1. SistaCafe
  2. 9 สิ่งสำคัญควรรู้! ของ 'รอยแผลเป็นจากสิว' บนใบหน้า #ฉันจะไม่หน้าปรุ! (;⌣̀_⌣́)

สวัสดีค่าาา สาวSistaCafe ที่อยากหน้าใส!เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ สำหรับวัยรุ่นไทย หรือวัยรุ่นชาติไหนก็ตามกับเรื่อง ' สิวๆ 'ด้วยฮอร์โมนตามวัย พันธุกรรม และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย จากผิวเรียบๆ ก็มีสิวผุดขึ้นมาซะงั้น รักษากันแทบตาย โบกครีมวนไปเป็นเดือนๆ สรุปปล่อยรอยสิวทิ้งไว้ให้ช้ำใจเล่น ทำยังไงก็ไม่หาย พระเจ้าลงโทษที่แท้ทรู T___Tอย่าเพิ่งร้องไห้กันไปค่ะซิส! เพราะวันนี้ เรามี9 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ' รอยแผลเป็นจากสิว ' ที่สาวๆ ควรเตรียมตัวรับมือไม่ว่าตอนนี้เธอจะเพิ่งมีสิว ( ที่น่าจะทิ้งรอยไว้แน่ๆ ) หรือมีรอยสิวแล้วก็ตาม รับรองว่าอ่านจบจะได้ไอเดียไปรักษาอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเล้ย!


1. รอยสิว เป็น ' ขั้นตอนหนึ่งในการรักษาตัวเอง ' ของร่างกาย

คงจะดีมากก ถ้าเวลาสิวหายเมื่อไหร่ ผิวก็กลับมาเรียบเนียนใสเหมือนก้นเด็กทันที แต่เป็นไปไม่ได้ค่ะซิส!เวลาผิวหน้าเกิดสิว นั่นหมายถึงผิวบริเวณนั้น ต่อมไขมันมีความผิดปกติ เกิดการอักเสบ ดังนั้นผิวของเราจะทำการเยียวยาตัวเองตามธรรมชาติ ทำให้ทิ้งรอยสิวเอาไว้ ไม่ว่าเราจะพยายามรักษาสิวนั้นหรือไม่ก็ตาม' รอยแผลเป็นจากสิว ' เกิกจากการคอลลาเจนและเนื้อเยื่ออีลาสตินบนผิวก่อตัวได้ขาดๆ เกินๆ เพราะมีสิวอักเสบบริเวณนั้นหากเกิดตุ่มสิว ยังไงก็ต้องรอเวลาสักพัก กว่ารอยจะจางหายไปเองค่ะ

2. ' รอยสิว ' กับ ' รอยแดง' ไม่เหมือนกัน

รอยสิว ( Acne Scars ) กับรอยแดง ( Acne Marks ) ไม่เหมือนกันค่ะซิสรอยสิวจะเป็นรอยแหว่งๆ ผิดรูปในผิวหนัง จากสิวอักเสบรุนแรงเหมือนเวลาเป็นอีสุกอีใส แต่รอยแดงจะเป็นจุดๆ สีแดงหรือสีน้ำตาล บนผิวหนังที่ยังมีความนุ่มอยู่ ซึ่งสามารถจางไปได้เองตามกาลเวลาเอาง่ายๆ คือรอยแดงคือการที่หัวสิวออกไปแล้ว แต่ยังมีความแดงๆ อยู่ ซึ่งไม่นานจะจางหายไป แต่รอยสิวคือการที่ผิวบริเวณนั้นเสียโครงสร้างของอีลาสตินไปแล้ว จึงเกิดรอยขึ้นใต้ชั้นผิวหนังซึ่งแน่นอนว่าหายยากกว่า จางช้ากว่าค่ะ

3. ' แสงแดด ' ยิ่งทำให้รอยสิวบวมแดงมากขึ้น!

