1. SistaCafe
  2. J Festival 2567 กินเจแค่ไหนถึงเรียกไม่เบียดเบียนสัตว์ ได้กุศลแถมสุขภาพดี

ฮัลโหลเพื่อน ๆ มาเมาท์มอยกันหน่อยเร็วว สำหรับบทความนี้จะมาไขประเด็นเกี่ยวกับ J Festival หรือ เทศกาลกินเจ กันแบบเจาะลึกถึงประเด็นหลายอย่าง รวมไปทั้งอาหารในบทความนี้ด้วย จึงอยากชวนเพื่อน ๆ มาทานอาหารไร้เนื้อสัตว์กันบ้าง ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลกินเจเพื่อน ๆ น่าจะเคยได้ยินเรื่องของเมนูอาหารเจ Plant based หรือวีแกนกันมาบ้าง นอกจากนี้เทรนด์ทานอาหารที่ไม่ทำมาจากเนื้อสัตว์ หรือไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์กำลังมาแรงในปี 2567 นี้เลย บางคนก็เลือกทานเพื่อเสริมสุขภาพที่ดี บางคนอาจทานตามเทศกาลกินเจ หรือบางคนอาจจะเลือกทานเพื่อรักษ์โลก รักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดก๊าซมีเทนจากการทำปศุสัตว์ต่างๆ บทความนี้เลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทศกาลกินเจกันให้มากขึ้น รวมไปถึงมือใหม่ที่พึ่งเริ่มเข้าวงการนี้ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร และมาแชร์เมนูอาหารเจฉบับ Plant based และมังสวิรัติในแบบคนไม่เคร่งเกิน แถมอร่อยทำง่ายกันด้วย จะมีเมนูไหนน่าทานบ้างลองตามไปดูกัน



 เทศกาลกินเจ คืออะไร?

คำว่า “เจ” ในภาษาจีนทางพระพุทธศาสนาหมายถึง “อุโบสถ หรือการรักษาศีล 8” ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่จะมีการรักษาอุโบสถศีลไม่บริโภคอะไรหลังเที่ยงวันตามหลักศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต ซึ่งทำให้ภายหลังต่อมานั้นมีชื่อเรียกสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ว่า “กินเจ” แต่ถึงอย่างนั้นแล้วการกินเจไม่เพียงแต่งดเนื้อสัตว์ อาหาร และเครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ แต่ยังรวมไปถึงการรักษาศีล การประพฤติตัวเป็นคนดีทั้งกาย วาจา ใจ อีกด้วย  

โดยที่มาตามตำนานเล่าขานของเทศกาลกินเจนั้น มาจากหลายตำนาน ซึ่งตำนานที่ได้รับความนิยมมากสูงสุดคือตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าจามเทวี โดยตามตำนานนั้นได้เล่าว่าเทพเจ้าจามเทวีทรงเป็นผู้ปกครองและคุ้มครองชาวจีนจากมารร้าย ในช่วงที่ชาวจีนถูกกองทัพแมนจูรุกราน ชาวจีนจึงรวมตัวกันถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน เพื่อเป็นการขอขมาต่อเทพเจ้าจามเทวีและบรรพบุรุษ เพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยปกป้องคุ้มครองพวกเขาจากมารร้าย และอีกตำนานหนึ่งก็ได้เล่าว่าเทศกาลกินเจนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเหตุการณ์ที่ชาวจีนได้ร่วมกันต่อต้านกองทัพแมนจู โดยพวกพวกเขาได้ถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน เพื่อเป็นการฝึกตนเองให้เข้มแข็ง และเพื่อขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้านั่นเอง

ในปัจจุบันเทศกาลกินเจในประเทศไทยก็เริ่มขยายเข้ามามีบทบาทตั้งแต่ช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยก็ได้นำเอาประเพณีนี้เข้ามาเผยแพร่ ทำให้ตอนนี้เทศกาลกินเจในประเทศไทยถือเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยอมรับกันในหมู่ทั่วไป ซึ่งมีการจัดตั้งศาลเจ้าและโรงเจต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อประกอบพิธีกรรมและจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลกินเจกันเลยทีเดียว

กินเจ ได้บุญจริงหรือไม่? 

