
" Love istoo beautifulto behiddenin thecloset. "ความรักเป็นเรื่องที่สวยงาม เกินกว่าจะเก็บซ่อนเอาไว้ข้างในซึ่งการมีความรักไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การไม่ยอมรับ ' ความรัก ' ที่ตัวเองมีนั่นแหละที่ผิด!!ฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้ BE YOURSELVES กันไว้ก่อนค่ะซิสสส...
สมัยนี้ไม่ว่าอะไร ๆ ก็ดูจะเปิดกว้างและให้พื้นที่ทางความคิดที่มีอิสระมากขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจตัวเองและเป็นตัวเองได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน...ซึ่ง#ความรักก็เช่นกัน!!
ถ้าพูดคำว่า
' LGBTQ '
ขึ้นมาปุ๊บ เราเชื่อว่าสาวซิสเกือบทุกคนจะเข้าใจความหมายของคำ ๆ นี้เป็นอย่างดี เพราะคำ ๆ นี้เนี่ยก็ย่อมาจากคำว่า
' Lesbian Gay Bisexual Transgender และ Queer '
นั้นเองค่ะ
เป็นกลุ่มที่แสดงให้เราเห็นแล้วว่า" ความรักมันไม่มีข้อกำหนดจริงๆ "
และสำหรับวันนี้เราก็อยากจะชวนสาวซิสทุกคนไปทำความรู้จักกับความคิดและความรู้สึกของชาว' LGBTQ 'กันให้มากขึ้นผ่านPlaylistเพลงเพราะ ๆแถมยังได้ฝึกภาษาไปในตัวกันอีกด้วย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพลง Girls Like Girls - Hayley Kiyoko

สำหรับเพลง
' Girls like Girls ' ก็เป็นเพลงที่ Kiyoko เขียนขึ้นมาเอง
ซึ่งถ้าใครรู้จักเธอดี ก็จะรู้ว่าเธอออกมาเปิดตัวเป็นชาว LGBTQ แบบเต็มตัว แต่สิ่งที่ทำให้เพลง ๆ นี้ดังขึ้นมา และเป็นที่ถูกใจของชาว LGBTQ กันก็คือ...
การที่เธอได้หยิบยกเอาประเด็นที่ยังไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อนมาเล่น
นั้นก็คือ...
ปกติคนก็มักจะแต่งเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การที่ผู้ชายไปแย่งผู้หญิงของผู้ชายอีกคนนึง แต่เธอต้องการที่จะนำเสนอมุมที่ต่างออกไป นั้นก็คือ การที่ผู้หญิงคนนึง สามารถไปแย่งผู้หญิงของผู้ชายอีกคนนึงได้!!
การแย่งคนรักของใครอาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ประเด็นที่อยากจะนำเสนอก็คือ ' การมองว่าผู้หญิงก็ชอบผู้หญิงได้เหมือนที่ผู้ชายชอบนั่นแหละ ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกตรงไหนเลย 'เรียกได้ว่า...เป็นเพลงที่ให้มุมมองเจ๋ง ๆ แถมยังเป็นการมองมุมกลับ สร้างความแตกต่างใหม่ ๆ ให้กับวงการเพลงอีกด้วย
>>> Vocab น่าสนใจ <<<
~ Saw your face, heard your name, gotta get with youGirlslikegirlslikeboys do, nothing new ~
ประโยคนี้แปลว่า...ได้เห็นใบหน้าของเธอ ได้ยินชื่อของเธอ ทำให้ฉันอยากอยู่กับเธอผู้หญิงก็ชอบผู้หญิงได้ เหมือนที่ผู้ชายชอบนั้นแหละ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ซึ่งตัวที่เราอยากให้สาวซิส Focus นั้นก็คือ ' like ' นั้นเอง เพราะมันมี 2 ความหมาย นั้นก็คือ ' ชอบ ' และ ' ก็เหมือน ' ( เอาไว้ใช้ในการเปรียบเทียบได้นะคะ )
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพลง Boys In The Street - Greg Holden

