคนคนนั้นแล้ว? นี่คือ 7 คุณลักษณะที่แฟนดีๆ ที่เธอควรจะกุมมือไปจนถึงวันแต่งงานควรมี รีบอ่านก่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
1. ไม่ซ้ำเติมเมื่อเธอทำผิดพลาด
คุณสมบัติข้อนี้แหละ ที่จำเป็นมากสำหรับคู่ชีวิตในอนาคตของเธอ ( อันที่จริงนิสัยแบบนี้ไม่ใช่แค่แฟนหรอก แม้แต่เพื่อนธรรมดาๆ ก็ควรมี ) ทุกคนล้วนต้องเคยทำผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะทะเลาะกับพ่อแม่ ตีหมาตีแมวโดยไม่ตั้งใจ ไม่ตั้งใจเรียนจนเกรดตก และอีกมากมาย ก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเดินดินเองนี่นา แค่เธอยอมรับความผิดนั้นแล้วก้าวเดินต่อไปก็พอแล้ว
ถ้าเธอมีแฟน เขาไม่ควรจะย้ำความผิดพลาดของเธอซ้ำๆ ซากๆ เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง " ทำไมเธอเป็นคนที่แย่อย่างนี้นะ", " คนอย่างเธอก็คงทำได้แค่นี้แหละ ไม่น่าหลวมตัวมาเป็นแฟนกันเล้ย " คำพูดพวกนี้ถ้าหลุดออกมาขอจงหลีกหนีให้ไกล!
คนรักที่ดีไม่ควรดันทุรังเข้าข้างเธออย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ถ้าเธอสำนึกผิด ต้องการแก้ข้อผิดพลาดให้ถูกต้องอย่างจริงใจ เขาควรอยู่กับเธอ ดูแล ปลอบใจและประคับประคองกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น ไม่อย่างนั้นเราจะมี " เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข " ในคำสาบานพิธีแต่งงานไปเพื่ออะไรกันล่ะ จริงไหม!
2. อดทนอยู่ร่วม " ประเพณีครอบครัว " ที่ ( อาจจะ ) น่าเบื่อของเธอ
ถ้าเธอกับแฟนคบกันอย่างจริงจังจนถึงขั้นแนะนำตัวให้ที่บ้านรู้จักแล้วล่ะก็ คงหลีกหนีไม่พ้นการเกี่ยวดองกับครอบครัวอีกฝ่ายอย่างแน่นอน! ทั้งงานเลี้ยง งานครอบครัว งานรวมญาติก็มารัวๆ แต่ละครอบครัวก็มีความพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างกันไป ในที่นี้หมายถึงอาจจะ " รับมือยาก ", "แปลกประหลาด " หรือ " วุ่นวายจนปวดหัวไมเกรน " แล้วแต่ว่าจะเจอแจ็คพอตแบบไหน
ถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่ต้องไปร่วมงานต่างๆ ในครอบครัวแฟนอยู่เสมอ ( บางคนอาจถูกลากไปทุกเทศกาล ทุกประเพณีให้เบื่อหน้ากันไปข้างเลยทีเดียว ) และโชคร้ายที่งานพวกนั้นน่าเบื่อสุดๆ แฟนที่ดีต้องไม่ปล่อยให้เธอนั่งแข็งเป็นท่อนหินอยู่คนเดียว เขาจะชวนเธอคุยหรือทำท่าทีตลกๆ ปลอบใจให้เธอหัวเราะและยิ้มได้ พร้อมกับพยักหน้าอย่างเข้าใจว่า " เขาก็เบื่อเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสเราจะชิ่งหนีไปด้วยกันนะ "
แค่เขาเข้าใจ สีหน้าเหม็นเบื่อของเธอก็กลายเป็นรอยยิ้มที่สดใสแล้ว จริงไหมเอ่ย
3. สังเกตเห็นเมื่อเธอทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่าง " เปลี่ยนทรงผมใหม่ "
เป็นแฟนที่ดีก็ต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของฝ่ายตรงข้าม! ถ้าเธอเปลี่ยนไปแม้ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองผ่าน เขาควรเป็นคนแรกที่ทักอย่างใส่ใจ ไม่ใช่ล้อเลียน! เช่น ตัดผมทรงใหม่ แม้เธอจะตัดทรงหัวเห็ดออกมาเหมือนกะลาครอบ ไม่น่ารักสดใสมุ้งมิ้งเหมือนนางแบบในนิตยสาร เขาก็ต้องพูดในแง่ดี หรืออย่างน้อยก็ไม่พูดหักหน้าเธอกลางที่ชุมชน! ( ทำให้อายแบบนี้ต้องเลิกสถานเดียว! )
การที่คนสองคนรักกัน หมายถึงการใส่ใจ ดูแลกันตลอดเวลา ดังนั้นถ้ามีใครเปลี่ยนไป อีกฝ่ายจะรับรู้ได้โดยทันที ยิ่งถ้าเป็นคู่ที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตัวติดกัน 24 ชั่วโมงล่ะก็ แค่อีกฝ่ายสิวขึ้นหนึ่งเม็ดยังรู้เลย ก็มองหน้ากันทุกวันนี่นา
ถ้าเธอเปลี่ยนทั้งทรงผม สไตล์การแต่งหน้า ทาเล็บสีใหม่ แกล้งพูดสำนวนภาษาที่ไม่คุ้นเคยแต่เขาก็ยังทำเฉยล่ะก็ คิดได้อยู่อย่างเดียว " เขาไม่ได้สนใจเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว " ถอยห่างออกมาก่อนจะสายเกินไปดีกว่าค่ะ!