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : Freepik

การกินเจคือการละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ และการไม่เบียดเบียนเนื้อสัตว์อย่าที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเนื้อสัตว์ในที่นี้รวมไปถึงอาหารแปรรูปจากสัตว์อีกด้วย อีกทั้งกฎและข้อยกเว้นในช่วงกินเจนั้นยังละเว้นไปถึงพวกผักที่มีกลิ่นฉุน และยังรวมการถือศีลกินเจหรืออีกความหมายคือการละเว้นหรือตัดทางโลก ไม่สนใจเรื่องเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่ม และห้ามเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งจะปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรมตลอดเวลาที่ทำการถือศีลกินเจ ดังนั้นแล้วสำหรับคนที่มีความเคร่งครัดมากๆ ก็จะมีการแยกภาชนะชุดใหม่ไม่ใช้รวมกัน 

เรียกได้ว่าเป็นช่วงเทศกาลที่เราสามารถสร้างกุศลได้แม้จะเป็นระยะสั้นๆ แต่ถือว่าเราได้เลือกละสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อลดการเบียดเบียนและอยู่ในศีลตลอดครบเทศกาล ซึ่งการได้บุญจริงไหมนั้นขึ้นอยู่กับความตั้งใจของตัวเราล้วนๆ ว่าจุดประสงค์ที่เราต้องการทำนั้นต้องการส่งผลในด้านไหนๆ ผลบุญที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราตัดสินใจ


อยากได้บุญมีวิธีอย่างไรบ้าง? 

เมื่อถึงเทศกาลกินเจคนส่วนใหญ่มักจะนุ่งขาวห่มขาว เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสจากโลกภายนอก และถือศีลกินเจเป็นระยะเวลา 9 วัน 9 คืน โดยปฏิบัติดังนี้

  • งดการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมองหาเนื้อสัตว์หรือทำอันตรายต่อชีวิตสัตว์ ไม่เบียดเบียนสัตว์ในทุกกรณี รวมทั้งเครื่องดื่มอย่างน้ำนม และน้ำมันที่มาจากสัตว์อีกด้วย
  • รักษาศีลห้า และรักษาพรหมจรรย์
  • ทำบุญทำทาน
  • รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์
  • แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายสีขาว
  • งดชนิดผักที่มีกลิ่นแรงๆ หรือฉุนๆ เช่น ผักชี กระเทียม เป็นต้น เพราะถือว่าเป็นสิ่งกระตุ้นอารมณ์

กินเจกินอะไรบ้าง?

  • ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม
  • วิตามินเสริมอัดเม็ด ที่ไม่มีสารสกัดจากสัตว์
  • ขนมกรุบกรอบ ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์
  • พริกไทย เป็นสมุนไพรแต่หากรู้สึกว่ามีกลิ่นฉุนสามารถเลี่ยงได้
  • ขนมปังที่เป็นขนมปังเจ หรือไม่มีส่วนผสมของนม
  • มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสูตรเจเท่านั้น!
  • แต่งหน้า หรือฉีดน้ำหอม สำหรับคนถือศีล 5 หากถือศีล 8 จะทำไม่ได้

กินเจห้ามกินอะไรบ้างและอะไรที่ควรเลี่ยง?

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : Freepik

อาหารการกิน เครื่องดื่ม สิ่งของดังต่อไปนี้ ห้ามกินในช่วงเทศกาลกินเจมีดังนี้

  • ห้ามทานเนื้อสัตว์ และห้ามทำอันตรายสัตว์
  • ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง ได้แก่ กระเทียม(ไม่ดีต่อหัวใจ), หอมใหญ่แดง ขาว ต้นหอม (ไม่ดีต่อไต), หลักเกียว ผักของจีนที่มีลักษณะคล้ายกับกระเทียมโทน(ไม่ดีต่อม้าม), กุยช่าย(ไม่ดีต่อตับ) และใบยาสูบ(ไม่ดีต่อปอดเมื่อใช้สูบ) นอกจากนี้ผักชนิดไหนที่มีกลิ่นฉุนก็ไม่ควรทานระหว่างช่วงกินเจด้วย
  • นม เนย น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  • อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ใครที่กินเจจริงจัง ห้ามทานอาหารบนภาชนะที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ได้กินเจ และต้องทานอาหารที่ปรุงจากคนที่กินเจด้วยกันเท่านั้น

สิ่งที่ควรเลี่ยงในช่วงเทศกาลกินเจ

  • น้ำอัดลม ไม่มีข้อห้ามแต่น้ำตาลสูงเกินไป
  • ผงชูรส แม้จะทำจากมันสำปะหลัง และกากน้ำตาลจากอ้อย แต่ผงปรุงรสอาหารอื่นๆ มักผสมเนื้อสัตว์
  • ช็อกโกแลต ส่วนใหญ่มีนมเป็นส่วนผสม แต่หากทานดาร์คช็อกโกแลต 100% ก็สามารถทำได้ แต่หายาก

กินเจกี่วันถึงจะดี ไม่ครบ 9 วันได้หรือไม่?

