อย่าได้คว้ามาแต่ง! รวม 5 สัญญาณ หนุ่มคนนี้ไม่มี Husband Material ! 😳
ก่อนจะเลือกใครมาเป็นคู่ครอง อย่าลืมลองเช็คว่าเขาเหมาะมั้ย
เผยแพร่: 26 เม.ย. 2561 12:23 น.
Views: 18,412
รหัสบทความ: 45244
ถ้าคุณกำลังมองหาอะไรสักอย่างที่จะมายืนยันว่า "
หนุ่มคนนี้ เขาเหมาะจะเป็นคู่ชีวิตคุณหรือยัง " ล่ะก็ บทความนี้ทำมาเพื่อคุณเลยล่ะ!
กว่าจะหาใครสักคนที่เป็นเสมือนคนรู้ใจเราได้ ก็นับว่ายากแล้ว
บางคนต้องใช้เวลาถึงหลายสิบปี ในขณะที่ใครบางคนอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่เราได้เลือกแล้ว ก็อยากจะให้เขาไปต่อกับเราในฐานะคู่ชีวิต
แต่ถึงแม้จะผ่านด่านหาแฟนได้แล้ว
สิ่งที่ยากขึ้นไปอีกก็คือ การตัดสินใจว่า คนที่เราเลือกเนี่ย เขาเหมาะจะมาเป็นคู่ชีวิตกับเราจริงๆ แล้วรึเปล่า?
เพราะการใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ บางคนอาจจะอยากแต่งงานเร็วๆ อยากจะมีคู่ชีวิตกับเขาสักที
เพราะบางทีการได้แต่งงานก็เหมือนเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายชีวิต จึงทำให้ไม่ได้ใช้เวลาตัดสินใจอย่างระมัดระวัง
สำหรับใครที่กำลังสับสน ว่าคนที่เราคบด้วย เขาเหมาะกับการไปต่อในฐานะ " คู่ชีวิต " หรือเปล่า
ล่ะก็ เลิกกังวลเรื่องทุกอย่าง แล้วลองมาเช็ค 5
สัญญาณ ที่บอกว่า หนุ่มคนนี้ไม่มี Husband Material !
อย่าได้คว้ามาแต่ง! 5 สัญญาณ หนุ่มคนนี้ไม่มี " Husband Material "
1. ไม่เคารพในความเชื่อของเรา
สำหรับคนที่ศรัทธาในความรัก มักจะมีความเชื่อมั่นคล้ายๆ กันว่า คนที่นับถือศาสนาคริสต์ ก็สามารถมีชีวิตรักที่ดีกับคนชาวยิวได้เช่นกันอย่างไรก็ตาม ถ้าสมมุติคุณนับถือพุทธ แต่คุณกำลังคบอยู่กับใครสักคนที่ไม่ชอบไปวัด ในขณะที่คุณชอบ นั่นแหละ แค่นี้ปัญหาก็เกิดแล้ว
สำหรับคู่รักที่มีความเชื่อต่างกัน มีการนับถือศาสนาต่างกัน ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องย้ายศาสนามาอยู่ศาสนาเดียวกับเรา หรือเราจะต้องล้างสมองเขาหรือฝืนใจเขาให้มีความเชื่อแบบเดียวกับเราให้ได้ เพราะถ้าทำอย่างงั้น ก็คงเริ่มต้นไม่สวยอยู่ดีเพียงแต่ ต่อให้เราต่างศาสนากัน แต่เรามีความเคารพในความเชื่อซึ่งกันและกัน และปล่อยพื้นที่ให้แต่ละคนได้ทำตามในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ และสนับสนุนกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
