" เธอออ ร้องไห้ทำไม มีเรื่องอะไรปรึกษาเราได้นะ!! "

สาวๆ เคยสงสัยไหมคะ ทำไมเพื่อนในแก๊งมาทักแบบนี้บ่อยๆ เราไม่ได้มีเรื่องดราม่าอะไรสักหน่อย แค่น้ำตาไหลโดยไม่รู้สาเหตุ...

แต่ช่วงนี้ไม่ใช่แค่น้ำตาน่ะสิ ทั้งเคืองตา ขยี้ตาจนแดงไปหมดก็ยังไม่หาย กำลังแชทกับหนุ่มเพลินๆ บางทีตาก็มัวไปเฉยๆ มองตัวอักษรไม่ชัดซะงั้น


เอ๊ะ หรือเรากำลังเป็นโรคอะไรอยู่รึเปล่า?? #เริ่มกลัวแล้วล่ะสิ (。╯︵╰。)

ถ้าเธอกำลังมีอาการเข้าข่ายเหล่านี้ สงสัยไว้ก่อนเลยค่ะ ว่าสาวๆ อาจเป็น' โรคตาแห้ง 'นั่นเอง!

แต่อย่าเพิ่งกังวลไป ถ้ารู้สาเหตุของโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เราก็สามารถรักษาได้ง่ายๆ ให้กลับมามีดวงตาใสปิ๊งอีกครั้งค่ะ!

แต่ก่อนอื่น... เราไปดูความหมายของโรคนี้กันก่อนดีกว่า ^ ^

°˖✧ ' โรคตาแห้ง ' คืออะไร °˖✧

รูปภาพ:https://calgaryfamilyeyedoctors.com/assets/images/dry-eye-clinic.jpg

' ตาแห้ง ' เป็นโรคตาอย่างหนึ่ง เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ หรือน้ำตามีการระเหยเร็วเกินไป ทำให้มีปริมาณน้ำตามาหล่อเลี้ยงดวงตาไม่เพียงพอค่ะ


โดยปกติแล้ว ดวงตาจะชุ่มชื้นตามธรรมชาติ แต่หากเราใช้งานดวงตามากเกินไป หรือใช้งานผิดปกติ อาจทำให้ไม่สบายตา เช่น เคืองตา แสบตา เป็นต้น

°˖✧ ' สาเหตุ ' ของโรคตาแห้ง °˖✧

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/308601778/large.jpg

มีหลากหลายปัจจัย ที่จะทำให้เป็น ' โรคตาแห้ง ' ได้ค่ะ ดังนี้- อาการเสื่อมของต่อมน้ำตาไมโบเมียน ( meibomian gland dysfunction: MGD )หรือต่อมที่อยู่บริเวณเปลือกตา มีหน้าที่สร้างน้ำตามาหล่อลื่นดวงตา หากต่อมนี้ทำงานผิดปกติ เราก็จะตาแห้งได้- ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล*โดยเฉพาะในเพศหญิง*ทำให้น้ำตามีคุณภาพลดลง- ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน ( ยิ่งเป็นยี่ห้อที่ไม่ได้คุณภาพ ค่าอมน้ำต่ำ ก็ยิ่งส่งผลให้ตาแห้งได้เร็วขึ้นค่ะ )

- อาการภูมิแพ้ที่ตา อาจเกิดจากสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่น ควัน มลภาวะต่างๆ

- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ / สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานเกินไป *สาวยุคโซเชียล 4.0 ต้องระวัง!*

- การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด เป็นต้น

°˖✧ ' ใคร ' มีโอกาสเป็นโรคตาแห้งได้บ้าง? °˖✧

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/f3/c1/1a/f3c11a2d75c0ee75c912f3f2a41858af.jpg

สาวๆ บางคนอาจเข้าใจผิดว่า ' โรคตาแห้ง ' เกิดจากคนที่จ้องหน้าจออย่างเดียว ผิดค่ะ! แต่หลายปัจจัยในชีวิตของเรา อาจทำให้เราเป็นโรคนี้ได้โดยไม่รู้ตัว ดังนี้

1. ชอบจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ / จอมือถือ / จอโทรทัศน์เป็นเวลานานๆ โดยไม่พักสายตาเลย

2. ชอบอ่านหนังสือเป็นเวลานาน ( ยิ่งถ้าอ่านในห้องที่มีแสงไม่เพียงพอ ก็ยิ่งปวดตาเพิ่มเข้าไปอีก )

3. แต่งหน้าจัดเกินไป ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฝุ่นผงบ่อยๆ ระหว่างแต่งหน้า ผงเหล่านั้นอาจเข้าตาโดยไม่รู้ตัว นานๆ ไปก็เกิดอาการตาแห้งได้ค่ะ

4. ใส่คอนแทคเลนส์ / ผ่านการทำเลสิก ( LASIK ) มาก่อน

5. ขี่จักรยาน / มอเตอร์ไซค์ ( เพราะเวลาขี่ ดวงตาของเราจะปะทะกับลมแรงๆ ทำให้เคืองตาได้ค่ะ )

6. กินยาบ่อยๆ เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาความดันโลหิตจาง หรือยารักษาโรคซึมเศร้าบางชนิด