สำหรับบางคนที่อาจไม่สะดวกด้วยเหตุปัจจัยบางอย่าง การกินเจเป็นระยะเวลา 9 วัน 9 คืน อาจจะไม่สะดวกต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งจะบาปหรือไม่นั้น อาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ (ผู้เชี่ยวชาญในวงการภาษาและวัฒนธรรมจีน) ได้เปิดเผยเอาไว้ว่า “กินเท่าไหร่ได้บุญผลเท่านั้น แต่อย่างน้อยขอให้กินเจในวันพระใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นวันแรกของเทศกาลกินเจและวันพระใหญ่อีก 3 วันต่อมาจะดีที่สุด เพื่อเป็นการเริ่มต้นสร้างกุศลผลบุญให้แก่ตัวเอง” ดังนั้นแล้วการกินเจจะกินกี่วันก็สามารถทำได้ จะ 1 วันหรือ 3 วัน แต่หากให้ดีอาจเริ่มในวันแรกของเทศกาลและอีก 3 วันต่อมาก็ได้

วิธีกินเจที่ถูกต้องและการล้างท้องเพื่ออะไร?

การล้างท้องก่อนกินเจคือ การกินเจก่อนถึงวันเทศกาลเจจริงประมาณ 1-2 วัน โดยส่วนมากจะนิยมล้างท้องโดยการงดเนื้อสัตว์ ผัก และอาหารต้องห้ามทุกชนิดก่อนกินเจจริงๆ หนึ่งวัน เพื่อชะล้างเนื้อสัตว์หรืออาหารคาวต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมดสิ้น

ดังนั้นเมื่อถึงวันถือศีลกินเจ ร่างกายจะได้สะอาดพร้อมถือศีลกินเจตามประเพณี หรือหากยังไม่สามารถละเว้นเนื้อสัตว์ได้ในทันทีเลยนั้นอาจค่อยๆ ปรับทีละเล็กละน้อยไปก่อนโดยเปลี่ยนจากการทานเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว มาเป็นเนื้อปลาแทนและเน้นทานโปรตีนจำพวกถั่วชนิดต่างๆ พร้อมกับเพิ่มผักผลไม้ลงไปในมื้ออาหาร เพื่อให้ระบบย่อยอาหารเริ่มปรับตัวได้ ร่างกายของเราจะได้ไม่รู้สึกผิดปกติอย่างรวดเร็วเกินไปนั่นเอง เป็นการค่อยๆ ปรับเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ชิน และดูดซึมอาหารได้ปกติ

เคล็ดลับกินเจสำหรับมือใหม่ กินยังไงให้ไม่โหย กินได้ตลอดรอดฝั่ง

การกินเจถือว่าเป็นนัยความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกิน ดังนั้นแล้วการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มกินเจในเทศกาลกินเจนี้นั้นอาจจะต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการศึกษาไปจนถึงการเตรียมใจ เรื่องเหล่านี้จะช่วยทำให้เราสามารถรับมือกับการลดปริมาณอาหารหรือเปลี่ยนชนิดอาหารอย่างฉับพลัน และสามารถรักษาการกินเจจนครบ 9 วัน 9 คืน ตามระยะเทศกาลได้ มีดังนี้

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเจ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารอาหารเจว่ามีอาหารอะไรบ้างที่กินได้และไม่ได้ รวมไปถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารเจแต่ละชนิด เพื่อให้สามารถเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายและได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • วางแผนการรับประทานอาหาร ควรวางแผนการรับประทานอาหารล่วงหน้าว่าในแต่ละวัน ว่าจะทานอาหารอะไรบ้างเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับสารอาหารครบถ้วน และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการ
  • เตรียมอุปกรณ์ทำอาหาร หากรับประทานอาหารเจเองที่บ้านควรเตรียมอุปกรณ์ทำอาหารที่เหมาะสม เช่น หม้อ กระทะ มีด เขียง ตะหลิว เป็นต้น
  • หาแหล่งวัตถุดิบอาหารเจ ควรหาแหล่งวัตถุดิบอาหารเจที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดนัดเจ ร้านอาหารเจ หรือห้างสรรพสินค้าที่มีแผนกอาหารเจ
  • เตรียมใจให้พร้อมการกินเจ อาจทำให้ร่างกายปรับตัวได้ยากช่วงแรก ดังนั้นจึงควรเตรียมใจให้พร้อม เช่น การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด หรือรับประทานอาหารที่มากเกินไป

