เป็นซีรีส์ที่ฮือฮาไม่น้อยสำหรับบ้านเรา เพราะเพิ่งมีข่าวดราม่าไปไม่นานนี้ ถึงการถกเรื่องความเหมาะสมในการนำมาฉายในไทย ซึ่งในสายตาของคนที่รับชมเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และเป็นคอซีรีส์ Netflix รู้สึกขำ ๆ ชิลล์ ๆ มาก เพราะเนื้อหาไม่เสนอเพียงแค่เรื่องอย่างว่า อย่างที่หลายคน ( ที่ไม่ได้ดู ) เข้าใจผิดกัน
ขึ้นชื่อว่าวัยรุ่น ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องทะลึ่งเพียงอย่างเดียว การไปโรงเรียนในแต่ละวัน มีอะไรอีกมากให้ขบคิดแก้ปัญหา เช่น มิตรภาพ, ความรัก, ความอบอุ่นจากครอบครัว และนี่ก็คือข้อคิดดี ๆ จากการดูซีรีส์' Sex Education 'ที่ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องทะลึ่งเท่านั้น ใครที่ยังไม่ดู อยากให้ลองเปิดใจดูสักครั้ง มีแค่ 8 ตอนเอง วันเดียวก็จบแล้ว
#1 สำคัญกว่าการแก้ปัญหา คือการรับฟังปัญหา

บางคนมาขอคำปรึกษา ทั้งที่รู้ดีว่ามันจะมีทางออกอย่างไร นั่นก็เพราะว่า ต้องการ ' คนที่รับฟัง '
ใครที่ได้ดูเรื่องนี้จะสังเกตได้เลยว่า พระเอกไม่ใช่กูรูที่เก่งอะไรเลย จู่ ๆ มาเป็นที่ปรึกษาได้ นั่นก็เพราะมีจุดเด่นก็คือ' เป็นผู้ฟังที่ดี 'ก่อนจะเป็น' ผู้ให้คำปรึกษาที่ดี '
และการเป็นผู้ฟังที่ดีนี้ ก็ส่งผลดี ทำให้พระเอกเก่งมากขึ้น จากการฟังและช่างสังเกตในปัญหาแต่ละคนมาคิดตาม ใครอยากเก่ง ต้องเริ่มจากการเป็นผู้ฟังที่ดีเลยนะคะ :)
#2 ไม่ใช่แค่เราที่มีปัญหาอยู่คนเดียว

ในโรงเรียน/ในสังคม ประกอบไปด้วยความหลากหลายของผู้คน ฐานะต่างกัน, เชื้อชาติต่างกัน, และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอก็คือ ' ปัญหาชีวิต '
ไม่มีอะไรชี้วัดว่าปัญหาใครมากกว่าใคร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างนามธรรมมาก ๆ ไม่ชัดเจนเหมือนสิ่งของที่จับต้องได้ ปัญหาของเราที่ดูมันใหญ่ ในสายตาคนอื่นอาจเล็กนิดเดียว ในขณะเดียวกัน ปัญหาของคนอื่นที่ดูจะยากเย็นมาก ๆ พอเข้าไปดูใกล้ ๆ กลับพบว่ามีวิธีแก้ง่ายมาก ก็เป็นไปได้
การรับมือกับปัญหาที่ดีก็คือ ทำใจร่ม ๆ ไว้ก่อนว่า ไม่ใช่แค่เราสักหน่อยที่มีปัญหาบนโลกนี้ บางเรื่องก็ใช่ว่าเราคนเดียวจะเป็น คนอื่นอีกมากบนโลกนี้ก็เป็นเช่นเรา ถ้าพวกเขาผ่านไปได้ เราก็ต้องผ่านไปได้ วิธีคิดง่าย ๆ มันก็แค่นั้น! ยอมรับว่าเรามีปัญหา แล้วหาคนปรับทุกข์ แล้วค่อย ๆ หาทางแก้ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
#3 มองโลกในแง่ดี ช่วยให้ปัญหาดีขึ้นเสมอ

ถ้าเรารู้สึกว่าไม่กล้าพอที่จะทำอะไร รู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนหัด สิ่งที่ควรรับมือกับปัญหาเป็นอันดับแรกก็คือ ยิ้มสู้กับมันก่อน และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
ใครที่ได้ดูเรื่องนี้จะสังเกตได้ว่า พระเอกเองก็ไม่ใช่คนเก่งอะไร นึกไม่ออกเลยว่าตัวเองจะเป็นที่ปรึกษาได้ดีขนาดไหน แต่จุดเด่นของพระเอกนอกจากการเป็นผู้ฟังที่ดีก็คือ เขายังสามารถพูดอธิบายแบบมองโลกในแง่ดี ให้คนฟังรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นได้
คนใจเย็น มองโลกในแง่ดี ใครก็อยากอยู่ด้วยจริง ๆ นะ : )
#4 อย่ารู้สึกผิดในตัวตนของตัวเอง