แต่ถ้าคนที่คุณคบอยู่ขาดคุณสมบัติข้อนี้ไปล่ะก็ เกิดแต่งงานมีลูกกันขึ้นมาเมื่อไหร่ ปัญหาก็เกิดตั้งแต่การพูดคุยที่ไม่เข้ากันกัน และการเลี้ยงดูลูกในสถานการณ์แบบนั้นต้องไม่ดีแน่นอน
2. เพื่อนหรือคนในครอบครัวไม่ยอมรับ
เคยได้ยินสำนวน "ความรักทำให้คนตาบอด" กันมั้ย? นั่นแหละในขณะที่เรากำลังมีความรัก ไม่ว่าอะไรที่เป็นคนรัก เราก็จะพลอยเห็นดีเห็นงามไปหมดทำอะไรก็เป็นดีไปหมดในขณะที่ครอบครัว และเพื่อนเราไม่ได้มองในมุมเดียวกับเราไปด้วย ฉะนั้น เขาจะไม่หลงใหลตาบอดไปกับความรักของคุณและเขาและเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มเตือนเรื่องแฟนคนนั้นของคุณแล้วล่ะก็ ลองถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วหันไปดูด่วนๆ
อย่าลืมว่าไม่ใช่เขาที่รักคุณคนเดียวก่อนที่คุณจะเจอเขา ทั้งเพื่อนและครอบครัว เป็นฝ่ายที่รักคุณ และสนับสนุนคุณมาก่อน ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องการให้คุณได้สิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้วและข้อดีคือ พวกเขาเป็นคนใกล้ตัวเราแต่ไม่ได้อยู่ในโลกของเรา ฉะนั้นเขาจะมองเห็นในสิ่งที่คุณมองไม่เห็น ( หรือไม่อยากมอง )
ยกตัวอย่างเช่น ประสบการณ์ของเพื่อนคนหนึ่งที่คบกับแฟน แล้วพ่อเคยบอกว่าไม่ชอบ แต่ก็นั่นแหละ ลูกสาวมองไม่เห็นข้อเสียหรอก เพราะแฟนก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีให้เห็นชัดๆ แต่พ่อก็ไม่ลดละในการเตือน เพราะมั่นใจว่าแฟนของลูกเป็นคนไม่ดี และหลังจากนั้นไม่กี่ปี ตัวลูกสาวก็รู้ชัดเลยว่าทำไมพ่อถึงไม่ชอบ เมื่อได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้ชาย
ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกตงิดในตัวแฟนที่กำลังคบอยู่ และคนรอบข้างคุณเริ่มส่งสัญญาณเตือนแล้วล่ะก็....เปิดโหมดป้องกันโดยด่วน!
3. รู้สึกอายที่จะพาไปเจอเพื่อน / ครอบครัว หรือพูดถึงเขา
ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าอายเพราะแฟนหน้าตาไม่หล่อ แต่งตัวไม่ดีแต่อย่างใดนะ เพราะภาพลักษณ์ภายนอกอะไรพวกนั้นเราแก้ไขได้แต่ความละอายที่ทำให้คุณไม่กล้าพาแฟนไปหาเพื่อน หรือครอบครัวที่พูดถึงนั้นคือ เพราะคุณรู้ว่าเขาจะต้องเจอคำถามยากๆอย่าง " ทำงานอะไร ", " อาศัยอยู่ที่ไหน " อะไรแบบนี้และคุณรู้ว่ามันเป็นคำถามที่ตอบยาก ไปจนถึงไม่น่าตอบ!
