1. SistaCafe
  2. สังเกตอาการ Post-vacation Blues รับมือกับภาวะโรคฮิตหลังหยุดยาว!

หลายๆ คนอาจจะรู้สึกฟินที่ได้มีวันหยุเยาวนานๆ แต่รู้อะไรมั้ยว่า การหยุดพักผ่อนเป็นเวลานานๆ ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียวนะ แต่มันมาพร้อมกับข้อเสีย ที่เราทุกคนอาจจะนึกไม่ถึงก็ได้ เพื่อนๆ เคยได้ยินภาวะPost-vacation Bluesหรืออาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาวมั้ย โรคของคนหยุดยาวจนจะเฉาตายแม้จะไม่ได้ร้ายแรงมากมาย แต่ก็ควรรู้เอาไว้วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันค่ะ พร้อมสังเกตอาการ และวิธีรับมือง่ายๆ ที่ทุกๆ คนสามารถทำตามกันได้จะเป็นยังไง เอาเป็นว่า ไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับภาวะนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่า

ชวนชาว Sis มาสังเกตอาการ + เทคนิครับมือกับภาวะ ' Post-vacation Blues' โรคอะไรไหนเล่ามาหน่อยซิ!


ภาวะ “Post-Vacation Blues” คืออะไร

ภาวะ Post-Vacation Bluesคืออาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นหลังจากวันหยุดยาวภาวะนี้ ไม่ใช่โรคทางจิตเวชปกติจะเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งและสามารถหายไปเองได้ค่ะ โดยส่วนใหญ่ ช่วงเวลาที่อาจะทำให้เราเกิดภาวะนี้ได้ ก็มักจะเกิดจากช่วงที่เราได้รับวันหยุดยาว ได้พักผ่อนยาวๆ ได้มีความสุขสนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงวันหยุด พอถึงวันที่เราได้กลับมาทำงานปุ๊บ มันเหมือนกับเราได้ตื่นขึ้นมาสู่โลกของความเป็นจริง กลับสู่สภาพแวดล้อมที่ชวนเครียด เลยทำให้เรานึกถึงและเกิดความคิดถึงช่วงเวลาในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาจนทำให้เรารู้สึกจมและโหยหาวันหยุดยาวนั้น นี่เลยทำให้เราอาจจะมีโอกาสที่จะเกิดภาวะ Post-Vacation Blues ได้สรุปแบบสั้นๆ เลยก็คือภาวะ Post Vacation Bluesเกิดจากการที่ร่างกายเคยชินกับการพักผ่อนและไม่พร้อมที่จะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งมักจะเกิดกับคนที่เบื่องานของตัวเองอยู่แล้ว และระดับความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับความเบื่อหน่ายที่มีอยู่เดิมด้วย ยิ่งเบื่อมาก ยิ่งรุนแรงมาก โอ้โห!

อาการของคนที่กำลังตกอยู่ในภาวะ Post-vacation Blues

จริงๆ แล้วอาการของภาวะนี้ สังเกตเองได้ง่ายมากๆ เพราะว่าเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเพื่อนๆ ทุกคนเลยค่ะ อาจจะดูเหมือนเป็นอาการทั่วไป ของคนที่ขี้เกียจหรือเบื่องานที่ทำอยู่ด้วยซ้ำ1. รู้สึกไม่อยากทำงาน2. เบื่อหน่าย และมีอาการซึมเศร้า3. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง4. สมาธิลดลง5. หงุดหงิดง่าย6. อารมณ์เสีย7. ใจลอย

ทริครับมือกับภาวะ Post-vacation Blues

จริงๆ แล้ววิธีรับมือกับภาวะนี้ ไม่ได้ยากอย่างที่เพื่อนๆ คิดเลยนะขั้นแรกมันจะต้องเริ่มจากที่ตัวของเราเองก่อนค่ะ ลองปรับความคิด และมองหาอะไรที่น่าสนใจในที่ทำงานดู อย่าไปโฟกัสกับความตึงเครียดและอย่ามัวแต่ไปคิดถึงแต่ช่วงวันหยุดยาวมากจนเกินไป เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถรับมือกับภาวะ Post-vacation Blues ได้แล้ว แต่ว่าเราได้ทำการรวบรวมทริคง่ายๆ มาแนะนำด้วย ใครที่รู้ตัวว่าฉันนี่แหละ กำลังตกอยู่ในภาวะนี้!ลองหยิบไปทำตามกันดู จะมีวิธีแบบไหนบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลย

1. หาแรงจูงใจในการทำงาน

เพราะโรคนี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เบื่องาน ฉะนั้นวิธีรับมือกับภาวะนี้ที่ง่ายที่สุดคือเราจะต้องหาแรงจูงใจในการทำงานค่ะ แต่ว่าต้องเป็นแรงจูงใจแบบบวกๆ นะ จะได้ช่วยกระตุ้นจิตใจให้เกิดความปรารถนาที่จะมาทำงาน เช่น โบนัส การทำงานเพื่อเลื่อนขั้น เป็นต้น พอเรามีแรงจูงใจ หรือเรียกว่า GOAL ให้กับตัวเอง เราจะมีแรงกระตุ้นทำให้อยากทำงานในทุกๆ วันค่ะ เพราะงั้นอย่าจมอยู่กับวันหยุดจนลืมไปว่าหน้าที่ของเราคืออะไร โอเคนะ

2. ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน

เมื่อหลายวันก่อน เราได้หยุดยาว มันผ่านไปแล้ว ผ่านไปแล้วก็คืออดีต ปัจจุบันเรามาทำงานแล้วปัจจุบัน ก็คือปัจจุบันค่ะ อยู่กับปัจจุบัน อย่ามัวแต่มานั่งคิดถึงอดีตที่มันผ่านไปแล้วซิ!หากติดอยู่กับอดีตมากจนเกินไป อาจจกทำให้เราเป็นทุกข์ได้นะ การอยู่กับปัจจุบันจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการกับ Post-Vacation Blues ได้นะ แม้จะต้องทำงาน แต่เราก็สามารถแฮปปี้กับงานที่เราทำได้ค่ะ เพราะงั้นอย่าจมอยู่กับสิ่งเดิมๆ ที่ผ่านไปแล้ว ให้โฟกัสกับงานกำลังทำ ตั้งเป้าหมาย หรือลิสต์สิ่งที่จะต้องทำเอาไว้ ง่ายๆ แค่นี้เอง ทำกันได้เนอะ

3. หากิจกรรมที่ชอบทำหลังเลิกงาน

เหตุผลที่เราเกิด Post-Vacation Blues อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ เรารู้สึกมีความสุขกับการพักผ่อน และร่างกาย จิตใจเสพติดการพักผ่อนในระยะยาวค่ะ ฉะนั้นพอเรากลับมาทำงาน จิตใจและร่างกายของเรา เลยเกิดภาวะห่อเหี่ยวนั่นเอง เพราะงั้นเพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้น เราจะต้องหาความสุขให้กับตัวเองในวันทำงาน อย่าโฟกัสแค่ว่า ทำงานแล้วเครียด ทำงานแล้วเหนื่อย ให้เรามองอีกมุมนึงทำงานก็มีความสุขได้ เวลาทำงานก็ทำงาน แต่พอเลิกงาน เราก็แฮปปี้ได้เหมือนเดิมลองหากิจกรรมที่ชอบทำหลังเลิกงานทำดูมั้ย เช่น ดูซีรีส์ ฟังเพลง ไปสังสรรค์ และอีกมากมาย จะได้ปลอดปล่อยความเครียดจากการทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสม และลดอาการ Post-Vacation Blues ด้วยค่ะ

4. อย่าหักโหมทำงานจนเกินไป

หลายๆ คน พอได้หยุดยาวแล้ว กลับมาทำงานอีกครั้ง เหมือนไฟในตัวมันกำลังลุกโชน ก็รีบเร่งหักโหมทำงานกันอย่างหนักหน่วง จนลืมดูกำลังของตัวเองไป ระวังจะล้มได้นะ ฉะนั้นเราควรจะสร้าง Balance ให้กับชีวิตตัวเองสักหน่อย หรือก็คือ การแบ่งเวลาให้ชัดเจนไปเลยระหว่างการทำงานกับการพักผ่อนยกตัวอย่างเช่น เวลา 8.30 – 16.30 น. คือเวลาที่เราทำงานอย่างจริงจัง พักทานอาหาร พูดคุยกับเพื่อนตามเวลาพักระหว่างวัน แต่พอเราเลิกงานปุ๊บ นั่นคือเวลาส่วนตัวของเรา เลิกงานแล้ว ก็ต้องพักผ่อนอย่างจริงจังเช่นกัน โดยตัดเรื่องงาน หรือเรื่องที่ทำให้รู้สึกเครียดออกไป เพื่อให้สมอง และจิตใจได้ปรับสมดุลค่ะ เราจะได้ไม่รู้สึกหนักเกินไปด้วย

5. หากรู้สึกว่าหมดไฟกับการทำงาน ให้รีบหาทางแก้แบบด่วนๆ

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราเกิดภาวะ Post-Vacation Blues ได้ ก็คือ การเบื่องานที่เราทำ หรือก็คือการหมดไฟที่จะทำงานนั่นเอง เพราะยิ่งมีวันหยุดมาก เราจะยิ่งมีความสุขมาก เพราะไม่ต้องทำงาน หรือยุ่งเกี่ยวกับการทำงาน แต่เมื่อหมดวันหยุดยาว อาการซึมเศร้าก็ตามมาดังนั้นถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่รู้ตัวว่า งานที่ทำอยู่นี้ ทำให้เราเบื่อ หรือไม่มีไฟที่จะทำมันอีกต่อไปแล้วเพื่อนๆ ควรจะมองหาต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกนี้ให้เจอ แล้วแก้ไขมันซะแต่ถ้ารู้ตัวว่า แก้ไม่ได้ หมดไฟจริงๆ ไม่ได้ชอบหรือรักที่จะทำงานนี้แล้ว แนะนำให้ลองมองหางานใหม่ๆ หรือหน้าที่ใหม่ๆ ทำดู อาจจะยากหน่อย แต่เราเชื่อว่า เพื่อนๆ จะต้องหาทางออกได้อย่างแน่นอนค่ะ

ลองสังเกตอาการของตัวเองดูว่า มีอาการแบบที่กล่าวมาข้างต้นมั้ย แม้ภาวะ Post-Vacation Blues จะไม่ได้ร้ายแรงมากมายนัก แต่ก็อย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกเหล่านี้นาน อะไรที่พอจะแก้ไขได้ ก็แก้ไขซะ ชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน เราก็สามารถสร้างความสุขได้ทั้งนั้นสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย


Designer :kidasindahouse

Writer :belfry


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้