สวัสดีค่ะสาวซิสต้าทุกคน ^-^

ในยุคนี้ มองไปทางไหนสาวๆ ที่มีคนรู้ใจต้องประกาศความรัก ความสัมพันธ์เป็นรูปคู่ สเตตัสบอกรัก โพสต์ Check-in ว่าไปเดทที่ไหนบ้างผ่าน Social Network รูปแบบต่างๆ ( ถ้าไม่ขึ้นสถานะมีงอน! )

ซึ่งโซเชียลยอดนิยมก็คงหนีไม่พ้น

" Facebook "

นั่นเอง

การประกาศความรักเหมือนดาบสองคม ถ้าฝ่ายชายเป็นคนเปิดเผย ไม่สนใจสายตาใครก็แล้วไป แต่ถ้าแฟนของเธอเป็นคนรักสงบ โลกส่วนตัวสูง ไม่อยากโชว์หน้าหราผ่านเฟสทุกวันล่ะก็ มีเรื่องทะเลาะกันแน่นอน ถ้าคุยหลายคร้ั้งแล้วเข้าใจไม่ตรงกันก็อาจเลิกรากันได้ง่ายๆ

Facebook เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เป็นช่องทางติดต่อคนใหม่ๆ เรื่อยไปถึงการเดท ทะเลาะกันดุเดือดผ่านเฟส ขึ้นสถานะ In a relationship และบางคู่ก็จบลงด้วยการกลับมาใช้สถานะ Single เหมือนเดิม


ทั้งหมดก็เพราะการใช้โซเชียลไม่ถูกทางแท้ๆ เชียว -.-

อย่าปล่อยให้คู่ของเธอเป็นรายต่อไปที่โดนพิษFacebookเล่นงาน! มาเช็คนิสัยตัวเองว่าเป็นคนแบบนี้หรือไม่ แล้วรีบหาวิธีแก้ไขก่อนสายเกินไปนะคะ =[]=


#1 เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป

รูปภาพ:https://blog.kissmetrics.com/wp-content/uploads/2012/03/facebook-personal-profile-marketing-contact-info-websites.png

การเปิดเผย " ข้อมูลส่วนตัว " ของตัวเองมากเกินไป ตั้งแต่ชื่อนามสกุลจริง อายุ กรุ๊ปเลือด ลามไปถึงเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่และเลขประจำตัวประชาชนรัวๆ นั้นไม่โอเคอย่างแรง! นอกจากเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังสร้างความรำคาญให้คนที่เลื่อน news feed ถ้าเขาชอบเธอก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่คนปกติที่เห็นแต่หน้าของเธอ ข้อมูลของเธอ จะเอียนเอาน่ะสิ

คนที่คุ้นชินกับพฤติกรรมแบบนี้ เมื่อมีแฟนที่โลกส่วนตัวสูง ปัญหาเกิดแน่นอน! ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ค่อยอยากอวดหน้าตัวเองกับแฟนลงหน้าวอลล์ Facebook รัวๆ หรอก เพราะสำหรับพวกเขา มันคือเรื่องส่วนตัว บางคนอยากเก็บเป็นความลับเพราะกลัวมีผลกระทบบางอย่างที่คาดไม่ถึง

ดังนั้นอยู่นิ่งๆ เงียบๆ ไม่ต้องถ่ายรูปคู่แล้วอัพทุกห้านาที ไปเที่ยวที่ไหนต้อง Check-in หรอกค่ะ แค่เขาจริงใจพอจะขึ้นสถานะ in a relationship กับเราก็ได้ใจไปเต็มๆ แล้วล่ะ


#2 เปิดเผยตัวเองเกินไป

รูปภาพ:https://41.media.tumblr.com/c84df9a5524018dbc28bda4ea41fcc99/tumblr_mg29ysEdwb1s2sidwo1_500.jpg

