เดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็ดื่มชาเขียวเพื่อสุขภาพกันทั้งนั้น! ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือปู่ย่าตายายต่างก็รู้จักชาเขียวร้อนๆ  ( ที่ไม่ใช่ชาใส่น้ำตาลหวานเจี๊ยบที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ ) เพราะนอกจากมีกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญ หรือเมตาบอลิซึ่มในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคหวัด เป็นส่วนประกอบในการ Detox ตามธรรมชาติ ยิ่งดื่มได้ทุกวันก็ยิ่งดี!

แต่แล้วสาวกรักสุขภาพบางคนก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า ชาเขียวเป็น " ชา " ที่มีคาเฟอีน ไม่ใช่น้ำเปล่า ถ้าดื่มมากเกินไปจะเกิดโทษอะไรหรือไม่ ดื่มมากๆ จะได้รับคาเฟอีนเกินขนาดจนน็อคไหมเนี่ย Y^Y บทความนี้จะมาช่วยแนะนำว่า ควรดื่มชาเขียวกี่แก้วจึงจะพอดี เป็นประโยชน์กับร่างกาย พร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านข้างล่างได้เลย!


1. ดื่มมากแค่ไหนจึงได้ประโยชน์จากชาเขียว

รูปภาพ:http://cdn2.stylecraze.com/wp-content/uploads/2013/02/22-Benefits-Of-Green-Tea-That-You-Should-Definitely-Know.jpg

ถ้าต้องการดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุด มีแหล่งข้อมูลมากมายหลายอย่างมาก บางที่ก็บอกว่า 20 ถ้วย บางที่ก็บอก 10 ถ้วย หรือบางที่ก็บอกว่า 4 -5 ถ้วยก็พอ จะเชื่ออันไหนดีล่ะเนี่ย!

สารคาเฟอีนในชา กาแฟ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทและทำให้เสพติดอ่อนๆ ( สังเกตว่าหากดื่มชาต่อเนื่องกันบ่อยๆ วันไหนไม่ได้ดื่มจะสมองเบลอๆ โล่งๆ หงุดหงิดง่าย ) ร่างกายไม่ควรได้รับเกิน 200 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งเท่ากับชา 4-5 ถ้วยเท่านั้น ดังนั้นตัวเลขนี้จึงน่าจะเหมาะสมที่สุดค่ะ!

2. ดื่มชาเขียวมากแค่ไหนจึงเริ่ม " อันตราย " กับร่างกาย

รูปภาพ:http://cdn1.medicalnewstoday.com/content/images/articles/9155-lady-with-insomnia.jpg

ดื่มชาเขียวมากเกินไปก็เกิดโทษได้เช่นกัน! ถ้าเธอดื่มชาเขียวมากกว่า 5 ถ้วย/วัน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ค่ะ ยิ่งถ้าเธอแพ้คาเฟอีนหรือเป็นโรคนอนไม่หลับบ่อยๆ ยิ่งไม่ควรดื่มเลยนะ

3. ข้อเสียของการดื่ม " ชาเขียว " มากเกินไป

รูปภาพ:http://lovelace-media.imgix.net/uploads/191/224b5c60-e09c-0132-4643-0ebc4eccb42f.gif

ทั้ง " ชาเขียว " และ " ชาดำ " มีสารแทนนิน ( tannins ) ที่ลดการดูดซึมของกรดโฟลิก วิตามินที่สำคัญในการยับยั้งความบกพร่องในการตั้งครรภ์ ถ้าเธอมีแม่ พี่สาว หรือคนรอบข้างที่มีแนวโน้มว่าอาจจะมีน้อง ควรลดการดื่มชาเขียวให้น้อยลง เหลือเพียง 2 ถ้วย/วันก็เพียงพอแล้ว แต่ให้ดีก็งดไปเลยดีกว่า!

ชาเขียวยังยับยั้งการดูดซึมของธาตุเหล็กอีกด้วย ถ้าเธออ่อนเพลียง่าย เกล็ดเลือดต่ำก็อย่าดื่มเยอะ จะหน้ามืดไม่มีแรงไปเสียก่อนนะคะ

ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ หากดื่มชาเขียวเยอะอาจทำให้หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น จนกระทั่งเกิดภาวะหัวใจวายได้! ดังนั้นใครที่ป่วยเป็นโรคเหล่านี้ต้องหลีกเลี่ยงนะคะ

สุดท้ายคือ อย่าดื่มชาเขียวก่อนนอน! เพราะคาเฟอีนในชาอาจทำให้นอนไม่หลับได้ค่ะ

4. ดื่มชาเขียวยังไงให้ " ลดน้ำหนัก "

รูปภาพ:http://blogbenetton.dunebuggysrl.netdna-cdn.com/uk/files/2011/05/tea003.jpg

ถ้าอยากดื่มชาเขียวให้ผอม เธอต้องดื่มชาเขียวร้อนๆ ที่ชงจากผง ใบชาเขียว หรือถุงสำเร็จรูปเท่านั้น ( ชาใส่น้ำตาลหวานเจี๊ยบที่ขายในแผนกเครื่องดื่มตามห้าง เรียกว่าเป็นน้ำหวานกลิ่นชาเขียวเสียมากกว่า ไม่ให้คุณประโยชน์ใดๆ เลย )

วิธีชงก็ง่ายๆ ต้มน้ำให้เดือด หย่อนถุงชาลงไปแล้วรอ 2 - 4 นาที นำถุงชาออกก็ดื่มได้ทันที ควรรีบดื่มตอนที่ยังร้อนหรืออุ่น เพราะหากดื่มตอนเย็นชืดแล้วอาจทำให้ปวดท้องได้ค่ะ

ชาเขียวมีสารคาเทซีน ( catechin ) มีหน้าที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ถ้าดื่มเป็นประจำจะช่วยลดไขมันในร่างกายได้ โดยสามารถดื่มได้ระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังมื้ออาหารทุกมื้อ นอกจากช่วยให้น้ำหนักลดลงแล้ว ยังช่วยยับยั้งการกินจุบจิบได้อีกด้วยค่ะ

================================

แม้ " ชาเขียว " จะเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีผลวิจัยที่ชี้ชัด คนแห่กันดื่มเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ทุกอย่างก็ย่อมมีข้อดีและข้อเสีย! หากดื่มมากเกินไปก็อาจส่งผลอันตรายกับร่างกายได้เช่นกัน

หากดื่มตอนที่ยังร้อนๆ ก็อาจทำให้หลอดลม หรือเนื้อเยื่อบุในช่องปากเป็นแผลได้ รับคาเฟอีนมากเกินไปจนนอนไม่หลับ เกิดอาการช็อค หัวใจเต้นเร็วเกินขนาด ที่สำคัญยังส่งผลโดยตรงกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย

ขอสรุปง่ายๆ ว่า จงดื่มในปริมาณที่พอดีและเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป และดื่มชาเขียว " ของแท้ " ไม่ผสมน้ำตาลจนเสี่ยงเป็นเบาหวาน จิบชาเขียววันละนิดจิตแจ่มใส สุขภาพแข็งแรง ผอมรัวๆ แน่นอนค่ะ ^^

================================