ในส่วนของวันนี้ เราจะมาเริ่มด้วยเรื่องการดูแลผิวพรรณ ตั้งแต่การ “อาบน้ำ”

ใช่แล้วค่ะ ! จริงๆ แล้วบางคนอาจนึกไปถึง การทาครีมบำรุง โลชั่น กันไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมองข้ามไป คือ ก่อนที่จะไปถึงขั้นการทาครีมบำรุงนั้น “การอาบน้ำ” ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ

วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่อง "สบู่" กันค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/96/fd/0d/96fd0d7dcefadd4b1c9141fa4e052bd6.jpg

ประเภทสบู่

สบู่ก้อน กลีเซอรีน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4b/fc/c2/4bfcc25e8ac395e8b221ff17c177088b.jpg

สบู่กลีเซอรีน สารตั้งต้นจะเป็น กลีเซอรีน และผ่านกระบวนการผลิตแบบเย็น ทำให้คงสารสกัดกลีเซอรีนไว้ในสบู่ ซึ่งมีมีค่า pH ไปทางด่างสูง (pH 10-11) ซึ่งสามารถละลายไขมันได้ดี เมื่อใช้อาบน้ำจึงทำให้เรารู้สึกว่าสะอาด แต่ผิวจะเสียความชุ่มชื้นไป ทำให้เรารู้สึก ผิวฝืดๆ ตึงๆ หรือแห้งได้

สบู่เหลว

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/fc/9d/3d/fc9d3dc5cd9b77014fd5405cc30013ae.jpg

สบู่เหลวเป็นสารสังเคราะห์ ลดแรงตึงผิวจะมี 2 แบบ คือ ลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบ ซึ่งนิยมใช้ในสบู่เหลวและแชมพูเกือบทุกชนิดและชนิดประจุผสม ซึ่งจะไม่ระคายเยื่อบุผสม อยู่ในสบู่เหลว หรือแชมพูเหลวสำหรับเด็ก

สบู่เหลวมีค่า ประมาณ pH 5-6 และสบู่เหลว มักใส่สารที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดการเหนียวเหนอะได้

จากนั้น ก็เริ่มมีการพัฒนา โดยดึงเอาจุดดีของทั้ง สบู่ก้อนกลีเซอรีน และ สบู่เหลว กลายเป็น " สบู่กวนเย็น "ค่ะ

สบู่กวนเย็น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/fc/9d/3d/fc9d3dc5cd9b77014fd5405cc30013ae.jpg

สบู่แบบกวนเย็น หรือ Cold Process สบู่แบบนี้ ใช้เวลาบ่มสบู่ที่ค่อนข้างนาน เป็นสบู่ที่ปล่อยให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีอย่างช้าๆ ไม่อาศัยความร้อน จึงทำให้สารสกัดที่เลือกใส่ลงไป ไม่ถูกความร้อนลดประสิทธิภาพ

ระหว่างการเกิดสบู่นั้น ภายในสบู่ จะมีกลีเซอรีตามธรรมชาติเกิดขึ้นภายในเนื้อสบู่ด้วยและผู้ผลิตสามารถเติมสารสกัด หรือสมุนไพรลงไปได้ โดยที่ยังคงและเก็บกักประสิทธิภาพของสมุนไพรนั้นๆ ได้อีก เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ไม่ผ่านความร้อน

เห็นผลลัพธ์จากสารสกัดได้ดีกว่าสบู่ทั่วไปและสามารถทำให้ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 8 เป็นจุดกึ่งกลางระหว่าง สบู่กลีเซอรีนทั่วไป กับ สบู่เหลวเลยล่ะค่ะ

"ทั้งผิวจะไม่แห้งตึงจนเกินไป มีความชุ่มชื้นเล็กน้อย แต่ไม่เหนียวเหนอะ"

ทดลองและเปรียบเทียบ ระหว่าง สบู่กลีเซอรีน - สบู่กวนเย็น ดูความแตกต่าง

กลิ่น

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีนมีกลิ่นหอม ตามน้ำหอมที่แต่ละแบรนด์ใส่มา แต่หลังจากทิ้งไปแล้ว 14-30 วัน กลิ่นเริ่มจางลง จนเหลือแต่กลิ่นเบสสบู่

สบู่กวนเย็น

กลิ่นหอมสดชื่น แบบธรรมชาติ หลังจากทิ้งไป 14-30 วันเท่ากัน พบว่ากลิ่นไม่ลดลงเลย

ลักษณะการขึ้นฟอง

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีน

ขึ้นฟองดีค่ะ ถูนิดเดียวก็ขึ้นฟอง แตกต่างจากสบู่เหลว

สบู่กวนเย็น

ตีขึ้นฟองดีเช่นกันค่ะ ต่างจากสบู่ก้อนขึ้นมาหน่อย คือ ฟองนุ่ม แล้วไม่บาดผิว

การล้างออก

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีน

ล้างออกง่าย รู้สึกสะอาด ต่างจากสบู่เหลว

สบู่กวนเย็น

ล้างออกง่ายมาก รู้สึกตัวสะอาด ไม่มีคราบ หรือความเหนียวเหนอะ

ขัดขี้ไคล ลดผิวลาย หัวเข่า-ข้อศอก-คอ-ขาหนีบ-รักแร้ ด้านดำ

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีน

ขี้ไคลออกมาเยอะมาก

สบู่กวนเย็น

ขี้ไคลออกมาในปริมาณพอสมควร

ความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีน

ตอนใช้ระหว่างอาบน้ำ ไม่แห้งฝืดผิว แต่หลังจากเช็ดตัว ผิวแห้งแล้ว รู้สึกว่า ตึงผิว

สบู่กวนเย็น

ชุ่มชื้นดี ไม่แห้งตึงค่ะ

ลดกลิ่นตัว

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีน

ให้ความรู้สึกเหมือน หอมเพราะน้ำหอมที่อยู่ในสบู่

สบู่กวนเย็น

เมื่อผิวเราสะอาด ไม่มีคราบไคล กลิ่นตัวจึงลดลงไปตามลำดับ

ราคาและความคุ้มค่า

รูปภาพ:

สบู่ก้อนกลีเซอรีน

ใช้ได้นาน ประหยัด และราคาถูกค่ะ แต่เมื่อใช้ไปซักพัก จะมีบางส่วนที่ค่อนข้างแข็ง หรือกระด้าง

สบู่กวนเย็น

ราคาค่อนข้างสูง อันเนื่องมาจากกรรมวิธีและสารสกัดที่แตกต่างกัน

ใช้ได้จนหมดก้อน ไม่แข็งกระด้าง

นอกจากจะชุ่มชื้นผิว แถมยังล้างสะอาดแล้ว สารสกัดที่เค้าใส่ลงไป ก็ยังคงคุณค่าไว้อย่างมากที่สุดด้วยล่ะค่ะ เนื่องจากกระบวนการไม่ผ่านร้อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สบู่กวนเย็น น่าใช้มากๆ เลยใช่มั้ยคะ ใครสนใจก็ลองไปหามาลองกันดูได้น้า