4. เคารพความคิดเห็น / การตัดสินใจของเธอ
ถ้าเธอโตพอจะมีความรักได้ แปลว่าเธอโตพอที่จะตัดสินใจหลายๆ เรื่องเองได้แล้ว คนอื่นๆ ควรรับฟังและเคารพความคิดเห็นของเธอ แม้ว่าความคิดนั้นแฟนของเธอจะไม่เห็นด้วยก็ตามที! ทุกคนมีความเชื่อ เช่น ศาสนา แนวคิดต่างกัน เราไม่สามารถบังคับให้ใครเชื่อตามเราได้เพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน เธอบังคับเขาไม่ได้ เขาก็บังคับเธอไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมเอนเข้าหาเพื่อรับฟังอีกฝ่าย ชีวิตคู่ก็ไปกันได้ยาวๆ ค่ะ
คงน่าเบื่อสุดๆ ถ้าเธอหรือเขาไม่เคยคุย ถกประเด็นกันอย่างจริงจัง เอาแต่พยักหน้าหงึกๆ ยอมรับในทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูด ทั้งที่ในใจอยากโต้วาทีด้วยใจจะขาด ไม่ต้องฝืนขนาดนั้น ลองจับเข่าคุยกันตรงๆ ถามว่าไม่เห็นด้วยตรงไหน ยกเหตุผลและประเด็นต่างๆ มาอ้างอิงความเห็นตัวเอง ถ้าอีกฝ่ายมีข้อโต้แย้งก็รับฟังอย่างสงบ แล้วหาจุดสมดุลที่ลงตัวของทั้งสองฝ่าย แค่นี้ก็ไม่มีเรื่องคาใจกันแล้ว
เคล็ดลับการคุยแบบนี้ทำได้ตั้งแต่เป็นแฟนกัน จนกระทั่งแต่งงานมีลูกเลยนะ วี้ดวิ้ว (｡◕ ∀ ◕｡)
5. เขาทำให้เธอรู้สึกว่า " โลกสดใสเหลือเกิน โชดดีจังที่ได้เกิดมา "
สาวๆ หลายคนที่ปล่อยให้หนุ่มข้างกายมา " บงการ " ชีวิต ทำตัวเป็นช้างเท้าหน้าที่ไม่เคยฟังใครนอกจากตัวเอง =_= ในทางกลับกัน บางคนก็บงการชีวิตอีกฝ่ายจนหนุ่มๆ เริ่มระอา ไม่ว่าจะฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็สมควรได้รับเกียรติและศักดิ์ศรีด้วยกันทั้งนั้น
อย่าเสียเวลาคบกับคนที่เธอรู้สึกว่า " เธอโชคดีจังที่ได้เขามาเป็นแฟน " โดยเขาอยู่เฉยๆ เหมือนเจ้าชาย เธอต้องคอยทำนู่นทำนี่ให้ทุกอย่าง แต่ให้อยู่กับผู้ชายที่ดูแล เอาใจใส่เธอแบบง่ายๆ ไม่ต้องเวอร์ แต่ทำให้ชีวิตประจำวันของเธอมีความสุขมากขึ้น เช่น ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง โทรมาปลุกตอนเช้า ข้อความบอกให้หลับฝันดี ซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก มีของขวัญง่ายๆ ให้ในวันสำคัญ เป็นต้น ถ้าคบแล้วเหมือนตอนโสด จะมีแฟนไปทำไมล่ะ จริงไหม!