ถ้าใครชอบฟังเพลงสากล เชื่อว่าซิสจะต้องเคยได้ยินเพลงของ
' Greg Holden '
ผ่านหูกันมาบ้างแน่ ๆ และสำหรับเพลง
' Boys in the street 'ก็เป็นเพลงที่ได้ใจชาว LGBTQ ไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง
เพราะเนื้อหาของเพลง
เล่าถึง เรื่องราวของพ่อคนนึงที่ในตอนแรกไม่สามารถรับได้ที่ลูกของตัวเองเป็นเกย์ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว คนเป็นพ่อก็เลือกที่จะยอมรับในตัวของลูกชาย...เพราะไม่ว่ายังไงความเป็นพ่อ - ลูกก็ตัดกันไม่ขาดอยู่ดี
ซึ่งในตอนแรกที่เค้าแต่งเพลงนี้ขึ้นมา เค้าก็ไม่มั่นใจมากนักว่าจะสามารถสื่อความหมายออกมาได้ดีพอหรือเปล่า เพราะ
Greg เองจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นชาว LGBTQแต่หลังจากที่ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงนี้ออกมาแล้ว กระแสตอบรับกลับดีเกินคาด และหลายคนก็ทั้งอิน ทั้งชอบเพลงนี้แบบสุด ๆ
>>> Vocab น่าสนใจ <<<
~ He said "There was no way of knowing'cause all I was taught is men only love women, but now I'm not sure. My son keep kissing boys in the street. " ~ประโยคนี้แปลว่า...เค้า ( พ่อ ) บอกว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ฉันจะรู้ เพราะที่ฉันโดนสอนตลอดมาก็คือ ผู้ชายจะรักกับแค่ผู้หญิงเท่านั้น แต่พอมาถึงตรงนี้ ฉันก็ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้ว...ลูกพ่อ ถ้าอยากจะรักผู้ชายต่อไป ก็ได้นะ
#มีความจบสวยสำหรับท่อนนี้ เราก็อยากจะพาไปดูIdiomหรือสำนวน ที่ซ้อนอยู่สักหน่อยกับคำว่า' There is no way of knowing 'ซึ่งเป็นสำนวนที่ฝรั่งชอบใช่กันแปลว่า...It was impossible for me to know!หรือก็คือ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันจะรู้/เข้าใจเรื่องนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพลง SAME LOVE - MACKLEMORE & RYAN LEWIS

คงไม่มีใคร ไม่เคยฟังเพลง ' Same Love ' เพลงนี้!!
เพราะเป็นเพลงที่ดังมาก ๆ เพลงนึงเลยก็ว่าได้เพราะฮิตติดชาร์ตไปทั้วโลก...
ด้วยเนื้อหาที่พูดถึงประเด็นในเรื่องของ ' สิทธิ์ของเกย์และเลสเบี้ยน '
ซึ่งความพีคของเพลงนี้ก็คือ
การที่ทำเพลงนี้ในช่วงที่ ' รัฐวอชิงตันที่อเมริกา ' กำลังทำเรื่อง ' อนุมัติกฎหมายให้คนเพศเดียวกัน แต่งงานกันได้ ' พอดิบพอดี!!
และก็แน่นอนว่าหลังจากที่ปล่อยเพลงนี้ออกมา ก็ได้รับแรงสนับสนุนจำนวนมาก
จนสามารถไต่อันดับขึ้นไปอยู่ที่ 11 ของชาร์ต Billboard Hot 100 ในอเมริกาและครองอันดับที่ 1 ในชาร์ตเพลงของทั้งประเทศ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เลยทีเดียว
>>> Vocab น่าสนใจ <<<
~ When everyone else is more comfortable, remaining voiceless rather than fighting for humans, that have had their rights stolen. ~
ประโยคนี้แปลว่า...
เมื่อทุก ๆ คน เริ่มที่จะไม่ใสใจและเต็มใจที่จะเลือกปิดปากเงียบ แทนที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นั้นแหละคือวันที่สิทธิ์ของพวกเค้าจะถูกเอาไป
สำหรับประโยคนี้ เราอยากจะให้ซิสมองไปที่คำว่า
' rather than 'ซึ่งมันก็มีความหมายเหมือนกับคำว่า ' than ' ที่แปลว่า ' แทนที่ '
แต่จริง ๆ ซิสก็ยังสามารถใช้คำศัพท์อื่นเข้ามาแทนได้อีก เช่น
' instead of, and not, other than, in contrast to '
เป็นต้น
~ A bunch of stereotypes all in my head ~
ประโยคนี้แปลว่า...
ความคิด และ ค่านิยมทางสังคมต่าง ๆ มากมายต่างวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน
สำหรับประโยคนี้ คำศัพท์ที่น่าสนใจคือคำว่า
' stereotypes '
ซึ่งถ้าจะให้แปลแบบตรง ๆ ตัวแล้วก็จะแปลว่า' การเหมารวม 'ซึ่งการเหมารวมในที่นี้ ก็คือก
ารเหมารวมถึงลักษณะนิสัยของคนโดยดูจากคุณสมบัติทั่วไป ( เพศ เชื้อชาติ ฯลฯ ) ซึ่งอาจไม่เป็นความจริงเสมอไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพลง Born This Way - Lady Gaga