แจกสูตร เมนูอาหารเจ อิ่มอร่อยทำง่าย และดีต่อสุขภาพ 


เมนูอาหารเจ 1. เต้าหู้นึ่งซีอิ้ว


มาเริ่มกันที่เมนูเจและวีแกนทำง่าย ดีต่อสุขภาพเมนูแรกกันเลยดีกว่า อย่างเมนู " เต้าหู้นึ่งซีอิ้ว " เมนูเพื่อสุขภาพที่สามารถทำได้ง่ายๆ ใช้วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก แถมยังได้ประโยชน์มากมาย จากเต้าหู้ถั่วเหลือง ที่มีโปรตีนสูง ทานแล้วอิ่มท้อง ช่วยลดคอเลสเตอรอลไม่ดีในร่างกาย แถมแคลอรี่ต่ำ ไขมันน้อย เหมาะกับคนควบคุมน้ำหนักอีกด้วย และนอกจากผักและสมุนไพร ทั้งเห็ดหอม ขิง ขึ้นฉ่าย จะช่วยปรุงรสและเพิ่มกลิ่นหอมแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอีกด้วย


สูตรเมนูเจ 2. ผัดเต้าหู้ผักรวม


ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูเต้าหู้ ที่สายมังสวิรัติและคนทานเจสามารถทานได้ อย่างเมนู " ผัดเต้าหู้ผักรวมเจ " เมนูเจที่สามารถทำได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าเป็นเมนูล้างตู้เย็นด้วยก็ได้ แค่นำเอาเต้าหู้ มาผัดกับผักต่างๆ ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นเห็ด ถั่วลันเตา แคร์รอต ผักกาดขาว หรือผักอื่นๆ ตามที่เพื่อนๆ ชอบสามารถนำมาทำเมนูนี้ให้อร่อยได้ด้วยเหมือนกัน แถมผักจุกๆ ขนาดนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีด้วยเหมือนกัน


สูตรเมนูสลัดเจ 3. สลัดโรลเต้าหู้ย่าง


ต่อมาเป็นอีกหนึ่งเมนูมังสวิรัติทำง่ายจากส่วนผสมของเต้าหู้ อย่างเมนู " สลัดโรลเต้าหู้ย่าง " เมนูอาหารที่สามารถทานเป็นของทานเล่น หรือจะทานเป็นมื้อก็อิ่มท้องอยู่เหมือนกัน แถมยังมีวิธีทำที่ง่ายแสนง่าย สำหรับคนที่เพิ่งเข้าครัวก็สามารถทำเองได้แถมเมนูสลัดมาพร้อมกับผักต่างๆ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เป็นอีกหนึ่งเมนูสุขภาพที่ดี แถมทานง่ายอีกด้วย


เมนูอาหารเจทำง่าย 4. ข้าวอบเห็ด

ตามมาด้วยเมนู " ข้าวอบเห็ด " เมนูเจที่สามารถทำได้ง่ายๆ แถมอร่อยอิ่มท้อง ทานเป็นมื้ออาหารได้เลย ไม่พอยังเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ถ้าจะให้ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น ลองใช้เป็นข้าวไม่ขัดสี อย่างข้าวกล้องแทนข้าวขาว และนอกจากเห็ด เพื่อนๆ ยังสามารถเติมส่วนผสมอื่นๆ อย่างแคร์รอต ถั่วลันเตา มันฝรั่ง เผือก ฟักทอง ลงไปด้วยเพื่อช่วยเพิ่มสารอาหาร และสีสันสวยงาม ให้เมนูข้าวอบเห็ดของเพื่อนๆ ได้ประโยชน์จุกๆ แถมสีสันน่าทานอีกด้วย


เมนูเจแซ่บๆ 5. ลาบเห็ด

มาถึงอีกหนึ่งเมนูเห็ดเจ อย่างเมนู " ลาบเห็ด " สำหรับเมนูนี้น่าจะเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการความแซ่บๆ เมนูนี้น่าจะเหมาะเลย แต่ถึงจะเป็นเมนูแซ่บๆ แต่ให้สารอาหารต่อร่างกายเพียบด้วยเหมือนกัน แถมยังเป็นเมนูที่สามารถทำได้ง่ายๆ  คนที่เพิ่งเข้าครัวก็สามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก เพื่อนๆ ที่อยากลองทำเมนูอาหารสุขภาพถูกปากคนไทยที่ชอบรสแซ่บ ต้องลองเมนูนี้เลย

