ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ไม่ทำงาน ไม่มีเงิน

การมีงานทำจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน เอาจริงๆ ก็อยากมีเงินโดยไม่ต้องทำมากกว่านะ T_T แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นการมีงานทำมั่นคงจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยในชีวิต

ทำให้เรารู้ว่าเราจะได้รับเงินมาใช้ชีวิต มีอาหารกิน มีเงินให้พ่อแม่ และมีเงินเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเราได้อย่างแน่นอน

ที่พูดมานั้นจะเป็นจริงได้

ถ้าไม่ใช่ว่าเราต้องเอาเงินที่หามาได้ไปใช้กับค่ารักษาตัวเองซะก่อนนะ

เพราะงานมาคู่กับความรับผิดชอบ

หลายคนก็เลยทุ่มเทซะจนเกินพอดีจนไม่ได้คำนึงถึงสุขภาพตัวเอง

ใครที่ไม่อยากหาเงินไว้หาหมอ

ต้องเลิกทำพฤติกรรมทั้ง 5 ข้อนี้อย่างเด็ดขาด!


1 # นั่งยาวๆ จนรากงอก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/48/ff/09/48ff092066e913a21cbd6d815f9d1d99.jpg

ใครที่ได้ทำงานแบบออกภาคสนาม ได้ไปนั่นไปนี่ ได้ขยับร่างกายบ่อยๆ ก็คงไม่ต้องกังวลข้อนี้ แต่

สำหรับคนที่ต้องดูแลรับผิดชอบอยู่หน้าจอ

อย่างเช่น ฝ่าย IT ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือกราฟิกดีไซเนอร์อะไรเทือกนี้ มักจะมีปัญหากับการต้องนั่งนานๆ อยู่แน่นอน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลย เพราะการนั่งนานๆ

อาจทำให้เราเป็นออฟฟิศซินโดรม

ปวดเมื่อยเนื้อตัว ปวดคอ ปวดหลัง ปวดนั่นปวดนี่เต็มไปหมดได้โดยไม่รู้ตัว

วิธีแก้คืออย่าพยายามนั่งนานจนเกินไป

ถ้าเป็นไปได้

อย่างน้อยให้ลุกทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อยืดเส้นยืดสาย

จะเดินเข้าห้องน้ำหรืออะไรก็ว่าไป หรือถ้าหากมีเวลา แนะนำให้ลองยืดเส้นยืดสายด้วย

ท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ในออฟฟิศ

ตามบทความนี้เลยค่ะ


2 # ไม่ทาน / รีบทานมื้อกลางวันเกินไป

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/cd/8c/60/cd8c6033f73ea95d12ab5615da0b730a.jpg

เหยยยย ข้อนี้คือไม่โอเคแร๊งงง! มื้อกลางวันง้าาา มื้อกลางวันทั้งทีนะเธ้อ

เป็นความสุขหนึ่งเดียว และเป็นโอกาสเดียวระหว่างวัน

ที่เราจะสามารถได้พัก

ได้ทำอะไรต่างๆ ตามใจ ได้นั่งชิลล์ ได้เดินเล่น

เธอจะมาอดมื้อกลางวันเพื่อทำงานไม่ด้ายยย หรือใครจะบอกว่า

" ก็ไม่ได้อดนิ ก็เอามานั่งทานหน้าคอมด้วย "

ไม่ได้ต่างกันเลยซักติ๊ด เพราะการที่มานั่งทานหน้าคอม ก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้พักอยู่ดีนั่นแหละ

ถ้าเป็นไปได้ งานถ้าไม่ได้เร่งรัดอะไรจริงๆ หรือสามารถยืดหยุ่นได้ ก็ขอให้ไปนั่งทานข้าวข้างนอกที่ไม่ใช่หน้าโต๊ะทำงานเถอะค่ะ

เปลี่ยนบรรยากาศวันละชั่วโมง ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้แล้ว

แต่สำหรับใครที่มีเหตุจำเป็นต้องนั่งเฝ้าหน้าคอมจริงๆ แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อย่าใช้วิธีอดอาหารกลางวันเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อเป็นโรคกระเพาะแล้ว ก็ยังทำให้เราไปลงที่มื้อเย็นแบบหนักมาก

นั่งทำงานก็เหนื่อยแย่แล้ว ยังต้องมาเหนื่อยลดความอ้วนอีก

แค่นึกก็เหนื่อยแล้วนะเนี่ย แทนที่จะทำแบบนั้น ให้เราใช้วิธี

แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5 มื้อตลอดวัน

นอกจากจะไม่หิวแล้ว ยังทำให้เราไม่กินหนักจนเกินไปด้วยนะ


3 # โอทีอีกแล้วเหรอ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/9f/f5/a8/9ff5a89c3d7e0307bf5a770f7078417a.jpg