6. เพื่อนๆ ของเธอ " ยอมรับ " ในตัวเขา
กลุ่มเพื่อนสนิทที่คบกันมานานก็เหมือน " ครอบครัว " ของเธอเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันได้ขนาดนี้ ดังนั้นหากมีปัญหาใหญ่ๆ อะไรให้ต้องตัดสินใจ เพื่อนของเธอก็ควรมี่ส่วนร่วมออกความคิดเห็นบ้าง!
เวลาเธอคบกับใคร เธอจะอยู่ในเมฆหมอกแห่งความรักโดยมองข้ามข้อเสียของผู้ชายคนนั้นไปหมดสิ้น หรือที่เรียกว่า " ความรักบังตา " แต่สายตาของเพื่อนซึ่งเป็นคนนอก จะมองอะไรได้ทะลุปรุโปร่งมากกว่า เพื่อนย่อมหวังดีกับเพื่อนเสมอ ถ้าเริ่มเจออะไรทะแม่งๆ พวกเขาจะไม่รีรอที่จะส่งสัญญาณบอกแน่นอน เช่น เห็นเขาไปควงกับผู้หญิงคนอื่นสองต่อสอง กล้องถ่ายรูปต้องมา อัดคลิปต้องมา หลักฐานชัดขนาดนี้ เหลือแต่เธอแล้วล่ะว่าจะยอมรับความจริงหรือเปล่า
ถ้ารักไม่เป็นไปตามฝันจริงๆ ก็ขอให้ยอมรับอย่างสงบ อย่าตีโพยตีพาย โกรธ ฟึดฟัดที่เพื่อนเข้ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง เขาแค่อยากให้เธอ " ตาสว่าง " เท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าเธอมีแฟน อย่าลืมเอามาให้เหล่าแก๊งเพื่อนสาวสแกนเสียก่อน ถ้าผ่านตลอดก็แปลว่าผ่านด่านได้เกือบครึ่งหนึ่งแล้วล่ะ!
7. ไม่ทำให้เธอรู้สึกว่า " เป็นหนี้บุญคุณ " เขา
อย่าคบกับผู้ชายที่แม้จะทำนู่นทำนี่ให้เธอ แต่ไม่ได้ทำฟรีๆ กลับวางเงื่อนไขตลอดเวลา ถ้าเขาขับรถมาส่ง เธอต้องทำรายงานให้เขาทั้งเล่ม ถ้าเขายอมใส่เสื้อที่เธอซื้อให้ เธอต้องล้างจานกองพะเนินที่เขาสุมไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน ถ้าทำเฉยเขาก็จะทวง ทวงอยู่นั่น ทวงยิ่งกว่าเจ้าหนี้ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยคำพูดที่ว่า " เธอติดหนี้บุญคุณฉันนะ " เอ่อ.. นี่ไม่ใช่ฉากในซีรี่ย์เกาหลี ไม่เห็นจะฟินตรงไหน รู้สึกว่าตัวเองเป็นนางแจ๋วน่ะสิไม่ว่า!
ถ้าเธอปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปแบบนี้เรื่อยๆ จะยิ่งอึดอัด เหมือนระเบิดเวลาที่รอวันตู้ม! แล้วก็เลิกกันแบบจบไม่สวย -..- ไม่ว่าเขาหรือเธอ หากนึกอยากทำสิ่งดีๆ ให้กันก็ทำไปเลย เป็นผู้ให้แบบไม่ต้องหวังอะไร จะสบายใจกว่าเอาแต่คิดถึงรางวัลตอบแทนนะ
ความรักบริสุทธิ์ คือรักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทน แค่คนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขแล้ว ^^
============================
อ่าน 7 ลักษณะของแฟนที่ดีแล้ว ก็อย่าเพิ่งท้อใจในการหาความรัก จองที่บนคานรัวๆ ซะก่อนล่ะ! แม้คนในโลกจะมีมากมายหลายล้านคน แต่เราเชื่อว่ามีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า " พรหมลิขิต " จะหมุนโลกให้เธอและเขามาเจอกันจนได้ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันสักเพียงไหน ไม่ต้องไปเร่งรัด ค่อยๆ ใช้เวลาศึกษาดูใจ หาคนที่ใช่ไปเรื่อยๆ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างที่สุภาษิตเขาว่า " ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม "
ขอให้สาวๆ ซิสต้าสมหวังในรัก เจอเนื้อคู่ที่ต้องการกันทุกคนนะคะ ^_______^
============================