อย่างเช่น แฟนเก่าคุณเคยอยู่สถานกักกันมาก่อน หรือทำงานอะไรที่คุณรู้สึกว่าไม่กล้าให้เขาพูดความจริงต่อหน้าครอบครัวถึงแม้ว่าปัจจุบันเขาจะเป็นคนดีก็ตาม จนต้องหลีกเลี่ยงไม่พาไปพบเพื่อน และพ่อแม่นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณมีความละอายต่อตัวตนของเขา ( และรู้ว่าครอบครัวต้องไม่ชอบด้วย ) ซึ่งถ้าคุณเกิดความรู้สึกแบบนั้นแล้วล่ะก็แสดงว่าคุณกับเขาไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้วแหละ
เพราะถึงต่อให้คุณปิดบังครอบครัวได้ แต่ความคิดที่คุณรู้สึกละอาย และรับความจริงในตัวตนเขาไม่ได้ ก็จะทำให้ชีวิตคู่ของคุณไม่เป็นสุขอยู่ดีเผลอๆ ทะเลาะกัน คุณจะงัดข้อเสียของเขามาพูดอีกก็เป็นได้
4. คุณทำเป็นมองข้ามสัญญาณเตือน
คุณเคยคบกับใครสักคน แล้วได้แต่ภาวนาว่าขอให้มีรักแท้ดีๆ มั้ยและในขณะเดียวกันคุณก็แอบพบว่าแฟนของคุณมักจะโกหก แอบซ่อนกิ๊ก หรือไร้ความรับผิดชอบ?ถ้าอย่างนั้นล่ะก็สัญญาณเตือนให้หาแฟนใหม่มาถึงแล้วแหละ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ผู้ชายแสดงธาตุแท้ให้คุณเห็นไม่ว่าจะหึงจนเกินงาม, ทำให้คุณหมดความมั่นใจ หรือแม้กระทั่งทำตัวงี่เง่าไร้สาระไม่ว่าผู้หญิงคนไหนถ้าได้เจอแบบนี้ ก็ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจแล้วแหละว่าผู้ชายแบบนี้ไม่ควรเอามาทำสามีแน่นอน
แต่ในฐานะที่เกิดมาเป็นผู้หญิงจิตใจดีส่วนใหญ่เวลาที่เจอผู้ชายนิสัยแย่ เรามักจะมองว่า " ถ้าเปลี่ยนข้อเสียเขาได้ คงจะมีความสุขมากๆ " โดยไม่สนใจว่า ปัจจุบันที่เป็นอยู่ เขาเป็นยังไงสำหรับผู้ชายแล้วนั้นบอกเลยว่าถึงแม้เราคิดว่าเราจะเปลี่ยนเขาได้ แต่เอาจริงๆ ถ้าเขาไม่อยากเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนเขาไม่ได้หรอก
ฉะนั้นไม่ว่าเขาแลดูน่าจะเป็นพ่อที่ดีได้ขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าเขามีข้อเสียอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่ดีต่อภรรยาล่ะก็ เขาก็คงไม่ได้ใช้เวลากับลูกๆ เพื่อแสดงหน้าที่พ่อที่ดีได้หรอก จริงมั้ยล่ะ
5. เขาเป็นแบดบอย
สาวๆ หลายคนชอบผู้ชายลุคแบดๆ ถึงแม้จะมีเสน่ห์ก็จริง แต่คนละอย่างกับคนที่ " แบด " ไปซะหมดนะ
เ
พราะถ้าขึ้นชื่อว่า " แบดบอย " แล้วล่ะก็ มีแต่จะทำให้เราเสียใจเท่านั้นแหละ
แต่ความตลกอยู่ตรงที่
สาวๆ หลายคนกลับคิดว่า ผู้ชายแบดๆ คือสิ่งที่ท้าทาย ยิ่งได้มาครอบครอง จะยิ่งน่าภูมิใจ
เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่หรอกนะ ว่าการได้
คบกับผู้ชายที่นิสัยไม่ดี มันมีอะไรให้น่าหลงใหล หรือน่าติดใจ แต่ผู้หญิงหลายคนกลับรู้สึกว่าเป็นความรักที่มีค่า โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เขาเสียสละมาใช้กับคุณ?
เมื่อคุณคบกับผู้ชายที่ไม่อยากมีข้อผูกมัดตามความรักทั่วไปหรือไม่ไปมาหาสู่คุณบ่อยๆ ตามปกติที่ควรจะเป็น แต่เขาจะมาก็เฉพาะเวลาที่เขาอยากมาเท่านั้นคุณก็จะต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยว ความเหงา และรอให้หัวใจได้ชุ่มฉ่ำเป็นครั้งๆ เมื่อสามารถเรียกร้องความสนใจจากเขาได้เป็นพักๆ
ถ้าต้องมาเล่นเกมทรมานหัวใจตัวเองแบบนี้ สู้ๆ หาคนดีๆ ที่พร้อมสำหรับคุณทุกเมื่อไม่ดีกว่าเหรอ?
เพราะเรื่องชีวิตคู่คือเรื่องใหญ่ สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหารักแท้ ก็ลองใช้ใจของเราพินิจพิเคราะห์ดูนะว่า
คนคนนี้ อยู่ด้วยแล้วมีความสุขมั้ย? ถ้าใจบอกว่าใช่ ก็ลุยเลย!