การทำโอที

ถ้ามองเผินๆ ก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องแย่

เพราะถึงจะต้องอยู่ล่วงเวลางาน แต่เราก็ได้เงินเพิ่ม วินวินกันไป แต่จริงๆ แล้ว

มันไม่ใช่เลยนะเธอ

เพราะการที่เรานั่งทำงานมานานๆ ตลอด 8 ชั่วโมง แล้วยังต้องมานั่งทำต่ออีกเนี่ย

มันทำให้ร่างกายเราสะสมความเครียดไปโดยไม่รู้ตัว

ยังไม่พอ! การที่เราทำงานเพิ่มมากขึ้น กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกๆ ดื่นๆ เหนื่อยมากขึ้น แต่กลับได้เวลาพักผ่อนน้อยลง

พอร่างกายได้รับการพักผ่อนน้อย

วันต่อมาก็จะเริ่มรู้สึกไปทำงานด้วยสภาพที่ไม่พร้อม

แล้วพอเข้าสู่วงจรนี้มาแล้ว ก็จะเริ่มปรับตัวกลับมายากละ

ทีนี้พาลทำให้รู้สึกเบื่องานไปเลยอีกต่างหาก

แถมถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ติดต่อกัน

จะทำให้ประสิทธิภาพของความจำเราเสื่อมสภาพลง

อาจทำงานได้ช้าขึ้น แย่ขึ้น บอกเลยว่าโอทีที่เพิ่มมาแค่ไม่กี่บาท แลกกับสุขภาพแบบนี้ไม่คุ้มเลย หรือถ้าบอสบังคับโอที ก็วนไปอ่านย่อหน้าที่ 2 ให้บอสฟังได้เลยจ้า


4 # ตอบแชทงานก่อนนอน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a7/64/73/a764731fe1ab27e069c37bf914281cae.jpg

ในยุคสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวไกล และไวไฟเข้าถึงทั่วทุกที่

แถมยังมีแอปดีๆ ( กัดฟัน ) ต่างๆ

ที่ทำให้คนเราสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา

ไม่พ้นแม้แต่เรื่องงาน! ซึ่งความสะดวกในการสื่อสารนี่แหละ ทำให้ทุกคนหลงลืมไปแล้วว่า

บางเวลาก็ไม่ควรจะคุยเรื่องงานรึเปล่า?

อย่างเช่นเวลานอนเป็นต้นนี่ล่ะ

จะนอนอยู่แล้ว เราควรทำตัวเองให้ผ่อนคลายมากที่สุด


การมานั่งอ่านไลน์กลุ่มงาน หรือแชทส่วนตัวจากหัวหน้า

เป็นการสร้างความเครียดก่อนนอนไม่รู้ตัว

พาลจะทำให้

นอนไม่หลับไปกันใหญ่ เผลอๆ ทำประจำ เจ้านายจะคิดว่า

เป็นเรื่องปกติที่จะสามารถตามงานเราได้ยามดึกดื่น

ฉะนั้น นอนคือนอนจ่ะ จบ! แยกย้าย วางมือถือ ปิดไฟ แล้วก็น๊อนนนน


5 # ไร้ตัวตนยามประชุม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/58/13/47/581347880bef1e874084d54051f1539b.jpg

ในอาชีพการทำงาน

โมเมนต์สำคัญที่จะทำให้เราสามารถเสนอศักยภาพที่เรามี

ให้ทุกคนได้รับรู้

ก็คือตอนประชุมนี่แหละ

แม้ว่าคุณจะมีไอเดียบรรเจิดแค่ไหน แต่ถ้าเงียบๆ ไม่นำเสนอ คนอื่นก็ไม่มีทางได้รับรู้


แถมยังทำให้คนอื่นกลายเป็นมองข้ามเราตอนทำงานปกติไปอีก

ทีนี้พอคนมองข้ามไปแล้ว เราก็จะรู้สึกหมดไฟ ทำให้รู้สึกว่าการทำงานเป็นเรื่องน่าเบื่อมากยิ่งขึ้น

หลายคนคิดกลัวว่า ถ้าพูดอะไรไปแล้วคนอื่นไม่เห็นด้วย จะรู้สึกแย่ ขอบอกว่าอย่าเพิ่งคิดไปเอง

จะแย่หรือไม่แย่ ให้ลองนำเสนอดูก่อน

เพราะถึงคนอื่นจะปัดความคิดตกลงไป

แต่สิ่งที่ได้มาคือ ภาพลักษณ์ความกระตือรือร้น

และดูเหมือนน่าจะเป็นผู้นำได้ในอนาคต ฉะนั้น ถ้าหากมีการประชุมครั้งใด ขอให้ลองพูดซักนิดซักหน่อย ไม่ต้องนำเสนอไอเดียก็ได้ แต่อาจเป็นการถามคนที่โยนไอเดียมา

เพื่อให้เรามีส่วนร่วมมากขึ้น และเป็นการเปิดทางให้คนสนใจไอเดียที่เราจะนำเสนอในครั้งต่อๆ ไปได้ด้วยนะ


และนี่ก็คือ

พฤติกรรมทั้ง 5 ในที่ทำงาน ซึ่งสามารถบั่นทอนจิตใจและสุขภาพของเราได้

การได้ทำงานที่ชอบเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ ณ ปัจจุบัน ถ้ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก

การทำให้ตัวเองไม่เครียดในการทำงาน

ก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อจิตใจนะคะ