ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ไม่ทำงาน ไม่มีเงิน
การมีงานทำจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน เอาจริงๆ ก็อยากมีเงินโดยไม่ต้องทำมากกว่านะ T_T แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นการมีงานทำมั่นคงจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยในชีวิต
ทำให้เรารู้ว่าเราจะได้รับเงินมาใช้ชีวิต มีอาหารกิน มีเงินให้พ่อแม่ และมีเงินเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเราได้อย่างแน่นอน
ที่พูดมานั้นจะเป็นจริงได้
ถ้าไม่ใช่ว่าเราต้องเอาเงินที่หามาได้ไปใช้กับค่ารักษาตัวเองซะก่อนนะ
เพราะงานมาคู่กับความรับผิดชอบ
หลายคนก็เลยทุ่มเทซะจนเกินพอดีจนไม่ได้คำนึงถึงสุขภาพตัวเอง
ใครที่ไม่อยากหาเงินไว้หาหมอ
ต้องเลิกทำพฤติกรรมทั้ง 5 ข้อนี้อย่างเด็ดขาด!
1 # นั่งยาวๆ จนรากงอก

ใครที่ได้ทำงานแบบออกภาคสนาม ได้ไปนั่นไปนี่ ได้ขยับร่างกายบ่อยๆ ก็คงไม่ต้องกังวลข้อนี้ แต่
สำหรับคนที่ต้องดูแลรับผิดชอบอยู่หน้าจอ
อย่างเช่น ฝ่าย IT ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือกราฟิกดีไซเนอร์อะไรเทือกนี้ มักจะมีปัญหากับการต้องนั่งนานๆ อยู่แน่นอน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลย เพราะการนั่งนานๆ
อาจทำให้เราเป็นออฟฟิศซินโดรม
ปวดเมื่อยเนื้อตัว ปวดคอ ปวดหลัง ปวดนั่นปวดนี่เต็มไปหมดได้โดยไม่รู้ตัว
วิธีแก้คืออย่าพยายามนั่งนานจนเกินไป
ถ้าเป็นไปได้
อย่างน้อยให้ลุกทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อยืดเส้นยืดสาย
จะเดินเข้าห้องน้ำหรืออะไรก็ว่าไป หรือถ้าหากมีเวลา แนะนำให้ลองยืดเส้นยืดสายด้วย
ท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ในออฟฟิศ
ตามบทความนี้เลยค่ะ

อยากสวยแต่ไม่มีเวลา? 5ท่าโยคะแบบพกพา อยู่ออฟฟิศ ก็ฟิตได้!
https://sistacafe.com/summaries/53681
2 # ไม่ทาน / รีบทานมื้อกลางวันเกินไป

เหยยยย ข้อนี้คือไม่โอเคแร๊งงง! มื้อกลางวันง้าาา มื้อกลางวันทั้งทีนะเธ้อ
เป็นความสุขหนึ่งเดียว และเป็นโอกาสเดียวระหว่างวัน
ที่เราจะสามารถได้พัก
ได้ทำอะไรต่างๆ ตามใจ ได้นั่งชิลล์ ได้เดินเล่น
เธอจะมาอดมื้อกลางวันเพื่อทำงานไม่ด้ายยย หรือใครจะบอกว่า
" ก็ไม่ได้อดนิ ก็เอามานั่งทานหน้าคอมด้วย "
ไม่ได้ต่างกันเลยซักติ๊ด เพราะการที่มานั่งทานหน้าคอม ก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้พักอยู่ดีนั่นแหละ
ถ้าเป็นไปได้ งานถ้าไม่ได้เร่งรัดอะไรจริงๆ หรือสามารถยืดหยุ่นได้ ก็ขอให้ไปนั่งทานข้าวข้างนอกที่ไม่ใช่หน้าโต๊ะทำงานเถอะค่ะ
เปลี่ยนบรรยากาศวันละชั่วโมง ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้แล้ว
แต่สำหรับใครที่มีเหตุจำเป็นต้องนั่งเฝ้าหน้าคอมจริงๆ แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อย่าใช้วิธีอดอาหารกลางวันเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อเป็นโรคกระเพาะแล้ว ก็ยังทำให้เราไปลงที่มื้อเย็นแบบหนักมาก
นั่งทำงานก็เหนื่อยแย่แล้ว ยังต้องมาเหนื่อยลดความอ้วนอีก
แค่นึกก็เหนื่อยแล้วนะเนี่ย แทนที่จะทำแบบนั้น ให้เราใช้วิธี
แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5 มื้อตลอดวัน
นอกจากจะไม่หิวแล้ว ยังทำให้เราไม่กินหนักจนเกินไปด้วยนะ
3 # โอทีอีกแล้วเหรอ?