การเปิดเผยความสัมพันธ์ของตัวเองกับแฟนลง Facebook มากเกินไปก็เหมือนดาบสองคม! ถ้าแค่รูปคู่น่ารักมุ้งมิ้งก็ไม่เท่าไหร่ แต่สาวๆ บางคนก็ฮาร์ดคอร์ แปะรูปเซ็กซี่ยั่วยวนของตัวเองในวอลล์ของแฟนหนุ่ม ( ซึ่งควรดูเงียบๆ ในแชทหรือดูตัวจริงมากกว่า ) นอกจากจะเป็นการยั่วให้แฟนโกรธและหึงหวงโดยใช่เหตุแล้ว ยังทำให้แฟนเริ่มหวาดระแวง ( ต่อไปเธอจะส่งรูปโป๊มาหรือเปล่าเนี่ย! )

รูปถ่ายกับแฟนที่ค่อนข้างหมื่นเหม่ ก็ควรเก็บไว้ดูกันเองสองคน อย่าหาเรื่องให้อีกฝ่ายหึงแล้วทะเลาะกันเลยนะ


#3 คอยตอบแชท / คอมเมนต์แฟนเก่าเสมอ

รูปภาพ:http://howtogetyourexbackeasily.com/wp-content/uploads/2015/08/facebook-chat.png

เข้าใจว่าไม่อยากตัดสายสัมพันธ์ไปเสียเฉยๆ เป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี แม้เลิกคบแฟนเก่าไปแล้วแต่ก็ยังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่ ช้าก่อน! แต่ถ้าเธอมีแฟนใหม่แล้ว การนั่งตอบแชท / คอมเมนต์แฟนเก่าใน Facebook บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะจะทำให้เขาอึดอัด สงสัย หึงหวง หวาดระแวงว่าถ่านไฟเก่าจะคุขึ้นมาเมื่อไหร่ เผลอๆ จะคิดว่าตัวเองเป็นมือที่สามเสียด้วยซ้ำไป

ถึงยังเป็นเพื่อน แต่เขาก็คือผู้ชาย ( ที่สำคัญคือเคยเป็นแฟนกันมาก่อนด้วย ) ถ้ามีใหม่แล้วก็ควรเว้นระยะห่างดีกว่าค่ะ ให้เกียรติทั้งเขาและตัวเราด้วยนะ


#4 คิดมาก ( ถึงขั้นวิตกจริต )

รูปภาพ:http://howtogetyourexbackeasily.com/wp-content/uploads/2015/08/facebook-chat.png

เลื่อนนิวฟีด ส่องเฟสแฟนอยู่เพลินๆ สเตตัสหนึ่งก็เด้งขึ้นมา " เบื่อจัง " อ่านจบเธอก็เริ่มหน้าซีด ตัวสั่น นึกไปร้อยแปดว่าเขาต้องหมายความว่า " เบื่อเรา " แน่ๆ ทั้งที่อาจจะแค่เบื่อรถติด เบื่อทำงานก็ได้ รู้ตัวอีกทีเธอก็ทักแชทไปรัวดราม่าใส่แฟนแล้วเรียบร้อย

ไม่ใช่แค่เรื่องสเตตัสอย่างเดียว แต่ถ้าแฟน Check-in ที่ไหนผิดสังเกต หรืออัพรูปที่ถ่ายกับผู้หญิงแปลกหน้า เครื่องหมายเควสชั่นมาร์กก็ตามมาทันที " นั่นใครอยู่ในรูป ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มันมาอ่อยเธอใช่ไหม " ถามรัวๆ จนเอือมน่ารำคาญได้อีก เรื่องธรรมดามันจะเป็นเรื่องใหญ่ก็เพราะตัวต้นเรื่องอย่างเธอนี่แหละ

จงตั้งสติ ปล่อยวาง เรื่องอะไรมองผ่านได้ก็มองผ่านเถอะ! ถ้าการวิ่งตามทำให้เราเป็นทุกข์มากนัก แค่เชื่อใจแฟนแล้วอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตของตัวเองไป จะมีความสุขมากกว่านะ

#5 ตั้งโพสต์หยาบคาย / ก้าวร้าว / รุนแรงถึงแฟน

รูปภาพ:http://www.newsnish.com/wp-content/uploads/2015/05/Angry-young-woman-with-a-laptop-Shutterstock-800x430.jpg

ผู้หญิงหลายคนมีนิสัยอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจตัวเอง และทำก่อนคิด! แค่ทะเลาะเรื่องไม่เป็นเรื่องกับแฟนไม่กี่นาที แม่เจ้าประคุณก็บ่อน้ำตาแตก คว้ามือถือคู่ใจมาโพสต์สเตตัสยาวเหยียดยิ่งกว่ารายงานส่งครูเสียอีก คนนอกอ่านแล้วก็เบะปากเพราะมีแต่คำหยาบคาย ตัดพ้อต่อว่า หาสาระไม่ได้ ในใจก็คิดว่า " มาบอกให้ตูรับรู้ทำไม ไปเคลียร์กันเองง่ายกว่าไหม "บางรายอาจไม่เขียนเรื่องดราม่าเต็มขั้นก็จริง แต่ตั้งโพสต์หรือสเตตัสที่ส่อๆ ชวนให้คิดได้หลายแง่ หรือแอบเปลี่ยนสถานะจาก in a relationship เป็น single เชื่อเถอะว่าได้แต่ความสะใจไม่กี่นาที ที่เหลือคือความทุกข์ล้วนๆ ทั้งยังโชว์ความ " งี่เง่า " ให้คนรอบข้างรู้เต็มๆไม่ว่าเธอกับแฟนจะทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ควรเปิดอกหันหน้าพูดคุยกันตรงๆ ดีที่สุด อย่าใช้ Social Network ในการระบายอารมณ์ เพราะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น คราวนี้นอกจากเสียแฟนแล้ว อาจจะเสียเพื่อนด้วยก็ได้นะ!

#6 ใช้เวลาคุยกันในแชทมากกว่าตัวจริง

รูปภาพ:http://www.newsnish.com/wp-content/uploads/2015/05/Angry-young-woman-with-a-laptop-Shutterstock-800x430.jpg

ถ้าเป็นคู่รักทางไกลหรืองานยุ่งจนต้องใช้การคุยแชทหรือ video call ออนไลน์ก็แล้วไป! แต่ถ้าเรียนหรือทำงานที่เดียวกันแท้ๆ กลับคุยกันในตัวอักษรแชทมากกว่าตัวจริงนั้น เริ่มไม่โอเคแล้วล่ะ! บางคู่แม้จะออกไปเดทกัน แต่กลับใช้เวลาเซลฟี่ตัวเองหรือนั่งอ่านข้อความในโลกออนไลน์มากกว่าเงยหน้ามานั่งคุยกัน

อย่าปล่อยให้มือถือหน้าจอแคบๆ กับ Facebook ทำลายช่วงเวลาดีๆ ของความรัก! อุตส่าห์มาเจอกันทั้งที เก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วคุย มองตากัน ใช้เวลาร่วมกันนานๆ ดีกว่า เชื่อเถอะว่ามีค่าและมีความสุขมากกว่านั่งจิ้มแป้นพิมพ์เยอะค่ะ

#7 ตามติดชีวิตแฟนใน facebook

รูปภาพ:http://www.xclusivetouch.co.uk/wp-content/uploads/2014/03/likes-facebook-post-old-stalking.jpg

อีกวิธีหนึ่งที่ Facebook ทำให้คู่รักหลายคู่ต้องเลิกรากัน บางรายยังไม่ได้ตกลงคบกันด้วยซ้ำ คือ " ทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์ ตามติดชีวิตคนอื่นมากเกินไป " แค่เคยไปเที่ยวด้วยกันครั้งเดียว เธอก็ส่องประวัติ รูปในอดีตย้อนหลังของเขาจนถึงหน้าแรก รู้หมดว่าหมาที่บ้านชื่ออะไร เบอร์โทรศัพท์บ้านหมายเลขไหน ยิ่งกว่านักสืบอีก นี่มันโรคจิตชัดๆ!

