1. SistaCafe
  2. วิธีตรวจ โรค ′เท้าแบน′ ภัยเงียบ ที่มาโดยไม่รู้ตัว

สาวๆ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินภาวะหรืออาการ

" เท้าแบน "

มาก่อน และเชื่อว่า หลายคนแทบจะไม่เคยใส่ใจกับเท้าเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่มันเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานมากอวัยวะหนึ่งเลยทีเดียว วันนี้

Mmayy14

จึงอยากจะพาเพื่อนๆ ชาว

SistaCafe

ทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะเท้าแบน ลักษณะอาการ วิธีป้องกันแก้ไข และการตรวจเช็คดูสิว่า

เอ๋!!...ตอนนี้ฉันเป็นคนหนึ่งรึเปล่าน้าาา ที่เท้าแบนน!!???


เท้าแบน...คืออะไร??

เท้าแบน

เป็นสภาวะที่

เอ็นพยุงอุ้งเท้า ที่อยู่ด้านในเท้าถูกยืดออก

จนสูญเสียการพยุงอุ้งเท้าไว้ ส่งผลให้กระดูกภายในเท้าเอียงล้มลงมาบริเวณอุ้งเท้า ทำให้เกิดเท้าแบน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ



1. แบบยืดหยุ่น

:

ยกเท้าขึ้นจากพื้นจะพบว่า อุ้งเท้าปกติ แต่เมื่อยืนลงน้ำหนักบนพื้นแข็ง ส่วนโค้งเว้าด้านในจะลดลงหรือหายไป  เกิดจากการยืน เดิน หรือวิ่งบนพื้นแข็งๆ โดยใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับสรีระ และกิจกรรม หรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ( พบได้ประมาณ 20% ของคนทั่วไป )

2. แบบยึดติด

: ไม่ว่าจะลงน้ำหนักอย่างไร เท้าก็จะแบนผิดรูปในลักษณะนั้นตลอด ( พบได้น้อย )


วิธีตรวจเช็คว่าเราเท้าแบนไหมนะ ??

1. ใช้การสังเกตจากการเดินหรือยืน

ใช้การสังเกตในขณะที่คุณเดินหรือยืน หากด้านในของเท้า

ไม่มีแนวโค้งเว้า

ก็แปลว่า คุณเท้าแบน หรือให้ลองยืนบนปลายเท้า ( เขย่งเท้า ) หากมีแนวโค้งเว้า แปลว่า ปกติ แต่ถ้าหากเท้าของคุณแบนนราบเป็นเส้นตรง นั่นหมายถึง เท้าแบน นั่นเอง

2. นำเท้าจุ่มน้ำ

ให้เอาเท้าจุ่มน้ำจนเปียกแล้วเดินในที่ที่คุณจะเห็นรอยเท้าได้อย่างชัดเจน เช่น พื้นคอนกรีต

ถ้าเห็นเป็นรูปเท้าเต็มๆ ชัดเจน ก็เป็นไปได้ว่าเท้าของคุณแบน

อย่างไรก็ดี หากเป็นเด็กก็อาจจะสังเกตเท้าแบนได้ยาก เพราะอาการจะแสดงเมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ


เท้าแบน...มีอาการอย่างไร ??

เท้าแบนอาจไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่อาจจะทำให้กล้ามเนื้อ และเอ็นเเข็ง


จึงทำให้รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเดิน โดยคุณอาจจะปวดในบริเวณต่อไปนี้คือ



ด้านในของข้อเท้า


อุ้งเท้า


ด้านนอกของเท้า ( หมายถึงแนวตั้งแต่นิ้วก้อย )


น่อง ( ด้านหลัง )


เข่า สะโพก หรือหลัง


คนบางคนที่เท้าแบนนั้นจะพบว่า น้ำหนักตัวกระจายไปไม่สมดุล โดยเฉพาะคนที่เท้าบิดเข้าด้านในมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น

รองเท้าของคุณก็จะสึกอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับข้อเท้า และเอ็นร้อยหวายของคุณด้วย



การใช้อุปกรณ์เสริมและปรับรองเท้า

1. ใส่รองเท้าที่เหมาะสม

ควรใส่เป็นรองเท้าที่มีลักษณะหุ้มส้น เช่น คัตชู หรือรองเท้ากีฬา ส่วนหน้าเท้ามีความกว้างพอสมควร และควรหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าแตะ



2. ใส่พื้นรองภายในเท้า

พื้นภายในรองเท้า หรือเรียกว่า " Insole " ที่เสริมบริเวณอุ้งเท้าด้านใน ( Medel Arch Support ) ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ เพื่อสั่งตัดเฉพาะแต่ละคนไป หรือบางคนอาจจะซื้อ Insole แบบสำเร็จรูปมาใช้ก็ได้ ถ้ามีภาวะเท้าแบนไม่มากหรือไม่เจ็บส้นเท้า



3. ทำกายภาพบำบัด

ในกรณีคนที่เป็นไม่มาก ไม่มีอาการเจ็บปวด สามารถกายภาพโดย


การ

สร้างความแข็งแรงบริเวณอุ้งเท้า

เช่น เดิน หรือยืนบนปลายเท้า โดยที่ส้นเท้าไม่แตะพื้นเลย อาจใช้เวลาประมาณ 5 นาที และทำทุกวัน


หรือ

ใช้วิธีนำขวดน้ำพลาสติก

ขนาด 12 หรือ 16 ออนซ์ใส่น้ำให้เกือบเต็ม นำไปแช่ตู้เย็น ( ไม่ต้องให้เป็นน้ำแข็งนะคะ ) เมื่อขวดน้ำมีความเย็นในระดับหนึ่งแล้ว ให้เอามาวางกับพื้น แล้วใช้ฝ่าเท้าคลึงไปมา ข้างละ 10 - 15 นาที ความเย็นจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี




จริงๆ แล้วเท้าเเบนไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงนัก แต่ถ้าหากเป็นแล้ว ก็อาจจะทำให้รบกวนการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย

บางคนอาจจะปวดเท้าได้ง่ายเวลาเดิน ปวดเข่า ปวดหลัง เป็นต้น เพราะฉะนั้นหากเราหาทางป้องกันได้เราก็ควรป้องกัน โดยวิธีป้องกันก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่เพื่อนๆ หาเวลาว่างมา

บริหารกล้ามเนื้อเท้า

ตามวิธีที่เรานำมาฝากกันในข้างบน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราเขยิบห่างจากอาการเท้าแบนมาทีละนิดแล้วล่ะค่า




Cr.


นิตยสาร Lisa Vol.13 No.26


บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1