7. อยู่ในห้องแอร์นานเกินไป เพราะห้องแอร์จะมีอากาศค่อนข้างแห้ง ทำให้ตาแห้งไปด้วย สาวออฟฟิศต้องระวัง

8. แพ้แสง ทั้งแสงไฟและแสงอาทิตย์ ( แสงอาจทำให้แสบตาได้ )

9. เข้าสู่วัยทอง ( เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากสายตา ความแข็งแรงของดวงตาก็จะลดลงด้วยค่ะ )

°˖✧ ' อาการ ' ของโรคตาแห้ง °˖✧

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/e2/84/5f/e2845ff0a347b969bd2eef6f89780eb9.jpg

ถ้าสาวๆ มีอาการมากกว่า 1 ข้อ ต้องระวังไว้เลยว่าอาจเป็นโรคตาแห้ง!- คันตา แสบตา ระคายเคืองตา

- มีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอม ' คล้ายทรายหรือฝุ่น ' อยู่ในตา แต่ขยี้แล้วก็ไม่ออก

- แพ้แสง แพ้ลม ดวงตาสู้แสงไม่ได้ ถ้าเจอแสงจัดๆ จะเจ็บตากว่าปกติ

- บริเวณตาขาวมีสีแดงจากการอักเสบ ขอบเปลือกตาแดง

- ตามัวในบางขณะ

- ตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สบายตา- มีเมือก หรือมีขี้ตามากกว่าปกติ- น้ำตาไหลมากกว่าปกติ

°˖✧' ผลเสียที่ได้รับ ' หากเป็น โรคตาแห้ง °˖✧

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/29/1a/c0/291ac06736d44693a3e3ececb6d0d6c7.jpg

พูดเลยว่าถ้าเป็นแล้ว ไม่ควรปล่อยไว้นานๆ! เพราะหากละเลย จะส่งผลร้ายแรงแน่นอน ดังนี้ค่ะ

- ผิวดวงตาขุ่นมัว

- สายตาสู้แสงไม่ได้

- กระจกตาถลอกเป็นแผล ติดเชื้อ นานๆ ไปอาจตาบอดได้!

- เยื่อบุตาอักเสบ

- กระจกตาบางลง จนถึงขั้นทะลุได้!

°˖✧' วิธีรักษา ' โรคตาแห้ง °˖✧

หากสาวๆ คนไหนค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองมี' อาการตาแห้ง 'แน่นอนแล้ว ก็มาเริ่มดูแลดวงตาให้กลับมาชุ่มชื้น ใสปิ๊ง! ได้เลย ตามวิธีด้านล่างนี้ค่ะ ( ´ ∀ `)ノ~ ♡

ทำตาให้ชุ่มชื้นเสมอ เช่น หยอดน้ำตาเทียม

รูปภาพ:http://174.138.30.8:3005/images/info-01.jpg

กะพริบตาให้บ่อยขึ้น ขณะอ่านหนังสือ เล่นมือถือ หรือจ้องจอคอม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/34/33/40/34334008e412543e2c143e6bf5174961.jpg

เพิ่มความชื้นในห้องนอน หรือห้องทำงาน

รูปภาพ:http://174.138.30.8:3005/images/info-03.jpg

สวมแว่นกันแดดเวลาเจอแดด

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/66/8f/c8/668fc877d8a911229fab2c45246eb519.jpg

กินอาหารเสริมประเภทที่มี Omega-3 เช่น ถั่ว อะโวคาโด ปลาแซลมอน บร็อคโคลี่


รูปภาพ:https://www.canadianprotein.com/lifestyle/wp-content/uploads/2016/01/Simple-ways-of-consuming-more-Omega-3.jpg

ดื่มน้ำมากๆ ( เป็นน้ำเปล่าได้จะดีที่สุดค่ะ )

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/c3/21/d4/c321d4190528fb64f4cbb8d60a0725c1.jpg

-----------------------

เป็นยังไงบ้างคะสาวๆ พอจะรู้จัก ' โรคตาแห้ง ' มากขึ้นบ้างแล้วหรือยังใครยังไม่เป็นก็รีบรักษาดวงตาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ แต่หากใครเป็นโรคนี้แล้ว ก็ลด ละ เลิกพฤติกรรม / ปัจจัยที่กระตุ้นให้ยิ่งอาการหนักลง ควบคู่กับรักษาดวงตาด้วยวิธีธรรมชาติหากดวงตาอักเสบมาก หรือติดเชื้อ อาจต้องพบแพทย์เพื่อรับยาเพิ่มเติมค่ะ

ชีวิตเรา ตั้งแต่เกิดจนตายก็มีดวงตาเพียงคู่เดียว *ไม่มีอะไหล่ดวงตามาเปลี่ยนให้นะ* ยิ่งอายุมากขึ้น ดวงตาก็ค่อยๆ เสื่อมลงใช่ว่าตาใสๆ สมัยวัยรุ่นของเรา จะยังใช้การได้เหมือนเดิมเมื่อเราอายุ 40+ 50+ ดังนั้นทะนุถนอมดวงตาของเราให้ดีที่สุดนะคะ ^ ^วันนี้เราขอตัวไปก่อนน้า แล้วกลับมาพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบาย

-----------------------