ตามปกติแล้ว มนุษย์มักเชื่อสิ่งที่มองเห็นด้วยตาตัวเองเสมอ แม้จะไม่ใช่ความจริงก็ตาม! เมื่อเธอเห็นรูปและสเตตัสที่ไม่ดีของหนุ่มคนนั้นแล้ว เธอก็ตัดสินใจทันทีว่าคนนี้ " ไม่โอเค " ทั้งที่ตัวจริงกับในเฟสบุ๊กอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ หรือบางคนก็นำข้อมูลที่ส่องได้ไปดราม่า เขาจะกลัวและหวาดระแวงและในที่สุดก็เผ่นหนีไปแทบไม่ทัน

#8 ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ขึ้นสถานะว่า " in a relationship "

รูปภาพ:https://windakris.files.wordpress.com/2014/02/three.png

งานดราม่ามาอีกแล้วครับพี่ท่าน! ผู้หญิงบางคนก็ " เยอะ " ไปซะทุกอย่าง หนึ่งในความเยอะคือ แฟนหนุ่มข้างกายจะต้องตั้งสถานะ " in a relationship " อย่างเป็นทางการกับเธอเท่านั้น ห้ามซ่อน และต้องบอกด้วยว่าคบกับเธออยู่ ไม่อย่างนั้นจะงอนตุ๊บป่อง

ผู้ชายบางคนก็มีนิสัยเปิดเผย ยอมบอกว่าตัวเองมีแฟนแล้ว แต่บางคนก็อยากให้เป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า เขาคิดว่าการประกาศให้คนรับรู้ไม่ได้ช่วยให้คบกันยืด เจอกันต่อหน้า คุย ดูแลเอาใจใส่กันไปเรื่อยๆ ก็พอแล้ว ซึ่งถ้าเธอไม่เห็นด้วยก็ไม่พ้นต้องทะเลาะกันอีก

ถ้าในจอเขาไม่กดรับเป็นแฟน แต่นอกจอเอาใจใส่เธอไม่ขาดก็ไม่ต้องยึดติดกับสถานะ in a relationship มากนักหรอก ในทางกลับกัน ถ้าสถานะเด่นหราแต่วันๆ แทบไม่ได้เจอกันจะไม่แย่กว่าหรือ

วิธีแก้ไขหากไม่อยากเลิกกับแฟนเพราะ Facebook

#9 สถานะ " in a relationship " ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตคู่

รูปภาพ:http://f.frogi.co.il/pic/style/love/12/74be1_sweet-cute-love-couple-boy-and-girl-1920x1080.jpg

แทนที่จะเอาแต่เครียด กดดันตัวเอง ( และผู้อื่น ) กับข้อความใน Social media หันออกมานอกหน้าจอมือถือแล้วสนใจคนจริงๆ ที่มีตัวตน มีเลือดเนื้อจะดีกว่า

อย่าใส่ใจหรือยึดติดกับการป่าวประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าเธอกับแฟนทำอะไรบ้าง วันนี้มากินร้านอาหารที่ไหน กินอะไรบ้าง กลับบ้านกี่โมง ไม่มีใครสนใจเธอขนาดนั้นหรอก! แค่ดูแลเอาใจใส่กันให้ดีในชีวิตจริงก็เกินพอแล้ว

#10 มีพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกัน

รูปภาพ:http://cdn.stupiddope.com/wp-content/uploads/2014/09/Girl-Reading-Book.jpg

คู่รักบางคู่แสดงความจริงใจด้วยการ " แลกพาสเวิร์ด Facebook ของกันและกัน " เพื่อบอกให้รู้ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่เดี๋ยวก่อน แม้เธอจะมีพาสเวิร์ด Facebook ของเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเข้าไปเปลี่ยนนู่น ลบนี่ เขียนสเตตัสตามใจชอบได้นะ

จงให้ " พื้นที่ส่วนตัว " กับอีกฝ่าย อย่าทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชีวิตเขา อันที่จริงถ้าเขาเชื่อใจเธอขนาดให้พาสเวิร์ด แปลว่าเขาไว้ใจเธอมากๆ อย่าทำลายความเชื่อใจนั้นด้วยการเข้าไปวุ่นวายเรื่องของเขาเลย ถ้าสงสัย แค่ส่องนานๆ ทีก็พอแล้ว