ตัวตนบางอย่างของเรา มันอาจจะประหลาดไปหน่อยในสังคมคนทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าคิดให้ดี ถ้ามันเป็นสิ่งที่ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร นั่นก็คือจุดเด่นที่เราควรจะรู้สึกดีกับมัน ภูมิใจว่านี่คือลายเซ็นของฉัน และเป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานมาให้!
ถ้าเราเป็นคนรักเพศเดียวกัน, มีหุ่นอวบๆ, เป็นคนพูดไม่เก่ง หรืออะไรก็ตามที่ดูด้อย อย่าไปคิดว่ามันคือเรื่องน่าอาย ในอีกด้านมันคือเรื่องน่ารัก และเป็นเสน่ห์ของเรานะ เป็นตัวของตัวเองไปแบบนี้แหละ อะไรที่พยายามฝืนแล้วไม่ใช่ อย่าทำเลย มันอึดอัดใจเปล่า ๆ' คนที่รักเราย่อมรับได้ในตัวตนของเราอยู่แล้ว '
#5 ความกล้าหาญเอาชนะทุกสิ่งได้

บางครั้ง ปัญหาก็ลุล่วงได้แค่เรา ' กล้า ' ที่จะเผชิญกับมัน อย่ามัวแต่ขาดความมั่นใจ ถ้ามัวแต่กล้า ๆ กลัว ๆ ก็ไม่มีวันรู้คำตอบที่ชัดเจนได้ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร ลองไปเลยให้รู้ ดีกว่างมคำตอบแบบเรื่อยเปื่อย อยู่กับความไม่ชัดเจน
#6 เราเลือกไม่ได้ ที่จะปิดกั้นพ่อแม่ไม่ให้รู้เห็นอะไรกับเรา แต่เราเลือกได้ที่จะคุยกับท่าน

ขึ้นชื่อว่าครอบครัวเดียวกัน แม้เราจะอายุห่างจากพ่อแม่มาก อยู่กันคนละวัย แต่ก็ใช่ว่าจะคุยกันไม่ได้เลย หรือบ่ายเบี่ยงว่า ' ไม่ใช่เรื่องของพ่อแม่ ' ยิ่งสำหรับครอบครัวคนไทยแล้ว พ่อแม่ก็ยังเห็นลูกเป็นเด็กอยู่ร่ำไป
อย่ารู้สึกรำคาญที่พ่อแม่จะคอยถาม เพราะนั่นแปลว่าท่านก็สนใจและห่วงเราอยู่ หากรู้สึกว่าสิ่งไหนไม่โอเคอย่างไร ควรจับเข่าคุยกันดี ๆ มีเหตุผลสนับสนุน ยังดีกว่าหลบหน้ากันแล้วให้ท่านเดาไปต่าง ๆ นานา เกิดเป็นช่องว่างที่ห่างกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่ดีต่อใจสักเท่าไหร่เลยนะคะ : )
#7 ความเจ็บปวดทำให้เราเติบโต

เป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ที่เราจะเจอปัญหาเข้ามาในชีวิต บางทีก็ร้ายมากถึงกับฝากบาดแผลเอาไว้เตือนใจ อย่ากลัว เข็ดขยาดจนไม่กล้าทำอะไร เรารู้สึกแย่กับเรื่องเลวร้ายได้ เสียใจแบบสุดขีดได้ แต่ต้องรีบลุกให้ไว และมองไว้เป็นบทเรียนว่าให้อะไรกับเราบ้าง ' อย่าจำแค่ความเจ็บ แต่จงจำว่าเจ็บแล้วเรารู้อะไรมากขึ้นบ้าง '
เห็นไหมคะว่า' อย่ามองซีรีส์ที่ชื่อภายนอก 'ชื่ออาจจะดูหวือหวา ทะลึ่งไปหน่อย แต่เนื้อหาดี มีสาระมากเลย คนเราก็เช่นกันค่ะ อย่าตัดสินกันที่รูปลักษณ์ภายนอก สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป อย่าคิดไปเอง ต้องลองถึงจะรู้! ( ยกเว้นอบายมุขนะคะ บทเรียนจากคนอื่นมีให้เห็นมากมาย อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยง ไม่คุ้มค่ะ ) แล้วพบกันบทความหน้านะคะ พี่อาร์ตขอตัวไปดูซีรีส์เรื่องอื่น ๆ ใน Netflix ละจ้า