การทำโอที
ถ้ามองเผินๆ ก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องแย่
เพราะถึงจะต้องอยู่ล่วงเวลางาน แต่เราก็ได้เงินเพิ่ม วินวินกันไป แต่จริงๆ แล้ว
มันไม่ใช่เลยนะเธอ
เพราะการที่เรานั่งทำงานมานานๆ ตลอด 8 ชั่วโมง แล้วยังต้องมานั่งทำต่ออีกเนี่ย
มันทำให้ร่างกายเราสะสมความเครียดไปโดยไม่รู้ตัว
ยังไม่พอ! การที่เราทำงานเพิ่มมากขึ้น กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกๆ ดื่นๆ เหนื่อยมากขึ้น แต่กลับได้เวลาพักผ่อนน้อยลง
พอร่างกายได้รับการพักผ่อนน้อย
วันต่อมาก็จะเริ่มรู้สึกไปทำงานด้วยสภาพที่ไม่พร้อม
แล้วพอเข้าสู่วงจรนี้มาแล้ว ก็จะเริ่มปรับตัวกลับมายากละ
ทีนี้พาลทำให้รู้สึกเบื่องานไปเลยอีกต่างหาก
แถมถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ติดต่อกัน
จะทำให้ประสิทธิภาพของความจำเราเสื่อมสภาพลง
อาจทำงานได้ช้าขึ้น แย่ขึ้น บอกเลยว่าโอทีที่เพิ่มมาแค่ไม่กี่บาท แลกกับสุขภาพแบบนี้ไม่คุ้มเลย หรือถ้าบอสบังคับโอที ก็วนไปอ่านย่อหน้าที่ 2 ให้บอสฟังได้เลยจ้า
4 # ตอบแชทงานก่อนนอน

ในยุคสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวไกล และไวไฟเข้าถึงทั่วทุกที่
แถมยังมีแอปดีๆ ( กัดฟัน ) ต่างๆ
ที่ทำให้คนเราสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา
ไม่พ้นแม้แต่เรื่องงาน! ซึ่งความสะดวกในการสื่อสารนี่แหละ ทำให้ทุกคนหลงลืมไปแล้วว่า
บางเวลาก็ไม่ควรจะคุยเรื่องงานรึเปล่า?
อย่างเช่นเวลานอนเป็นต้นนี่ล่ะ
จะนอนอยู่แล้ว เราควรทำตัวเองให้ผ่อนคลายมากที่สุด
การมานั่งอ่านไลน์กลุ่มงาน หรือแชทส่วนตัวจากหัวหน้า
เป็นการสร้างความเครียดก่อนนอนไม่รู้ตัว
พาลจะทำให้
นอนไม่หลับไปกันใหญ่ เผลอๆ ทำประจำ เจ้านายจะคิดว่า
เป็นเรื่องปกติที่จะสามารถตามงานเราได้ยามดึกดื่น
ฉะนั้น นอนคือนอนจ่ะ จบ! แยกย้าย วางมือถือ ปิดไฟ แล้วก็น๊อนนนน
5 # ไร้ตัวตนยามประชุม

ในอาชีพการทำงาน
โมเมนต์สำคัญที่จะทำให้เราสามารถเสนอศักยภาพที่เรามี
ให้ทุกคนได้รับรู้
ก็คือตอนประชุมนี่แหละ
แม้ว่าคุณจะมีไอเดียบรรเจิดแค่ไหน แต่ถ้าเงียบๆ ไม่นำเสนอ คนอื่นก็ไม่มีทางได้รับรู้
แถมยังทำให้คนอื่นกลายเป็นมองข้ามเราตอนทำงานปกติไปอีก
ทีนี้พอคนมองข้ามไปแล้ว เราก็จะรู้สึกหมดไฟ ทำให้รู้สึกว่าการทำงานเป็นเรื่องน่าเบื่อมากยิ่งขึ้น
หลายคนคิดกลัวว่า ถ้าพูดอะไรไปแล้วคนอื่นไม่เห็นด้วย จะรู้สึกแย่ ขอบอกว่าอย่าเพิ่งคิดไปเอง
จะแย่หรือไม่แย่ ให้ลองนำเสนอดูก่อน
เพราะถึงคนอื่นจะปัดความคิดตกลงไป
แต่สิ่งที่ได้มาคือ ภาพลักษณ์ความกระตือรือร้น
และดูเหมือนน่าจะเป็นผู้นำได้ในอนาคต ฉะนั้น ถ้าหากมีการประชุมครั้งใด ขอให้ลองพูดซักนิดซักหน่อย ไม่ต้องนำเสนอไอเดียก็ได้ แต่อาจเป็นการถามคนที่โยนไอเดียมา
เพื่อให้เรามีส่วนร่วมมากขึ้น และเป็นการเปิดทางให้คนสนใจไอเดียที่เราจะนำเสนอในครั้งต่อๆ ไปได้ด้วยนะ
และนี่ก็คือ
พฤติกรรมทั้ง 5 ในที่ทำงาน ซึ่งสามารถบั่นทอนจิตใจและสุขภาพของเราได้
การได้ทำงานที่ชอบเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ ณ ปัจจุบัน ถ้ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก
การทำให้ตัวเองไม่เครียดในการทำงาน
ก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อจิตใจนะคะ
Cr : 5 Ways Your Career Might Be Secretly Hurting Your Health
https://greatist.com/live/ways-your-job-might-be-bad-for-your-health