สาวๆ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินภาวะหรืออาการ

" เท้าแบน "

มาก่อน และเชื่อว่า หลายคนแทบจะไม่เคยใส่ใจกับเท้าเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่มันเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานมากอวัยวะหนึ่งเลยทีเดียว วันนี้

Mmayy14

จึงอยากจะพาเพื่อนๆ ชาว

SistaCafe

ทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะเท้าแบน ลักษณะอาการ วิธีป้องกันแก้ไข และการตรวจเช็คดูสิว่า

เอ๋!!...ตอนนี้ฉันเป็นคนหนึ่งรึเปล่าน้าาา ที่เท้าแบนน!!???

รูปภาพ:http://www.girlsallaround.com/wp-content/uploads/2014/11/foot-exercise-e1415726860651.jpg

เท้าแบน...คืออะไร??

เท้าแบน

เป็นสภาวะที่

เอ็นพยุงอุ้งเท้า ที่อยู่ด้านในเท้าถูกยืดออก

จนสูญเสียการพยุงอุ้งเท้าไว้ ส่งผลให้กระดูกภายในเท้าเอียงล้มลงมาบริเวณอุ้งเท้า ทำให้เกิดเท้าแบน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ


1. แบบยืดหยุ่น

:

ยกเท้าขึ้นจากพื้นจะพบว่า อุ้งเท้าปกติ แต่เมื่อยืนลงน้ำหนักบนพื้นแข็ง ส่วนโค้งเว้าด้านในจะลดลงหรือหายไป  เกิดจากการยืน เดิน หรือวิ่งบนพื้นแข็งๆ โดยใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับสรีระ และกิจกรรม หรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ( พบได้ประมาณ 20% ของคนทั่วไป )

2. แบบยึดติด

: ไม่ว่าจะลงน้ำหนักอย่างไร เท้าก็จะแบนผิดรูปในลักษณะนั้นตลอด ( พบได้น้อย )

รูปภาพ:http://www.healthguidance.org/hgimages/17310Flatfooted.jpg

วิธีตรวจเช็คว่าเราเท้าแบนไหมนะ ??

1. ใช้การสังเกตจากการเดินหรือยืน

ใช้การสังเกตในขณะที่คุณเดินหรือยืน หากด้านในของเท้า

ไม่มีแนวโค้งเว้า

ก็แปลว่า คุณเท้าแบน หรือให้ลองยืนบนปลายเท้า ( เขย่งเท้า ) หากมีแนวโค้งเว้า แปลว่า ปกติ แต่ถ้าหากเท้าของคุณแบนนราบเป็นเส้นตรง นั่นหมายถึง เท้าแบน นั่นเอง

รูปภาพ:http://www.tanawat-clinic.com/home/images/clinic-support/flat-feet1.jpg

2. นำเท้าจุ่มน้ำ

ให้เอาเท้าจุ่มน้ำจนเปียกแล้วเดินในที่ที่คุณจะเห็นรอยเท้าได้อย่างชัดเจน เช่น พื้นคอนกรีต

ถ้าเห็นเป็นรูปเท้าเต็มๆ ชัดเจน ก็เป็นไปได้ว่าเท้าของคุณแบน

อย่างไรก็ดี หากเป็นเด็กก็อาจจะสังเกตเท้าแบนได้ยาก เพราะอาการจะแสดงเมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ

รูปภาพ:http://www.regenexx.com/wp-content/uploads/2013/06/flat-feet-knee-pain1.jpg

เท้าแบน...มีอาการอย่างไร ??

เท้าแบนอาจไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่อาจจะทำให้กล้ามเนื้อ และเอ็นเเข็ง

จึงทำให้รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเดิน โดยคุณอาจจะปวดในบริเวณต่อไปนี้คือ

ด้านในของข้อเท้า

อุ้งเท้า

ด้านนอกของเท้า ( หมายถึงแนวตั้งแต่นิ้วก้อย )

น่อง ( ด้านหลัง )

เข่า สะโพก หรือหลัง

คนบางคนที่เท้าแบนนั้นจะพบว่า น้ำหนักตัวกระจายไปไม่สมดุล โดยเฉพาะคนที่เท้าบิดเข้าด้านในมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น

รองเท้าของคุณก็จะสึกอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับข้อเท้า และเอ็นร้อยหวายของคุณด้วย

รูปภาพ:http://www.youshoppu.com/uploaded/cms/articles/image/foot_pain.jpg

การใช้อุปกรณ์เสริมและปรับรองเท้า

1. ใส่รองเท้าที่เหมาะสม

รูปภาพ:http://g02.a.alicdn.com/kf/HTB1d4s1IFXXXXXgapXXq6xXFXXX4/European-new-spring-fashion-leather-driving-comfortable-establishment-holster-font-b-feet-b-font-font-b.jpg

ควรใส่เป็นรองเท้าที่มีลักษณะหุ้มส้น เช่น คัตชู หรือรองเท้ากีฬา ส่วนหน้าเท้ามีความกว้างพอสมควร และควรหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าแตะ

2. ใส่พื้นรองภายในเท้า

รูปภาพ:http://e.lnwfile.com/kynqdx.jpg

พื้นภายในรองเท้า หรือเรียกว่า " Insole " ที่เสริมบริเวณอุ้งเท้าด้านใน ( Medel Arch Support ) ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ เพื่อสั่งตัดเฉพาะแต่ละคนไป หรือบางคนอาจจะซื้อ Insole แบบสำเร็จรูปมาใช้ก็ได้ ถ้ามีภาวะเท้าแบนไม่มากหรือไม่เจ็บส้นเท้า

3. ทำกายภาพบำบัด

รูปภาพ:http://issue247.com/wp-content/uploads/2014/10/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-Bodyweight-Calf-Raises.jpg

ในกรณีคนที่เป็นไม่มาก ไม่มีอาการเจ็บปวด สามารถกายภาพโดย

การ

สร้างความแข็งแรงบริเวณอุ้งเท้า

เช่น เดิน หรือยืนบนปลายเท้า โดยที่ส้นเท้าไม่แตะพื้นเลย อาจใช้เวลาประมาณ 5 นาที และทำทุกวัน

หรือ

ใช้วิธีนำขวดน้ำพลาสติก

ขนาด 12 หรือ 16 ออนซ์ใส่น้ำให้เกือบเต็ม นำไปแช่ตู้เย็น ( ไม่ต้องให้เป็นน้ำแข็งนะคะ ) เมื่อขวดน้ำมีความเย็นในระดับหนึ่งแล้ว ให้เอามาวางกับพื้น แล้วใช้ฝ่าเท้าคลึงไปมา ข้างละ 10 - 15 นาที ความเย็นจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

รูปภาพ:http://www.schollthailand.com/images/article/2201421417515160.jpg

จริงๆ แล้วเท้าเเบนไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงนัก แต่ถ้าหากเป็นแล้ว ก็อาจจะทำให้รบกวนการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย

บางคนอาจจะปวดเท้าได้ง่ายเวลาเดิน ปวดเข่า ปวดหลัง เป็นต้น เพราะฉะนั้นหากเราหาทางป้องกันได้เราก็ควรป้องกัน โดยวิธีป้องกันก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่เพื่อนๆ หาเวลาว่างมา

บริหารกล้ามเนื้อเท้า

ตามวิธีที่เรานำมาฝากกันในข้างบน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราเขยิบห่างจากอาการเท้าแบนมาทีละนิดแล้วล่ะค่า

Cr.


นิตยสาร Lisa Vol.13 No.26

บทความที่เกี่ยวข้อง