มาถึงคราวของคุณแม่ของเหล่า LGBTQ กันแล้วกับ
' Lady Gaga ' กับเพลงที่ชื่อว่า ' Born this way '
ซึ่งคุณแม่ก็ทำเพลงที่มี
เนื้อหาให้กำลังใจเหล่า LGBTQ และกลุ่มคนที่ถูกดูถูกหรือถูกเหยียดทั้งหลาย ให้ลุกขึ้นมา ' รักในสิ่งที่ตัวเองเป็น และจงก้าวต่อไปข้างหน้าโดยไม่ต้องไปสนคำพูดของคนอื่น เพราะยังไงเราก็ born this way '
และแน่นอนว่าฮอตฮิตดังเป็นพลุแตก แถมยังได้ใจเหล่า LGBTQ ไปเต็ม ๆ
>>> Vocab น่าสนใจ <<<
~ Don't be a drag, just be a queenWhether you're broke or evergreenYou're black, white, beige, chola descentYou're Lebanese, you're OrientWhether life's disabilitiesLeft you outcast, bullied, or teasedRejoice and love yourself today'Cause baby you were born this way. ~
ประโยคนี้แปลว่า...
อย่าพยายามลดค่าของตัวเองลง แต่จงทำตัวให้งดงามเหมือนราชินี
ไม่ว่าเธอจะจนหรือร่ำรวย
จะมีผิวดำ ผิวขาว ผิวสีเบจ หรือผิวสีช็อกโกแลต
เธอจะเป็นคนเลบานอนหรือคนผิวเหลืองแม้ว่าชีวิตจะไม่ยุติธรรมกับเธอแค่ไหน
เธอจะต้องถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ถูกรังแก หรือกลั่นแกล้ง
ก็จงมีความสุข และรู้จักที่จะรักตัวตนเพราะที่รัก เธอเกิดมาเพื่อเป็นแบบนี้
ซึ่งถ้าซิสสังเกตกันดี ๆ จะเห็นว่า มีการใช้คำศัพท์ที่น่าสนใจในการเรียก...สีผิวของคนแต่ละประเภทมากมาย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพลง Lay Me Down - Sam Smith

ถ้าจะให้พูดถึงคนที่เป็นหนึ่งในกลุ่ม LGBTQ ที่เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง ก็คงจะหนีไม่พ้น ' Sam Smith '
อย่างแน่นอน ซึ่งแต่ละเพลงที่เค้าออกมาก็มีแต่เพลงฮิตทั้งนั้น และสำหรับเพลง
' Lay me down '
เพลงนี้ ถ้าดูเนื้อหาของเพลงจริง ๆ แล้ว
เป็นการบอกเล่าถึงความสวยงามของคำสาบานที่มีต่อคนรักของตัวเอง ว่าชีวิตนี้จะขอใช้เวลาที่เหลือไปกับคุณ
และนอกจากเนื้อเพลงที่มีความลึกซึ้งแล้ว ในส่วนของ MV เพลงก็มียังนำเสนอได้น่าสนใจสุด ๆ
เพราะเป็นการ
ถ่ายแบบ long shot
แบบถ่ายยาว ๆ ครั้งเดียวโดยไม่มีการสั่ง cut แต่อย่างใด
แถมยังเป็นการแสดงเรื่องราวแบบ reverse
หรือกรอเนื้อเรื่องย้อนกลับอีกต่างหาก
>>> Vocab น่าสนใจ <<<
~ You told me not to cry when you were goneBut the feeling’soverwhelming, it’s much too strong. ~
ประโยคนี้แปลว่า...
เธอห้ามไม่ให้ฉันร้องไห้ ในวันที่เธอต้องจากฉันไปแต่ว่าความรู้สึกของฉันมันช่างอ่อนไหวเหลือเกิน เกินกว่าที่จะทนเข้มแข็งไว้ได้
ซึ่งความน่าสนใจของคำว่า
' overwhelming 'คือ มันแปลว่า ' มากมาย เอ่อล้น '
แต่มันก็สามารถใช้ในเชิงที่ว่า ' พ่ายแพ้แบบราบคาบ ' ได้ด้วย
อย่างเช่นประโยค
" His teams overwhelmed their opponents. "
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เป็นยังไงกันบ้างคะซิสส กับ
'Playlist เพลงเพราะ ๆ ที่เหมาะสำหรับชาว LGBTQ'
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลงไหน ๆ ศิลปินเค้าก็ต้องการสื่อว่า
' การเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว '
เพราะอย่างที่บอกกันไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า...
ความรัก ไม่ได้มีการจำกัดความในเรื่องของเพศแต่อย่างใด แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจของแต่ละคนล้วน ๆ
ซึ่งสำหรับเรา เราก็เชื่อจริง ๆ ว่า...ไม่ว่าใครจะรักใคร หรือจะชอบใคร ขอแค่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ชีวิตแฮปปี้ แค่นี้ก็พอแล้วเพราะคุณค่าของความรักเค้าไม่ได้วัดกันจากภายนอก แต่วัดกันที่จิตใจต่างหากหล่ะ
สำหรับวันนี้เราก็ต้องขอตัวลาซิสทุกคนไปก่อนนะคะ Bye ~~~