#11 อย่าสนิทกับ " แฟนเก่า " เกินขอบเขต

รูปภาพ:http://cdn.stupiddope.com/wp-content/uploads/2014/09/Girl-Reading-Book.jpg

ยังคงอยู่ที่หัวข้อ " แฟนเก่า "! ก็ยังย้ำรัวๆ ว่าแฟน " เก่า " คืออดีต เป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้วและไม่ควรจะย้อนคืนมาอีก การแสดงพฤติกรรมชัดเจนว่ายังติดต่อ ตอบแชท ไปเที่ยวด้วยกันสองคนอยู่ บ่งบอกว่าเธอยังตัดความสัมพันธ์ไม่ขาด ซึ่งไม่ค่อยแฟร์กับแฟนใหม่สักเท่าไหร่นะ

ถ้าเว้นระยะห่างไม่ได้จริงๆ เช่น เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ต้องทำงานด้วยกัน เป็นต้น จงทำตัวโปร่งใส คอยรายงานแฟนใหม่ไม่ให้เขาสงสัย คลางแคลงใจจนระเบิดปะทุในภายหลัง อย่าปล่อยให้เขาสงสัยจนต้องหาคำตอบเอาเองแบบผิดๆ รู้ตัวอีกทีผู้ชายสองคนก็ต่อยกันแล้ว -.-


#12 อย่าป่าวประกาศ " รอยร้าวในชีวิตคู่ " ใน Facebook

รูปภาพ:http://cdn2.mommyish.com/wp-content/uploads/2014/12/Woman-sad-computer.jpg

มีสติให้มากๆ คิดก่อนโพสต์ข้อความอะไรใน Facebook เพราะข้อมูลในโลกออนไลน์ไม่มีวันหายไป แม้จะลบไปแล้วก็สามารถกู้คืนขึ้นมาได้ตลอดเวลา อย่าประกาศให้คนภายนอกรับรู้ว่าเธอกับแฟนมีเรื่องทะเลาะอะไรกันบ้าง ตบตีกันเจ็บช้ำไปกี่แผล เขางี่เง่าขนาดไหน นอกจากคนอื่นจะไม่สงสารหรือเห็นใจใดๆ แล้ว เขาจะสมเพชเธอเสียด้วยซ้ำ

ขอย้ำอีกรอบว่า ไม่จำเป็นต้องบอกให้คนทั้งโลกรู้ว่า " แฟนของฉัน มันนอกใจ! ", " แฟนของฉันโง่สุดๆ แค่รองเท้ายังเก็บให้เข้าที่ไม่ได้เลย " เพราะเป็นการทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่าย จนอาจเป็นต้นตอของการเลิกราค่ะ

#13 กำหนด " เวลาสูงสุดต่อวัน " ในการใช้ Facebook

รูปภาพ:http://ios-blog.co.uk/wp-content/uploads/2015/01/facebook-logo.png

รู้อยู่หรอกว่าสมัยนี้เป็นยุคออนไลน์ จะทำอะไรก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตสื่อสาร ไม่ให้จับหน้าจอมือถือเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ต้องมีลิมิตกันบ้าง! หลีกเลี่ยงอาการตาติดหน้าจอ เขียนสเตตัสไร้สาระด้วยการตั้งกฎให้ตัวเองและแฟนว่าเวลาอยู่ด้วยกันมีเวลาใช้ Facebook เท่าไหร่ และอย่าให้เกินนั้น!