มีบทความบางแห่งบอกว่า หากผิวหน้าบริเวณที่เป็นสิว สัมผัสแสงแดดอ่อนๆ จะช่วยทำให้รอยสิวจางลงได้ ซึ่งไม่จริงเลย หยุดค่ะ #พาหลบเข้าร่มนอกจากสิวจะไม่หายเพราะแดดแล้ว ยังจะเพิ่มจำนวนขึ้น ตามมาด้วยผิวหมองคล้ำ ผิวลอก บวมแดง แสบร้อนอีกด้วย อึ๋ยยยไม่ว่าเธอจะมีจุดด่างดำ หรือรอยสิวก็ตาม อยู่ให้ห่างจากแสงแดดไว้จะดีที่สุดถ้าต้องออกกลางแจ้งก็ทาครีมกันแดด หรือใส่มาส์กปิดไว้ เพื่อไม่ให้สิวอักเสบมากขึ้นค่ะ

4. ถ้ารู้ตัวว่ามีรอยสิวแล้ว รักษาแต่เนิ่นๆ อย่าทิ้งไว้นาน!

ถ้าเธอมีสิว เห็นรอยสิวแต่เนิ่นๆ แล้วก็รีบรักษาทันทีค่ะซิส อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ยิ่งรอยสิวอยู่บนผิวนานๆ ยิ่งหายช้า พูดเลย!ทางที่ดีพยายามรักษาตั้งแต่มันยังเป็นสิวปกตินี่แหละ ไม่ว่าจะเจลแต้มสิว ครีมทาสิวทั้งหลาย เพื่อลดการอักเสบของรอยสิวและรอยแดงหากมีความจำเป็นต้องแต่งหน้าทุกวัน ไม่ค่อยได้พักหน้า ก็ทาครีมกันแดดเป็นรองพื้นไว้เสมอ ก่อนนอนก็ล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยนให้สะอาด และใช้เจลแต้มสิวทุกครั้งนะคะ

5. ยิ่งเอามือไปแคะ แกะ เกา รอยสิวยิ่งไม่หาย!

กฎพื้นฐานของการรักษาสิวเลยนาจา! แต้มยาแล้วก็ปล่อยให้สิวอยู่เฉยๆ อย่ามือซนไปแคะ แกะ เกา บีบๆ รอยแดง หวังว่ามันจะหายไป แต่รู้ไหมว่า ยิ่งทำอย่างนี้รอยแดงก็ยิ่งบวมขึ้นเรื่อยๆ จากแดงปกติเป็นแดงช้ำให้คนมองเป็นจุดสนใจ ซ้ำยังจะระคายเคืองกว่าเดิม และเสี่ยงติดเชื้ออีกค่ะซิสสรุปง่ายๆ อย่าเอามือไปยุ่งกับสิว ยกเว้นตอนจะทายา ( ที่ต้องล้างมือให้สะอาดก่อน ) จบค่ะ!

6. รอยสิว ไม่ใช่รอยเปื้อน หรือสิ่งสกปรก!

รอยสิว ไม่ใช่สะเก็ดสกปรก ที่บีบออกก็หายเหมือนสิวหัวดำ สาวๆ ไม่สามารถเดินไปคลินิก บอกหมอว่า " บีบรอยสิวออกให้หน่อยค่ะ " เพราะมันทำไม่ได้จ้า มันอยู่ใต้ชั้นผิวหนังเด้อ!รอยแดง รอยดำจากสิวก็เช่นกัน ต้องรอให้หายเอง บีบเอาเดี๋ยวนั้นไม่ได้ ต้องรอเวลาหน่อยนะจ๊ะ

7. อย่าใช้ ' สครับขัดรอยสิว ' ยิ่งทำให้หน้าพัง!