สูตรมนูอาหารเจแบบ Plant based ผัดหมี่ซั่วผักรวม


มาต่อกันที่เมนู " ผัดหมี่ซั่วผักรวม " เมนูผักหมี่วีแกนเพื่อสุขภาพ ที่ใส่ผักรวมต่าง ๆ แทนเนื้อสัตว์ แต่สามารถให้รสชาติอร่อย และอิ่มท้องได้เหมือนกัน เพื่อนๆ สามารถเลือกผักต่างๆ ที่ชอบมาเป็นส่วนผสมได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นแคร์รอต ผักกาดขาว ถั่วงอก เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม ด้วยเห็ดหอมที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นอีกหนึ่งเมนูอิ่มอร่อยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย


เมนูอาหารเจน้ำซุป Plant based พะโล้เจ

ตามมาด้วยเมนูเจที่มาพร้อมกับน้ำซุปคล่องคอ อย่างเมนู " พะโล้เจ " เมนูพะโล้สูตรเจที่เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์เป็นเต้าหู้ดีต่อสุขภาพ และยังมีผักต่าง ๆ ที่ช่วยให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ไม่พอในเครื่องพะโล้ ยังมีเครื่องเทศมากมาย ที่ช่วยบำรุงร่างกายได้อย่างดีเลยด้วย บอกเลยว่าเมนูนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูเจอร่อยๆ ทำง่าย และดีต่อสุขภาพมากๆ เลย


สรุป

การกินเจนั้นนอกจากจะช่วยในเรื่องของการงดเนื้อสัตว์หรือไม่เบียดเบียนสัตว์แล้วนั้น ยังช่วยทำให้เราอยู่ในศีลในธรรมเพราะด้วยเหตุผลทางศาสนาและความเชื่ออย่างเช่น ศาสนาพุทธของเราที่สอนให้ละเว้นการเบียดเบียนสัตว์ ซึ่งการกินอาหารเจก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาหรือเรียกอีกทางว่าเป็นการลดกรรมการฆ่าตัดชีวิต นอกจากนี้นั้นในส่วนของการเลือกกินอาหารเจ ก็ยังช่วยในเรื่องของด้านสุขภาพ เพราะอาหารเจนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นผักและผลไม้ที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูนอิสระ การกินเจจึงถือว่าเป็นตัวช่วยส่งเสริมสุขภาพในด้านต่างๆ และช่วยลดความเสี่ยงโรคต่างๆ อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคอ้วนได้ 

ซึ่ง J Festival หรือ เทศกาลกินเจที่มี 9 วัน 9 คืนที่กำลังจะมาถึงนั้น อีกทางด้านหนึ่งสำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนก็ยังถือว่าการกินเจเป็นการชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อเป็นการแสดงถึงการกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และการขอพรจากเทพเจ้า ดังนั้นแล้วใครที่อยากเลือกการกินเจเพื่อมาเป็นการสร้างกุศลให้ตัวเรานั้นต้องขึ้นอยู่ที่ความสมัครใจและความเต็มใจของแต่ละบุคคล ซึ่งแน่นอนว่ามีกฎเกณฑ์อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น การล้างท้องก่อนกินเจ อาหารที่ควรเลี่ยงหรือกินได้ในช่วงกินเจ ใครที่อยากลองกินแบบกินเจนั้นควรมีการศึกษาและวางแผนการกินให้ดีๆ เพราะด้วยการลดหรือปรับเปลี่ยนจากพฤติกรรมเดิมของเราโดยแตกต่างแล้วนั้นอาจทำให้การกินเจตามความตั้งใจของเราไม่สำเร็จ จึงควรที่จะมีการเตรียมตัวให้พร้อม เพราะถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการกินเจ


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล

https://www.aurora.co.th/news/page_news/1192/ประวัติน่ารู้เกี่ยวกับเทศกาล-กินเจ.html?srsltid=AfmBOorauME0xiiM7bNQPHq4jBatTgPM8d9GEP_1HBWslnOVFuZ5fA-t

https://www.sanook.com/health/1429/

https://www.pptvhd36.com/news/ไลฟ์สไตล์/207119

https://mgronline.com/infographic/detail/9630000105629


บทความอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาด

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้