นัดออกมาเที่ยวด้วยกันข้างนอก ก็ใช้เวลาคุยกัน จ้องตากันให้คุ้มค่าที่สุด ถ้าอยากจะจ้องหน้าจอ อยู่บ้านก็คุยได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้ความอบอุ่นนะขอบอก

#14 สื่อสารต่อหน้าดีกว่าในแชท

รูปภาพ:http://s9.favim.com/orig/131207/couple-dock-friendship-lake-Favim.com-1124787.png

ข้อนี้ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ของแฟนเท่านั้น แต่รวมถึงเพื่อนและคนรอบข้างด้วย! หากมีเรื่องไม่เข้าใจ ทะเลาะ ดราม่า อย่าปล่อยให้ความโกรธ โมโห หงุดหงิดครอบงำจนปล่อยสัตว์ทั้งสวนออกมาเพ่นพ่านในสเตตัส Facebook เพราะในที่สุดแล้วตัวเธอจะดู " เสีย " เอง ในที่สุดก็ต้องมานั่งเสียใจที่พิมพ์อะไรไม่คิด ยิ่งถ้าความสัมพันธ์ต่อไม่ติดแล้วจะแย่ไปใหญ่  TT

ไม่ว่าจะมีเรื่องไม่เข้าใจอะไร หันหน้าคุยกันต่อหน้าดีกว่านะ เชื่อเถอะว่าการใช้คำพูดเคลียร์ปัญหาได้ง่ายกว่าที่คิด ^0^

#15 คิดก่อนโพสต์

รูปภาพ:http://www.smaggle.com/wp-content/uploads/2015/02/Dollarphotoclub_65856369-e1424414055279.jpg

เคยได้ยินคำพูดว่า " ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด แต่หลังพูด คำพูดเป็นนายเรา " ไหมคะ เราต้องคิดก่อนพูดให้มากๆ เพราะเมื่อพูดไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ยิ่งถ้าเป็นคำพูดแรงๆ ที่มาจากอารมณ์ ไม่ควรพูดเลยด้วยซ้ำ! เพราะเมื่อเราหายโกรธ เราอาจไม่ได้หมายความตามที่พูดไปจริงๆ แต่คนที่โดนว่าน่ะ เสียความรู้สึกไปเรียบร้อยแล้ว

ตัวอักษรในสเตตัส Facebook ก็เช่นกัน! ถ้ากำลังโกรธกับแฟนอยู่ อย่าเพิ่งลงสเตตัสน้อยใจ ดราม่ารัวๆ แบบไม่คิด เพราะผลกระทบที่ตามมาอาจใหญ่เกินจะคาดคิด

คิดก่อนจะโพสต์ข้อความอะไรสู่สาธารณะ เลือกคำที่ " ชัดเจน " มีความหมายเดียวไม่กำกวม เพราะคำพูดหนึ่งๆ สามารถตีความได้หลายทาง ถ้าเขาเข้าใจผิด น้อยใจและเป็นฝ่ายโกรธขึ้นมาบ้าง เรื่องจะยิ่งแย่ ( ขายขี้หน้าชาวบ้านอีกต่างหาก )

อย่าโพสต์อะไรที่ก่อให้เกิดปัญหากับคนรอบข้าง อ่านแล้วสับสน อับอาย ทำให้หึงหวง หรือโพสต์เรื่องซุบซิบนินทา นิ่งๆ ไว้ ไม่มีเรื่องดราม่าให้กวนใจแน่นอน

=====================

ความจริงแล้ว เทคโนโลยี เครื่องมือสือสารหรือ Social Network ทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ ขึ้นอยู่กับว่าใช้ประโยชน์ได้ถูกทางไหม ถ้าใช้อย่างถูกวิธีก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าใช้ผิดทาง ปล่อยให้อารมณ์และคำพูดร้ายๆ ครอบงำ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ความสัมพันธ์พังเหมือนกัน!มีสติก่อนโพสต์เสมอ โดยเฉพาะโพสต์ที่ส่งผลต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง ยิ่งเป็นแฟนก็ยิ่งต้องใส่ใจ จำไว้ว่า ถ้าคู่เธอจะเลิกกันหรือไปต่อ ไม่ใช่ความผิดของ Facebook แต่เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ -.-

กลั่นกรองคำพูดก่อนโพสต์ข้อความลงโซเชียล คุยกับแฟนให้เข้าใจตรงกัน มีระยะห่างระหว่างกันอย่างพอดี เท่านี้ความรักของเธอก็ยืนยาวแล้วล่ะค่ะ

=====================

บทความที่เกี่ยวข้อง