ใจร้อน อยากหน้าเนียนไวๆ ก็มโนเอาเองว่า ถ้าขัดผิวบริเวณนั้น รอยสิวอาจจะหายไป เลย

ใช้ ' สครับขัดผิวหน้า ' มาทาถูๆ ตรงสิวจนแสบแดงไปหมดก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด และไม่กระตุ้นให้ผิวส่วนนั้นสร้างอีลาสตินใหม่ให้เรียบเนียนด้วย

#นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ยย Y__Y



โอเค ยังไงเธอก็ต้องล้างหน้าทุกวัน จะใช้สูตรสครับก็ไม่ผิดอะไร แต่อย่าขัดเอาเป็นเอาตาย ขัดทุกวัน ขัดวนตรงสิวรัวๆ เพราะหน้าจะยิ่งพังค่ะซิส



8. ' น้ำมะนาว ' ไม่ทำให้รอยสิวจางลงนะจ๊ะ

จะมีสูตรรักษาสิวบางอันบอกว่า ให้ใช้ ' น้ำมะนาว ' จากผลมะนาวสด จุ่มคอตตอนบัด แล้วนำมาทาที่รอยสิว จะทำให้รอยสิวจางไป เพราะคิดว่ามะนาวมีค่าเป็นกรด น่าจะทำให้ผิวกระจ่างใส ลบรอยได้ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีผลวิจัยยืนยันใดๆ แต่น้ำมะนาวช่วยลดรอยแดง สิวบวมอักเสบได้จริงค่ะถ้าอยากลองสูตรนี้ ให้เริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน เพราะถ้าเทพรวด! ลงไปทีเดียว ผิวอาจเกิดการระคายเคืองได้ ที่สำคัญ อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วย เพราะกรดจากมะนาวทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้นถ้าเจอแดดจัดอาจมีความแสบไหม้เกิดขึ้นได้ //แค่คิดก็ขนลุกล้าว

9. ถ้าแต้มเจลแล้วไม่หาย ก็ไปคลินิกรักษาเลย!

ถ้ารอยสิวของเธอ อยู่ในขั้นหนัก อักเสบเยอะจริงๆ ครีม เจลแต้มสิว หรือวิธีรักษาตามธรรมชาติเอาไม่อยู่ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องไปเลเซอร์ค่ะ!เพราะเลเซอร์ผิวหนัง จะทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ซึ่งอาจจะต้องมีการใช้เข็มฉีดส่วนที่เป็นรอยด้วย เพื่อฟื้นฟูผิวส่วนนั้นให้เรียบขึ้นถ้ามีทุนทรัพย์มากพอและพร้อมรับความเจ็บ ก็ไปโลด! แต่ศึกษาเรื่องผลข้างเคียงให้ดี ( ผิวจะบางและไวต่อแสงมากขึ้นแน่นอน )สกินแคร์ที่ควรใช้หลังทำเลเซอร์ etc. ก่อนไปทำนะคะ จะได้มีผิวสวยไปนานๆ


------------------------


อ่านถึงตรงนี้แล้ว อย่าเพิ่งถอนหายใจนะคะซิส! รอยแผลเป็นจากสิว อาจรักษาหายช้าหน่อย ( หรือบางเคสต้องยอมรับว่า อาจจะไม่มีทางหายเลย ถ้าไม่ไปเลเซอร์ ) เพราะเป็นผลลัพธ์ของอีลาสตินผิดรูป ไม่ใช่รอยแดงทั่วไปบนชั้นผิวหนัง แต่วิธีทางธรรมชาติบางอย่างก็ช่วยบรรเทาได้ เช่น น้ำมะนาว หรือถ้าอยากผิวเนียนจริงๆ เดี๋ยวนี้ก็มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ อย่างการเลเซอร์ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ และเงินของสาวๆ แต่ละคนแล้วล่ะค่า


สำหรับวันนี้ เราเอง ( ซึ่งรอยสิวก็เยอะพอกัน ) ขอตัวไปเช็คเงินในกระเป๋าก่อนว่า มีเงินพอจะเลเซอร์รึเปล่า ฮืออออ ไปก่อนละค่า บ๊ายบาย

------------------------

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1